จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 756 ภัยวิกฤติของสมาชิกทีมชาวจีน
ชาร์ลีและฮอลล์ถึงกับทุบหม้อทุบไห เอาทรัพย์สมบัติทั้งตัวออกมาให้หลินหยุนจนหมด แล้วแลกแก้วหินสัตว์ประหลาดมาจากหลินหยุนมาได้ 50 เม็ด
หลินหยุนมองดูหินทิพย์ที่กองเป็นภูเขา และยังมีโลหะที่หาได้ยากสำหรับใช้ผลิตของวิเศษด้วย จิตใจที่สงบนิ่งของหลินหยุนก็อดไม่ได้ที่เกิดความตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว
“คิดไม่ถึงเลยว่า ในตัวของคนอเมริกา ถึงกับมีสินค้ามากมายได้ขนาดนี้”
“ชุดเกราะพวกนั้นถึงแม้จะดูเหมือนกระดองเต่าตัวหนึ่ง ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ว่าก็ยังสามารถพกพาสิ่งของมาได้มากทีเดียว ถ้าหากเป็นพวกสมาชิกทีมอื่นๆละก็ คงไม่สามารถที่จะพกพาหินทิพย์มากมายขนาดนี้ได้เลย”
ส่วนชาร์ลีและฮอลล์มองดูหินทิพย์ตรงหน้าหลินหยุนที่เคยเป็นของตัวเองมาก่อน แล้วรู้สึกเจ็บใจจนตัวสั่นไปหมด
“ไอ้บ้าอาร์เธอร์ที่สมควรตาย ความเป็นอัศวินของพวกแกไปไหนกันหมด? เกียรติยศชื่อเสียงของอัศวินโต๊ะกลมของพวกแกหายไปไหนหมด? เป็นไปได้ยังไงที่พวกแกไปตกลงทำการค้ากับเจ้าปีศาจตัวนี้ได้?”
“หินทิพย์ของฉัน เหล็กทรายทองม่วงของฉัน!”
เพื่ออยากจะได้เป็นที่หนึ่งของการแข่งขันครั้งนี้แล้ว ชาร์ลีและฮอลล์ทั้งสองคนก็ถูกหลินหยุนปอกลอกจนหมดตัว แทบจะถอดกางเกงของทั้งสองคนไปด้วย
อีกทั้ง ในขณะที่หลินหยุนแลกเปลี่ยนกับพวกเขานั้น ก็ยังจงใจที่จะขึ้นราคาอีกด้วย
ใช้แก้วหินหนึ่งเม็ดแลกกับหินทิพย์ 3 เม็ดมาจากพวกเขา
พวกเขาไม่แลกก็ไม่ได้ เพราะว่าอาร์เธอร์ได้แลกไปแล้ว ชาวอเมริกาต้องการรักษาแชมป์ที่หนึ่งไว้ ก็จำเป็นจะต้องแลกกับหลินหยุนด้วย
โดยเฉพาะหลินหยุนเป็นตัวแทนของทีมฝ่ายชาวจีน ถ้าให้หลินหยุนเอาแก้วหินสัตว์ประหลาดมากมายขนาดนั้นกลับไปได้ละก็ ลำดับที่ของชาวจีนก็จะต้องเลื่อนสูงขึ้น มิหนำซ้ำยังอยู่เหนือชาวอเมริกาอีกด้วย นี่เป็นสิ่งที่ชาร์ลีทั้งสองคนไม่อยากเห็นที่สุด
ดังนั้น ชาร์ลีทั้งสองคนต่อให้ต้องยอมทุบหม้อทุบไหของตัวเอง ก็จะต้องแลกกับแก้วหินจากตัวของหลินหยุนออกมาให้หมด เช่นนี้แล้วลำดับที่ของชาวจีนก็ยังคงรั้งท้ายเช่นเดิมต่อไป
“เอาเถอะ ขอเพียงแค่สามารถกดให้ชาวจีนตกต่ำลงได้ มันก็คุ้มค่าแล้ว!”
หลินหยุนก็เก็บหินทิพย์ที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปไว้ในแหวนเก็บของ สายตาส่องประกายรอยยิ้มที่กระเซ้า “ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน!”
