จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 662 พวกคุณก็เหมือนมด
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ เสียงเรียบเฉย ค่อยๆแว่วเข้ามา
แม้ว่าเสียงนั้นจะเรียบเฉย แต่ก็แว่วไปยังหูของทุกคนอย่างชัดเจน ราวกับว่ามันดังอยู่ในสมองของทุกคน
ในสายตาของฉัน ตระกูลหวางก็เหมือนแค่มด
เสียงนี้ราวกับเสียงสะกดจิต ดังจนแม้แต่คนหูหนวกยังได้ยิน และปลุกหวางซูเฟินตื่นขึ้นทันที
ร่างของหลินหยุน ปรากฏอยู่ในออฟฟิตอย่างเงียบๆ ยืนอยู่ข้างๆหวางซูเฟิน
ทุกคนไม่ทันเห็น ว่าเขาเข้ามาเมื่อไหร่
ฉินหลันอุทาน “หลินหยุน!”
จากนั้น สีหน้าประหลาดใจ “นายมาได้ถูกเวลาจริงๆ!”
หวางเจ๋อเหล่ตาเล็กน้อย มองร่างของหลินหยุน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง “ปรมาจารย์หลิน ในที่สุดแกก็มา”
ทั้งหมดนี้ อยู่ในความคาดหวังของหวางเจ๋อ
หวางโส่วหลี่เหลือบมองหลินหยุนอย่างเฉยเมย และไม่ได้สนใจหลินหยุนอีกเลย
แม้ว่าปรมาจารย์หลินจะมีชื่อเสียงมาก แต่ว่า ในสายตาของสี่ตระกูลใหญ่ กลับมีความสำคัญเพียงเล็กน้อย
ถ้าไม่กังวลถึงข้อตกลงในตอนนั้น พวกเขาคงจะไปหาคนสถานที่นั้นมาจัดการกับหลินหยุนแล้ว
สายตาเลื่อนลอยของหวางซูเฟิน ค่อยๆรวบรวมสติ มองหลินหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “หลินหยุน เธอมาทำอะไรที่นี่?”
ทันใดนั้น หวางซูเฟินก็ตระหนักได้ว่า เธอไม่ต้องการให้หลินหยุนเข้ามาเกี่ยวข้อง
สีหน้าหวางซูเฟินเปลี่ยนไป และถามว่า “หลินหยุน เธอมาทำอะไร?”
หลินหยุนมองหวางซูเฟิน และพูดเบาๆว่า “ผมมาช่วยบริษัทตงหวางกรุ๊ปฝ่าฟันอุปสรรค”
หวางซูเฟินไม่พูด เห็นได้ชัดว่า หลินหยุนรู้แล้ว
หลังจากผ่านไปไม่นาน หวางซูเฟินพูดเสียงเคร่งขรึม “หลินหยุน เรื่องครั้งนี้ เธอไม่จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วม ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกำลัง”
“เธอรีบไปจากที่นี่ดีกว่า!”
หลินหยุนพูดอย่างอย่างตรงไปตรงมา “ท่านประธานหวางไม่ต้องกังวล ผมไม่ใช้กำลัง ก็สามารถแก้ไขได้”
“เงินไม่พอใช่ไหม?”
หวางซูเฟินพยักหน้าอย่างจนปัญญา “ใช่ เพียงแต่ว่า ขาดอยู่เยอะมาก เธอไม่สามารถแก้ไขได้หรอก”
“ขาดเท่าไหร่?” หลินหยุนถามด้วยเสียงเรียบเฉย
หวางซูเฟินแอบคิดในใจ “ดูแล้วถ้าไม่พูดจำนวนยอดเงินออกมาให้เขาตายใจ เขาคงไม่ยอมจากไปแน่นอน”
“หกหมื่นล้าน เธอหามาได้ไหม? เธอรีบไปเถอะ! เรื่องนี้เธอช่วยไม่ได้จริงๆ”
เดิมทีคิดว่าหลินหยุนจะต้องตกใจ เพราะแม้แต่ทรัพย์สินของคนในหลิงหนานรวมกัน ก็ไม่เกินสองหมื่นล้าน
ดังนั้น หวางซูเฟินเชื่อว่า เมื่อหลินหยุนได้ยินว่าหกหมื่นล้าน คงจะตกใจมาก
ปรากฏว่า สีหน้าหลินหยุนเฉยเมย รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง “มันก็แค่หกหมื่นล้าน จะไปยากอะไร?”
