จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 659 คำเตือนของหงซานเหอ
หลินโร่สุ่ยมองภาพที่แขกผู้มีเกียรติมากมายเต็มห้องไปหมด พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยที่จะเอาชนะพี่สาวได้เลย
แต่ในครั้งนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเอาชนะได้จริง ๆ!
และยังจะชนะได้อย่างเด็ดขาด ชนะได้อย่างสวยงาม!
“คุณหลิน คุณหลิน หลินหยุน คือคุณใช่ไหม? ” ในใจของหลินโร่สุ่ยมีความมั่นใจกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้วว่า คุณหลินผู้ลึกลับคนนี้ ก็คือหลินหยุน
ผู้อาวุโสของตระกูลหลินหลายคน มองไปยังหลินโร่สุ่ยที่กำลังยุ่งอยู่กับการต้อนรับทักทายแขก โดยได้ถอนหายใจและพูดขึ้นว่า: “นับจากวันนี้ไป คุณหนูรองหลินผู้นี้ จะผงาดขึ้นมาอย่างแน่นอน”
หลินโร่หลันรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายเหมือนกับสูญสิ้นพลังงานไปทั้งหมด โดยนั่งอยู่อย่างหมดอาลัยตายอยาก และสีหน้าขาวซีด
“ฉันพ่ายแพ้แล้ว ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับน้องสาวที่ตัวเองดูถูกมองข้ามมาโดยตลอด! ”
หลินโร่หลันสีหน้าหม่นหมองอย่างที่สุด
หวางเหวินหย่วนสีหน้าไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก ใช้มือข้างหนึ่งนวดเบา ๆ ไปบนบ่าของหลินโร่หลัน และพูดอย่างหนักแน่นว่า: “คุณไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับโร่สุ่ย แต่พ่ายแพ้ให้กับคุณหลินผู้นั้นต่างหาก”
หลินโร่หลันเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นในแววตา: “คุณหลินตกลงว่าคุณคนนี้เป็นผู้ที่ลึกลับมาจากไหนกันแน่? ”
หลินตงเย่วแอบสังเกตไปที่หลินโร่สุ่ย เขาทราบว่า หลังจากวันนี้ไป หลินโร่สุ่ยจะไม่ใช่เด็กที่ไม่เรื่องได้ราวตามที่เขาพูดอีกต่อไปแล้ว
ในตระกูลหลิน จะต้องมีที่สำหรับเธอแน่นอน
แม้ว่าหลินตงเย่วคิดที่จะเข้าข้างช่วยเหลือหลินโร่หลัน เจ้าบ้านก็คงจะไม่อนุญาต
เพราะในเมื่อ สามารถที่จะให้คุณหลินผู้ลึกลับคนนั้น ช่วยเหลือมากขนาดนี้ คิดได้เลยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหลินโร่สุ่ยกับคุณหลินผู้นั้น คงจะไม่ธรรมดาเป็นแน่
พวกผู้อาวุโสเหล่านั้นของตระกูลหลิน คงไม่มีทางที่จะปล่อยให้ทรัพยากรบุคคลที่ดีแบบนี้หลุดลอยไปอย่างเด็ดขาด หลินโร่สุ่ยจะต้องได้รับความสนใจจากพวกเขาอย่างแน่นอน
