จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 742 เตรียมเข้าสู่สนาม
หงซานเหอพูดอธิบายอยู่ด้านข้าง: “เนื่องจากทีมฝ่ายตะวันตกกดดันได้เปรียบจีนมาโดยตลอด ทำให้สนามล่าเจ็ดเผ่าในอดีตโดยส่วนใหญ่นั้น จีนก็จะเป็นอันดับสุดท้าย”
“มีเพียงแค่ครั้งนั้นที่เทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋เข้าร่วม ผลงานออกมาดีสักหน่อย แต่ก็มีผลงานอยู่ในอันดับที่สามจากท้ายเท่านั้น”
หลินหยุนสามารถเข้าใจได้ว่า ต่อให้จีนจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่สามารถที่จะอาศัยกำลังของตนเองเพียงอย่างเดียว เพื่อที่จะไปสู้รบกับสี่เผ่าพันธมิตรได้
แม้ว่าคนของรัสเซีย จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับประเทศตะวันตกสักเท่าไหร่ แต่ว่าในทางชาติพันธุ์แล้วพวกเขาก็ไม่แตกต่างอะไรกับประเทศตะวันตกมากเท่าไร
มีเพียงแค่จีน ที่ไม่ว่าจะเป็นด้านความสัมพันธ์หรือว่าชาติพันธุ์แล้ว ต่างก็จะต้องโดนประเทศตะวันตกนั้นดูถูกเหยียดหยาม
“ดูเหมือนว่า ครั้งนี้ที่เลือกฉันเป็นผู้บัญชาการ ถือว่าเป็นภาระหน้าที่อันหนักหนาเลยทีเดียว! ”หลินหยุนเหมือนกับว่าเข้าใจถึงความหมายของประธานาธิบดีจีนแล้ว
หงซานเหอถามขึ้นว่า: “ผู้อาวุโสทั้งสองท่านมีอะไรที่จะต้องกำชับหรือไม่อย่างไร? ”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งกวาดสายตามองไปที่ห้าคน และพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: “ภายในสนามล่าเจ็ดเผ่า ในทุกที่ต่างก็แฝงไว้ด้วยอันตรายความเสี่ยงที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ พวกนายจะต้องออกล่าสัตว์พร้อมกันจึงจะเป็นการดีที่สุด ห้ามกระทำการตามลำพังโดยเด็ดขาด”
“ถ้าหากพบกับสัตว์ประหลาดที่จัดการไม่ได้ อย่าได้ดึงดันโอ้อวดโดยเด็ดขาด”
“อีกสักครู่ทุกคนจะได้รับยันต์หยกหนึ่งชิ้น นั่นคือกุญแจสำหรับการเข้าสู่สนามล่าเจ็ดเผ่า และก็คือสิ่งของที่ใช้ปกป้องรักษาชีวิตของพวกนาย ซึ่งจะต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี ห้ามหล่นหายอย่างเด็ดขาด! ”
ผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งพูดเสริมขึ้นว่า: “ยันต์หยกนี้ในตอนที่พวกนายประสบกับอันตราย เพียงแค่บีบให้แตกละเอียด แบบนี้แล้ว พวกนายก็จะถูกพลังงานพิเศษในสนามนำตัวส่งออกมา”
“ซึ่งในตอนที่พวกนายใช้ยันต์หยกนี้ ก็หมายความว่าได้สละสิทธิ์การแข่งขันในครั้งนี้ด้วย จำไว้นะว่าเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญเท่านั้น จึงจะใช้ยันต์หยกนี้”
หงซานเหอมองไปที่ทุกคน และถามขึ้นว่า: “ต่างก็ฟังเข้าใจกันแล้วใช่ไหม? ”
เฉินโก๋ซ่งและทุกคน อกผายไหล่ผึ่ง และพูดขึ้นพร้อมกันว่า: “เข้าใจ! ”