หวางโส่วหลี่พูดเสียงเย็นชา “แค่หกหมื่นล้านเหรอ? พูดจาใหญ่โตน่าดูเลย! ฉันให้เวลาแกหนึ่งเดือน ถ้าแกสามารถนำเงินมาหกหมื่นล้านมาได้ ถือว่าฉันแพ้!”
หวางเจ๋อเงียบ กำลังครุ่นคิดแล้วมองไปที่หลินหยุน ตามการประเมินก่อนหน้านี้ของเขา ทรัพย์สินของหลินหยุนคงไม่เกินหมื่นล้าน
น่าเสียดายที่ เขาไม่รู้ว่าผู้ก่อตั้งน้ำแห่งชีวิตก็คือหลินหยุน และเขาไม่รู้ว่าตระกูลเจี่ยงทั้งหมดในเกาะหนัน เป็นของหลินหยุนแล้ว
ประธานกรรมการทั้งหมดของบริษัทตงหวางกรุ๊ป ก็ไม่ค่อยเชื่อ
แม้ว่าหลินหยุนอยู่ที่ประชุมสุดยอดจงโจว เคยช่วยเหลือบริษัทตงหวางกรุ๊ป
อย่างไรก็ตาม ที่ขัดแย้งกันครั้งนั้นคือตระกูลส้ง และที่ขัดแย้งกันครั้งนี้เป็นตระกูลหวาง
ตระกูลส้งเมื่อเปรียบกับตระกูลหวาง ไม่มีอะไรเทียบได้เลย
“คุณหลิน ความหวังดีของคุณพวกเราซาบซึ้งใจ แต่ว่า ได้โปรดอย่าก่อกวนพวกเราเลย อยู่ในประเทสจีนคนที่สามารถนำเงินเงินหกหมื่นล้านออกมาได้มีมากมาย แต่ไม่รวมคุณอย่างแน่นอน”
ประธานหลี่ใช้คำพูดโน้มน้าวอย่างจริงใจ บริษัทตงหวางกรุ๊ปในปัจจุบัน ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันใดๆได้
หากหลินหยุนไม่สามารถนำเงินหกหมื่นล้านออกมาได้ ก็ยิ่งจะทำให้บริษัทตงหวางกรุ๊ปถูกกระทำ
หลินหยุนไม่สนใจประธานกรรมการเหล่านั้น มองไปที่หวางโส่วหลี่ และพูดอย่างเฉยเมย “ทำไมต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน? หนึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว”
พูดจบ หลินหยุนก็หยิบแหวนหยกจากนิ้วมือ และยื่นให้ฉินหลัน “เอามันไป ไปที่ธนาคารต้ารุ่ย ต่ำกว่าหนึ่งแสนล้าน ถอนได้ตามสบายๆ!”
ทุกคนเบิกตากว้าง “เขากำลังล้อเล่นเหรอ? แหวนเก่าแก่หนึ่งอันสามารถถอนเงินได้หนึ่งแสนล้าน?”
“คนหนุ่มๆยังไงก็เชื่อถือไม่ได้!”
ทุกคนส่ายหัว เดิมทียังมีความหวังเล็กน้อยกับหลินหยุน แต่ตอนนี้ใจแตกสลายไปหมดแล้ว
ฉินหลันก็แสดงท่าทางไม่เชื่อ “หลินหยุน นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? แหวนวงนี้ มีมูลค่าหนึ่งแสนล้านหรือ?”
“เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!”
แม้แต่ฉินหลันก็ไม่เชื่อ
หวางซูเฟินก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “หลินหยุน หยุดวุ่นวายได้แล้ว เธอรีบไปเถอะ! ฉันบอกแล้ว เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับเธอ!”
มีแต่หวางโส่วหลี่เท่านั้น ที่ตกตะลึง เพราะเขารู้ดีว่า ธนาคารต้ารุ่ยมีลูกค้ารายใหญ่บางรายที่ไม่สะดวกปรากฏโฉมหน้าตัวเอง จะใช้โทเค็นเป็นตัวแทน
ขอเพียงเอาโทเค็นไปแสดง ก็สามารถใช้สินทรัพย์ในบัญชีของตัวเองได้
เพียงแต่ว่า หวางโส่วหลี่ไม่เชื่อว่าหลินหยุนที่ยังหนุ่ม ก็สามารถกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารต้ารุ่ย
เพราะแม้แต่เขาก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะทำโทเค็น
แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์หลิน มันก็เป็นไปไม่ได้ในเวลาอันสั้นก็จะมีความมั่งคั่งขนาดนี้
หวางโส่วหลี่พูดเย็นชา “ตกลง ฉันจะรอแกหนึ่งชั่วโมง ฉันจะคอยดู แหวนวงนี้ของแก มีมูลค่าหนึ่งแสนล้านหรือไม่”
หลินหยุนมองไปที่ฉินหลัน สายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ “พี่ฉินหลัน เชื่อฉัน เอามันไปเลย!”