ชาร์ลีและฮอลล์ก็ส่งรอยยิ้มที่ราวกับได้ทำแผนชั่วร้ายสำเร็จ “ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน!”
สำหรับธุรกิจการค้าครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ และเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
หลังจากที่หลินหยุนจากไปแล้ว ชาร์ลีพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “ฮอลล์ รีบแจ้งทุกคนให้ไปเตรียมล้อมโจมตีสมาชิกทีมชาวจีน พวกเราจะต้องแย่งชิงแก้วหินในตัวของเขากลับคืนมาให้หมด”
“หลังจากจัดการสมาชิกชาวจีนแล้ว จากนั้นพวกเราทุกคนก็จะร่วมมือกันจัดการกับเจ้าเด็กนั่น ให้เขาคายหินทิพย์และเหล็กทรายทองม่วงของพวกเราออกมาให้หมด”
“ครับ หัวหน้า!”
หลินหยุนรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว เพื่อค้นหาเป้าหมายรายต่อไป พลางแบ่งกระแสจิตส่วนหนึ่งเพ่งเข้าไปในแหวนเก็บของ
เมื่อเห็นเหล็กทรายทองม่วงสายสีม่วงขวดนั้นแล้ว ในใจหลินหยุนก็รู้สึกดีใจมาก
นี่ไม่ใช่เหล็กทรายทองม่วงอะไรเลย แต่นั่นคือคริสตัลออโรราของอาร์กติก ใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตของวิเศษระดับชั้นฟ้า แม้แต่ในโลกหมู่ดาวนับล้านทั่วทั้งจักรวาลนั้น ก็ยังหาได้ยากมาก
คริสตัลออโรราของอาร์กติก ก็แค่มีเกรดต่ำกว่าปรามสีม่วงหงเหมินอยู่ระดับเดียวเท่านั้น เป็นพวกวัตถุดิบในระดับพรสวรรค์ บนโลกใบนี้ ถ้าใช้ไปเพียงนิดเดียว ก็จะหายไปโดยจะไม่สามารถเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีก
หลินหยุนก็ได้พบหัวหน้าทีมฝรั่งเศส เป็นแม่มดสาวที่ห่อหุ้มร่างกายด้วยเสื้อคลุมสีดำทั้งตัว
หลินหยุนก็ใช้วิธีเดียวกัน ได้หินทิพย์จำนวน 30 เม็ดมาจากแม่มดสาวนั้นด้วย
หลังจากนั้น ก็ค้นหาเป้าหมายต่อไป
แต่ว่า ตอนนี้สมาชิกทีมชาวจีนที่เหลืออีกหลายคนนั้น กลับถูกคนของชาติอื่นๆมาล้อมรอบเอาไว้ แล้วค่อยๆบีบให้เผชิญหน้ากัน
ห่าวจ้านมองไปยังเจียงเจิ้งฉีงและเฉินโก๋ซ่งที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ตะโกนพูดว่า “อย่าเพิ่งเดินไปข้างหน้า ข้างหน้ามีชาวอเมริกาและอังกฤษหลายคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้”
เฉินโก๋ซ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกเราทางนี้ก็มีคนของทีมฝรั่งเศสกับอินเดียกำลังเดินเข้ามาเหมือนกัน”
“เกิดเรื่องอะไรกันแน่ พวกเราถูกล้อมรอบไว้แล้วเหรอ?” ยิ่งตงไหลสีหน้ากังวลใจ
เฉินโก๋ซ่งสีหน้าเคร่งเครียด “น่าจะใช่”
“แล้วได้พบคนของรัสเซียบ้างหรือเปล่า?” ยิ่งตงไหลรีบถาม
“ไม่มี”
เจียงเจิ้งฉีพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ฉันกลับเห็นชาวรัสเซียคนหนึ่ง แต่ว่า คนนั้นพอเห็นฉันแล้ว ก็รีบหนีไปเลย ฉันเรียกเขาเขาก็ไม่ตอบ ดูเหมือนจงใจที่จะหลบหน้าฉัน”
ห่าวจ้านขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “หรือว่าคนของทีมรัสเซียกับอเมริกาพวกนั้นตกลงทำสัญญาอะไรสักอย่างเหรอ?”
