จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 688 เกรงว่าคุณจะไม่รู้จักเข้าใจเขา
หลินตงเย่วพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “พี่สะใภ้ ที่คุณพูดแบบนี้มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลย”
“ในตัวของพี่ชายรองของฉันมีสายเลือดของตระกูลหลินอยู่ คุณเป็นภรรยาของพี่ชายรอง แน่นอนว่าก็ต้องเป็นคนตระกูลหลิน”
“แต่ว่า บุตรบุญธรรมที่คุณรับมานั้นสำหรับพวกเราแล้ว เป็นเพียงแค่คนที่ไม่รู้จักประวัติความเป็นมา พวกเราไม่เข้าใจอะไรในตัวของเขา แล้วจะสามารถตกลงยอมรับให้เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินได้อย่างไร! ”
หวางซูเฟินสีหน้าเคร่งเครียด และพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า: “นายต้องการจะรับทราบเข้าใจเรื่องอะไร? ฉันจะบอกกับนายเอง! ”
หลินตงเย่วพูดอย่างเย็นชาว่า: “อย่างน้อยต้องให้พวกเราทราบถึง ประวัติชีวิตของเขา? รวมถึง ตอนนี้เขามีหน้าที่การงานอะไร? ซึ่งไม่ใช่ว่าจะหาคนที่ไร้หน้าที่การงาน มาเป็นลูกหรอกนะ! ”
หวางซูเฟินจิตใจหนักอึ้ง ประวัติชีวิตของหลินหยุนแม้ว่าจะค่อนข้างระหกระเหินอยู่บ้าง แต่ก็คงไม่เป็นไร แต่ว่า หน้าที่การงานของหลินหยุน แม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทราบอย่างชัดเจน
แต่ เธอทราบชัดเจนว่า หน้าที่การงานของหลินหยุนไม่ได้มีขนาดเล็กไปกว่าบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
“หลินหยุนเด็กคนนี้ ประวัติชีวิตค่อนข้างระหกระเหิน ตั้งแต่เล็กอาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนเติบใหญ่ แต่การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างบริสุทธิ์เรียบง่าย ไม่มีข้อบกพร่องหรือเรื่องด่างพร้อยอะไร”
“สำหรับหน้าที่การงานของเขา ฉันยังไม่ได้สอบถาม ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่”
หลินตงเย่วยิ้มเยาะ: “แม้แต่เขาทำงานอะไรคุณเองก็ยังไม่รู้ แต่ก็กล้าที่จะรับมาเป็นบุตรบุญธรรม! พี่สะใภ้ คุณช่างรีบร้อนเกินไปหรือเปล่า! ”
เวลานี้ หลินโล่เฉินได้ส่งสายตาให้กับหลินเห้า
หลินเห้าพูดอย่างเย็นชาขึ้นทันทีว่า: “ฉันว่าคุณป้าหวางคงไม่ใช่ว่าไม่ทราบหน้าที่การงานของ หลินหยุนหรอก แต่คงอายหากที่จะพูดออกมาล่ะสิ! ”
“ให้ฉันเป็นคนบอกกับทุกคนเองก็แล้วกัน ที่จริงแล้วหลินหยุนเป็นบอดี้การ์ดคนหนึ่งของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป จากนั้นก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีการใด หลอกล่อให้คุณป้าหวางติดกับ แล้วให้คุณป้าหวางรับเขาเป็นบุตรบุญธรรม”
ทุกคนของตระกูลหลินแสดงท่าทางเหยียดหยามขึ้นในทันที: “ที่จริงแล้วก็คือบอดี้การ์ดของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปนั่นเอง! ”
“ตกลงว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังอะไรอยู่หรือไม่? บอดี้การ์ดคนหนึ่งกลับกลายมาเป็นบุตรบุญธรรมของประธานกรรมการบริษัทไปได้? ”
หลินหยุนมองไปยังหลินเห้า แอบพูดในใจว่า: “ในที่สุดก็มาแล้ว เดิมที พวกเขาคิดที่จะอาศัยตอนที่คุณแม่กำลังเสนอให้ฉันเข้าสู่ตระกูลหลิน แล้วโจมตีใส่ฉันอย่างหนักนั่นเอง! ”
หวางซูเฟินตวาดขึ้นอย่างเย็นชา: “เหลวไหล นายได้ยินใครที่พูดว่าหลินหยุนเป็นบอดี้การ์ดของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป? ”
หลินเห้ามองไปที่หลินโร่หลัน หลินโร่หลันก็พยักหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทันใดนั้นหลินเห้าก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น และพูดขึ้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง: “แน่นอนว่ามีผู้ที่ได้ยินมากับหูของตัวเอง ซึ่งคำพูดนี้ฉินหลันผู้ช่วยข้างกายของคุณเป็นคนพูดออกมาจากปาก จะเป็นความเท็จไปได้อย่างไร? ”