วันนี้หลินหยุนไม่ได้มาเข้าร่วมงาน ซึ่งเดิมทีเขาก็ไม่ได้คิดที่จะมาร่วมงานอยู่แล้ว
สำหรับการเชิญท่านเสี้ยงกับหยวนหยูและคนอื่น ๆ นั้น หลินหยุนเพียงแค่เปิดเผยสถานะว่าเขาเป็นผู้คิดค้นน้ำแห่งชีวิต พวกเขาเหล่านั้นต่างก็เห็นแก่หน้าตาให้เกียรติกับเขาอยู่แล้ว
เพราะว่าท่านเสี้ยงและพวกเขาเหล่านี้ ต่างก็ได้รับประโยชน์จากน้ำแห่งชีวิตกันทั้งหมด
มิเช่นนั้น คนที่มีอายุระดับนี้อย่างพวกเขา ถ้าหากไม่มีน้ำแห่งชีวิตมาช่วยหล่อเลี้ยงเพิ่มความสดใส พวกเขาคงจะไม่สามารถเป็นเหมือนอย่างนี้ได้เด็ดขาด ที่ทุกส่วนของร่างกายสามารถขยับเคลื่อนไหวได้อย่างไร้อุปสรรค
ดังนั้น เมื่อหลินหยุนได้เปิดเผยสถานะของตนว่าเป็นผู้คิดค้นน้ำแห่งชีวิตขึ้น ประชาชนในจีนทั้งหมด โดยเฉพาะพวกคนแก่ชราเหล่านั้น ต่างก็ซาบซึ้งในบุญคุณของหลินหยุนอย่างมาก
เพราะว่าน้ำแห่งชีวิตของหลินหยุน ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง แต่เป็นการสร้างความสุขให้กับประชาชนจีนอย่างแท้จริง
ในส่วนของหยางหยิงและพวกดาราเหล่านั้น รวมไปถึงคนอื่น ๆ ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพียงแค่ใช้สถานะของเจ้านายใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังหัวหยา กรุ๊ป ก็สามารถทำให้พวกเขามาร่วมงานได้แล้ว
ทุกคนต่างให้เกียรติกับหลินหยุนจึงได้มาร่วมแสดงความยินดีต่อหลินโร่สุ่ย แต่ว่า เมื่อพบเห็น หลินโร่สุ่ยแล้ว พวกเขาหลายคนต่างก็ชื่นชอบในลักษณะนิสัยที่ดึงดัน ไร้เสียงดาและเรียบง่ายของ สาวน้อยคนนี้
เพราะว่า ในสังคมทุกวันนี้ คนที่มีความคิดที่บริสุทธิ์เรียบง่ายอย่างหลินโร่สุ่ยนั้น มีอยู่น้อยมาก
คนส่วนใหญ่ต่างก็เป็นแบบหลินโร่หลัน ที่ชอบมองและตัดสินคนด้วยความลำเอียง
แน่นอนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหลินหยุนกับหลินโร่สุ่ย ก่อให้เกิดผลขึ้นอย่างมากในด้านความรักที่มีต่อตัวเขาและชื่นชอบในสิ่งที่เขากระทำด้วย
หลังจากที่งานพิธีเปิดบริษัทสิ้นสุดลง ทุกคนของตระกูลหลินก็ได้โอบล้อมหลินโร่สุ่ย เพื่อตรวจดูของขวัญแสดงความยินดีที่หลินโร่สุ่ยได้รับ
เมื่อดูแล้ว ก็ทำให้ทุกคนของตระกูลหลินตกใจเป็นอย่างมาก
ของขวัญที่หลินโร่สุ่ยได้รับนั้น มีมูลค่ารวมทั้งหมดหกล้านกว่าเลยทีเดียว
นี่มันหมายความว่าอย่างไร!
