จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 638 เซียนทิงไห่
หลินหยุนพูดอย่างเฉยเมย “ถ้ารู้จะมีวันนี้ แล้วทำทำไม”
หลังจากพูดจบ หลินหยุนค่อยๆยกมือขึ้น และกำลังจะลงมือ
“แกกล้าเหรอ!” ผู้ว่าการเกาะหนันโกรธจัด
ทุกคนในตระกูลเจี่ยงต่างตกตะลึง
ใบหน้าของเจี่ยงจิงเทียนซีดเซียว คอยปกป้องอยู่ด้านหน้านายท่านเจี่ยง “ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าฉัน อย่ามาแตะต้องพ่อของฉัน!”
เจี่ยงจงสือค่อยๆผลักเจี่ยงจิงเทียนออกไป และเดินไปด้านหน้าหลินหยุน สีหน้าเรียบเฉย “ออกไปจากที่นี่!”
“เรื่องนี้ แต่เดิมเป็นความผิดของตระกูลเจี่ยง และมันเป็นความผิดของฉันด้วย”
“มันเป็นความโลภของฉัน ที่ทำให้เกิดสถานการณ์ในวันนี้”
“ปรมาจารย์หลิน คุณลงมือได้เลย!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับมามองคนตระกูลเจี่ยงเหล่านั้น “หลังจากที่ฉันตายแล้ว พวกเธอต้องทำตามสัญญา ทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยงต้องเคลียร์ให้ปรมาจารย์หลิน”
“จากนั้น พวกเธอไปจากตระกูลเจี่ยง โดยไม่ต้องพูดถึงการแก้แค้น!”
“ได้ยินกันหรือยัง?”
ทุกคนในตระกูลเจี่ยงเต็มไปด้วยความเศร้าโศก และไม่มีใครพูดอะไรสักคำ
เจี่ยงจงสือมองไปที่ผู้ว่าการเกาะหนัน และโค้งคำนับ “ในอนาคตโปรดช่วยดูแลลูกหลานของตระกูลเจี่ยงด้วย ฉันขอขอบคุณคุณณ.ที่นี้!”
ผู้ว่าการเกาะหนันนิ่งเงียบ จ้องไปที่หลินหยุนด้วยท่าทางโกรธจัด เขาคิดว่าหลินหยุนคงไม่กล้าลงมือแน่นอน
เจี่ยงจงสือถอนหายใจ และหันไปมองหลินหยุน “ลงมือได้!”
หลินหยุนยกมือขึ้น แล้วค่อยๆเอามือลง พลังทิพย์ก็ทะลุผ่านหน้าผากของเจี่ยงจงสือ
อดีตมหาเศรษฐีชาวจีน และบุคคลในตำนานนักธุรกิจ คนยอดเยี่ยมเช่นนี้ก็จบชีวิตลงอย่างน่าสมเพช
“คุณปู่!”
เจี่ยงหลินหลินตะโกนด้วยความเศร้าโศก และรีบวิ่งไปข้างกายเจี่ยงจงสือ
หลินหยุนเหลือบมองเธอ อันที่จริง คนที่เป็นตัวต้นเหตุจริงๆ น่าจะเป็นเจี่ยงหลินหลิน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้รับการอนุมัติจากเจี่ยงจงสือ ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ตามมาเขาเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบ
หลินหยุนเหลือบมองคนของตระกูลเจี่ยง และพูดอย่างเฉยชา “หลังจากกลับไปแล้ว นำรายการทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยงปริ้นมาให้ฉันด้วย”
“ถ้าตระกูลเจี่ยงยังไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ก็อย่าโทษฉันที่ไม่ไว้หน้า”
ทุกคนในตระกูลเจี่ยงถอนหายใจ
แม้ว่าหลินหยุนไม่ได้พูดอะไรที่โหดร้าย แต่เจตนาฆ่าในคำพูดเหล่านั้นสามารถทำให้ผู้คนเข้าใจได้ชัดเจน
ขณะนี้เจี่ยงจิงเทียนพึ่งตั้งสติได้ ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ใช่คนที่ใจบุญ เมื่อกี้ เขาได้ฆ่านักพรตจื่อหยางที่เกือบจะเป็นปีศาจแล้ว
นายท่านใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องตระกูลเจี่ยง และต้องไม่ปล่อยให้นายท่านเจี่ยงตายฟรีๆ
เจี่ยงจิงเทียนก้มหัวลง และพูดว่า “ได้! หลังจากที่กลับไป ฉันจะให้คนเคลียร์ทรัพย์สินของตระกูลเจี่ยงทั้งหมด และโอนให้กับปรมาจารย์หลิน!”
ผู้ว่าการเกาะหนันหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ หลินหยุนไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด
“ไอ้หนุ่ม การกระทำที่แกทำลงไป จะต้องได้รับการชดใช้อย่างสาสม!”
ไม่ไกลนัก ชายและหญิงที่อยู่บนต้นไม้ มีสีหน้ากังวล
ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า “ผู้ว่าการเกาะหนันรนหาที่ตายพวกเราควรออกไปห้ามไม่ให้เขาหาที่ตายไหม?”
