จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 759 ดาบในศิลาออกจากฝักแล้ว
ความมืดมิดกับความสว่าง ต่างก็อยู่ตรงกันข้ามกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว
หมอผีฝรั่งและผีดูดเลือด ต่างก็อยู่ในค่ายสภามืดด้วยกัน เทพเจ้าที่พวกเขาบูชานับถือ ก็คือ ท่านจอมมารซาตาน
ในเทพนิยายที่ร่ำลือกันทางโลกตะวันตกนั้น ซาตานได้ต่อสู้กับเทพแห่งสว่าง อีกทั้งยังสามารถเอาชนะได้ และยังมีผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีอีกจำนวนมากมายอีกด้วย
หมอผีฝรั่งและผีดูดเลือดพวกนี้ รังเกียจที่สุดก็คือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์
ปฏิกิริยาตอบโต้ของเคลลี่และมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดนั้น สามารถแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์นั้นได้
“ฝ่ากางเขน!”
“อัศวินเข้าชาร์จ!”
อัศวินโต๊ะกลมทั้งสอง จับเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาขึ้นมา ด้วยพลังที่แข็งแกร่งจากพรของพระเจ้า ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองตอนนี้ก็คือเทพแห่งสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดภายใต้ฟ้าดินแห่งนี้
พวกเขาเล็งไปยังหลินหยุน เริ่มบุกโจมตีอย่างสุดกำลัง
“ระวังนะ นั่นเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ หลีกเลี่ยงการปะทะกับพลังที่กล้าแกร่ง!” เฉินโก๋ซ่งพูดเตือนอยู่ข้างหลัง
หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย ไม่หลบไม่หลีกไปไหน ไม่ได้เห็นการจู่โจมของสองคนนี้อยู่ในสายตาเลย ก้าวขาออกไปข้างหน้า แล้วชกหมัดทุบออกไปหนึ่งที
“ท่าสยบเขา!”
เจียงเจิ้งฉีหัวเราะเยาะด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเด็กนี่ ถึงกับใช้หมัดตัวเองไปปะทะกับเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เชียว! ฮ่าๆ รนหาที่ตายชัดๆ!”
ชาวรัสเซียทั้งหลาย สายตาที่มองไปยังหลินหยุนนั้น ก็ค่อนข้างเหยียดหยามเล็กน้อย
“พิวรีน เจ้าเด็กน้อยชาวจีนคนนี้ประมาทเกินไปแล้ว เขาถึงกับใช้มือทั้งสองข้างไปท้าทายเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์!” อัศวินครึ่งคนครึ่งสัตว์ชาวรัสเซียคนหนึ่งหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม
พิวรีนพูดเสียงเข้มว่า “นิสัยเย่อหยิ่งอวดดีของชาวจีน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะแก้ได้สักที!”
แต่ว่า หลายคนที่เขาเคยเห็นการลงมือของหลินหยุนก่อนหน้านั้น กลับไม่มีท่าทีที่จะดูถูกหลินหยุนเลย
ได้แต่มองดูสถานการณ์ในสนามรบอย่างเงียบๆ สังเกตกระบวนท่าที่หลินหยุนใช้จู่โจม
โป้ง!
กำปั้นหมัดข้างเดียว สามารถรับดาบหนึ่งเล่มและหอกอีกหนึ่งเล่มไว้ได้
หลังจากนั้น ทั้งดาบและหอกต่างก็กระเด็นลอยออกไป
“ท่าแยกน้ำ!”
หลินหยุนยังไม่หยุดลงทันที ชกหมัดทุบออกไปอีกหนึ่งที
อัศวินโต๊ะกลมทั้งสองยังไม่ได้สติจากอาการช็อกเลย หมัดที่ทรงพลังมหาศาลของหลินหยุนนั้น ก็ทุบลงมาอีกครั้งหนึ่ง
โป้ง!
อัศวินโต๊ะกลมทั้งสอง ต่างก็ถูกทุบจนกระอักเลือดแล้วกระเด็นลอยออกไป ระหว่างนั้นยังสามารถได้ยินเสียงกระดูกที่แตกหักอีกด้วย
“เป็นไปได้ยังไง!”
