จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 75 สกัดกั้นครึ่งทาง
บทที่ 75 สกัดกั้นครึ่งทาง
หลังจากตกตะลึงไปหนึ่งนาที เส้เทียนหัวก็ได้สติตอนที่พนักงานแจกไพ่ประกาศ
ทันใดนั้นเส้เทียนหัวก็โค้งคำนับอย่างสุดซึ้งให้กับหลินหยุน ด้วยความเคารพ “คุณหลินเก่งกาจจริงๆ ฉันขอชื่นชม!”
“การชนะในครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะคุณหลิน! ก่อนหน้านี้ที่ทำให้ขุ่นเคือง ขอคุณหลินโปรดอย่าตำหนิ!”
หลินหยุนมองเขา และชี้นิ้วออกไป “คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผม คุณได้จ่ายเงินรางวัลไปแล้ว หนึ่งร้อยล้าน อย่าลืม”
เส้เทียนหัวพูดด้วยความลำบากใจเล็กน้อย “แน่นอน ผมจะรีบให้คนจัดเตรียม และส่งให้คุณหลินเป็นการส่วนตัวทันที”
เว่ยเต๋อลี่เทพพนันแห่งชิงหยาง และกู่ไหลเฟิงเทพพนันจากหลอซาน ต่างพากันทำความเคารพหลินหยุน
“ทักษะการพนันของคุณหลิน ผมชื่นชมมาก ไม่ทราบว่าคุณหลินสามารถฝากข้อมูลการติดต่อไว้ได้หรือไม่ ในอนาคตหากมีโอกาสจะขอให้คุณหลินช่วยชี้แนะ”
“ไม่มีอารมณ์” หลินหยุนปฏิเสธตรงๆ
“… …” ปรมาจารย์นักพนันทั้งสองคนดูอับอาย “ถ้าเป็นอย่างนั้น ไม่ขอรบกวนคุณ!”
ไม่พบรูปลักษณ์ที่หยิ่งยโสบนใบหน้าของฉินอู๋ซวงอีกต่อไป เขาจ้องไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไอ้หนุ่ม นายแน่มาก! ฉันจะจำนายไว้”
หลินหยุนมองเห็นในสายตาของฉินอู๋ซวง เต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่รุนแรง แต่หลินหยุนไม่รู้สึกกลัว?
ฉินอู๋ซวงมองไปที่เส้เทียนหัว และพูดโดยไม่มีรอยยิ้ม “ท่านเส้ ขอแสดงความยินดี!”
เส้เทียนหัวหัวเราะ และพูดว่า “คุณชายอู๋ซวง เพราะคุณออมมือๆ!”
“สถานที่ทั้งสองแห่งนี้ต่อไปเป็นของท่าน ขอลาก่อน!” ฉินอู๋ซวงพูดจบ แล้วพาคนเดินออกไป
ในบริเวณรอบนอก คนดังและเศรษฐีที่มาจากฉินโจว ก็จากไปพร้อมกับฉินอู๋ซวง
หวางเสี่ยวซีบ่นคำหนึ่ง “ไม่คาดคิดว่ามาดูการแข่งขันทักษะการพนันของผู้มีอิทธิพล สุดท้ายได้เห็นหลินหยุนโชว์ความโดดเด่น ไม่ว่าที่แห่งไหนก็มีไอ้หมอนี้ !”
“มันจบลงแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!” หลี่เหยนพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา เขาไม่อยากเห็นหลินหยุนแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ
“โอเค!” เว่ยเทียนหมิงพยักหน้า และพวกเขาก็ออกไปทันที
หลินหยุนเห็นเซี่ยหยู่เวยจากไป ก็เลยพาอีหลิงจากไป
ถึงชั้นหนึ่ง หลินหยุนพาอีหลิงมาสมทบกับหวางเสี่ยวซีและคนอื่นๆ
อีหลิงเดินไปอย่างมีความสุข และพูดกับหวางเสี่ยวซีและเซี่ยหยู่เวยอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวซี หยู่เวย พวกเธอเห็นแล้วใช่ไหม! เป็นยังไงบ้าง หลินหยุนเก่งกาจใช่ไหม?”
“เก่งกาจ!” หวางเสี่ยวซีพูดอย่างประชด
เซี่ยหยู่เวยยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “อีหลิง เธอจะไปกับพวกเราไหม?”
อีหลิงมองกลับไปที่หลินหยุน และพูดว่า “แน่นอน ทุกคนมาด้วยกัน ก็ต้องไปด้วยกัน!”
หลี่เหยนพูดเสียงเบา “ฉันไปก่อน”
“พวกเราก็ไปกันเถอะ!” จ้าวกางมองไปทีหวางเสี่ยวซี แล้วพูด
หวางเสี่ยวซีดึงอีหลิง กะพริบตาและพูดว่า เสี่ยวหลิงหลิง ตามฉันมา!”
