จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 726 ผู้ร้ายชิงความได้เปรียบก่อน
เมื่อเห็นเจ้าสามก็แข็งทื่อไปทั้งตัว เซี่ยเจี้ยนลี่ก็อดไม่ได้ที่อยากเห็น “เอามาให้ฉันดูหน่อยสิ!”
หลังจากที่อ่านจบแล้วเซี่ยเจี้ยนลี่สีหน้าบึ้งตึง จากนั้นก็มองไปยังเซี่ยอิงเหา แล้วโยนวิชาฝังเข็มสิบสามให้เขาไป
“แกเอาไปดูเอง!”
เซี่ยอิงเหามองดูสีหน้าพ่อที่จู่ๆก็บึ้งตึงขึ้นมา ในใจก็นึกสงสัย หรือว่าเซี่ยเจี้ยนโก๋พวกเขาก็ได้ไปพบตำราที่ดีเทียบเท่ากับวิชาฝังเข็มสามหรือ?
นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
วิชาฝังเข็มเล่มหนึ่ง ล้วนต้องผ่านการหล่อหลอมจากผู้มีประสบการณ์ที่ทุ่มเทพลังแรงใจมากมายนับไม่ถ้วน จนในที่สุดโชคดีได้ผลิตออกมาเป็นหนังสือเล่มหนึ่งได้
สามารถหาวิชาฝังเข็มสามมาได้ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว
ถ้าวิชาฝังเข็มเหมือนพวกผักกาดขาวละก็ มีวางจำหน่ายกันทั่วทั้งตลาดละก็ เช่นนั้นก็คงไม่มีค่าแล้ว
เซี่ยอิงเหาก็รีบเปิดอ่านวิชาฝังเข็มสิบสามอย่างไม่อยากเชื่อ เมื่อได้อ่านเพียงหน้าแรกเท่านั้น ก็ตกใจหน้าซีดไปหมด
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
“ในโลกนี้ถึงกับมีวิชาที่มหัศจรรย์ขนาดนี้เชียว!”
“แต่ว่า เมื่อเทียบกับวิชาฝังเข็มสาม ดูเหมือนก็มีส่วนคล้ายกันบ้าง! แต่ดีเลิศกว่าอีกไม่รู้กี่สิบเท่าเลยทีเดียว!”
“ขอเพียงแต่หนังสือเล่มนี้ออกมาเมื่อไร วิชาฝังเข็มสามของพวกเราก็จะกลายเป็นขยะไปทันทีเลย!”
“ในมือของพวกเขามีหนังสือวิชาฝังเข็มที่ร้ายกาจขนาดนี้แล้ว เมื่อวานกลับมาแย่งชิงวิชาฝังเข็มสามกับหลิ่วจื่อเทา พวกเขาจะต้องจงใจทำแบบนี้แน่เลย!”
“ดูไม่ออกจริงๆว่า เซี่ยเจี้ยนโก๋นี้ช่างเลวทรามต่ำช้าจริงเลย!”
“พวกเขาเจตนาจะแย่งชิงวิชาฝังเข็มสามกับฉัน ทำให้ฉันรู้สึกว่าวิชาฝังเข็มสามล้ำค่าขนาดไหน หลังจากอาศัยมือฉันส่งต่อให้พ่อแล้ว ก็จะได้ใช้เป็นของขวัญวันเกิดให้กับคุณปู่ หลังจากนั้นพวกเขาก็เอาวิชาฝังเข็มเล่มที่ร้ายกาจกว่านี้ออกมา ทำให้ฉันกับพ่อต้องอับอายขายหน้า!”
“ไม่ได้แล้ว จะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาดเลย!”