หงซานเหอมองไปที่หลินหยุน และได้กำชับอีกครั้งว่า: “สุดท้ายข้าขอกำชับกับพวกนายอีกครั้งว่า หลังจากที่เข้าสู่สนามล่าเจ็ดเผ่าแล้ว จะต้องทำตามกำลังของตน ห้ามโอ้อวดดึงดันเด็ดขาด ถึงแม้หน้าที่เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่การรักษาชีวิตเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด! ”
“มีชีวิตเข้าไป และต้องมีชีวิตกลับออกมา! ”
“นายพลหงวางใจได้ พวกข้าจดจำเอาไว้แล้ว! ” เฉินโก๋ซ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
หงซานเหอมองไปที่หลินหยุน โดยที่ไม่พูดจา แต่ว่า หลินหยุนสามารถรับรู้ได้ถึงความหมายของเขา
เขาได้กล่าวเตือนกับหลินหยุนว่า ห้ามโอ้อวดดึงดัน ต้องระมัดระวังอย่างมากในทุกเรื่อง
หลินหยุนรู้สึกว่า แม้ว่าหงซานเหอจะไม่ค่อยชอบพอเขาในทุก ๆ เรื่อง แต่เมื่อประสบกับปัญหา ในใจของหงซานเหอ ก็ยังคงมีตนเองอยู่
“ออกเดินทาง ไปสนามแข่งขันกันเถอะ! ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งก้าวเดินไปพร้อมกับพูดขึ้น
“ตามไปกันเถอะ! ” หงซานเหอมองไปที่ทั้งห้าคน แล้วก็ก้าวเดินตามกันไป
ทั้งคณะ ภายใต้การนำของผู้พิทักษ์รักษาสนามล่าสัตว์ ก็มาถึงลานกว้างด้านหน้ากลุ่มเสาหินขนาดใหญ่
ในบริเวณลานกว้าง มีคนยืนอยู่จำนวนมากแล้ว ซึ่งเมื่อนับรวมกับพวกของหลินหยุนด้วย ก็รวมทั้งหมดเป็นเจ็ดทีม โดยต่างก็มีผู้อาวุโสในชุดคลุมสีดำสองคนเป็นผู้นำมา
หงซานเหอพูดแนะนำขึ้นว่า: “คนชุดดำเหล่านั้น ก็คือผู้พิทักษ์รักษาสนามล่าเจ็ดเผ่าของแต่ละชนชาติ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาสนามล่าเจ็ดเผ่านี้”
“พวกนายลองสังเกตดู สมาชิกของแต่ละชนชาติ ซึ่งคนเหล่านี้ก็คือคู่ต่อสู้ของพวกนาย”
ไม่ต้องให้หงซานเหอกล่าวเตือนขึ้น สายตาของหลินหยุนและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้สังเกตไปที่คนของแต่ละทีมเหล่านั้นตั้งแต่แรกแล้ว
บนร่างของสมาชิกแต่ละชนชาติ ต่างก็มีตราสัญลักษณ์ประจำแต่ละชาติ ซึ่งทำให้แยกแยะออกได้โดยง่าย
ผู้เข้าแข่งขันห้าคนของสหรัฐอเมริกา ต่างก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งบึกบึน ที่แขนของทุกคน ต่างก็ใส่อุปกรณ์เครื่องกลป้องกันมือและแขน มองดูแล้วคล้ายกับว่าเป็นหุ่นยนต์ในภาพยนตร์อย่างไร อย่างนั้น
หงซานเหอมองตามสายตาของหลินหยุนไป พร้อมกับแนะนำอยู่ด้านข้าง: “นี่คือชุดเกราะนักรบเครื่องกล อุปกรณ์ป้องกันมือและแขนที่ท่อนแขนของพวกเขานั้น ที่จริงแล้วก็คือชุดเกราะเครื่องกลไฮเทค ด้านในมีอาวุธที่ทันสมัยจำนวนมาก แต่ว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา กำลังความสามารถโดยส่วนตัวนั้นไม่แข็งแกร่งมากเท่าไร”