ดูเหมือนจะถูกสายตาของหลินหยุนบังคับให้ทำตาม ฉินหลันตัดสินใจเดิมพันสักครั้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้นอกจากบริษัทตงหวางกรุ๊ป พวกเธอไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว
“ตกลง ฉันจะไป!” ฉินหลันรับแหวนหยกมา มองไปที่หวางซูเฟิน “ท่านประธาน ฉันอยากลองดู ฉันมั่นใจในตัวหลินหยุน”
หวางซูเฟินถอนหายใจอย่างจนปัญญา “ในเมื่อเธอเชื่อเขา ก็ไปเถอะ! ยังไงก็ตามพวกเราก็หมดหนทางแล้ว ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร?”
“อืม” ฉินหลันหันกลับมา และมองไปที่หวางโส่วหลี่ “ถ้างั้นก็รบกวนทุกท่านรอฉันสักครู่”
หวางโส่วหลี่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทางหยิ่งยะโส และไม่พูดอะไร
ประธานกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตงหวางกรุ๊ปพูดว่า “ผู้ช่วยฉินรีบไปรีบมา!”
ฉินหลันเพิกเฉย และในที่สุดก็ใช้สายตาที่ลึกซึ้งมองไปที่หลินหยุน แล้วหันหลังออกไป
คนที่เหลือ ก็รออยู่ที่ออฟฟิศ
หากหลินหยุนสามารถเอาเงินออกมาหกหมื่นล้าน แก้ไขวิกฤตของบริษัทตงหวางกรุ๊ปได้ ถ้างั้นแผนการของหวางเจ๋อก็จะสูญเปล่า
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ตระกูลหวางเสียแรงไปอย่างไร้ประโยชน์ และเหนื่อยเปล่าๆ
อย่างไรก็ตาม หวางจ๋อและหวางโส่วหลี่ไม่เชื่อว่าหลินหยุนจะสามารถเอาเงินมาหกหมื่นล้านมาได้ เว้นแต่หลินหยุนไปปล้นเอา มิฉะนั้น ในเวลาอันสั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะสะสมความมั่งคั่งมากมายเช่นนี้
ธนาคารต้ารุ่ย สาขาจงโจว
ความเจริญในตัวเมืองที่พลุกพล่าน ชั้นแรกของอาคาร เป็นด้านหน้าของธนาคารต้ารุ่ย
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของธนาคารต้ารุ่ยนั้นเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆในประเทศจีน ยังตามหลังอยู่มาก
ช่วงเช้าเห็นคนแค่ไม่กี่คน
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นเช่นนี้ ธนาคารต้ารุ่ยสามารถหนุนให้มีการเปิดสาขาธนาคารในต่างประเทศตามขอบเขตที่กำหนด และก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้
จะเห็นได้ว่าหลักเกณฑ์ของธนาคารต้ารุ่ยนั้นสูงมาก
ฉินหลันเข้าไปในห้องโถง และผู้จัดการฝ่ายบริการคนสวยก็เดินเข้ามาทันที ยิ้มอย่างคนเป็นมืออาชีพและถามว่า “สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง! ไม่ทราบมีอะไรสามารถช่วยท่านได้?”
ฉินหลันพูดอย่างละอายใจเล็กน้อย “ฉันต้องการถอนเงิน”
“ไม่ทรบว่าท่านทำธุรกิจส่วนตัวหรือ……” ผู้จัดการฝ่ายบริการถามคำถามเพียงครึ่งเดียว ก็หยุดถาม แสดงถึงความเป็นมืออาชีพที่ดี
เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากที่มาที่ธนาคารต้ารุ่ย ส่วนมากมีความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตามธนาคารต้ารุ่ยเป็นธนาคารข้ามชาติ และเงินที่นำมาฝากที่นี่ เพราะความไว้วางใจ
ฉินหลันไม่สามารถบอกได้ว่าทำธุรกิจอะไร ดังนั้นเธอจึงนำแหวนในมือให้ผู้จัดการฝ่ายบริการดู และถามว่า “คุณรู้จักแหวนวงนี้หรือไม่?”
เมื่อถามประโยคนี้ ฉินหลันรู้สึกไม่สบายใจ และไม่เคยกังวลเช่นนี้มาก่อน