เซี่ยอิงเหาคิดเองเออเองว่าตัวเองสามารถมองทะลุแผนการของเซี่ยเจี้ยนโก๋แล้ว จึงคิดหาทางทำลายแผนการชั่วร้ายของเซี่ยเจี้ยนโก๋ ก่อนที่นายท่านจะมาถึง
แต่ว่าเขายังไม่ทันคิดแผนการออกมาเลย ก็มีคนทนรอไม่ไหวมาแย่งตำราวิชาฝังเข็มสิบสามจากมือของเขาไป
“อ่านจบแล้วก็ให้คนอื่นอ่านมั่ง อย่ากอดไว้ดูคนเดียวสิ!” ผู้อาวุโสตระกูลเซี่ยคนหนึ่งพูดพลางทำตาถลนใส่เซี่ยอิงเหา
ผู้อาวุโสคนนี้ เป็นอารองของเซี่ยเจี้ยนโก๋ เป็นคนนิสัยดี และดีต่อเซี่ยเจี้ยนโก๋มาก
ตอนนั้นเขายังเป็นคนที่คอยขัดขวางเจ้าบ้านไม่ให้ขับไล่เซี่ยเจี้ยนโก๋ออกจากตระกูลเซี่ย
เมื่อเขามองเห็นเซี่ยอิงเหาที่มือถือหนังสือวิชาฝังเข็มเล่มนี้ด้วยสายตาล่อกแล่ก ก็รู้แล้วว่าเซี่ยอิงเหากำลังคิดแผนการชั่วร้ายอะไรสักอย่างแล้ว
อีกทั้งเขาก็ยังคาดเดาว่า หนังสือวิชาฝังเข็มของเซี่ยเจี้ยนโก๋ น่าจะดีเลิศกว่าวิชาฝังเข็มสามของเซี่ยเจี้ยนลี่เล่มนั้นด้วยซ้ำไป
เซี่ยอิงเหาสะดุ้งตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ามาแย่งของจากมือเขาไป
แต่ว่า เมื่อเขาเห็นชัดว่าเป็นปู่รองที่แย่งของเขาไปแล้ว ทันใดนั้น ก็รีบกลืนคำด่าที่กำลังจะออกจากปากกลับเข้าไปใหม่
“คุณปู่รอง ปู่ทำอะไรเนี่ย?” เซี่ยอิงเหาพูดต่อว่าด้วยสีหน้าหงุดหงิด
ท่านรองเซี่ยก็ไม่ได้สนใจเซี่ยอิงเหาเลย ตอนนี้ความสนใจของเขาถูกวิชาฝังเข็มสิบสามดึงดูดไว้หมดแล้ว
“นี่ นี่ นี่มันร้ายกาจจริงๆเลย! เป็นหนังสือที่มหัศจรรย์เล่มหนึ่งจริงๆเลย!”
“มิน่าล่ะ เซี่ยอิงเหาไอ้เด็กเปรตคนนี้กำลังจะคิดแผนชั่วร้าย”
ปู่รองเซี่ยยิ่งดูก็ยิ่งตื่นเต้น สุดท้ายอดไม่ได้ที่ตบขาตัวเองแล้วตะโกนร้องออกมาว่า “สุดยอด สุดยอดจริงๆ!”
“ทุกคนก็เอาไปอ่านดูด้วยนะ นี่จึงจะนับได้ว่าเป็นเทคนิคขั้นเทพเลยนะ! ดีกว่าวิชาฝังเข็มสามเมื่อกี้นี้อีกหลายสิบเท่าเลย!”
ในขณะที่ปู่รองเซี่ยแย่งหนังสือวิชาฝังเข็มสิบสามไปนั้น เซี่ยอิงเหาก็รู้ตัวว่าต้องซวยแน่แล้ว
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของปู่รองเซี่ยดังขึ้น สีหน้าเซี่ยอิงเหาก็แลดูน่าเกลียดอย่างที่สุด
แม้แต่เซี่ยเจี้ยนลี่ ก็สีหน้าบูดบึ้ง ทำตาเขม็งใส่เซี่ยอิงเหา
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเซี่ยอิงเหาให้เขาใช้หนังสือวิชาฝังเข็มสามเล่มนี้มาเป็นของขวัญวันเกิดละก็ เขาก็คงไม่เอาของขวัญชิ้นเดิมมาเปลี่ยนเช่นนี้แล้ว
ตอนนี้เป็นไงล่ะ นี่ไม่ใช่เป็นการยื่นหน้าตัวเองให้คนอื่นตบหรือไง?
