จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 671 ใจกว้างดั่งมหาสมุทร
เมื่อได้ยินตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงแล้ว ในใจของหลินหยุนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหว
เมื่อวานก็ได้ยินหลินโร่สุ่ยพูดถึงตระกูลนิ่งเหมือนกัน ทำให้หลินหยุนหวนนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้ถึงกับได้มาที่บ้านตระกูลนิ่งด้วยตัวเอง เพื่อช่วยรักษาอาการป่วยของนายท่านตระกูลนิ่ง
เมื่อชาติที่แล้ว หลินหยุนไม่มีความทรงจำอะไรที่เกี่ยวกับนายท่านนิ่งเลย แทบจะนึกไม่ออกว่ายังมีคนคนนี้อยู่อีกด้วย
คาดเดาว่า น่าจะเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บมากกว่า
เมื่อชาติที่แล้ว หลินหยุนไม่ได้รู้วิชาการแพทย์เลย ย่อมต้องไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องอาการเจ็บป่วยของนายท่านนิ่งเป็นธรรมดา
แต่ในชาตินี้ เขาได้แสดงวิชาการแพทย์ที่เก่งกาจสามารถออกมาแล้ว ด้วยอำนาจบารมีของตระกูลนิ่ง เมื่อรู้ข่าววิชาการแพทย์ที่เก่งกาจของหลินหยุนแล้ว ก็ย่อมจะต้องไหว้วานให้คนมาเชิญหลินหยุนไปอย่างแน่นอน
“ไปบ้านตระกูลนิ่งคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะได้พบเธออีกหรือเปล่า”
เมื่อนึกถึงเงาร่างที่สูงส่งมีสง่าราศี เยือกเย็นโดดเดี่ยวนั้นแล้ว ในใจของหลินหยุนถึงกับเกิดความหวังอยากพบเจอขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
โจวชิงเหออึ้งอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็พูดอย่างแตกตื่นขึ้นมาทันทีว่า “ตระกูลนิ่ง คงไม่ใช่นิ่งเฟิ่งเซียนคนนั้นของตระกูลนิ่งใช่ไหม?”
เจ้าอ้วนหัวเราะแฮะๆ “นอกจากนิ่งเฟิ่งเซียนแล้ว ยังจะมีใครกล้าอ้างตัวเองว่าเป็นคนตระกูลนิ่งอีกล่ะ!”
สีหน้าของโจวชิงเหอแตกตื่น “นี่เป็นถึงคนใหญ่คนโตคนหนึ่งเลยนะ ตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวง ใหญ่เป็นอันดับรองลงมาจากสี่ตระกูลยิ่งใหญ่เท่านั้นเอง!”
“มิน่าล่ะนายถึงได้กระตือรือร้นขนาดนี้ พูดความจริงมาเลย ไปรับผลประโยชน์จากตระกูลนิ่งมาเท่าไหร่กันแน่?”
เจ้าอ้วนทำตาถลน แล้วตะคอกใส่ว่า “โจวชิงเหอ นายกลายเป็นคนหยาบคายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! พวกเราเป็นคนที่เรียนด้านการแพทย์มาด้วยกัน การรักษาโรคช่วยชีวิตคนเป็นหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว จะไปหวั่นไหวกับของนอกกายพวกนี้ได้อย่างไรกัน!”