“แต่ว่า… …” อีหลิงมองกลับไปที่หลินหยุน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกหวางเสี่ยวซีดึงออกไป
เซี่ยหยู่เวยเหลือบมองหลินหยุนอย่างไม่แยแส จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
เว่ยเทียนหมิงเดินตามอย่างช้าๆ โดยปล่อยให้หลินหยุนยืนอยู่คนเดียวในห้องโถง
หลินหยุนมีสีหน้านิ่งเฉย ไม่เศร้าโศกไม่ดีใจ ตามหลังเซี่ยหยู่เวย แต่ว่า ได้รักษาระยะห่างจากพวกเธอ
เมื่อเดินไปถึงสถานที่พวกหลี่เหยนจอดรถ พวกเขาพึ่งขึ้นรถ ทันใดนั้น รถหรูสองคันก็หยุดอยู่ข้างๆพวกเขา
ฉินอู๋ซวงและชายชราในชุดดำ และคนหนุ่มสี่คน ลงจากรถ และล้อมรอบหลินหยุน
ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้า และพูดอย่างเย็นชา “คุณหลิน คุณชายของผมเชิญคุณไปสถานที่แห่งหนึ่ง!”
หลี่เหยนและคนอื่นๆเห็นฉากนี้ เห็นคนอื่นมีภัยก็แสดงสีหน้าเบิกบาน
เห็นได้ชัดว่า ฉินอู๋ซวงกำลังเตรียมที่จะล้างแค้นหลินหยุน
หลี่เหยนยื่นหัวออกตรงที่นั่งคนขับ และตะโกนใส่รถของเว่ยเทียนหมิงที่อยู่ข้างหน้า “คุณเว่ย พวกเราไปกันก่อน!”
“โอเค!” เว่ยเทียนหมิงตอบเบาๆ
อีหลิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆหวางเสี่ยวซีรีบพูดอย่างรีบร้อน “เดี๋ยวก่อน ฉินอู๋ซวงคนนั้นต้องการหาเรื่องหลินหยุน พวกเราทิ้งเขาไว้ไม่ได้!”
หวางเสี่ยวซีรีบจับอีหลิง และกล่อม “ฉันว่าเสี่ยวหลิงหลิง เธออย่าไปวุ่นวายเรื่องของคนอื่นได้ไหม? นั่นคือคุณชายอู๋ซวงนะ พวกเรากล้าทำให้เขาขุ่นเคืองเหรอ?”
อีหลิงตะโกนด้วยความโกรธ “แต่พวกเราก็ไม่ควรทอดทิ้งหลินหยุน!”
“หลินหยุน รีบขึ้นรถ!” อีหลิงตะโกนเรียกหลินหยุน
หลินหยุนหันไปมองอีหลิง และพูดว่า “พวกคุณไปก่อน วางใจได้ ผมไม่เป็นไร!”
“ได้ยินไหม เขาให้พวกเราไปก่อน! อีกอย่างคุณลืมไปแล้วหรือ? หลินหยุนต่อสู้เก่งมาก ไม่เกิดเรื่องเลวร้ายกับเขาหรอก!” หวางเสี่ยวซีเกลี้ยกล่อม
หลังจากพูดจบ เขาก็เร่งรีบพูด “รีบไปรีบไป!”
รถของหลี่เหยนออกไปก่อน ตามด้วยจ้าวกาง และเว่ยเทียนหมิง
กระจกที่นั่งด้านหลังค่อยๆเลื่อนลง และใบหน้าที่สวยงามและเย็นชาของเซี่ยหยู่เวยก็ค่อยๆปรากฏขึ้น
ไม่มีความกังวล ไม่เสียใจ และไม่ได้ปลอบใจ
ในสายตาของเธอ หลินหยุนมองเห็นสีหน้าที่มีความสุขของเธอ
มองเห็นใบหน้าที่สวยงามของเซี่ยหยู่เวยค่อยๆเลือนหายไป ดวงตาของหลินหยุนก็นิ่งเฉย ความสัมพันธ์ที่จืดจางระหว่างสามีภรรยา และตอนนี้ก็เลือนหายไปหมด
“หลินหยุน เดี๋ยวฉันจะโทรหาคุณ หากเกิดเรื่องกับคุณ ฉันจะแจ้งความทันที … …” ในที่สุด เสียงอีหลิงตะโกนมาอย่างกระวนกระวายใจ
หลินหยุนมองฉินอู๋ซวง และพูดเบาๆ “คุณต้องการพาฉันไปที่ไหน?”