ฉินหลันออกมา และพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ฉันจะอธิบายให้ทุกคนฟัง เรื่องนี้ เป็นเพียงเรื่องในตอนที่ฉันกับหลินหยุนเพิ่งได้รู้จักกัน แล้วก็เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดกันเล็กน้อย”
หลินโร่สุ่ยยืนขึ้น และพูดด้วยความจริงจังว่า: “ถูกต้อง ฉันสามารถเป็นพยานได้! ”
หลินเห้าไม่ได้เสียเวลาพร่ำเพรื่อไปกับเรื่องนี้ต่ออีก แต่กลับยิ้มเยาะขึ้น และพูดว่า: “เขามีหน้าที่การงานอะไรพวกเราไม่ไปพูดถึงกันก่อน แต่ว่า ตระกูลหลินของพวกเราจะให้คนที่หาญกล้าบ้าบิ่น กำเริบเสิบสานไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเข้ามาอยู่ในตระกูลได้อย่างไรกัน! ”
“เขาไม่เพียงแค่ทำร้ายเจี่ยงเฉิงตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนัน ในงานสุดยอดผู้มีอิทธิพลยังได้ไปล่วงเกินคุณชายนิ่งโหย่วฉายของตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงอีกด้วย! ”
“คนประเภทนี้ถ้าหากเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินแล้ว ใครจะไปทราบได้ว่าเขาจะนำพาปัญหาภัยพิบัติ มาให้กับตระกูลหลินมากแค่ไหน! ”
เมื่อพูดคำเหล่านี้ออกไป คนของตระกูลหลินทั้งหมดก็มีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปทันที
“ตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันเป็นถึงอดีตเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในจีน ส่วนตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงยังมีอิทธิพลที่เหนือกว่าตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันอีกหลายเท่า แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าล่วงเกินคนของทั้งสองตระกูลนี้ ซึ่งช่างหาญกล้าบ้าบิ่นเสียจริงเชียว! ”
แม้แต่นายท่านตระกูลหลินเหล่านี้ นอกจากหลินซื่อเฉิงแล้ว ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ถึงขนาดที่ว่า หวางซูเฟินกับหลินตงหัวเองก็ตะลึงไม่น้อยเช่นกัน
“นี่มันเป็นไปไม่ได้! หลินหยุนไม่ได้เป็นคนที่ไม่รู้จักแยกแยะลำดับความสำคัญสักหน่อย! บางทีอาจจะเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามจงใจข่มเหงรังแกหลินหยุน ดังนั้นหลินหยุนจึงต้องตอบโต้กลับไป! ” หวางซูเฟินพูดโต้แย้งขึ้น
หลินเห้ายิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วมองไปที่หวางซูเฟิน พร้อมกับพูดถากถางขึ้นว่า: “คุณป้าหวาง คุณชายนิ่งไม่เพียงแค่ไม่ได้จงใจรังแกหลินหยุน แต่กลับยังจะทำดีต่อหลินหยุนด้วยซ้ำไป เดิมทีหลินหยุนสามารถที่จะอาศัยโอกาสนี้ผูกมิตรกับตระกูลนิ่งได้ แต่เขากลับทำให้คุณชายนิ่งโกรธแค้นแล้วก็จากไปเลย! ”
“คนที่บ้าระห่ำรู้แต่เพียงว่าทำให้ตนเองสะใจ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูลแบบนี้ จะคู่ควรเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินของพวกเราได้อย่างไร! ”
หวางซูเฟินสีหน้าดูย่ำแย่ แต่เธอก็ไม่เชื่อในคำพูดของหลินเห้า
ฉินหลันเองก็ไม่เชื่อ และพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า: “นายพูดว่าคุณชายตระกูลนิ่งมาจงใจทำดีต่อ หลินหยุน มีหลักฐานอะไรไหม? หรือว่าในตัวของหลินหยุน มีสิ่งล้ำค่ะไรที่คู่ควรให้ตระกูลนิ่งเข้ามาทำดีด้วย? ”
ส่วนคนตระกูลหลินคนอื่นที่ไม่ทราบเรื่องเหล่านั้น สีหน้าก็แสดงออกถึงความสงสัยขึ้น ซึ่งพวกเขาก็เริ่มเกิดความสงสัยขึ้น กับคำพูดของหลินเห้า
จากอิทธิพลอำนาจของตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่คุณชายนิ่งจะต้องไปทำดีกับหลินหยุนด้วยล่ะ?