วิชาฝังเข็มสิบสามก็เวียนไปอยู่ในมือของผู้คนในห้องโถงจนครบทุกคนแล้ว
หลังจากได้อ่านวิชาฝังเข็มสิบสามแล้ว ผู้คนตระกูลเซี่ยทั้งหลายต่างก็เกิดอาการตกตะลึงอย่างผิดปกติ บางคนผ่านไปหลายนาทีแล้วยังไม่ได้สติกลับมาเลย ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับอาการช็อกที่เกิดจากวิชาฝังเข็มสิบสามนั้น
เนื่องจากว่าท่านเซี่ยได้ตั้งกฎระเบียบของตระกูลไว้อย่างเคร่งครัดว่า จะไม่เลี้ยงคนพวกเศษสวะไว้ ดังนั้น ขอเพียงแต่เป็นคนของตระกูลเซี่ย ต่อให้เป็นเด็กที่เพิ่งประสีประสา ก็ต้องสามารถแยกแยะความดีเลวของวิชาการฝังเข็มออกมาได้
ดังนั้น เมื่อวิชาฝังเข็มสิบสามเข้าสู่สายตาของผู้คนพวกนี้แล้ว ทุกคนต่างก็สามารถแยกความดีเลวออกมาได้แล้ว
“ร้ายกาจมาก เทคนิคระดับขั้นเทพจริงเลย!”
“เมื่อเทียบกับวิชาฝังเข็มสามเล่มนั่นแล้ว นี่จึงจะนับว่าเป็นสุดยอดวิชาจริงแท้แน่นอนเลย!”
“พวกคุณสังเกตเห็นรึเปล่า? วิชาฝังเข็มสามนี้มีส่วนคล้ายกับเล่มนี้ไหม?
“อืม ถูกต้อง พวกเราก็สังเกตเห็นแล้ว ฉันรู้สึกว่าวิชาฝังเข็มสาม มีความเป็นไปได้ที่คัดลอกมาจากหนังสือเล่มนี้”
“ใช่แล้ว วิชาฝังเข็มเล่มนี้ มีชื่อว่าอะไรหรือ?” มีคนถามด้วยความอยากรู้
เสียดายที่ว่า ตอนที่หลินหยุนเขียนตำราวิชาการฝังเข็มสิบสามนั้น ก็ไม่ได้เขียนชื่อหนังสือเอาไว้
ปู่รองเซี่ยก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ หันไปมองเซี่ยเจี้ยนโก๋ แล้วถามว่า “เจี้ยนโก๋ วิชาฝังเข็มเล่มนี้ของนาย มีชื่อว่าอะไรเหรอ?”
เซี่ยเจี้ยนโก๋จำชื่อวิชาฝังเข็มที่หลินหยุนเคยพูดไว้ จึงตอบอย่างนอบน้อมว่า “วิชาฝังเข็มสิบสามครับ!”
“วิชาฝังเข็มสิบสามเหรอ? ฮาๆๆ”
ปู่รองเซี่ยมองไปยังเซี่ยเจี้ยนลี่ ด้วยสีหน้าดูถูก “ฉันเข้าใจแล้ว”
“วิชาฝังเข็มสิบสาม วิชาฝังเข็มสาม พวกคุณเข้าใจแล้วหรือยังล่ะ?”
ผู้คนตระกูลเซี่ยทั้งหลายต่างก็ทำสีหน้าแปลกประหลาด แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ถึงแม้ทุกคนต่างก็ดูออกว่า วิชาฝังเข็มสามจะต้องคัดลอกมาจากวิชาฝังเข็มสิบสามอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าเซี่ยเจี้ยนโก๋เป็นเพียงเศษสวะที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเซี่ยไปหลายสิบปีแล้ว
ส่วนเซี่ยเจี้ยนลี่นั้น มีความเป็นไปได้ที่จะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลเซี่ยในอนาคตก็ได้
ต่อให้รู้ว่าวิชาฝังเข็มสาม คัดลอกมาจากวิชาฝังเข็มสิบสามก็ตาม ก็ไม่มีใครกล้ายืนขึ้นมาช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเซี่ยเจี้ยนโก๋เลย
เซี่ยอิงเหาโกรธจนหน้าเขียวไปหมด “สมควรตายจริง วิชาฝังเข็มสาม วิชาฝังเข็มสิบสาม…..ถ้าไม่ใช่มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน จะเป็นไปได้ยังไงที่แม้แต่ชื่อยังเหมือนกันขนาดนี้!”