“นิ่งเฟิ่งเซียนคนนั้นเป็นเพื่อนเก่าแก่ของฉันนานหลายปีมาแล้ว นายท่านนิ่งเจ็บป่วยแล้ว ฉันก็ย่อมต้องหาทางช่วยเหลือเขาเป็นธรรมดา”
โจวชิงเหอโบกมือ “เอาเถอะเอาเถอะ แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง นายก็คิดจริงจังไปได้”
“ตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวง! นี่เป็นตระกูลใหญ่ที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ” สีหน้าโจวชิงเหอรู้สึกสะท้านใจ
สี่ตระกูลยิ่งใหญ่ นั่นถือว่าเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ไม่มีตระกูลไหน สามารถที่จะเทียบทันได้
ส่วนที่เหลือรองลงมา ก็ต้องถือว่าตระกูลนิ่งเป็นตระกูลใหญ่ระดับแถวหน้าในเมืองหลวงแล้ว ในสายตาของคนจำนวนมากมายนั้น ตระกูลนิ่งจึงเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของตระกูลไฮโซไปโดยปริยาย
ในไม่ช้า รถก็ได้วิ่งมาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่งที่อยู่ใกล้บริเวณชานเมืองของเมืองหลวงแล้ว
ที่นี่ ก็คือบ้านพักคฤหาสน์ของตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงนั่นเอง
ในขณะที่รถยังไม่ทันได้จอดเลย เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นว่า “ฉันจะโทรศัพท์ให้นิ่งเฟิ่งเซียนก่อน ให้เขาส่งคนมารับพวกเราเข้าไป”
ในขณะที่รถมาถึงหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์นั้น ประตูใหญ่สีแดงเลือดหมูก็ได้ถูกเปิดไว้นานแล้ว มีชายวัยกลางคนในชุดจีนสีแดงคนหนึ่ง พาพ่อบ้านวัยชราคนหนึ่งมายืนรออยู่ด้านข้างประตู
“จอด คิดไม่ถึงว่านิ่งเฟิ่งเซียนถึงกับมาต้อนรับพวกเราด้วยตัวเองเลย” เจ้าอ้วนรู้สึกหลงใหลได้ปลื้มเล็กน้อย
“ดูไปแล้ว ก็คงเป็นเพราะให้เกียรติหมอเทพหลินนั่นแหละ!” เจ้าอ้วนพูดยกยอหลินหยุน
หลินหยุนได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
โจวชิงเหอรู้สึกเกร็งบ้างเล็กน้อย “ท่านนี้ก็คือเจ้าบ้านของตระกูลนิ่ง นิ่งเฟิ่งเซียนเหรอ?”
“ท่าทางแลดูเป็นแบบฉบับของผู้ดีมีสกุลรุนชาติเสียจริง”
พวกหลินหยุนลงมาจากรถ พบหน้ากับนิ่งเฟิ่งเซียนอย่างเป็นทางการ
เจ้าอ้วนตะโกนพูดว่า “เฟิ่งเซียน ฉันได้ไหว้วานผู้อำนวยการโจว ไปเชิญหมอเทพหลินมาได้แล้วนะ!”
นิ่งเฟิ่งเซียนก็ยกมือไหว้คารวะเจ้าอ้วน พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พี่หวาง ขอบคุณมากครับ!”
“อย่าพูดเช่นนั้นเลย ฉันกับนายสนิทกันเหมือนพี่น้อง ในเมื่อนายท่านนิ่งเจ็บป่วยแล้ว ฉันก็ต้องช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว”
“ใช่แล้ว ฉันขอแนะนำให้นายรู้จัก”
“คนนี้คือเพื่อนสมัยเรียนของฉัน เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลประชาชนจงโจว โจวชิงเหอ”
“ท่านนี้ก็คือหมอเทพหลินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง! อ้อ ฉันก็เพิ่งได้ยินเจ้าโจวบอกว่า เขายังได้เป็นราชาการแพทย์ประจำปีนี้อีกด้วยนะ”
นิ่งเฟิ่งเซียนก็จับมือเช็คแฮนด์กับโจวชิงเหอ พูดด้วยความเกรงใจว่า “ลำบากผู้อำนวยการโจวแล้ว บุญคุณครั้งนี้คนแซ่นิ่งจะไม่มีวันลืมเลย!”
โจวชิงเหอรีบตอบอย่างเกรงใจว่า “คุณนิ่งเกรงใจไปแล้ว ฉันก็เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์เท่านั้นเอง เป็นเพราะหมอเทพหลินจิตใจดีมีเมตตา เมื่อได้ยินว่ามีคนป่วย ก็ตอบตกลงมาทันทีเลย”
นิ่งเฟิ่งเซียนจึงได้มองมายังหลินหยุน ถึงแม้สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ว่า ดูจากสายตาของเขาแล้ว หลินหยุนก็เห็นความสงสัยที่ซ่อนอยู่ภายใน
“คิดไม่ถึงเลยว่าหมอเทพหลินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ถึงกับเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่อายุน้อยขนาดนี้เลย!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าได้ยินคำร่ำลือถึงวิชาการแพทย์ขั้นเทพของหมอเทพหลินมาก่อนละก็ ฉันไม่อยากจะเชื่อจริงๆเลย เด็กหนุ่มที่อายุน้อยขนาดนี้ ก็ได้เป็นถึงยอดฝีมือในวงการแพทย์แล้ว!”