คนที่ตะโกนเสียงดังตกใจออกมาคนแรกกลับเป็นเจียงเจิ้งฉี
“ทั้งสองคนนั้นเป็นถึงทายาทที่สืบทอดเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของอัศวินโต๊ะกลมทั้งสิบสอง น่าจะเป็นอัศวินอัศวินโต๊ะกลมประจำรุ่นในปัจจุบัน พละกำลังสามารถเทียบเท่าปรมาจารย์โลกบู๊ระดับใหญ่เลยทีเดียว!”
“ทั้งสองคนร่วมมือกัน ถึงกับยังสู้หมัดทั้งสองของหลินหยุนไม่ได้เลย!”
เจียงเจิ้งฉีไม่อยากจะเชื่อเลย เขาทะนงตัวว่ามีพละกำลังที่ไม่ธรรมดา แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองแล้ว ก็ได้แต่จะหาทางหนีเอาตัวรอดอย่างเดียว ไม่เคยคิดกล้าที่จะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามเลย
แต่ว่า หลินหยุนกลับทำได้ อีกทั้งยังง่ายดายเหมือนไม่ต้องออกแรงอะไรเลย
“สุดยอด ยอดเยี่ยมที่สุดเลย!”
เฉินโก๋ซ่งสีหน้าดีใจ “ในที่สุดฉันก็เข้าใจความตั้งใจของประธานาธิบดีแล้ว ฉันก็ว่าแล้วเชียว ประธานาธิบดีจะต้องดูคนไม่ผิดอย่างแน่นอน”
ห่าวจ้านสีหน้าตกตะลึง “โอ้แม่เจ้าโว้ย หลินหยุนเก่งกาจจริงๆเลย ชกไปแค่สองหมัดก็สามารถเอาชนะอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองได้แล้ว!”
“ฉันยังนึกว่าเจ้าเด็กนี่เป็นแค่ไม้ประดับ ดูดีแต่ใช้การไม่ได้เสียอีก! ที่ไหนได้คิดไม่ถึงว่า เขาถึงกับร้ายกาจขนาดนี้เชียว!”
ห่าวจ้านเป็นคนพูดไวทำไว คำพูดที่สรรเสริญพวกนี้ออกจากปากเขาแล้ว ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเลย กลับทำให้ทุกคนรู้สึกน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
อาร์เธอร์ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ “พละกำลังของเจ้าเด็กนี่ แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย!”
เคลลี่หัวเราะเยาะด้วยเสียงแหลมเล็กของเธอ “ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็ได้เห็นสุภาพบุรุษจอมปลอมที่ชอบทำตัวเป็นผู้ดีพวกนี้ถูกคนกระทืบสักที กระทืบได้ดีเลย!”
อาร์เธอร์ทำตาเขม็งใส่เคลลี่ “ไอ้พวกขยะที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในความมืด พวกที่ไม่มีหน้าไปพบผู้คนอย่างนี้ ยังจะกล้ามาเยาะเย้ยอัศวินโต๊ะกลมของพวกเราอีกเหรอ!”
“แน่จริง พวกแกก็ลองลุยดูเองสิ!”
เคลลี่โกรธจัด “ลุยก็ลุยสิ แกนึกว่าฉันไม่กล้าเหรอไง!”
ในขณะที่บางคนพวกนี้กำลังทะเลาะกันอยู่นั้น หมัดที่สามของหลินหยุนก็ชกออกมาแล้ว
“ค้อนดาวร่วง!”
“เจ้าเด็กน้อย แกคิดจะทำอะไร!” เคลลี่ทำตาหรี่ ตะคอกด้วยเสียงเย็นชาว่า “หรือว่าแกคิดจะลงมือฆ่าคนเหรอ?”
