จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 77 แยกกันอยู่
บทที่ 77 แยกกันอยู่
หลังจากจัดการรกับฉินอู๋ซวงและคนอื่นๆเสร็จ ดูฉินอู๋ซวงและพ่อบ้านฉินถูกชายทั้งสี่แบกเข้าไปในรถ หลินหยุนก็เตรียมตัวที่จะกลับไปเข้าเมือง
แต่สถานทีนี้ค่อนข้างห่างไกลตัวเมือง รอเป็นเวลานานยังไม่มีแท็กซี่มา
หลินหยุนก็เกรงใจไม่อยากโบกรถส่วนตัวคนอื่น เขาจึงโทรหาซูจื่อเหลียง ให้เขาเรียกรถมารับตัวเอง
แน่นอนซูจื่อเหลียงก็รีบมาอย่างเร่งด่วน พอดีเขาก็มีธุระจะขอคำแนะนำจากหลินหยุน
หลินหยุนตามซูจื่อเหลียงไปที่บ้านพักของเขา ซึ่งเป็นบ้านสองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก แม้ว่าบ้านจะเก่ามาก แต่ก็ยังดูสะอาดสะอ้าน
“ท่านอาจารย์ เชิญดื่มชา” ซูจื่อเหลียง ยื่นแก้วชาให้หลินหยุนด้วยมือทั้งสองข้าง
“อืม” หลินหยุนรับมา จิบนิดหนึ่ง มองไปที่ซูจื่อเหลียง และพูดว่า “ไม่เลว เวลาไม่กี่วัน ก็สามารถฝึกฝนถึงทักษะพรแสวงได้ระดับนี้ ถือว่ามีพรสวรรค์”
ซูจื่อเหลียงผงะไปชั่วขณะ และจากนั้นก็แสดงความดีใจ “ท่านอาจารย์ ผมกำลังจะขอคำชี้แนะจากท่าน ตามวิธีการฝึกฝนที่ท่านให้มา ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามีพลังชี่ที่แข็งแกร่งกำลังวนเวียนอยู่ในร่างกายของผม อีกอย่าง ในตอนนี้ผมแค่ต่อยหมัดเดียวสามารถทุบโต๊ะที่ทำจากไม้เนื้อแข็งให้พังได้”
“ที่แท้ความแข็งแกร่งของผมคือแดนพรแสวง!”
“แต่ว่า แดนของนักบู๊แบ่งแยกอย่างไร? ขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ด้วย!” ซูจื่อเหลียงโค้งคำนับ
หลินหยุนพูด “แดนผู้ฝึกบู๊แบ่งออกเป็นพรแสวง พรสวรรค์ จากนั้นก็ขั้นสูงสุด แต่ละแดนจะถูกแบ่งออกเป็นทักษะน้อย ใหญ่ และสูงสุด”
“ความแข็งแกร่งของคุณคือแดนพรแสวง”
ซูจื่อเหลียงพูดอย่างตื่นเต้น “แดนพรแสวงนั้นร้ายกาจเพียงใด?” มันคงจะดีถ้าสามารถหาคนมาทดสอบ”
“ไม่ต้องกังวล จะมีโอกาสแน่นอน” หลินหยุนพูด
“เอาล่ะ คุณฝึกฝนต่อไปเถอะ! ฉันออกไปก่อน”
“ผมไปส่งท่านอาจารย์!” ซูจื่อเหลียงพูดด้วยความเคารพ
ซูจื่อเหลียงส่งหลินหยุนขึ้นรถ แล้วกลับไปที่ชุมชนฝูย่วน
ก่อนจะถึงบ้าน โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย
“ฮัลโหล?” หลินหยุนพูดเบาๆ
“หลินหยุน พวกเขาได้กลั่นแกล้งคุณหรือไม่?” เสียงกังวลของอีหลิงดังขึ้น
หลินหยุนรู้สึกได้ว่า อีหลิงห่วงใยเขาจริงๆ
“ไม่ต้องกังวล ผมไม่เป็นไร” หลินหยุนพูดเสียงอบอุ่นใจ
“งั้นก็ดีมาก” อีหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพูดว่า “ใช่สิ หยู่เวยได้กลับไปแล้ว นายไม่ต้องห่วง”
สีหน้าของหลินหยุนเย็นชาเล็กน้อย และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชา “ผมไม่ได้ห่วง”
อีหลิงที่อยู่ในสายโทรศัพท์เงียบ และคาดไม่ถึงว่าหลินหยุนจะตอบแบบนั้น
ไม่ว่ายังไง เซี่ยหยู่เวยก็เป็นภรรยาของหลินหยุน หลินหยุนเห็นเธอนั่งรถชายอื่นออกไป โดยไม่เป็นห่วงเลยเหรอ?
อีหลิงรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหลินหยุนและเซี่ยหยู่เวย เป็นอย่างที่เซี่ยหยู่เวยพูดไว้หรือเปล่า นอกจากเป็นสามีภรรยากันในนามเท่านั้น แม้แต่พื้นฐานความเป็นเพื่อนยังไม่มี
อย่างน้อยที่สุดความเป็นเพื่อน ก็จะห่วงใยต่อกัน
“ในเมื่อนายปลอดภัยแล้ว ฉันก็โล่งใจ… … ไม่มีอะไรแล้ว วางสายแล้วนะ!” อีหลิงไม่รู้ว่าจะคุยอะไร แม้ว่าเธอจะรู้ว่าหลินหยุนและเซี่ยหยู่เวยไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆ แต่ในนามหลินหยุนก็เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว
แม้ว่าอีหลิงจะมีความรู้สึกดีๆต่อหลินหยุน แต่จิตใต้สำนึกของเธอไม่ต้องการที่จะใกล้ชิดกับชายที่แต่งงานแล้ว
“อืม” หลินหยุนก็ไม่คิดที่จะริเริ่มสนทนาก่อน ทั้งสองก็จบการสนทนา
กลับถึงบ้าน เซี่ยหยู่เวยกำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูทีวี โจวเฟินและเซี่ยเจี้ยนโก๋น่าจะยังอยู่ในคลินิก
เมื่อเห็นหลินหยุนกลับมา เซี่ยหยู่เวยก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และถามด้วยความสงสัย “ฉินอู๋ซวงปล่อยนายกลับมาแบบนี้เลยเหรอ?”
หลินหยุนเปลี่ยนรองเท้าแตะ แล้วเดินเข้าไป และพูดว่า “เธอคงหวังว่าทั้งชีวิตนี้ฉันไม่ต้องกลับมาดีกว่า”
เมื่อหลินหยุนเดาใจเซี่ยหยู่เวยถูก เธอหน้าแดง ความอับอายกลายเป็นความโกรธ “หลินหยุน อย่าคิดว่านายได้เรียนรู้ทักษะไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ก็ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา คิดว่าไม่มีใครเก่งกว่าตัวเอง ถ้าอยู่ต่อหน้าคนที่มีความแข็งแกร่งจริงๆ ทักษะแค่นั้นของนายไม่มีอะไรน่าชื่นชมเลย!”
หลินหยุนก็ไม่ยอมแพ้ใครและพูด “ คนที่เธอหมายถึงคนที่แข็งแกร่ง คือเว่ยเทียนหมิงเหรอ! น่าเสียดาย ครั้งก่อนที่อยู่ในสระว่ายน้ำ ถ้าไม่ใช่ผมเป็นแค่ทักษะไม่ถูกตามหลักเกณฑ์อย่างที่เธอพูด พวกคุณอาจจะต้องไปดื่มเหล้ากับเจี่ยงสงแล้ว”
“นาย… …” เซี่ยหยู่เวยพูดไม่ออก
เซี่ยหยู่เวยหายใจเข้าลึกๆ บังคับตัวเองให้สงบลง และมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าเฉยชา “หลินหยุน บางทีนายอาจจะอาศัยทักษะไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ เพื่อทำให้เจี่ยงสง เส้เทียนหัวผู้มีอิทธิพลเหล่านี้มองนายด้วยความชื่นชม เพียงแต่ว่า เวลาที่พวกเขาไม่ต้องการทักษะไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของนายแล้ว ถึงตอนนั้นอยู่ตรงหน้าพวกเขานายจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย!”
“ถ้าทักษะไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เป็นที่พึ่งพาทำให้นายหยิ่งผยอง ฉันขอแนะนำให้นายล้มเลิกความคิดนี้ มิฉะนั้นวันหนึ่ง นายจะไปล่วงเกินคนที่นายไม่ควรล่วงเกิน”
“อย่าโทษที่ฉันไม่เตือนนาย!”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเธอคิดว่าความเชื่อมั่นของผมมาจากทักษะไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ก็เสียใจด้วย เธอคิดผิดแล้ว เพราะผมคิดว่าในโลกนี้ คงจะไม่มีใครที่ผมไม่กล้าไปล่วงเกิน”
เซี่ยหยู่เวยหัวเราะอย่างโกรธๆ “หลินหยุน ฉันคิดว่านายไม่ใช่หยิ่งผยอง แต่เป็นโรคประสาทไปแล้ว! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ยังกล้าพูด ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะเหรอ!”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย ค่อยๆเงยหน้าขึ้น และสายตาจ้องไปบนหลังคา มองไปถึงดวงดาวของจักรวาล
“ถ้าผมสามารถซ่อมแซมยาทองกลับมา แม้ว่าจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก แล้วจะทำไม?”
หลินหยุนไม่สนใจเซี่ยหยู่เวย เดินเข้าไปในห้องนอน หยิบเสื้อผ้าสองสามตัว แล้วเดินจากไป
เซี่ยหยู่เวยรู้สึกสับสนเล็กน้อย และถามว่า “นายจะทำอะไร?”
