จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 682 นายยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
หลินโล่เฉินกับหลินโร่หลันสองคนต่างก็ขมวดคิ้วขึ้น ในใจเกิดความสงสัยขึ้นเล็กน้อย
คนอื่นของตระกูลหลิน ถึงขนาดกระซิบถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า: “คุณชายนิ่งทำไมถึงได้ปฏิบัติกับหลินหยุนด้วยความเกรงใจขนาดนี้ด้วย? ”
“ใช่เลย! จากอิทธิพลอำนาจของตระกูลนิ่ง ต่อให้รู้ว่าไอ้หนุ่มนี้ได้ถูกป้าหวางรับเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ซึ่งก็คงไม่น่าจะสนใจกับเรื่องนี้! ”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? หรือว่าไอ้หนุ่มนี้ อาจมีความสามารถพิเศษอะไร ที่คุณชายนิ่งสามารถใช้การได้”
ทุกคนต่างก็วิพากษณ์วิจารณ์กันยกใหญ่
นิ่งโหย่วฉายไม่ได้ใส่ใจที่ทุกคนกำลังคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ เพียงแต่จ้องมองไปที่หลินหยุน หวังว่าหลินหยุนจะสามารถยกโทษให้อภัยต่อความผิดที่เขาได้กระทำไปก่อนหน้านี้
แต่ว่า หลินหยุนเองก็ไม่ได้สนใจเขา แม้แต่กล่าวขอบคุณก็ยังไม่มี และได้หันไปพูดกับหลินโร่สุ่ยว่า “ไปกันเถอะ! ”
หลินโร่สุ่ยตกใจขึ้นเล็กน้อย โดยที่ในใจเกิดความตื่นตระหนก: “นั่นเป็นถึงคุณชายนิ่ง ที่กำลังเอาใจทำดีต่อหลินหยุนอยู่ แต่หลินหยุนกลับไม่สนใจเขาเลย! ”
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น หลินโร่สุ่ยเองก็พยักหน้าตาม และตอบรับขึ้น แล้วก็เดินตามหลินหยุนจากไปอย่างงุนงง
ใบหน้าที่หล่อเหลาของนิ่งโหย่วฉาย แดงก่ำขึ้นเล็กน้อย แอบกำหมัดแน่น อยากที่จะแสดงความโมโห แต่ว่า สติสัมปชัญญะทำให้เขาอดกลั้นเอาไว้
“นิ่งโหย่วฉาย นายจะต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ อาการป่วยของคุณปู่ มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถรักษาได้! ”
ขณะที่ปลอบใจตนเองแบบนี้อยู่ นิ่งโหย่วฉายก็รีบวิ่งตามไปอีกครั้ง
หลินโล่เฉินและคนอื่น ๆ ต่างมองดูด้วยความตกตะลึง
หลินเห้าพูดขึ้นอย่างตะลึงว่า: “ไม่ใช่แล้ว ไอ้หนุ่มหลินหยุนนั่นกล้าที่จะมองข้ามคุณชายนิ่ง! ”
“เขา เขาบ้าไปแล้วแน่ ๆ! เขามีคุณสมบัติอะไรถึงได้หลงระเริงขนาดนี้ต่อหน้าคุณชายนิ่ง! ”
คนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจและอิจฉา แม้แต่พวกเขาเองเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชายนิ่ง ก็ยังต้องเคารพ นอบน้อม แต่ว่า หลินหยุนที่เป็นเพียงบอดี้การ์ด กลับกล้าที่จะมองข้ามคุณชายไปได้!
