จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 653 หลินโร่สุ่ยที่น่าสงสาร
เมื่อมองไปตามสายตาของหลินโร่หลัน ทุกคนก็มองเห็นสาวน้อยที่ถูกทอดทิ้งคนนั้นอยู่ในมุมห้อง
หลินเสี่ยวหยูที่มองเห็นหลินโร่สุ่ยตั้งนานแล้ว แกล้งทำเป็นอุทานขึ้นว่า: “ไอ๊หยา ที่จริงพี่โร่สุ่ยอยู่ที่ตรงนั้นคนเดียวหรอกเหรอ? ใช่แล้ว วันนี้เธอก็จัดพิธีเปิดบริษัทด้วยไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมีเธออยู่เพียงแค่คนเดียวล่ะ? ”
กลุ่มคนของตระกูลหลินต่างก็แสดงท่าทางเยาะเย้ยออกมาเล็กน้อย
ไม่รู้จะพูดว่าหลินตงเย่วโชคดี หรือโชคร้ายกันแน่ ลูกสาวคนโตหลินโร่หลันเป็นที่น่าภาคภูมิใจ แต่ลูกสาวคนที่สองหลินโร่สุ่ย ช่างน่าแปลกเสียจริง มักจะทำให้หลินตงเย่วอับอายขายหน้าในทุกครั้ง
หลินเสี่ยวหยูก็แกล้งทำเป็นถามขึ้นอย่างไร้เดียงสาว่า: “หรือว่า พิธีเปิดบริษัทของพี่โร่สุ่ย ไม่มีใครสักคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเธอเลยอย่างนั้นเหรอ? ”
หลินตงเย่วยิ่งมีสีหน้าที่ย่ำแย่มากขึ้น และกระซิบพูดกับหลินโร่หลันว่า: “ไปเรียกน้องสาวของเธอที่ไม่ได้เรื่องได้ราวคนนั้นมา! อย่าปล่อยให้เธออับอายขายหน้าอยู่ที่ตรงนั้นเพียงคนเดียว”
“อืม! ” หลินโร่หลันพยักหน้า แล้วก็เดินไปหาหลินโร่สุ่ย
อันที่จริงไม่ต้องรอให้หลินเสี่ยวหยูพูดขึ้น ทุกคนก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้น
โดยพิธีเปิดบริษัทของหลินโร่หลันใช้พื้นที่จัดงานในห้องโถงไปเป็นสัดส่วนกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
ส่วนพิธีเปิดบริษัทของหลินโร่สุ่ย ก็หลงเหลือเพียงแค่พื้นที่เปล่าเปลี่ยวบริเวณมุมห้องให้เธอเท่านั้น
ช่างแตกต่างกันราวกับพระราชวังและที่ซุกหัวนอนของขอทานโดยสิ้นเชิง
หลินโร่หลันเดินมาที่ข้างกายของน้องสาว และกระซิบพูดขึ้นว่า: “โร่สุ่ย ไปด้วยกันกับฉันเถอะ! อย่าได้อยู่ที่ตรงนี้อีกเลย จะได้ไม่ต้องอับอายขายหน้าต่อคนอื่นอีก”
“ไปที่จัดงานตรงนั้นของฉัน อีกไม่นานพวกผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงก็มาถึงกันแล้ว ซึ่งจะสามารถช่วยให้บริษัทของเธอเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย”
หลินโร่สุ่ยส่ายศีรษะอย่างดื้อรั้น: “ไม่ แม้ว่าที่ตรงนี้จะดูแล้วค่อนข้างซอมซ่อ แต่นี่ก็คือพิธีเปิดบริษัทของฉัน อีกทั้ง ฉันเชื่อมั่นว่า จะต้องมีคนมาร่วมงานอย่างแน่นอน”
หลินโร่หลันขมวดคิ้ว: “ทำไมเธอช่างดื้อรั้นแบบนี้! ที่ตรงนี้ของเธอไม่มีคนมาร่วมงานหรอก ไปด้วยกันกับฉันเดี๋ยวนี้”
“คุณพ่อคุณแม่อยู่ที่ตรงนั้น เธออย่าทำให้พวกเขาต้องอารมณ์เสีย! ”
ตอนที่ไม่พูดถึงคุณพ่อคุณแม่ก็ยังรู้สึกดีอยู่ แต่เมื่อพูดถึงคุณพ่อคุณแม่ จิตใจของหลินโร่สุ่ยยิ่งปวดร้าวมากขึ้น
