จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 771 วิชาฝังกระบี่
เยนหนานเทียนยื่นมือออกไปช้าๆ พลังภายในอันแข็งแกร่งพุ่งออกจากตัวเขา
พลังทิพย์ของฟ้าดินรอบๆนั้นเดือดดาลไม่สงบสุข หลอมรวมไปหาร่างของเยนหนานเทียนอย่างบ้าคลั่ง
เยนหนานเทียนหมุนเวียนวิชาอยู่ภายในร่างอย่างบ้าคลั่ง ประหนึ่งตาพายุของเฮอริเคนที่ดูดกลืนพลังทิพย์ของฟ้าดินโดยรอบ
ร่างกายของเขากลายเป็นวังวนพลังทิพย์มโหฬาร ราวกับจะดูดกลืนพลังทิพย์ของฟ้าดืนผืนนี้ไปให้หมด
แม้แต่คนตระกูลหลินที่ยืนห่างออกไปหลายสิบเมตรยังรู้สึกได้ถึงพลังดูดกลืนมหาศาล
พลังทิพย์ทรงพลังหลอมรวมอยู่ในร่างกายของเยนหนานเทียน ค่อยๆเปลี่ยนจากพลังทิพย์เช่นหมอกไปเป็นพลังทิพย์เช่นน้ำ
ทั้งตัวเยนหนานเทียนเหมือนอยู่ในมหาสมุทรแห่งพลังทิพย์
ท้ายที่สุด พลังมหาศาลทั้งหมดแปรสภาพไปภายใต้การชี้นำของเยนหนานเทียน
พลังทิพย์มหาศาลทั้งหมดได้หายไป หลอมรวมเป็นจุดสีเงินตรงหน้าเยนหนานเทียน
จุดสีเงินนั้นเป็นดั่งระเบิดปรมาณูที่ปะทุออกมา ขยายใหญ่ออกไปอย่างไร้ขีดจำกัดในฉับพลัน กลายเป็นกระบี่ยักษ์สีเงิน
กระบี่ยักษ์สีเงินเล่มนั้นเปรียบดั่งยานอวกาศ พุ่งไปหาหลินหยุนด้วยท่าทีที่พร้อมจะทำลายทุกอย่าง ทะลุทะลวงฝ่าลมและคลื่นมา
หลังจากปล่อยท่ากระบี่นี้ สีหน้าของเยนหนานเทียนก็ซีดเซียวราวกับถูกดูดพลังไปจนหมด
เยนหนานเทียนก้มหน้าเล็กน้อย หัวเราะเย็นๆด้วยความอ่อนแรง“ข้าถือฟ้าดินเป็นกระบี่ บัดนี้ฝังกระบี่เท่ากับสังเวยฟ้าดิน”
“ปรมาจารย์หลิน ต่อให้คุณจะแข็งแกร่งแค่ไหนคุณก็ไม่มีทางแข็งแกร่งกว่าฟ้าดินผืนนี้หรอก!”
หลินหยุนมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างหาดูได้ยาก ท่ากระบี่นี้ของเยนหนานเทียนไม่ธรรมดา
ท่ากระบี่นี้มีความคล้ายคลึงกับวิชายิงตะวัน ต่างรวบรวมพลังทิพย์ของฟ้าดินผืนนี้เหมือนกัน
แน่นอนว่ามันยังห่างไกลจากวิชายิงตะวันอยู่มาก
แต่เยนหนานเทียนสามารถตรัสรู้เพลงกระบี่ระดับนี้ด้วยตัวเอง เขานั้นเป็นอัจฉริยะขนานแท้
กระบวนท่านี้มีอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เรียกว่าฝังกระบี่ ความจริงแล้วเป็นการจุดระเบิดพลังทิพย์ที่เยนหนานเทียนหลอมรวมไว้
การบีบอัดพลังทิพย์ของฟ้าดินถึงจุดหนึ่ง จากนั้นจุดระเบิด พลังที่เกิดขึ้นนั้นต้องน่าทึ่งอย่างแน่นอน
หากจะทลายกระบวนท่านี้ หลินหยุนต้องทุ่มด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
“ท่าสยบเขา!”
ความเร็วของหลินหยุนพลุ่งพล่านถึงขีดสุด ฝ่ามือที่รวบรวมพลังทั้งหมดนั้นกระแทกไปที่กระบี่
บูม
หลินหยุนกระเด็นออกไป ทว่ากระบี่นั้นไม่ลดความเร็วลง เพียงแต่อ่อนแรงลงไปนิดหน่อย
“ท่าแยกน้ำ!”
หลินหยุนไม่ได้หยุด พริบตาเดียวหมัดที่สองก็มาถึง
บูม
หลินหยุนกระเด็นออกไปอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดกระบี่นั้นได้อยู่ดี ทว่าทำให้พลังของกระบี่อ่อนแอลงอีกครั้ง
“ค้อนดาวร่วง!”