ก็เท่ากับว่าบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ของหลินโร่สุ่ย ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นประกอบกิจการ ก็มีรายรับแล้วหลายล้าน
เพียงแค่เริ่มต้น ก็ทิ้งห่างหลินโร่หลันไปไกลเลยทีเดียว
หลังจากงานเสร็จสิ้น หลินหยุนอยู่ในห้องทำงานของบริษัทหวนตี้สาขาจงโจว เพื่อรับฟังการรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากโร่หลันหลินอย่างตั้งใจ
หลังจากที่ฟังจบแล้ว ก็ค่อนข้างจะพอใจเป็นอย่างมาก
“ลำบากคุณแล้ว ประธานหลัน! ”
สายตาที่หลันโร่หลินมองไปยังหลินหยุนนั้น ท่าทางไม่ค่อยจะเป็นมิตร: “วิธีการที่เจ้านายใหญ่หลินใช้ในการตามจีบหญิงสาวนี้ ช่างใจใหญ่ทุ่มไม่อั้นเสียจริง”
หลินหยุนไม่ต้องการที่จะให้หลันโร่หลินเข้าใจผิดอีกต่อไป จึงมองไปที่เธอ ด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง: “ฉันไม่ได้ตามจีบสาว เพียงแค่ตอบแทนบุญคุณในปีนั้น”
“พอได้แล้ว หลังจากนี้ก็ไปทำตามหน้าที่ของเธอให้ดีก็แล้วกัน! หวังว่าครั้งหน้าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะแบบที่ผู้จัดการจางและประธานเหยียนอย่างนั้นอีก”
แม้ว่าหลันโร่หลินจะไม่เชื่อ แต่หลินหยุนกล้าที่จะอธิบาย เธอก็สบายใจขึ้นเป็นอย่างมากแล้ว
“รับทราบ! ”
ออกมาจากที่ทำการสาขาของบริษัทหวนตี้ หลินหยุนก็กลับไปยังบ้านที่ซูเหลียงจื่อได้เช่าเอาไว้
ซูเหลียงจื่อไม่อยู่ ซึ่งคงน่าจะอยู่กับหวางซูเฟิน
หลินหยุนโทรศัพท์ไปหาเขา เพื่อให้เขากลับมาก่อนชั่วคราว
หวางซูเฟินกับฉินหลันมียันต์หยกคุ้มกายที่หลินหยุนได้กลั่นขึ้นใหม่คอยปกป้องคุ้มครอง โดยทั่วไปแล้วคงไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
อีกทั้ง หลินหยุนเองก็อยู่ที่จงโจว หากเกิดเรื่องขึ้น เขาก็สามารถไปหาได้ในทันที
หลังจากที่ซูเหลียงจื่อรับโทรศัพท์แล้ว ก็รีบกลับมาโดยทันที
ในห้องรับแขก หลินหยุนนั่งอยู่บนโซฟา ซูเหลียงจื่อยืนอยู่ด้านข้างอย่างนอบน้อม
“อาจารย์ ฉันได้ยินมาว่า คนของตระกูลหวางแห่งเมืองหลวง มาหาประธานกรรมการหวางที่บริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ”
“แต่ว่า ประธานกรรมการหวางโมโหจึงได้ขับไล่เขาไป”
สายตาของหลินหยุนเคลื่อนไหวเล็กน้อย ลูกตาดำคู่นั้น เหมือนกับว่ามองทะลุความว่างเปล่าได้
“คนที่มาคือใครรู้ไหม? ”
ซูเหลียงจื่อพูดว่า: “ได้ยินว่าคือหวางโส่วหลี่คุณชายคนโตของตระกูลหวาง! ”
หวางโส่วหลี่ นี่คือลุงใหญ่ของหลินหยุน ลูกชายคนโตของหวางจิงหลงเจ้าบ้านตระกูลหวางคนปัจจุบัน และในทางการเมืองของจีน ก็ถือเป็นบุคคลที่สำคัญ
“ดูเหมือนว่า วิกฤตของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ใกล้ที่จะปะทุขึ้นแล้ว”
“ลุงใหญ่ของฉันที่มาในครั้งนี้ ก็ยังถือว่าเห็นแก่ความเป็นพี่เป็นน้อง แต่ว่า เงื่อนไขที่เขาเสนอมานั้น คงยากที่จะให้คุณแม่ยอมรับ”
หลินหยุนคาดเดาได้ไม่มีผิด หวางโส่วหลี่เห็นแก่ความเป็นพี่เป็นน้องจึงได้มาหาหวางซูเฟิน
เขาสารภาพทุกอย่างกับหวางซูเฟินว่า ในขณะนี้ที่บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปกำลังเผชิญอยู่กับหนี้สินกว่าหกร้อยล้านนั้น ล้วนเป็นเพราะหวางเจ๋อลูกชายของเขาเป็นผู้วางแผนการทั้งหมด
แต่ว่า นี่ไม่ใช่กลอุบายลับ แต่เป็นกลอุบายที่เปิดเผย ซึ่งตอนนี้ภาพรวมได้ถูกกำหนดเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะบอกกับหวางซูเฟินอย่างตรงไปตรงมา ก็คงไม่ส่งผลกระทบอะไร