“ถึงอย่างไรในสายตาของพวกเขาก็ไม่มีฉันอยู่แล้ว ทำไมฉันจะต้องไปฟังพวกเขาบ่นว่าอีกด้วยล่ะ”
“พี่ไปเถอะ ต่อให้ไม่มีใครสักคน ฉันเองก็จะไม่ไปกับพี่หรอก”
หลินโร่หลันพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดของเธอก็คือสิ่งนี้ ทั้งที่รู้อยู่อย่างชัดเจนว่ามันคือความผิด กลับที่จะยังดึงดันทำอย่างนั้นต่อไปอีก”
“ถ้าหากเธอฉลาดคิดได้ขึ้นมา ก็เดินไปเองแล้วกัน ฉันจะต้องไปทักทายต้อนรับแขก ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจตัวเธอแล้ว”
พูดจบ หลินโร่หลันก็หันหลัง แล้วเดินกลับไปอย่างสง่าผ่าเผย
“ต้องขอโทษคุณพ่อด้วย ที่น้องโร่สุ่ยไม่ต้องการที่จะตามมา” หลินโร่หลันพูดขึ้นด้วยความจำใจ
หลินตงเย่วยิ่งโกรธเคืองมากขึ้น: “ช่างมันเถอะ ไม่ต้องไปสนใจเธออีก ฉันไม่มีลูกสาวที่ไม่เชื่อฟังแบบนี้ ปล่อยให้เธอเป็นไปตามยถากรรมของตัวเธอเองเถอะ! ”
เวลานี้ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามา ที่โดดเด่นที่สุดก็คือทรงผมหวีเสยของเขานั้น ช่างล้ำสมัยอย่างมาก
“คุณชายหวาง ฉันมาแล้ว! ”
จากนั้น สายตาของชายผู้นั้นก็สังเกตไปที่ร่างของหลินโร่หลัน แล้วแสดงท่าทางตกตะลึง: “คุณคือคุณหลินโร่หลันล่ะสิ! ช่างสวยงดงามเหนือใครเสียจริง! ”
“ขอแสดงความยินดีด้วยกับพิธีเปิดบริษัท โร่หลัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ขอให้มีกิจการที่เจริญรุ่งเรือง”
ผู้ชายมีรูปร่างหน้าตาที่องอาจ แต่ว่า น้ำเสียงกลับมีความนุ่มนวลเหมือนผู้หญิง ได้ยินแล้วรู้สึกไม่ค่อยรื่นหูนัก
หวางเหวินหย่วนยืนอยู่ด้านหลังของหลินโร่หลัน ยิ้มต้อนรับกับชายคนนั้นและพูดขึ้นว่า: สวัสดีประธานหยาง! ขอบคุณมากที่ประธานหยางมาร่วมอวยพรแสดงความยินดี! ”
พูดจบ ก็ได้พูดแนะนำให้กับหลินโร่หลัน: “ท่านนี้คือประธานหยางแห่งบริษัท หวงเฉา เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด! ”
หลินโร่หลันตกใจ และรีบแสดงความเคารพ: “ที่แท้ก็คือเจ้านายของบริษัท หวงเฉา เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ที่มีชื่อเสียงมาด้วยคนเองเลย ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากเลยจริง ๆ! ”
บริษัท หวงเฉา เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด แม้ว่าจะมีความยิ่งใหญ่เทียบเท่าไม่ได้กับสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปในจีน แต่ว่าในวงการบันเทิงของจีนแล้ว ก็ถือได้ว่ามีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อย
ระดับความยิ่งใหญ่สามารถจัดอยู่ในสิบอันดับแรกได้
“คุณชายหวางเป็นคนเชิญ ฉันจะกล้าไม่มาได้อย่างไร! ”
“แต่ว่าเมื่อมาถึงแล้ว ฉันพบว่า ต่อให้เพียงแค่มาพบเห็นเจ้านายหญิงสาวคนสวย ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการมาในครั้งนี้แล้ว! ”