ชายคนนั้นส่ายหัว “หน้าที่ของพวกเราคือ เวลาที่ปรมาจารย์หลินลงมือค่อยไปห้าม ตราบใดที่ปรมาจารย์หลินไม่ลงมือทำอะไร พวกเราก็อย่าสร้างปัญหาเลย”
ผู้หญิงเอามือกอดอก แล้วหันกลับไป โดยไม่มองผู้ว่าการเกาะหนันอีกเลย “โอเค เชื่อฟังนาย”
หลินหยุนหันกลับมา และเหลือบมองผู้ว่าการเกาะหนัน “คุณกำลังข่มขู่ฉันเหรอ?”
ผู้ว่าการเกาะหนันตกใจ ไม่กล้าพูดอะไร
หลินหยุนเมินเขา เหลือบมองทุกคน แล้วพูดว่า “พวกคุณไปได้แล้ว”
ที่นี่ เนื่องจากเป็นค่ายกลที่สืบทอดมาจากสมัยโบราณ นักพรตจื่อหยางไม่รู้ว่าได้รับมรดกสืบทอดไปเท่าไหร่ บางทีอาจมีบางอย่างหลงเหลืออยู่บ้าง
หลินหยุนต้องการสำรวจ
“ขอบพระคุณปรมาจารย์หลินที่ช่วยชีวิต ฉันขอลา!”
กลุ่มนักบู๊จากไปก่อน
หลังจากนั้น ตามมาด้วยคนในตระกูลเจี่ยงก็จากไป
ไม่นาน ทุกคนก็ออกจากเกาะตงไหล
หลินหยุนสำรวจดูสภาพแวดล้อมรอบๆ หลังจากน้ำที่ท่วมได้ลดลง ยอดเขาหลักทั้งเจ็ดเขาก็ปรากฏออกมา เมื่อเทียบกับพื้นดินเดิม กว้างขวางหลายเท่า
สายตาของหลินหยุน หยุดตรงยอดเขาทั้งเจ็ด ยอดเขาที่อยู่ใกล้กับทะเลมากที่สุด
“หากมีมรดกสืบทอดจากผู้บำเพ็ญเซียนในสมัยโบราณกาล ก็คงจะอยู่บนภูเขานั้น”
ตามตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ภูเขาลูกนั้นเป็นยอดเขาหลัก โดยทั่วไปแล้วมรดกสืบทอดของผู้บำเพ็ญเซียน จะอยู่บนจุดยอดเขาหลัก
นักพรตจื่อหยางถูกหลินหยุนใช้เก้ากระบี่ต้าเต๋าทะลุสวรรค์ฟันทีเดียว แค่กระบี่เดียวก็ตายแบบวิญญาณแตกสลาย โดยไม่ทิ้งอะไรไว้
หากยังมีมรดกสืบทอดอื่นๆ ต้องอยู่บนยอดเขาหลักอย่างแน่นอน
และยิ่งเป็นมรดกสืบทอดที่ล้ำค่ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเหลืออยู่มากเท่านั้น เพราะด้วยความแข็งแกร่งของนักพรตจื่อหยาง คงอาจไม่รู้จักสมบัติล้ำค่าเหล่านั้น
หลินหยุนเดินไปตามถนนบนภูเขาที่ขรุขระ ค่อยๆเดิน เขาใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดสูงสุดของยอดเขาหลัก
จากนั้น ประสาทสัมผัสก็ออกมา และเริ่มการค้นหา
ยอดเขาหลักทั้งหมดมีความสูงมากกว่าหนึ่งพันเมตร ถ้าต้องการใช้เวลาสั้นๆเพื่อหามรดกสืบทอด และเป็นการยากลำบากมาก
อย่างไรก็ตาม หลินหยุนเข้าใจโครงสร้างของรูปแบบค่ายกล และตำแหน่งที่ตั้งของถ้ำผู้บำเพ็ญเซียน แท้จริงแล้วอยู่ในใจกลางค่ายกล
เพราะสิ่งที่ค่ายกลจะต้องปกป้องคือ ถ้ำของผู้บำเพ็ญเซียน
ในไม่ช้าหลินหยุนก็มาถึงตำแหน่งกลางภูเขาของยอดเขาหลัก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของค่ายกลทั้งหมด
แน่นอน ที่นี่มีถ้ำแห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูร่องรอยการรื้อถอนเถาวัลย์ที่ทางเข้าถ้ำ น่าจะเป็นนักพรตจื่อหยางเป็นคนทำ
มีตัวหนังสือขนาดเล็กสามตัวเขียนไว้ที่ปากถ้ำ หลินหยุนจำอักขระเหล่านั้นได้ ซึ่งควรเป็นอักษรก่อนสมัยราชวงศ์ฉิน
“ถ้ำทิงไห่!”