“แต่ว่า คุณชายนิ่งไม่เพียงแต่ไม่โมโห กลับยังวิ่งตามเขาไปอีกด้วย! ”
“นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
หลินโร่หลันมองไปยังหลินโล่เฉินด้วยความไม่เข้าใจ และถามขึ้นว่า: “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ในตัวของหลินหยุน ตกลงว่ามีสิ่งของอะไรกันแน่ ที่มีคุณค่ามากถึงกับทำให้คุณชายนิ่งต้องลดศักดิ์ศรีลงไปขนาดนี้ด้วย! ”
หลินโล่เฉินส่ายศีรษะ: “ไม่ชัดเจน แต่ว่า คงไม่ใช่เพราะอิทธิพลอำนาจที่ทำให้คุณชายนิ่งยอมลดศักดิ์ศรีของตนให้กับไอ้หนุ่มนั่นอย่างแน่นอน! ”
ไม่เสียแรงที่หลินโล่เฉินเป็นอัจฉริยะของตระกูลหลิน เพียงมองจากลักษณะท่าทางของนิ่งโหย่วฉาย เขาก็สามารถสรุปภาพรวมเบื้องต้นได้
นิ่งโหย่วฉายก้าวเดินไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ตามทันหลินหยุน พร้อมกับพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “คุณหลินเชิญหยุดก่อน! ”
หลินโร่สุ่ยมองไปยังคุณชายนิ่งที่หน้าแดงเล็กน้อยด้วยความตกตะลึง พูดตามความจริง คุณชายนิ่งผู้นี้หล่อเหลาจนผู้หญิงต้องอิจฉา
หลินหยุนมองไปที่เขาอย่างสงบ เหมือนกับว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน และพูดขึ้นว่า: “นายคิดจะทำอะไร? ”
นิ่งโหย่วฉายพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “คุณหลิน คุณรู้อยู่แก่ใจแล้วทำไมยังจะต้องถามกันอีกด้วยล่ะ? ”
“ฉันมาเพื่อขอการให้อภัยจากท่าน! ”
หลินโร่สุ่ยอ้าปากขึ้นเล็กน้อย ตกตะลึงจนแทบจะยัดไข่ไก่ทั้งฟองเข้าไปในปากได้แล้ว
“นิ่ง คุณชายนิ่งคิดไม่ถึงว่าจะมาขอการให้อภัยจากหลินหยุน! ”
“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน! ต่อให้หลินหยุนเป็นคุณหลินผู้ลึกลับคนนั้น ซึ่งจากอิทธิพลอำนาจของตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงแล้ว ก็คงจะไม่ด้อยกว่าเขาแน่นอน คุณชายนิ่งไม่จำเป็นที่จะต้องวิ่งตามมาเพื่อขอการให้อภัยจากหลินหยุนเลย”
พวกคุณชายลูกเศรษฐีทั้งหลายนี้รับทราบกันดีว่า มีเพียงแค่ผู้อ่อนแอที่ต้องไปขอการให้อภัยกับผู้ที่เข้มแข็งกว่าเท่านั้น
แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นผู้ที่เข้มแข็งไปขอการให้อภัยกับผู้ที่อ่อนแอกว่ามาก่อนเลย ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมานี่คือกฎเกณฑ์ของการดำรงชีวิต
หลินโล่เฉินและคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าท่าทางที่เหลือเชื่อ
โดยสิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือ หลินหยุนเพียงแค่เหลือบมองไปที่คุณชายนิ่ง และพูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึกว่า: “นายยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ”
นิ่งโหย่วฉายตกใจเล็กน้อย ไม่เข้าใจคำที่หลินหยุนพูดนั้นมีความหมายว่าอย่างไร
ทว่า เมื่อย้อนคิดขึ้น เขาก็เข้าใจได้แล้ว
ความหมายคำพูดของหลินหยุนนี้กำลังบอกว่า เขานิ่งโหย่วฉายแม้แต่คุณสมบัติที่จะทำให้ หลินหยุนโกรธขึ้นนั้นก็ยังไม่มี แล้วจะมาพูดถึงการให้อภัยกันได้อย่างไร?