หลินหยุนไม่หันกลับมามอง และพูดว่า “ช่วยบอกน้าเฟินด้วย ผมจะออกไปพักข้างนอกไม่กี่วัน”
“ไม่มีปัญหา ทางที่ดีนายไม่ต้องกลับมาอีกเลยดีกว่า!” เซี่ยหยู่เวยคิดว่าหลินหยุนกำลังประท้วง ข่มขู่เธอด้วยการออกไปพักข้างนอก
ในความเป็นจริง หลินหยุนไม่ต้องการถูกรบกวนขณะฝึกฝน
หลินหยุนมาถึงทะเลสาบเยว่หยา
ทางด้านตะวันออกเป็นเขาชัน มีทิวทัศน์สวยงาม จากเชิงเขาถึงยอดเขา สามารถมองเห็นวิลล่าเป็นแถวๆ
วิลล่าที่สูงที่สุดบนเขา สร้างขึ้นบนยอดเขา ตั้งอยู่ทิศเหนือและหันหน้าไปทิศใต้ โดยหันหน้าไปทางทะเลสาบเยว่หยา
เหมือนบทกวีหนึ่ง หันหน้าไปทางทะเล ดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ
วิลล่าบนยอดเขานี้ คือตึกว่างเยว่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในหลินโจว และเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในหลินโจว ไม่มีที่ไหนเทียบได้
ได้ยินมาว่า ชื่อของตึกว่างเยว่ มาจากการรอคืนพระจันทร์เต็มดวง ยืนอยู่บนตึกว่างเยว่ สามารถมองเห็นบนดวงจันทร์ที่มีทิวทัศน์แตกต่างกัน
เพราะอย่างนี้ตึกว่างเยว่จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง
หลินหยุนเดินขึ้นไปบนยอดเขาเพียงลำพัง และพบกับนักท่องเที่ยวมากมายระหว่างทางขึ้นและลงเขา
ในหลินโจวทะเลสาบเยว่หยามีทิวทัศน์ที่สวยงามและธรรมชาติที่สุด โดยปกติจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และถ้าวันหยุดก็ยิ่งเยอะ
เพียงแต่ว่า ผู้ที่สามารถซื้อวิลล่าที่นี่ได้นั้น โดยพื้นฐานแล้วต้องอยู่ในระดับอย่างจินซื่อหรง
หลินหยุนมาถึงประตูเหล็กตึกว่างเยว่ ประตูเหล็กขนาดใหญ่สีแดงสดสวยงามมีสไตล์ มีสิงโตหินสองตัวอยู่ที่ประตู ซึ่งสูงหลายเมตร
หลินหยุนพบกุญแจ และเปิดประตูใหญ่
มีสนามขนาดใหญ่มาก ภูเขาปลอม ศาลา สะพานหิน และแม่น้ำสายเล็กๆ เหมือนสวนเล็กๆกลางป่า
หลินหยุนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข “ที่นี่ไม่เลวจริงๆ ดูเหมือนว่าแต่ก่อนควีนจินคงจะทุ่มเงินไปจำนวนมาก”
“อีกอย่างชี่ทิพย์ที่นี่ยังแข็งแกร่งกว่าในเมืองมาก ถ้าฝึกฝนที่นี่ คงจะได้รับผลสองเท่าแน่นอน”
“คุณคือคุณหลินเหรอ?” ในขณะนี้ มีหญิงวัยกลางคนเดินมาจากห้อง
“ฉันคือชาวบ้านอาศัยอยู่ที่เชิงเขา และรับผิดชอบทำความสะอาดวิลล่าแห่งนี้ มีช่วงหนึ่งที่คุณหนูขึ้นมาบอก บอกว่าในอนาคตคุณหลินเป็นเจ้าของวิลล่านี้” หญิงสาวยิ้มอย่างกระตือรือร้น
หลินหยุนพยักหน้า “จากนี้ไปก็มาทำความสะอาดทุกๆวันอาทิตย์ และเงินเดือนจะยังคงเท่าเดิม”
“นี่… …ขอบคุณคุณหลินมากค่ะ!” หญิงสาวพูดอย่างมีความสุข
วิลล่าขนาดใหญ่เช่นนี้ ทุกครั้งเธอจะใช้เวลาครึ่งวันในการทำความสะอาด ทุกๆสองหรือสามวันก็ต้องขึ้นมาทำความสะอาดหนึ่งครั้ง เหนื่อยมาก
ตอนนี้เจ้าของที่มาแล้ว เดิมทีคิดว่าจะเหนื่อยมากกว่าเก่า ไม่คิดว่าเจ้านายคนนี้จะคุยง่ายขนาดนี้
และเขายังอายุน้อยมาก ในอนาคตถ้าผู้หญิงคนไหนได้แต่งงานกับเขา คงจะโชคดีสุดๆ