“ชุดเกราะเครื่องกล? สหรัฐอเมริกามีระดับเทคโนโลยีที่สูงถึงขั้นนี้แล้วอย่างนั้นเหรอ? ถ้าหาก พวกเขาผลิตชุดเกราะเครื่องกลประเภทนี้จำนวนมาก อย่างนั้นก็คงจะต่อสู้ทำลายล้างไปทั่วโลกได้โดยง่ายดาย! ” ห่าวจ้านถามขึ้นด้วยความตกตะลึง
หงซานเหอพูดขึ้นว่า: “ชุดเกราะเครื่องกลนี้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่สหรัฐอเมริกาผลิตขึ้นมาเอง แต่เป็นสิ่งล้ำค่าที่พวกเขาขุดพบเจอที่ซากปรักหักพังมาหย่า ซึ่งมีจำนวนไม่มาก โดยที่พวกเขาสามารถมีเทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุดในโลกได้นั้น ที่จริงแล้วก็เป็นเพราะพวกเขาค้นพบซากปรักหักพังมาหย่านี้”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง! ” ห่าวจ้านพยักหน้าเข้าใจทันที
ผู้เข้าแข่งขันของอังกฤษ เป็นชายผิวขาวรูปร่างสูงใหญ่ห้าคน ต่างก็สวมใส่เสื้อคลุมสีแดงตัวใหญ่ และทุกคนต่างก็สะพายกล่องไม้คนละกล่อง โดยคนที่เป็นผู้นำนั้น สะพายกล่องไม้ที่มีขนาดใหญ่กว่ารางกายของตนเอง ซึ่งมองดูแล้ว คล้ายกับโรงศพ
หงซานเหอพูดแนะนำต่อว่า: “ผู้เข้าแข่งขันของอังกฤษ น่าจะเป็นกษัตริย์อาเธอร์กับอัศวินสี่คนจากจำนวนสิบสองอัศวินโต๊ะกลมของเขา โดยกล่องไม้ที่พวกเขาสะพายมันอยู่นั้น คงจะเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดต่อกันมาของพวกเขา และก็คือที่มาของพลังความแข็งแกร่งของพวกเขาด้วย”
“ผู้ที่สะพายกล่องไม้ขนาดใหญ่ที่สุดนั้น ก็คือกษัตริย์อาเธอร์ในยุคปัจจุบันนี้ โดยกล่องไม้ที่เขาสะพายอยู่นั้น น่าจะเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานที่ร่ำลือกัน ซึ่งก็คือดาบในศิลา! ”
เฉินโก๋ซ่งถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า: “ไม่ใช่พูดกันว่า ผู้ใดที่สามารถชักดาบในศิลานี้ออกมาได้ ผู้นั้นก็สามารถขึ้นเป็นกษัตริย์ของอังกฤษได้ใช่หรือไม่? หรือว่าพวกคนเหล่านี้แม้แต่ก้อนหินก็ยังขนกันมาด้วยเหรอ? ”
หงซานเหอพูดว่า: “นั่นเป็นเพียงคำบอกเล่าในตำนาน คงไม่น่าเชื่อถือเท่าไร แต่ ดาบในศิลานี้คือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่แกร่งกล้าอย่างแน่นอน พวกนายจะต้องระมัดระวังเอาไว้! ”
ผู้เข้าแข่งขันของฝรั่งเศสทั้งห้าคน ค่อนข้างจะปะปนกันไป มีสองคนที่อยู่ในชุดคลุมสีดำ โดยมองไม่เห็นหน้าตา
มีอีกสองคนมีหน้าตาหล่อเหลา ดูเหมือนกับว่าเป็นเด็กหนุ่มจากตระกูลชนชั้นสูงนับร้อยปี ส่วนอีกคนหนึ่งนั้น เป็นหญิงสาวผมบลอนด์
“ผู้เข้าแข่งขันของฝรั่งเศสทั้งห้าคน โดยสองคนที่อยู่ในชุดคลุมสีดำนั้น น่าจะเป็นหมอผีฝรั่งใน Dark Council ส่วนเด็กหนุ่มสองคนที่หน้าตาหล่อเหลาและหญิงสาวผมบลอนด์ที่สวยงามนั้น น่าจะเป็นแวมไพร์ตามตำนานที่ร่ำลือกัน” หงซานเหอพูดแนะนำต่อเนื่อง
สำหรับรัสเซีย ต่างก็เป็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำทั้งหมด ที่มีรูปร่างสูงสองเมตรกว่า คล้ายกับว่าเป็นสัตว์ป่าอย่างไรอย่างนั้น