ฉินอู๋ซวงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ถึงแล้วนายก็รู้เอง”
นี่คือย่านใจกลางเมือง หลินหยุนก็ไม่ต้องการทำอะไรที่นี่ พยักหน้าและเห็นด้วย “โอเค”
หลินหยุนนั่งอยู่เบาะหลัง และมีชายหนุ่มสองคนเฝ้าดู ดูเหมือนจะป้องกันไม่ให้หลินหยุนหลบหนี
ฉินอู๋ซวงพาหลินหยุนไปยังชานเมืองอันห่างไกล และหาที่จอดเชิงเขาที่ไร้คน
กลุ่มคนเหล่านี้ล้อมรอบหลินหยุน และฉินอู๋ซวงจ้องมองหลินหยุนอย่างสนุกสนาน ราวกับหมาป่าจ้องมองแกะตัวน้อย
“ไอ้หนุ่ม นายรู้ไหมว่าครั้งนี้ฉันสูญเสียไปมากแค่ไหน?” ฉินอู๋ซวงพูดด้วยสีหน้าดุร้าย
“ต่อจากนี้ไป คุณจะสูญเสียมากกว่านี้ แม้กระทั่ง สูญเสียชีวิต” หลินหยุนพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“ฮ่าๆ ไอ้หนุ่ม นายเป็นคนหยิ่งผยองจริงๆ!” ฉินอู๋ซวงเงยหน้าขึ้นและหัวเราะ
จากนั้น ใบหน้าของฉินอู๋ซวงก็ขรึมลงทันที และพูดอย่างเย็นชา “จำไว้นะ ฉันชื่อฉินอู๋ซวง และเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลฉินซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในฉินโจว!”
“นายแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง กล้าพูดแบบนั้นกับฉัน วันนี้ของปีหน้า จะเป็นวันบวงสรวงของนาย!”
ฉินอู๋ซวงโบกมือให้ชายหนุ่มทั้งสี่คน และตะโกนว่า “ลงมือ จัดการให้มันจบสักที!”
“ครับ!” ชายหนุ่มทั้งสี่มีใบหน้าเคร่งขรึม ก้าวไปข้างหน้า ในมือแต่ละคน มีกริชอยู่ในมือ
กลางวันแสกๆ คนเหล่านี้กล้าที่จะฆ่าคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฉินอู๋ซวงมีความกล้าหาญเพียงใด!
ยิ่งไปกว่านั้น จากท่าทีสบายๆของฉินอู๋ซวง ทำให้เข้าใจว่า เรื่องแบบนี้เขาต้องทำบ่อยๆ
ชายหนุ่มทั้งสี่เป็นคนที่สามารถต่อสู้กับคนธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินหยุน หลินหยุนหนึ่งหมัดต่อหนึ่งคน ต่อยจนพวกเขาทั้งสี่คนล้มลงกับพื้น โดยไม่ต้องใช้พลังทิพย์ใดๆ
ฉินอู๋ซวงประหลาดใจ “ที่แท้ก็เป็นปรมาจารย์ ไม่แปลกใจที่นิ่งสงบได้เช่นนี้ แต่นายรู้ไหมว่าตระกูลฉินของฉันเป็นตระกูลนักบู๊?”
“ตอนนี้ฉันให้นายดูกังฟูที่แท้จริง!”
ฝีเท้าของฉินอู๋ซวง พร้อมเสียงตะโกนออกมา ได้แสดงพลังอ่อนๆพุ่งออกมา
“ไปตายซะ!”
ฉินอู๋ซวงชกด้วยหมัดที่รุนแรง เช่นเดียวกับพลังของเสือชีตาห์ที่ว่องไวตัวหนึ่ง เสียงของหมัดเหมือนระเบิดทะลุอากาศ แสดงให้เห็นถึงพลังของหมัดนี้!
ถ้าโดนหมัดนี้ ประมาณว่าถึงจะเป็นกำแพงดิน ก็น่าจะทะลุได้
ชายชราที่อยู่ข้างหลัง เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของฉินอู๋ซวง พยักหน้าเล็กน้อย ด้วยสีหน้าพึงพอใจ “ไม่เลว หมัดนี้มีความร้อนแรงถึง80% คุณชายอู๋ซวงมีพรสวรรค์ที่น่าตกตะลึงจริงๆ!”
เมื่อต้องเผชิญกับหมัดที่ทรงพลังเช่นนี้ สีหน้าหลินหยุนยังคงดูนิ่งสงบ และไม่หลบไม่หนี เมื่อหมัดของฉินอู๋ซวงใกล้เข้ามาก่อนถึงหน้าเข้าเพียงหนึ่งเมตร หลินหยุนใช้ฝ่ามือตบออกไป
“แค่นักบู๊พรแสวงคนหนึ่ง ยังกล้าที่จะมาโอ้อวดต่อหน้าฉัน ไปตายซะ!”