ประธานหยางคนนี้เป็นผู้ชายเพลย์บอยขนานแท้ ทุกคำที่พูดล้วนแต่ชื่นชมความสวยงามของ หลินโร่หลัน
ถ้าหากไม่รู้ว่าหลินโร่หลันเป็นผู้หญิงของหวางเหวินหย่วน เกรงว่าเขาคงจะพูดจาเกี้ยวพาราสี ไปแล้ว
“ประธานหยางเชิญนั่ง! ” หลินโร่หลันทักทายต้อนรับด้วยความยิ้มแย้ม
“คุณชายหวาง คุณโร่หลัน ฉันมาแล้ว! ” เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้ง ชายวัยกลางคนอายุสี่สิบปีต้น ๆ ได้พาสาวน้อยอายุสิบหกปีเดินเข้ามา
ดูเหมือนว่า พวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์กันในแบบคู่รัก
อีกทั้ง สาวน้อยคนนี้เหมือนว่าจะคุ้น ๆ หน้า ซึ่งก็คือดาราระดับแถวที่สี่คนหนึ่งนั่นเอง
ผู้ชายคนนี้ หลินโร่หลันก็รู้จัก คือผู้รับผิดชอบบริษัท หลงสือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ภูมิภาคจงโจว ซึ่งเป็นหนึ่งในสามบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปในจีน
ผู้ชายเดินเข้ามา ยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง! ”
“ประธานฉินเกรงใจไปแล้ว เชิญนั่งลงก่อนเถอะ! ” หลินโร่หลันกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น
สองท่านนี้ เป็นเพียงแค่เริ่มต้น โดยที่ยังคงมีผู้มีอิทธิพลอำนาจในวงการบันเทิงอีกจำนวนมาก ทยอยกันมาอวยพรแสดงความยินดี
รวมถึงยังมีผู้มีอิทธิพลอำนาจในวงการสื่อบางราย ก็มาอวยพรแสดงความยินดีด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า ยังคงมีดาราระดับแถวหน้าและแถวที่สอง ได้มาร่วมอวยพรแสดงความยินดีด้วย
บริเวณสถานที่จัดงานครึกครื้นอย่างมาก ผู้ที่มาร่วมงานก็เรียกได้ว่าคับคั่งสมเกียรติ
เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างบรรยากาศงานที่ครึกครื้นของหลินโร่หลัน กับงานพิธีเปิดบริษัทของหลินโร่สุ่ยแล้ว มันช่างดูเงียบเหงามากเสียจริง
จนถึงตอนนี้ ก็เพิ่งมีเด็กวัยรุ่นมาร่วมงานเพียงแค่สองคน ซึ่งก็คือเพื่อนสมัยเรียนของหลินโร่สุ่ย และต่างก็เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป
เมื่อเปรียบเทียบกับทางด้านของหลินโร่หลันที่มีพวกดาราและพวกผู้มีอำนาจในแต่ละวงการนั้น ทางด้านหลินโร่สุ่ยนี้ช่างน่าสงสารย่ำแย่เป็นอย่างมาก
เห็นว่าพวกผู้มีอำนาจในแต่ละวงการรวมถึงพวกดารา ต่างก็มาร่วมอวยพรแสดงความยินดีต่อ หลินโร่หลัน
ทุกคนในตระกูลหลินต่างก็แอบตกตะลึง ต่อให้เป็นนายท่านตระกูลหลินก็คงจะไม่มีความสามารถมากถึงขนาดนี้ ที่สามารถทำให้บุคคลที่มีสถานะจำนวนมากมาร่วมอวยพรแสดงความยินดีกับบริษัท เอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่เพิ่งจะเริ่มต้นกิจการ
บางที อาจจะมีเพียงแค่คนของตระกูลหวาง ที่มีความสามารถในการเชื้อเชิญคนได้อย่างน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้