คนที่เหลือก็ไม่พูดอะไร เพียงแต่สีหน้าดูบึ้งตึงมากขึ้น
เฉินโก๋ซ่งจึงพูดด้วยเสียงเข้มว่า “ฉันรู้สึกว่าสถานการณ์คราวนี้ไม่ค่อยดีนัก”
“คุณหาทางที่จะติดต่อไปกับหลินหยุนได้หรือเปล่า?” เฉินโก๋ซ่งถามพลางมองไปยังยิ่งตงไหล
ยิ่งตงไหลสามารถติดต่อได้ ก่อนที่หลินหยุนจากไปนั้น ได้มอบยันต์หยกชิ้นหนึ่งไว้ให้เขา ขอเพียงแค่ทุบยันต์หยกให้แตก หลินหยุนก็จะรับรู้ได้เอง
แต่ว่า หลินหยุนกำชับไว้ว่า ถ้าไม่ใช่ถึงเวลาคับขันจริงๆ ก็อย่าได้ทุบทำลายยันต์หยกอย่างเด็ดขาด
เพราะว่ายันต์หยกมีแค่ชิ้นเดียว ถ้าได้ใช้ไปแล้ว หากยิ่งตงไหลพบกับภัยอันตรายอีก ก็จะไม่สามารถที่จะติดต่อหลินหยุนอย่างเร่งด่วนได้อีกเลย
ส่วนตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ายังไม่ถึงเวลาที่คับขันจริงๆ
ยิ่งตงไหลไม่ได้ตอบคำถามของเฉินโก๋ซ่ง ดูเหมือนว่าเฉินโก๋ซ่งก็เข้าใจอะไรบางอย่าง จึงไม่ได้ถามต่อไปอีก
เจียงเจิ้งฉีก็พูดเยาะเย้ยว่า “บอกเขาทำไมกันล่ะ? ต่อให้เขากลับมา แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? เขาตัวคนเดียว ยังสามารถต่อกรกับการร่วมมือของคนชาติอื่นได้หรือไง!”
“ในเมื่อพวกเขาคิดจะล้อมโจมตีพวกเรา งั้นพวกเราก็ต้องเลือกทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แล้วลุยสู้ออกไปทางนั้นเลย”
“ขอเพียงไม่ให้โอกาสพวกเขารวมตัวกันได้ จะไปกลัวพวกเขาทำไมกัน?”
เฉินโก๋ซ่งพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ฉันรู้สึกว่าคำพูดของเจียงเจิ้งฉีก็มีเหตุผล ในเมื่อพวกเขาต้องการล้อมโจมตีพวกเรา งั้นพวกเราก็ต้องฝ่าวงล้อมออกไปก่อน อย่าให้โอกาสพวกเขามารุมล้อมเราได้”
ห่าวจ้านตะโกนเสียงดังว่า “งั้นจะรออะไรกันอีก เลือกทิศใดทิศหนึ่ง แล้วฝ่าวงล้อมออกไปเลย!”