หลินเห้ายิ้มเยาะและพูดว่า: “บางทีทุกคนอาจจะยังไม่ทราบ ที่จริงแล้วไอ้หนุ่มนี้เป็นแพทย์เถื่อน นายท่านตระกูลนิ่งมีอาการป่วย คุณชายนิ่งจึงได้คิดที่จะเชิญเขาไปเพื่อรักษาอาการป่วยให้กับนายท่าน”
“หลินโร่สุ่ย ในตอนนั้นเธอก็อยู่ด้วย เธอพูดมาสิว่า ที่ฉันพูดนี้เป็นความจริงหรือไม่? ”
สายตาของทุกคน แวบเดียวก็จับจ้องมองมาที่ตัวของหลินโร่สุ่ย
หลินโร่สุ่ยก้มหน้าลง ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย ซึ่งคำพูดของหลินเห้านั้นเป็นความจริง และยังไม่มีการพูดแต่งเติมให้เกินไปอีกด้วย
ต่อให้หลินโร่สุ่ยคิดที่จะช่วยพูดให้กับหลินหยุน แต่เธอเองก็ไม่ถนัดที่จะพูดโกหก
“ที่นายพูดคือความจริง แต่นี่คือเรื่องส่วนตัวของหลินหยุน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เขาจะเข้ามาอยู่ในตระกูลหลิน! ”
หลินโร่สุ่ยยังคงไร้เดียงสานัก โดยที่ไม่ได้พิจารณาถึงผลลัพธ์ที่ตามมาของเรื่องนี้
ในเมื่อหลินหยุนล่วงเกินคุณชายนิ่ง แล้วถ้าหากเขากลายเป็นคนตระกูลหลิน ก็เท่ากับว่าตระกูลหลินไปล่วงเกินคุณชายนิ่งไม่ใช่เหรอ
ในตอนนั้นคำพูดเดียวของตระกูลหวาง ก็ทำให้อิทธิพลของตระกูลหลินตกต่ำลงติดต่อกันมานานหลายปี ถ้าหากถูกตระกูลนิ่งโกรธแค้นขึ้นอีก ถ้าอย่างนั้นตระกูลหลินก็คงจะตกต่ำลงจนกลายเป็นตระกูลระดับสองแห่งอูซูแล้ว
หลินเห้ายิ้มและพูดว่า: “ถ้าพูดแบบนี้ ก็หมายความว่าเธอยอมรับว่าที่ฉันพูดล้วนเป็นความจริง ใช่ไหม? ”
หลินโร่สุ่ยพูดขึ้นอย่างจำใจว่า: “ฉันยอมรับว่าที่นายพูดล้วนเป็นความจริง แต่เรื่องนี้ไม่สามารถนำไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่หลินหยุนจะเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินได้! ”
เวลานี้ ทุกคนต่างก็เชื่อว่า ที่หลินเห้าพูดนั้นเป็นความจริง
หลินหยุน คิดไม่ถึงว่าจะละทิ้งโอกาสในการผูกมิตรกับคุณชายนิ่ง และยังจะล่วงกินคุณชายนิ่งอีก
“ไอ้หนุ่มนี้ ช่างหลงระเริงยิ่งนัก! แม้แต่ตระกูลนิ่งยังไม่เห็นอยู่ในสายตา คนแบบนี้จะคู่ควรเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินได้อย่างไรกัน! ”
“ถูกต้อง พวกเราควรที่จะตัดขาดความสัมพันธ์กับคนที่อยู่รอบกายไอ้หนุ่มนี้ทั้งหมด ถ้าหากตระกูลนิ่งเกิดตำหนิกล่าวโทษขึ้น ก็จะได้ไม่เกี่ยวข้องถึงตระกูลหลินของพวกเรา”
“ไอ้หนุ่มนี้ไม่เพียงแค่หลงระเริง แต่สติปัญญาก็มีปัญหาด้วย คุณชายนิ่งเป็นคนเข้ามาผูกมิตร เขาไม่เพียงแค่ไม่เสียดาย แต่กลับยังไปล่วงเกินคุณชายนิ่งอีก! ”