สีหน้าของเจ้าสามกับเจ้าสี่แปลกประหลาด เดิมทีพวกเขาจะอาศัยวิชาฝังเข็มสามของเซี่ยเจี้ยนลี่มาหยามเกียรติเซี่ยเจี้ยนโก๋
แต่นึกไม่ถึงว่าผลที่ออกมากลับตรงกันข้ามเลย
ในขณะนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงมีคนตะโกนรายงานจากข้างนอกประตู “นายท่านมาถึงแล้ว!”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึง!
“นายท่านมาถึงแล้ว! รีบไปต้อนรับเร็ว!”
ความสนใจของทุกคน ก็ถูกเบี่ยงเบนไปทันที
เซี่ยเจี้ยนโก๋สะดุ้งตกใจ ในที่สุดก็ได้พบหน้านายท่านแล้ว
“พวกนายต้องระวังหน่อยนะ นายท่านรักษากฎระเบียบมารยาทมาก เวลาที่ไม่สมควรจะพูดอะไร พวกนายก็ห้ามพูดส่งเดชเลยนะ” เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดกำชับอย่างเข้มงวด
“รู้แล้วหน่า” โจวเฟินตอบอย่างไม่สบอารมณ์ สำหรับตระกูลเซี่ยแล้ว เธอไม่เคยรู้สึกชอบเลย
เซี่ยอิงเหาก็ยิ่งร้อนรนเหมือนกับมดที่วิ่งอยู่บนกระทะร้อน “ทำไงดี ทำไงดี? คุณปู่มาแล้ว ด้วยมาตรฐานความรู้วิชาการฝังเข็มของคุณปู่ที่สูงส่งอย่างนี้ มองแวบเดียวก็ดูออกว่าวิชาฝังเข็มสองเล่มนี้ เล่มไหนดีกว่ากัน จะต้องไม่ให้เซี่ยเจี้ยนโก๋มายืนผงาดอยู่บนหัวตระกูลพวกเราเด็ดขาด!”
ในไม่ช้า ชายวัยชรา อายุเจ็ดสิบกว่าคนหนึ่ง ถูกผู้คนห้อมล้อมกันพาเดินเข้ามา
ชายชราถึงแม้อายุใกล้แปดสิบแล้วก็ตาม แต่ว่าร่างกายยังแข็งแรงดี ดูไปแล้วก็เหมือนอายุแค่หกสิบต้นๆเท่านั้น
นี่ก็คือเจ้าบ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยชีเจว๋
เซี่ยชีเจว๋สีหน้าเข้มงวด ดูไปแล้วทำให้เกิดความรู้สึกน่าเกรงขาม ส่วนท่านเซี่ยคนนี้ ลักษณะการทำงานก็เข้มงวดจริงๆ
ผู้คนมักพูดว่าสีหน้าท่าทางคนเราย่อมได้รับอิทธิพลมาจากจิตใจ คำพูดนั้นก็ยังคงน่าเชื่อถืออยู่บ้าง
“เจ้าบ้าน!”
เมื่อเห็นเซี่ยชีเจว๋เดินเข้ามา ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืน โค้งตัวลงทำความเคารพ
หลินหยุนยืนอยู่ด้านหลังของฝูงชน สังเกตมองท่านเซี่ยอย่าเงียบๆ แต่ไม่ได้ทำความเคารพ
แต่ว่าทุกคนต่างก็มุ่งสนใจแต่ตัวท่านเซี่ย จึงไม่มีใครเห็นหลินหยุน
ท่านเซี่ยพยักหน้า พูดอย่างเรียบๆว่า “ไม่ต้องมากพิธีเลย!”
ทุกคนจึงเงยหน้าขึ้น มองดูท่านเซี่ยด้วยสีหน้านอบน้อม
ตอนนี้นี่เอง เซี่ยอิงเหาก็ก้าวเดินออกมาอย่างกะทันหัน แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าท่านเซี่ย ร้องเสียงดังด้วยสีหน้าน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “คุณปู่ครับ ปู่ต้องให้ความเป็นธรรมกับหลานด้วยนะ!”
“เซี่ยเจี้ยนโก๋เขาถึงกับคัดลอกวิชาการฝังเข็มที่หลานอุตส่าห์หามาให้คุณปู่ด้วยความยากลำบาก!”