ใบหน้าที่หล่อเหลาของนิ่งโหย่วฉาย ก็พลันแดงก่ำขึ้น กำหมัดทั้งสองข้างอย่างแน่น ถึงขนาดเล็บมือแทบจะเจาะเข้าไปในเนื้อแล้ว
ถ้าหากไม่มีเรื่องขอร้องต่อหลินหยุนแล้ว คุณชายนิ่งผู้องอาจ ไม่มีทางที่จะยอมอับอายขายหน้าแบบนี้อย่างเด็ดขาด
หลินเห้าทนไม่ไหวจึงได้ตะโกนพูดขึ้น: “หลินหยุน นายบ้าไปแล้วใช่ไหม? รีบขอโทษต่อคุณชายนิ่งเดี๋ยวนี้! ”
“ตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวง นายสามารถล่วงเกินได้ด้วยงั้นเหรอ! ”
นิ่งโหย่วฉายโกรธจัดโดยยังไม่มีที่ระบาย เวลานี้หลินเห้ากลับเสนอหน้าออกมา ช่างถือว่าเป็นการมอบที่ระบายความโกรธให้เขาเสียจริง
“หุบปาก! เรื่องของข้า นายจะมาพูดมากไปเพื่ออะไร? ” นิ่งโหย่วฉายจ้องไปที่หลินเห้าทันที พร้อมกับตวาดใส่ด้วยความโกรธ
หลินหยุนมองไปที่หลินเห้า ด้วยสีหน้าท่าทางที่เหยียดหยาม แล้วก็พูดขึ้นสองคำว่า: “ไอ้โง่”
ขณะนั้น หลินเห้าแทบจะแทรกแผ่นดินหนีไปเลยทีเดียว
“หลินหยุน ข้ากับนายอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้จริง ๆ! ”
หลินเห้ารู้สึกว่า ที่ตนเองถูกคุณชายนิ่งตวาดใส่ ก็เป็นเพราะความผิดของหลินหยุน จึงนับว่าเป็นความแค้นของเขาที่มีต่อหลินหยุน
ที่จริงแล้วเขาก็ทำได้เพียงยั่วยุให้หลินหยุนโมโห เพราะว่าเขาไม่กล้าที่จะไปหาเรื่องกับคุณชายนิ่ง!
นิ่งโหย่วฉายพูดอย่างหนักแน่นว่า: “งั้นนายจะให้อภัยกับฉันได้อย่างไร! ”
หลินหยุนพูดว่า: “ข้าบอกแล้วว่า แม้แต่คุณสมบัติที่จะทำให้ข้าโกรธนายก็ยังไม่มี จะมาพูดเรื่อง ให้อภัยได้อย่างไร? ”
นิ่งโหย่วฉายก็ไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว และพูดเสียงดังขึ้นว่า: “งั้นต้องทำอย่างไรนายจึงจะกลับไปรักษาอาการป่วยของคุณปู่ของฉัน? ”
หลินหยุนพูดด้วยสีหน้าเฉยชา: “ข้าเคยพูดแล้วว่า ไล่ข้าไปนั้นมันง่าย แต่หากจะเชิญข้ากลับไปมันไม่ง่ายขนาดนั้น”
“นายไปเถอะ อย่าได้มาวุ่นวายกับข้าอีกเลย”
นิ่งโหย่วฉายโมโหอย่างมาก แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะลงไม้ลงมือ เผื่อว่าไม่ทันจะขอโทษเสร็จ แล้วกลับทำให้หลินหยุนโกรธขึ้นมาอีก งั้นก็คงหมดหนทางที่จะเชิญหลินหยุนกลับไปอย่างแน่นอน
“ตกลง ข้าไป! ” นิ่งโหย่วฉายกัดฟัน แล้วเดินจากไปพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอับอาย
หลังจากที่มองนิ่งโหย่วฉายเดินจากไปแล้ว ทุกคนจึงตั้งสติขึ้นมาได้
หลินเห้ายิ้มเยาะและพูดขึ้นทันทีว่า: “ข้าคิดว่านายมีความสามารถพิเศษอะไร ที่แท้ก็เป็นแค่หมอเถื่อนเท่านั้น! ”
“คิดไม่ถึงว่า คุณชายนิ่งจะถูกหมอเถื่อนคนหนึ่งโกหกหลอกลวงจนโงหัวไม่ขึ้น จุ๊ ๆ! ”
หลินเห้าคิดต้องการที่จะแก้แค้นที่นิ่งโหย่วฉายตวาดใส่เขาเมื่อครู่
หลินโล่เฉินและคนอื่น ๆ ก็เบาใจลงได้บ้าง ที่จริงแล้วก็เป็นแค่ความบังเอิญที่หลินหยุนเข้าใจในทักษะวิชาการแพทย์เล็กน้อย จึงสามารถที่จะรักษาอาการป่วยของนายท่านนิ่งให้หายได้
ดังนั้น คุณชายนิ่งจึงได้มาหาเขา!