พลังสายหนึ่งจุติลงจากท้องฟ้า กระแทกใส่กระบี่
มันเป็นดั่งลูกบอลสีฟ้าที่กระแทกบนเรือลำเล็ก เรือลำเล็กนั้นเพียงแต่โคลงเคลงเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรและยังคงเดินหน้าต่อไป
“ท่าห้ามสิ่งวายชนม์!”
สองมือของหลินหยุนแบออกและหุบเข้าหากัน ม่านพลังที่มองไม่เป็นปิดกั้นด้านหน้าของกระบี่ไว้
ทว่า ค้างไว้ได้เพียงไม่กี่วินาที ม่านพลังก็ทลายลง
หลินหยุนสีหน้าไร้อารมณ์ ราวกับทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดหมาย
เขาแบมือและหุบมืออีกครั้ง มิติเคลื่อนไหวเป็นวงกลม “พลิกฟ้าผ่าตะวัน!”
บูม
พลังของกระบี่ยักษ์อ่อนแอลงอีก มันถูกหั่นพลังไปกว่าครึ่งแล้วถ้าเทียบกับตอนแรก
หลินหยุนไม่หยุดยั้ง ทันใดนั้นร่างของเขาก็หายไป และทุ่มลงมาจากบนฟ้าประหนึ่งค้อนดาวร่วง
“ดาวยักษ์ตก!”
บูม
ในที่สุดกระบี่ยักษ์นั่นก็เอียงไปเล็กน้อยด้วยแรงกระแทก แต่ยังคงไล่ตามหลินหยุนมาอย่างว่องไว
เยนหนานเทียนเห็นหลินหยุนปล่อยหกหมัดจากสิบแปดท่าต้าเต๋าออกมาทีเดียวแล้วแอบตะลึง
“ทุกหมัดของไอ้หนุ่มนี่เข้าถึงจินตภาพหมด เขาไปได้วิชาหมัดชุดนี้มาจากไหนกัน”
“นี่ไม่ใช่วิชาที่มีในโลกบู๊ ไอหนุ่มนี่ได้มาจากไหน”
“หรือว่า จะมาจากที่นั่น?” ด้วยกำลังและอายุของเยนหนานเทียน ย่อมเคยได้ยินเรื่องเล่าในอดีตมาบ้าง
สิ่งที่รู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ก็มากกว่าคนทั่วไปเยอะ อิทธิพลที่หลายคนไม่รู้จัก เยนหนานเทียนนั้นรู้ดีอยู่แก่ใจ
เพื่อทลายหมัดนี้ของเยนหนานเทียน หลินหยุนรัวหกท่าแรกในสิบแปดท่าต้าเต๋าถึงสองครั้ง
ท่าที่เจ็ดของสิบแปดท่าต้าเต๋า กระบี่ต้าเต๋านั้นไม่มีผลกับพลังทิพย์ เขาจึงไม่ได้ใช้ ส่วนท่าที่แปดและท่าหลังจากนั้น ด้วยพลังของหลินหยุนในตอนนี้ยังใช้ไม่ได้
ถึงจะทุลักทุเลไปหน่อย แต่ก็ถือว่าหยุดกระบี่นี้ไว้ได้
เมื่อหยุดกระบี่นี้ได้ เยนหนานเทียนก็เท่ากับสูญเสียพลังที่จะต่อสู้อีกครั้งไปแล้ว
“น่าเสียดาย ดูท่าหมัดที่คุณแสดงออกมาเมื่อกี้สิ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย ถ้าให้เวลาผมอีกครึ่งปี ผมก็จะบรรลุถึงระดับนั้นได้โดยสมบูรณ์”
เยนหนานเทียนพูดด้วยสีหน้าเสียใจ
หลินหยุนเอ่ยเรียบๆ “น่าเสียดาย คุณไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”
เยนหนานเทียนหัวเราะเยาะตัวเองเฝื่อนๆ “เหอะๆ ผมรู้”
“น่าเสียดาย ทำไมผมถึงไม่เจอคุณเร็วกว่านี้นะ ถ้าได้สู้กับคุณเร็วกว่านี้ผมจะบำเพ็ญตบะไปทำไมกันตั้งสามสิบปี”
“ลงมือเถอะ ถึงแม้ชี่แท้ในตัวผมจะถูกผลาญไปหมดแล้ว แต่ผมไม่ยอมแพ้ไปเฉยๆหรอก”
หลินหยุนไม่ได้ชะล่าใจ ถึงแม้ตอนนี้เยนหนานเทียนไม่เหลืออะไรแล้ว แต่อูฐที่ตายไปแล้วก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี
หลินหยุนยังคงทุ่มด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ดาบเฮ่าเทียนลอยขึ้นฟ้า เก้ากระบี่ต้าเต๋าท่าที่หนึ่ง ดาบสกัดนภา
สายตาเยนหนานเทียนฉายแววตะลึง หลังจากนั้น ตอนที่เห็นเงายักษ์ที่หลินหยุนนิมิตขึ้นมาฟาดฟันดาบ
สายตาของเขาฉายแววตื่นรู้
เยนหนานเทียนหัวเราะขมขื่น “น่าเสียดาย มาช้าเกินไป”
“ได้ตายด้วยดาบนี้ ก็ไม่มีอะไรเสียดายแล้ว”
“แต่ว่า ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ต้องลองสู้ให้สุดแรงดูสักครั้ง”
“สังเวยกระบี่!”