ทุกคนของตระกูลหลิน มองไปยังหลินตงเย่วอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจและพูดขึ้นว่า: “ตงเย่ว โร่หลันลูกสาวของนาย ช่างเยี่ยมยอด น่าอิจฉาเสียจริง! ”
“ถ้าหากดำเนินกิจการก้าวหน้าไปตามสถานการณ์ที่ดีแบบนี้ เกรงว่าอีกไม่นานก็สามารถที่จะ แซงหน้าหลินโล่เฉินได้แล้ว”
หลินตงเย่วหัวเราะฮ่าฮ่าอย่างภาคภูมิใจ: “ที่ไหนกันล่ะ โร่หลันจะไปเปรียบเทียบกับเด็กอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์คนรุ่นใหม่ของตระกูลหลินของพวกเราได้อย่างไรกัน! ”
“คิดต้องการที่จะเหนือกว่าหลินโล่เฉิน ต้องมุ่งมั่นฝึกฝนให้มากกว่านี้”
หลินตงเย่วกับภรรยา มองไปที่หลินโร่หลันด้วยสายตา ที่เต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม
หลินตงเย่วแอบพูดกับภรรยาว่า: “ดูเหมือนว่าวิธีการเลี้ยงดูอบรมของพวกเราในตอนแรกนั้น ได้ผลแล้ว โร่หลันทำให้พวกเรามีหน้ามีตา มองดูลูกพี่ลูกน้องของฉันแต่ละคนต่างก็แสดงสีหน้าท่าทางที่อิจฉาริษยา ฉันดีใจและสุขใจเสียจริง! ”
คุณหญิงหลิน มองไปยังหลินโร่สุ่ยด้วยความเสียใจ ถอนหายใจแล้วพูดว่า: “โธ่ น่าเสียดายจริงเชียว หากโร่สุ่ยมีความคิดความอ่านได้สักครึ่งหนึ่งของโร่หลัน งั้นก็คงจะดีมากเลย! ”
หลินตงเย่วตวาดขึ้นด้วยความโกรธ: “อย่าได้พูดถึงไอ้เด็กที่ไม่ได้เรื่องได้ราวคนนั้นอีก ข้าไม่มีลูกสาวที่เป็นแบบนี้! ”
หลินโร่หลันกับหวางเหวินหย่วนได้ทักทายต้อนรับแขกอยู่เรื่อย ๆ ขณะเดียวกัน หลินโร่หลันเองก็แอบตกตะลึงในความสามารถของตระกูลหวางที่เชิญคนมาร่วมงานได้มากมายขนาดนี้
พวกคนที่มาในวันนี้ ไม่เพียงแต่เป็นผู้มีอิทธิพลอำนาจในวงการบันเทิงอย่างเดียวเท่านั้น บุคคลที่มีชื่อเสียงในแต่ละวงการก็มากันเป็นจำนวนมาก
คนเหล่านี้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหลินเลยต่างก็เป็นเพราะให้เกียรติกับหวางเหวินหย่วนเท่านั้น
หลินเสี่ยวหยูกับหลินเห้า รวมไปถึงลูกหลานรุ่นเยาว์ของตระกูลหลิน ต่างก็แสดงสายตาที่อิจฉาริษยา
หลินโร่หลันช่างยอดเยี่ยมเสียจริง ทำให้พวกเขาถูกบดบังรัศมี เหมือนกับไม่มีตัวตนอย่างรุนแรง
หลินเสี่ยวหยูส่งสายตาให้สัญญาณกับหลินเห้า สองคนหัวเราะอย่างมีเล่ห์กล จากนั้นก็แอบเดินไปที่หลินโร่สุ่ย เพื่อไปหาความเป็นตัวตนของตนเอง
หลินโร่สุ่ยกำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสมัยเรียนทั้งสองคน
“ขอบคุณมากที่พวกเธอมาร่วมงาน! ”
“ไม่อย่างนั้น งานพิธีเปิดบริษัทของฉัน เกรงว่าจะไม่มีสักคนที่มาร่วมอวยพรแสดงความยินดีแล้ว! ”
หลินโร่สุ่ยยิ้มอย่างขมขื่น
ชายผู้นั้นพูดว่า: “โร่สุ่ย คุณอย่าได้ท้อแท้ใจไปเลย แม้ว่าฉันจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ฉันก็จะสนับสนุนคุณอย่างแน่นอน! ”