“สงสารหลิ่วจื่อเฉิงผู้นั้น ที่ถูกคุณชายนิ่งใช้เป็นที่ระบายอารมณ์”
หลินโร่หลันเดินเข้าไป ลากแขนของหลินโร่สุ่ยเอาไว้ และพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “ตามฉันมา! ”
หลินโร่สุ่ยใช้แรงสะบัดออก และพูดขึ้นด้วยท่าทางดื้อรั้นว่า: “ฉันจะอยู่ด้วยกันกับหลินหยุน! ”
หลินโร่หลันขมวดคิ้ว และพูดขึ้นอย่างโมโห: “เธอบ้าไปแล้วใช่ไหม? เขาคิดว่าตนเองมีทักษะวิชาการแพทย์เล็กน้อยนั้นแล้ว แม้แต่คุณชายนิ่งแห่งเมืองหลวงก็ไม่อยู่ในสายตา หากอยู่กับคนแบบนี้ อีกไม่นานจะต้องเกิดผลร้ายกับเธอแน่! ”
“ถึงขนาดที่ว่า เป็นเพราะเขา แล้วเธอเองจะต้องสร้างความลำบากให้กับตระกูลของพวกเรา! ”
หลินโร่สุ่ยก้มหน้าลง แล้วส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา: “ใครเป็นคนตระกูลเดียวกันกับพวกเธอล่ะ ตอนที่ฉันอยู่ในบ้าน แต่ไหนแต่ไหนฉันก็เป็นเพียงแค่คนนอก! ”
“เธอ……” หลินโร่หลันคิดที่จะดุใส่ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หลินโร่สุ่ยได้ประสบมาในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งก็เป็นดั่งที่เธอพูดจริง จึงได้ปรับลดน้ำเสียงให้อ่อนโยนลง
“โร่สุ่ย ก่อนหน้านี้เป็นไปได้ที่ฉันและคุณพ่อคุณแม่ละเลยความรู้สึกของเธอไป พี่สาวขอสัญญากับเธอว่า ต่อไปจะไม่เป็นแบบนี้อีกเลย”
“เธอกลับไปกับฉันเถอะ! คนแบบนี้ ไม่สามารถที่จะอยู่กับเขาได้จริง ๆ! ไม่ช้าหรือเร็วเขาก็จะให้ร้ายเธอแน่นอน! ”
เป็นครั้งแรกที่หลินโร่สุ่ยเห็นพี่สาวยอมอ่อนข้อให้กับตัวเอง ก็ใจอ่อนลงบ้าง เกือบจะตอบตกลงไปแล้ว
แต่ว่า เห็นหลินหยุนกำลังมองมาที่ตัวเอง จึงตื่นตัวตั้งสติขึ้นมาได้ในทันที
วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอได้รับ ไม่ใช่หลินโร่หลันมอบให้ ทั้งหมดเกิดจากความช่วยเหลือของหลินหยุน มิเช่นนั้น หลินโร่หลันจะสามารถใช้ท่าทางที่อ่อนโยนเช่นนี้กับตัวเธอได้อย่างไรกันล่ะ?
ไม่ว่าหลินหยุนจะยอมรับหรือไม่อย่างไร แต่ในใจของหลินโร่สุ่ยแล้ว คิดว่าคุณหลินที่ลึกลับผู้นั้นก็คือหลินหยุน
ใบหน้าของหลินโร่สุ่ยแสดงออกให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวอีกครั้ง: “พี่สาว คุณไปเถอะ ฉันจะอยู่ด้วยกันกับพี่หลินหยุน! ”
หลินโร่หลันตกตะลึงกับสีหน้าที่แสดงออกถึงความเด็ดเดี่ยวของหลินโร่สุ่ย และทราบดีว่าเธอคงจะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมหลินโร่สุ่ยได้แล้ว
โดยได้ส่งเสียงฮึขึ้นอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าที่ไม่พึงพอใจ: “ตกลง เพื่อเขาที่เป็นคนนอก แม้แต่คำพูดของพี่สาวแท้ ๆ เธอก็ยังไม่ฟัง หวังว่าต่อไปเธอจะไม่เสียใจในภายหลัง! ”