ในขณะที่พูดอยู่นั้น อาร์เธอร์ก็กระชากกล่องไม้ที่อยู่ข้างหลังลงมา แล้วตบไปยังกล่องไม้หนึ่งที
กล่องไม้แตกละเอียด ดาบขนาดใหญ่ด้ามหนึ่งเสียบอยู่บนก้อนหิน ก็ปรากฏสู่สายตาผู้คนทั้งหลาย
“ดาบในศิลา!”
“ไอ้พวกสมควรตาย เขาถึงกับเอาของปีศาจพวกนี้มาด้วย!” เคลลี่ด่าสามแช่ง
อาร์เธอร์ใช้มือทั้งสองจับด้ามดาบไว้แน่น ชักดาบเล่มใหญ่นั้นออกมา แล้วกระโดดฟาดลงไปยังหลินหยุนทันที
ชาร์ลีชาวอเมริกาตบมือชอบใจ “ยุทธวิธีล้อมเว้ยช่วยจ้าวช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน นี่เป็นกลยุทธ์การรบหนึ่งในสามสิบหกที่ชาวจีนภาคภูมิใจมากที่สุด ตอนนี้กลับถูกคนฝรั่งเศสเอามาใช้กับพวกเขาแล้ว สนุกจริงๆเลย!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจการบุกจู่โจมของอาร์เธอร์เลย พูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “ฉันเคยบอกแล้วว่า ใครข้ามเขตนี้มาตาย!”
พลังมหาศาลราวกับตกลงมาจากฟากฟ้า แล้วทุบลงไปยังอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองที่กำลังบาดเจ็บสาหัสอย่างแรง
มิหนำซ้ำทั้งสองคนยังไม่ทันที่จะทำลายยันต์หยกเลย หรืออาจจะพูดอีกอย่างว่าพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลินหยุนสามารถสังหารพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะทำลายยันต์หยกนั้นด้วยซ้ำไป
โป้ง!
พลังอันมหาศาลนั้นก็อัดก๊อบปี้ร่างของอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองลงไปกับพื้นดินที่แข็งแกร่งนั้น เลือดแดงสดๆก็ไหลนองออกมาปกคลุมไปทั่วพื้นดิน
อาร์เธอร์ที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ดวงตาทั้งสองแดงก่ำจนแทบจะระเบิด ใช้ดาบในศิลาที่เปี่ยมด้วยพลังมหาศาลจากพรของพระเจ้าและความโกรธแค้นที่ไร้ขอบเขตของเขา พุ่งเข้าฟาดฟันลงตรงศีรษะของหลินหยุนอย่างแรง
ปัง!
ดาบในศิลาที่ฟาดลงไปบนร่างของหลินหยุนนั้น ถึงกับเกิดเสียงดังเหมือนกับกระทบลงไปบนแผ่นเหล็กกล้า
หลินหยุนราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ลูกหนึ่ง ถูกดาบนั้นฟันกระเด็นลอยออกไป แล้วตกลงมาบนพื้นอย่างแรง
“อาจารย์หลิน!” ยิ่งตงไหลตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นหลินหยุนยังคงยืนอยู่ที่เดิม ยิ่งตงไหลจึงรู้สึกโล่งอก
แต่ว่า เสื้อผ้าของหลินหยุนตอนนี้ขาดรุ่งริ่งไปบ้างเล็กน้อย ร่างกายก็เกิดบาดแผลมากมายแต่สามารถเห็นแผลที่สมานอย่างรวดเร็วด้วยตาเปล่านั้น เป็นเพราะพลังอันแข็งแกร่งในการฟื้นคืนชีพของร่างภูตป่านั่นเอง
“อาวุธที่ผ่านการปลุกเสกจากพรของพระเจ้า แข็งแกร่งมากจริงๆเลย! อีกทั้งดาบในศิลาเล่มนี้น่าจะผ่านการปลุกเสกเรียบร้อยแล้วจากคนเผ่าสว่างระดับเทพคนหนึ่ง!”