“ใช่เลย มีลูกหลานของตระกูลหลายคน ที่คิดหาวิธีจะผูกมิตรกับคุณชายนิ่งแต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งแม้แต่ หลินโล่เฉินก็ทดลองอยู่หลายครั้ง ต่างก็ล้มเหลว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะล่วงเกินคุณชายนิ่ง! ”
ทุกคนของตระกูลหลิน ต่างก็พากันตำหนิ และเสียดาย อยากที่จะเข้าไปทำร้ายตบตีหลินหยุน
คุณปู่สามของหลินหยุนพูดกับหลินซื่อเฉิงว่า: “พี่สอง เด็กคนนี้ช่างมีความหลงระเริงเสียจริง หากจะให้เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลหลิน ฉันเห็นว่าไม่ค่อยสมควรนัก! ”
ส่วนนายท่านทั้งสองคนที่เหลือนั้นก็พยักหน้า: “ถูกต้อง คนที่หลงระเริงเช่นนี้ ตระกูลหลินของเรา ไม่รับโดยเด็ดขาด! ”
หวางซูเฟินจิตใจหนักอึ้ง ในจำนวนผู้อาวุโสทั้งห้าท่านตระกูลหลิน มีสามท่านแล้วที่คัดค้าน ต่อให้นายท่านหลินซื่อเฉิงเห็นด้วย ก็ไม่สามารถที่จะละเลยความรู้สึกของพี่น้องท่านอื่นได้
ดูเหมือนว่า การเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินของหลินหยุนนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
หวางซูเฟินรู้สึกโกรธเคืองอยู่บ้าง เพื่อที่จะให้หลินหยุนเข้ามาอยู่ในตระกูลหลิน เธอได้ตัดสินใจที่จะแตกหักกับทุกคนของตระกูลหลิน
แต่คิดไม่ถึงว่า เป็นหลินหยุนเองที่เกิดมีปัญหาขึ้น
“ไอ้เด็กคนนี้ ทำไมจะต้องไปล่วงเกินตระกูลนิ่งด้วย! ” หวางซูเฟินจ้องมองไปที่หลินหยุนอย่างจำใจ
หลินหยุนเพียงแค่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย และพูดว่า: “ก็แค่ตระกูลนิ่งเล็ก ๆ ตระกูลหนึ่งเท่านั้น ฉันไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก”
หลินเห้าตะโกนขึ้นทันที: “ผู้อาวุโสทุกท่าน พวกท่านได้ยินแล้วใช่ไหม ไอ้หนุ่มนี้ช่างหลงระเริงมากขนาดไหน! ”
“คนหลงระเริงเช่นนี้ หากเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะนำพาปัญหาภัยพิบัติอะไรมาให้กับตระกูลหลินอีก! ”
เหลือเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้พูดก็คือคุณปู่ใหญ่ของหลินหยุน เวลานี้ในที่สุดก็ได้เอ่ยปากขึ้นแล้ว: “ไอ้หนุ่มนี้ ช่างไม่เห็นใครอยู่ในสายตาจริง ๆ ถ้าหากเข้ามาอยู่ในตระกูลหลิน ในอนาคตคงจะนำพาปัญหาภัยพิบัติมาสู่ตระกูลหลินอย่างแน่นอน”
“ซื่อเฉิง นายจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ! ”