ทั้งร่างของเยนหนานเทียนกลายเป็นกระบี่มโหฬาร พุ่งไปกระแทกกับเงายักษ์นั่น
น่าเสียดายที่พลังที่เยนหนานเทียนมีเหลือในตอนนี้ไม่อาจต่อต้านอานุภาพของดาบสกัดนภาได้
บูม
เยนหนานเทียนกระแทกกับพื้นประหนึ่งว่าเป็นระเบิดลูก พื้นบนยอดเขาโดนกระแทกเป็นหลุมใหญ่
หลินหยุนทรงตัวอยู่บนท้องฟ้าเหนือหลุมใหญ่ด้วยท่าทีนิ่งสงบ เขามองหลุมดินที่มีฝุ่นคละคลุ้งด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“จบแล้วหรอ?” หน่วยมังกรสามคนกลั้นหายใจและเฝ้าดูภาพสงครามสุดมันส์นี้อย่างมีสมาธิ จนกระทั่งเยนหนานเทียนถูกโจมตีจนร่วงลงมาที่พื้นพวกเขาถึงตกใจจนได้สติ
“ถึงเยนหนานเทียนจะแพ้ แต่พลังของเทพกระบี่ก็แข็งแกร่งสุดยอดจริงๆ”
“ใช่ เทพกระบี่เยนหนานเทียน สมกับเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่ง!”
หน่วยมังกรสามคนออกจะทอดถอนใจกับความพ่ายแพ้ของเยนหนานเทียน บรรดาคนตระกูลหลินกลับตื่นเต้นดีใจกันหมด
“ชนะแล้ว หยินหยุนชนะแล้ว!” พอเห็นลูกชายตัวเองชนะ หลินตงหัวตื้นตันใจสุดขีด
เรื่องนี้เกิดเพราะหลินหยุน หลินหยุนเอาชนะเยนหนานเทียนได้ หลินตงหัวก็สบายใจได้ในที่สุด
นายท่านหลินปลาบปลื้มยินดี “ดี ดีจริงๆ ในที่สุดตระกูลหลินของเราก็ไม่ต้องใช้ชีวิตเหมือนขอทานอีกแล้ว”
นายท่านหลินพูดแฝงความนัย
หลินตงเย่วและหานเจียวเจียวมีสีหน้าย่ำแย่ลงไป
หานเจียวเจียวรีบเปลี่ยนท่าที เธอคุกเข่าลงตรงหน้านายท่านหลินด้วยท่าทางเจ็บปวดหัวใจ “พ่อคะ หนูผิดไปแล้ว หนูไม่ควรสงสัยหลินหยุน ที่หนูทำไปก็เพื่อช่วยตระกูลหลินไว้นะคะ”
“เฮอะ” นายท่านหลินขี้เกียจจะคุยกับเธอ
“พ่อ พ่อต้องเชื่อหนูนะคะ หนูทำไปเพราะหวังดีกับตระกูลหลินของเราจริงๆ ที่หนูไปเข้าพวกกับเยนหนานเทียนก็เพราะต้องการขอความเห็นใจตระกูลหลินจากเขา ให้เขาปล่อยเราไป”
หานเจียวเจียวยังไม่ยอมตายใจ เธอขอร้องอ้อนวอนต่อไป
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คำพูดของแกรังแต่จะทำให้ฉันสะอิดสะเอียน” นายท่านหลินตะคอกเสียงเย็น เมื่อกี้ทุกคนเห็นท่าทางของหานเจียวเจียวกันอย่างชัดเจน
พอตอนนี้เยนหนานเทียนแพ้ เธอก็รีบกลับมาเข้าข้างตระกูลหลิน
คนแบบนี้เป็นพวกเลี้ยงไม่เชื่อง
“เฮอะ หานเจียวเจียว คนอย่างพวกแก เนรคุณอตัญญู ไร้ซึ่งคุณธรรม เข้าพวกกับศัตรู ทรยศตระกูลตัวเอง ยังมีหน้ามาพูดว่าหวังดีกับตระกูลหลินอีกหรือ”
“แกนี่หน้าด้านจริงๆเลย” ผู้คนในตระกูลหลินพากันก่นด่า