“ผู้เข้าแข่งขันของรัสเซีย น่าจะเป็นนักรบสายเลือดมนุษย์ครึ่งสัตว์ พวกเขามีพละกำลังมหาศาล อีกทั้งยังสามารถที่จะกลายร่าง สู่สภาพที่เป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ได้ด้วย โดยหลังจากที่พวกเขากลายร่างแล้ว สติปัญญาจะลดลงอย่างมาก ซึ่งพวกนายอย่าได้ไปใช้เหตุใช้ผลกับพวกเขาในขณะนั้นโดยเด็ดขาด”
ผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าคนของอินเดีย มีสามคนที่ใส่แค่กางเกงขาสั้น แต่งตัวคล้ายกับเป็นคนโบราณในยุคหิน มีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด ส่วนอีกสองคนนั้น นึกไม่ถึงว่าจะเป็นพระสงฆ์ที่นุ่งห่มจีวร แต่กลับไม่ได้มีความเมตตาอารี มีแต่ท่าทางที่โหดเหี้ยม
“นั่นคือศาสนิกชนศาสนาพราหมณ์ ส่วนอีกสองคนนั้นคือลามะ โดยที่ความสามารถของพวกเขาคล้ายกันกับผู้บำเพ็ญเซียนนักบู๊ของพวกเรา แต่จะแปลกประหลาดกว่านักบู๊อยู่บ้าง พวกนายจะต้องระมัดระวังตัวให้ดี”
ส่วนพวกคนกลุ่มสุดท้ายที่เหลือนั้น คือผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าคนของญี่ปุ่น โดยทั้งห้าคนนี้ อยู่ในชุดซามูไรสีดำกันทั้งหมด ในมือถือดาบโค้ง ซึ่งรูปร่างของพวกเขาเมื่อเทียบกับผู้เข้าแข่งขันทุกชาติแล้ว นับว่าเตี้ยที่สุด
หงซานเหอพูดว่า: “นี่คือนินจาของญี่ปุ่น คาดว่าพวกนายคงจะไม่แปลกหูแปลกตาหรอก ตอนนั้นที่ญี่ปุ่นรุกรานจีน คนเหล่านี้ก็คือศัตรูตัวฉกาจของโลกบู๊จีน”
เวลานี้ ผู้พิทักษ์รักษาของแต่ละชนชาติก็ได้เดินขึ้นมา โดยเดินไปยังด้านข้างของแท่นหินที่อยู่ตรง ใจกลางของลานกว้าง พวกเขากี่คนนั้นพูดปรึกษากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหลังมาแล้วกวักมือเรียก ผู้เข้าแข่งขันของแต่ละชนชาติ
หงซานเหอพูดว่า: “ผู้พิทักษ์อาวุโสได้เรียกพวกเราแล้ว พวกเราไปกันเถอะ! ”
ขณะที่หงซานเหอนำทีมเดินเข้าไปนั้น ผู้เข้าแข่งขันของแต่ละชาติ ต่างก็เดินเข้าไปหาผู้พิทักษ์ของตนตามแต่ละชนชาติ
ทุกคนยืนล้อมรอบแท่นหิน
ผู้พิทักษ์ของแต่ละชนชาติ ใช้ภาษาของตนเอง พูดกำชับครั้งสุดท้ายให้กับพวกผู้เข้าแข่งขันของตน
“อีกสักครู่ก็จะเปิดประตูพิเศษให้เข้าสู่สนามล่าแล้ว ตอนนี้ข้าจะมอบยันต์หยกให้กับพวกนาย”
หลินหยุนกับพวกทั้งห้าคน ทุกคนต่างก็ได้รับยันต์หยกที่มีขนาดเท่ากับแผ่นการ์ด
“ยันต์หยกเคลื่อนย้ายชิ้นนี้ เป็นสิ่งที่ใช้สำหรับรักษาตัวเพื่อชีวิตรอด เมื่อตอนที่พวกนายประสบกับอันตราย ซึ่งพวกนายจะต้องเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี”
“ตอนที่จะใช้ ก็เพียงแค่บีบยันต์หยกนี้ให้แตกละเอียดเท่านั้น แต่ว่าอาจจะมีความล่าช้าอยู่กี่วินาที ซึ่งพวกนายจะต้องควบคุมกำหนดเวลาให้ดี” ผู้พิทักษ์รักษาทั้งสองท่านพูดกำชับ