พวกเขาก็ร่วมกันวางแผนสักพักใหญ่ ก็เลือกทิศทางที่เป็นสมาชิกทีมอินเดียและญี่ปุ่น
สมาชิกทีมทั้งสองประเทศนี้ ถึงแม้ว่าต่างก็ฟังคำสั่งจากทีมอเมริกาก็ตาม แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับชาวอเมริกาและชาวอังกฤษ
อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับชาวอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ก็ไม่ได้แนบแน่นจนไม่สามารถทำลายได้
ดังนั้น หากถึงเวลาที่จะต้องสู้ตายกันจริงๆ สมาชิกของทั้งสองประเทศนี้ ก็ย่อมจะไม่เอาชีวิตเข้าแลกอย่างแน่นอน
หลังจากที่พวกเขาได้ปรึกษากันแล้ว จึงตัดสินใจรีบฝ่าวงล้อมออกไป
หลังจากผ่านไปสิบนาที บริเวณตรงหน้าภูเขาเล็กๆแห่งหนึ่ง ก็ได้พบกับสมาชิกชาวอินเดียและญี่ปุ่นจำนวน 5 คน
นินจาทั้งสามของชาวญี่ปุ่น ต่างก็แต่งกายในชุดดำทั้งตัว คนที่เป็นหัวหน้านั้น มีผ้าสีทองเข้มเส้นหนึ่งพันรอบศีรษะอยู่ เป็นลักษณะที่แตกต่างจากอีกสองคนที่เหลือ
ส่วนชาวอินเดียทั้งสองคน ต่างคลุมร่างกายด้วยชุดจีวร ศาสนิกชนศาสนาพราหมณ์ทั้งสองหน้าตาแปลกประหลาด คนหนึ่งมีติ่งหูที่ยาวมาก ส่วนอีกคนหนึ่งจมูกเบี้ยวเล็กน้อยคล้ายกับจมูกหมู
ห่าวจ้านก็เดินขึ้นไปก้าวหนึ่ง ตะคอกด้วยเสียงดังว่า “ไม่อยากตายก็รีบหลบไป!”
คนที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย ยังคงยืนอยู่ที่เดิม จ้องหน้าชาวจีนทั้งหลายด้วยสายตาเยือกเย็น
เฉินโก๋ซ่งสั่งการเด็ดเดี่ยวว่า “ฆ่า!”
“ฉันคันไม้คันมือมานานแล้ว” ห่าวจ้านหัวเราะ แล้วบุกเข้าไปก่อน
ฝ่ายตรงข้ามพวกนั้น ก็รีบแยกออกเป็นสองฝั่ง ตั้งค่ายรบขึ้นมา เตรียมพร้อมรบกับชาวจีนเหล่านั้น
“อย่าสู้ยืดเยื้อ!”
ขณะที่เริ่มประจัญบานกันนั้น เฉินโก๋ซ่งก็ตะโกนขึ้นมาทันที หาโอกาสที่จะสลัดฝ่ายตรงข้ามออกไป เพื่อจะไปช่วยยิ่งตงไหลที่อยู่ใกล้ที่สุด
กลุ่มชาวจีนไม่กี่คนนี้ จุดมุ่งหมายคือฝ่าด่านออกไปให้ได้ ไม่สามารถที่จะยืดเยื้อกับคนพวกนี้ต่อไปได้
ห่าวจ้านชกลมออกไปหนึ่งที แล้วถอยออกจากวงต่อสู้ พูดอย่างเสียดายว่า “ขัดจังหวะจัง ยังไม่ทันหายอยากเลยก็ต้องไปแล้ว!”
ที่เหลืออีกสองคน ก็หลุดออกมาจากวงการต่อสู้ได้ ทั้งสี่คนก็มาอยู่รวมกัน มุ่งหน้าตรงไปทิศทางเดิมต่อไป
พวกสมาชิกทีมอินเดียและญี่ปุ่นนั้น ก็ไม่ได้ไล่ตามมา เพียงแต่ยืนอยู่ที่เดิม มองดูคนกลุ่มชาวจีนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“แปลกจัง ทำไมพวกเขาไม่ไล่ตามมา?” ห่าวจ้านพูดอย่างสงสัย
“อย่าไปสนใจมากเลย รีบหนีกันเถอะ” เฉินโก๋ซ่งพูดเร่ง
“ข้างหน้ามีคน!” ทันใดนั้น ยิ่งตงไหลก็หยุดเดินทันที มองไปยังชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่บึกบึนที่อยู่ข้างหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฮ่าๆ เป็นคนรัสเซีย คราวนี้ดีล่ะ ต่อให้พวกเขาคิดอยากจะห้อมล้อมพวกเราไว้ พวกเราก็ยังมีพลังแรงจะต่อสู้ได้อีก” ห่าวจ้านพูดพลางหัวเราะเสียงดัง
เฉินโก๋ซ่งกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปยังสมาชิกชาวรัสเซียทั้งห้าคนนั้น ในใจก็นึกสงสัยว่า “ทำไมคนรัสเซียถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?”