คนเผ่าสว่างระดับเทพนั้น ก็คือความแข็งแกร่งอันสูงสุดที่ยังคงอยู่ของคนเผ่าสว่างนั่นเอง
อาร์เธอร์ก็ถูกแรงสะท้อนกลับที่รุนแรงนั้น กระแทกจนกระเด็นลอยออกไป
แต่ว่า ถ้าสามารถสังหารหลินหยุนแล้วแก้แค้นให้กับอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองนั้นได้ ต่อให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
แต่ว่า หลังจากที่อาร์เธอร์ ตั้งตัวยืนขึ้นมาได้แล้วค่อยๆหันกลับไปมองหลินหยุนนั้น ก็รู้สึกอึ้งไปทันที
“เขา ถึงกับยังมีชีวิตอยู่! นี่เป็นไปได้ยังไง!”
ความแข็งแกร่งของดาบในศิลา อาร์เธอร์ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี ตอนนั้น เขาเคยใช้ดาบในศิลาสังหารนักบู๊ระดับแดนเทพชาวจีนที่แข็งแกร่งคนหนึ่งไปแล้ว
แต่ว่า ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าได้ฟาดลงตรงร่างของหลินหยุนที่ไม่ได้ป้องกันตัวอะไรเลย ส่วนหลินหยุนก็แค่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง
“เจ้าหมอนี่ พละกำลังถึงขั้นระดับไหนกันแน่?” ในใจของอาร์เธอร์ อดไม่ได้ที่นึกสงสัยขึ้นมา
เคลลี่ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก “เทพแห่งสว่างที่สมควรตาย เขาถึงกับไม่เป็นอะไรเลย!”
“นี่เป็นไปได้ยังไง! นั่นเป็นถึงดาบในศิลาเชียวนะ! หรือว่าอาร์เธอร์ไอ้บัดซบนี่ เอาของปลอมมาหรือไง?”
ชาร์ลีชาวอเมริกาก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เหมือนกัน “พลังอันยิ่งใหญ่ของดาบในศิลา สามารถที่จะผ่าทะลุเสื้อเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดได้เลย นั่นก็หมายความว่า ร่างของเจ้าเด็กนี่ สามารถเทียบเท่ากับเสื้อเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดได้เลย”
คนของรัสเซีย สีหน้าเต็มไปด้วยอาการช็อก
มนุษย์หมาป่าฮาร์ทก็ตะโกนร้องด้วยเสียงหวาดกลัวว่า “พิวรีน ฉันคงไม่ได้ตาฝาดไปนะ! เขาสามารถต้านทานดาบในศิลาของอาร์เธอร์ได้!”
“โอ้สวรรค์ เจ้าเด็กน้อยชาวจีนคนนี้ ทำให้ทุกคนช็อกได้จริงๆเลย!”
พิวรีนมองดูหลินหยุน พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ดูไปแล้ว สมาชิกทีมชาวจีนที่ส่งมาคราวนี้ พิเศษมากจริงๆเลย!”
สีหน้าของเจียงเจิ้งฉี กลับแสดงสีหน้าท่าทางที่เหลือเชื่ออย่างกล้ำกลืนฝืนทน ความแข็งแกร่งของดาบในศิลา ถึงแม้ว่าเขายังไม่เคยประสบด้วยตัวเองก็ตาม แต่ว่าก็เคยได้ยินมาก่อนแล้ว
ต่อให้เป็นพี่ชายของเขาเจียงร่อโจ๋อยู่ที่นี่ ก็ยังไม่กล้าพูดว่าสามารถที่จะต้านทานการโจมตีอย่างสุดฤทธิ์ของดาบในศิลานี้ได้เลย
แต่ว่าภายใต้สถานการณ์ที่หลินหยุนแข็งขืนรับมือการโจมตีของดาบในศิลานั้น ก็ยังสามารถสังหารสมาชิกทีมอังกฤษสองคนได้สำเร็จอีกด้วย
พลังความสามารถเช่นนี้ ทั่วทั้งประเทศจีน ก็คงหาไม่ได้อีกแล้ว
ต่อให้เจียงเจิ้งฉีที่ไม่เคยยอมรับหลินหยุนมาโดยตลอดเลย ตอนนี้ก็ไม่กล้าสงสัยอะไรในพลังความสามารถของหลินหยุนอีกต่อไปแล้ว