หลินหยุนก็สำรวจดูเจ้าบ้านตระกูลนิ่งคนนี้อย่างละเอียดเช่นกัน
เมื่อชาติที่แล้ว หลินหยุนเพียงแต่เคยได้ยินชื่อของนิ่งเฟิ่งเซียนเท่านั้น สำหรับผู้ชายที่เคย เป็นเพื่อนรักในวัยเด็กของแม่แก่นั้น ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
แต่ว่า ยังไม่เคยได้เห็นหน้านิ่งเฟิ่งเซียนมาก่อนเลย
วันนี้ได้มาพบเจอแล้ว หลินหยุนก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเจ้าบ้านนิ่งคนนี้อยู่บ้าง
อย่างอื่นยังไม่ต้องพูดถึง ลำพังแค่ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านตระกูลนิ่งของเขาแล้ว คนใหญ่คนโตที่มีอำนาจบารมียิ่งใหญ่ขนาดนี้ ในขณะที่ยืนรอต้อนรับโจวชิงเหอนั้น ไม่มีความรู้สึกเสียเกียรติอะไรเลย แสดงให้เห็นว่า คนคนนี้ อย่างน้อยที่สุดก็ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีทีเดียว”
อีกทั้ง คนอย่างนิ่งเฟิ่งเซียนนั้น รูปร่างหน้าตายังดูดีทีเดียว และยังมีบุคลิกแบบสไตล์สาวกลัทธิขงจื้ออีกด้วย
แต่ว่า หลินหยุนก็รู้สึกแปลกใจมาก ทำไมตอนนั้นแม่แก่ถึงไม่ชอบเขานะ
ในความคิดเห็นของหลินหยุนนั้น เห็นได้ชัดว่านิ่งเฟิ่งเซียนแลดูสมบูรณ์แบบกว่าพ่อแก่หลินตงหัวเสียอีก
“ดูไปแล้ว สมัยที่พ่อแก่ยังหนุ่มอยู่นั้น ความสามารถทางด้านคารมการพูดเอาใจเด็กสาว คงสูงส่งกว่านิ่งเฟิ่งเซียนมากเลยทีเดียว”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “เจ้าบ้านนิ่งเกรงใจไปแล้ว”
นิ่งเฟิ่งเซียนพูดว่า “ท่านทั้งหลายเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยแล้ว เชิญตามผมมาดื่มน้ำชาพักผ่อนก่อนเถอะ!”
เจ้าอ้วนมองไปยังโจวชิงเหอ โจวชิงเหอก็มองไปยังหลินหยุน
หลินหยุนพูดว่า “รีบพาผมไปตรวจดูคนป่วยก่อนเถอะ!”
การรักษาคนป่วยก็เหมือนการช่วยดับเพลิง ต้องการความเร่งด่วนห้ามชักช้าเด็ดขาด
“หมอเทพหลิน อาการป่วยของพ่อผมก็เป็นมาหลายปีแล้ว แค่เสียเวลานิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอก” นิ่งเฟิ่งเซียนพูดด้วยความจริงใจ
หลินหยุนพูดว่า “ผมยังมีธุระอย่างอื่นต้องทำอีก รีบตรวจดูอาการป่วยให้เสร็จก่อน แล้วผมจะรีบกลับ
“งั้นก็ได้ ท่านทั้งหลายเชิญตามผมมา!” นิ่งเฟิ่งเซียนพูดจบ ก็เดินนำหน้าไป
ทางด้านตะวันตกของคฤหาสน์ตระกูลนิ่งเป็นตึกสองชั้นหลังหนึ่ง ที่นี่ก็คือห้องพักของ นายท่านนิ่ง
นิ่งเฟิ่งเซียนก็พาพวกหลินหยุนเข้าไปในห้องรับแขก สาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดอยู่นั้น ก็ก้มหน้าลงแล้วทักทายเจ้าบ้าน จากนั้นก็ทำงานต่อไป
นิ่งเฟิ่งเซียนพาพวกเขาเดินตรงไปยังห้องที่อยู่ด้านซ้ายมือ
เมื่อผลักประตูห้องเข้าไป ภายในห้องนอนดูสะอาดสะอ้าน มีชายชราคนหนึ่งนั่งบนเก้าอี้รถเข็น ที่อยู่ตรงกับหน้าต่างพอดี