ถ้าหากหวางซูเฟินกลับไปยอมรับผิดต่อหวางจิงหลง และนับจากนี้ไปต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับหลินตงหัว หวางโส่วหลี่จึงจะยอมขอร้องต่อหวางจิงหลง เพื่อยกโทษให้กับหวางซูเฟิน
ผลลัพธ์สามารถจินตนาการออกได้เลยว่า หวางซูเฟินปฏิเสธกลับไปอย่างไม่ใยดี
นับตั้งแต่ที่หวางจิงหลงได้ส่งคนมาลอบฆ่าลูกชายของเธอนั้น เธอก็ตัดขาดไม่มีความสัมพันธ์กับตระกูลหวางอีกต่อไป
แต่ว่า รายละเอียดเหล่านี้ หลินหยุนไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าไหร่นัก
“ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่จะจัดการกับคนตระกูลหวางได้แล้ว”
หลินหยุนออกเดินทางทันที โดยมุ่งหน้าไปยังบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
หลินหยุนชัดเจนดีว่า ตามลักษณะนิสัยของคุณแม่แล้ว หลังจากที่ครั้งก่อนเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลส้ง เธอคงจะไม่ยอมให้ตนเองรับรู้ถึงอุปสรรคของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปอีกเด็ดขาด
ดังนั้น หากต้องการที่จะช่วยเหลือบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป หลินหยุนจำเป็นที่จะต้องออกหน้าด้วยตนเอง
ขณะที่หลินหยุนเตรียมจะออกเดินทาง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
มองดูแล้ว ไม่นึกว่าจะเป็นหงซานเหอที่โทรมาหา
เวลานี้ หงซานเหอโทรศัพท์มาหาเขา ดูเหมือนว่า หงซานเหอรับรู้ได้บ้างแล้วว่า ตระกูลหวางกำลังที่จะลงมือเล่นงานบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปแล้ว
เมื่อรับสายโทรศัพท์ หลินหยุนก็ถามขึ้นว่า: “ท่านหง มีอะไรให้รับใช้? ”
หงซานเหอน้ำเสียงเคร่งขรึม: “ไอ้หนุ่มน้อย เรื่องที่ตระกูลหวางจะลงมือเล่นงานบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป นายคงน่าจะรับทราบแล้วสินะ”
“แต่ว่า ครั้งนี้หากนายคิดที่จะช่วยเหลือบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป จำเป็นจะต้องใช้วิธีการที่เหมาะสม เพราะว่าวิธีการทั้งหมดของตระกูลหวาง ต่างก็เป็นวิธีการแข่งขันทางธุรกิจที่เปิดเผยตรงไปตรงมา”
“หากว่านายใช้วิธีการอื่นจัดการตระกูลหวาง ถ้าอย่างนั้นที่เมืองหลวงนี้ ก็คงมีคนที่จะจัดการกับนายเหมือนกัน เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้เป็นถึงประธานาธิบดีจีนก็คงไม่สามารถปกป้องนายได้”
หลังจากรับฟังคำเตือนของหงซานเหอแล้ว หลินหยุนจึงเข้าใจได้ว่า ที่จริงแล้วการเข้าเล่นงานของตระกูลหวางในครั้งนี้ จะแฝงไปด้วยกลอุบายลับที่ร้ายกาจ
ถ้าหากหงซานเหอไม่เตือน หลินหยุนก็คงจะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา แต่ว่า เขาก็ไม่คิดที่จะใช้กำลังแล้ว
“ตระกูลหวาง ในเมื่อนายคิดที่จะต่อสู้แข่งขันกันทางธุรกิจ งั้นข้าก็จะแข่งขันทางธุรกิจกับนายอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา”
แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ค่อยมีความสามารถทางธุรกิจเท่าไหร่ แต่ หลินหยุนเชื่อว่า เพียงแค่มอบต้นทุนที่เท่าเทียมกันกับตระกูลหวางให้กับหวางซูเฟินและฉินหลัน จากความสามารถทางด้านธุรกิจของพวกเธอแล้ว ไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้ต่อตระกูลหวางอย่างเด็ดขาด