นี่คือชื่อของถ้ำ
เดินเข้าไปในถ้ำ ในถ้ำที่ว่างเปล่า ผนังสี่ด้าน มีเพียงโต๊ะหินและเก้าอี้หิน และเตียงหินหนึ่งเตียง
นอกนั้น ไม่มีสิ่งของอะไรเลย
บนโต๊ะหินและเก้าอี้หิน เต็มไปด้วยฝุ่น เพียงแต่ว่า บนเตียงหิน มีจุดหนึ่งที่สะอาดมาก
ก่อนหน้านี้คงเป็นที่วางของวิเศษภาพภูเขาแม่น้ำ รวมทั้งหนังสือวิชาดิน
บนกำแพงหินเหนือเตียงหิน มีการสลักตัวอักษรเป็นแนว
“จุดนี้คือที่บรรลุของเซียนทิงไห่! และตอนนี้ยาทองสำเร็จแล้ว เส้นทางเซียนไม่มีขีดจำกัด มีความสุข มีความสุขมาก!”
หลินหยุนพูดอย่างลับๆ “ดูเหมือนว่าเซียนทิงไห่ผู้นี้ เป็นผู้บำเพ็ญแดนยาทองท่านหนึ่ง”
สายตาของหลินหยุนมองดูอักขระที่อยู่ข้างหลังอีกครั้ง แล้วขมวดคิ้ว
สิ่งที่เขียนต่อไปคือ “ในการต่อสู้ของการสถาปนาเทวดา เหล่าเทวดาเป็นหมื่นกลับสู่ที่เดิม ประตูสวรรค์ถูกปิด และเส้นทางเซียนขาด ทำไมเป็นเช่นนี้ ทำไมสวรรค์ต้องใจดำกับฉันเช่นนี้?”
ในตอนท้ายมีข้อความเขียนไว้ว่า “หน่านหวางมาหนึ่งปีแล้ว เซียนทิงไห่ประพันธ์สุดท้าย”
หน่านหวาง คงเป็นชื่อเรียกของโจวหน่านหวางจีเหยียนและเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก
เซียนทิงไห่ตายในปีเดียวกันกับโจวหน่านหวาง
เพียงแต่ว่า คำพูดประโยคสุดท้ายหมายความว่าไง หลินหยุนไม่เข้าใจ
การต่อสู้ของการสถาปนาเทวดา คงจะหมายถึงการต่อสู้ระหว่างอู๋อ๋องปราบโจ้วอ๋อง การต่อสู้ของการสถาปนาเทวดาของเจียงจื่อหยา
เหล่าเทวดาเป็นหมื่นกลับสู่ที่เดิม น่าจะเป็นเทวดาบนสวรรค์กลับสู่ที่เดิม
แต่สองประโยคสุดท้าย หมายความว่าอย่างไร?
ประตูสวรรค์ถูกปิด เส้นทางเดินของเซียนขาด
ประตูสวรรค์อยู่ที่ไหน เส้นทางเดินของเซียนอยู่ที่ไหน?
ดังที่เราทุกคนทราบกันดีว่า นอกโลก คือจักรวาลอันกว้างใหญ่
สวรรค์ในตำนานเล่าขาน ประตูสวรรค์ทางทิศใต้นั้น ไม่มีอยู่จริงเลย
แล้วประตูสวรรค์และเส้นทางของเซียนทิงไห่ที่กำลังมองหา อยู่ที่ไหน?”
“ด้วยวิธีนี้ การต่อสู้การสถาปนาเหล่าเทวดาในตำนาน จึงมีอยู่จริงในตำนานประวัติศาสตร์ของชาวจีน”
แน่นอนว่า หลินหยุนไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเทพเจ้าจริงๆ เกี่ยวกับกลุ่มเจียงจื่อหยา ในสมัยโบราณ มีชื่อเรียกว่าผู้ฝึกชี่
ชื่อของหลินหยุน ก็คือผู้บำเพ็ญเซียน
“ดูเหมือนว่า ในช่วงเปลี่ยนราชวงศ์ซางและราชวงศ์โจว มีการสู้รบครั้งใหญ่ในหมู่ผู้บำเพ็ญเซียนในจีน”
แต่ว่า ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ หลินหยุนไม่สามารถคาดเดาได้
สถาปนาเทวดาสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องปลอม
แต่ว่า ในที่สุดผู้บำเพ็ญเซียนเหล่านี้ก็ไปที่นั่น ก็กลายเป็นเรื่องลึกลับ
หลินหยุนไม่ได้คิดเกี่ยวกับปัญหานี้ เขาสงสัยมานานแล้วกับยุคสมัยที่ห่างไกล เคยเป็นดาวบำเพ็ญเซียน
เพียงแต่ว่าต่อมาไม่รู้ว่เพราะเหตุผลอันใด พลังทิพย์เบาบางลง และอารยธรรมของผู้บำเพ็ญเซียนก็ลดลง
ในที่สุด ก็ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี
ตอนนี้ สัญญาณทั้งหมดได้พิสูจน์แล้วว่า การคาดเดาของหลินหยุนนั้นถูกต้อง