ด้านข้างหน้าต่าง มีเงาร่างคนในชุดสีขาว รูปร่างสูงโปร่ง ผมเงาดำยาวประบ่า ถึงแม้จะได้เห็นแค่ด้านข้างของใบหน้าเท่านั้น ก็แลดูสวยงามจนทำให้ผู้คนหยุดหายใจไปชั่วขณะแล้ว
แสงแดดในช่วงฤดูหนาว ส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามา สาดส่องลงบนใบหน้าด้านข้างครึ่งซีกของเธอ ทำให้ดูราวกับว่าร่างของเธอถูกปกคลุมไปด้วยแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์
ได้แต่ชื่นชมอยู่ห่างๆ แต่ไม่สามารถเข้าไปแตะต้องได้
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใคร
สาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง นิ่งโหย่วหรง
หลินหยุนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของโจวชิงเหอรวมทั้งไอ้อ้วนหวาง ต่างก็หยุดหายใจไปชั่วขณะทันที
เห็นได้ชัดว่า ต่างก็ตกตะลึงในความงามเสียแล้ว
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ต่อให้หลินหยุนที่เคยเห็นนางฟ้านางสวรรค์จนชินตาแล้วก็ตาม ถึงแม้ชาติที่แล้วเคยเห็นนิ่งโหย่วหรงมาแล้ว แต่เมื่อได้พบหน้าอีกครั้งหลังจากเวลาไปหลายร้อยปีแล้ว ก็ยังรู้สึกความคิดหยุดนิ่งไปชั่วขณะเช่นกัน
ความงามของนิ่งโหย่วหรงนั้น เปรียบเสมือนบัวหิมะอันศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ที่อยู่บนยอดเขาหิมะ สูงส่งเย่อหยิ่ง สง่างามไร้มลทิน
เมื่อได้ยินมีคนเดินเข้ามา นิ่งโหย่วหรงจึงค่อยๆหันหน้ามา
ชั่วพริบตานั้น โลกทั้งใบนั้นราวกับมืดมิดไปหมด แม้แต่พระอาทิตย์ ก็ยังไร้ซึ่งความสว่าง
ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหลายทั้งปวง ต่างล้วนหยุดนิ่งไปชั่วขณะยามเมื่อเธอหันมามอง
นิ่งเฟิ่งเซียนพูดด้วยเสียงเบาว่า “โหย่วหรง คุณอาหวางของลูกได้เชิญหมอเทพมารักษาอาการป่วยของคุณปู่แล้ว”
สีหน้าของนิ่งโหย่วหรงเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกใดๆ “หมอเทพเหรอคะ? หลายวันมานี้ หมอเทพที่มาก็มีจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว”
“เมื่อสองวันก่อนน้องชายก็เพิ่งจะติดตามท่านอาจารย์อะไรนั่น ไปเชิญหมอเทพมาไม่ใช่เหรอ? นับเวลาแล้ว วันนี้ก็ควรจะกลับมาแล้วล่ะ”
นิ่งเฟิ่งเซียนถอนหายใจเฮือก “น้องชายของลูกเป็นอย่างไรนั้น ลูกยังไม่รู้จักดีอีกเหรอ? เขาจะมีปัญญาไปหาหมอเทพอะไรมาได้!”
“หมอเทพหลินท่านนี้ เป็นถึงราชาการแพทย์ที่ชนะเลิศของปีนี้เลยนะ หมอเทพเย่เคยพยายามแนะนำมาเป็นอย่างดี อาหวางของลูกก็ได้ไหว้วานเพื่อนเก่าแก่ จึงจะสามารถเชิญท่านมาได้”
สายตาที่เยือกเย็นของนิ่งโหย่วหรง มองไปยังโจวชิงเหอ พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ในเมื่อเป็นหมอที่หมอเทพเย่แนะนำมาละก็ คิดว่าน่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง”
โจวชิงเหอสีหน้าเคอะเขิน “คุณหนู คุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่อยู่ข้างผมถึงจะเป็นหมอเทพหลิน”