จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 78 คำเชิญของคุณฉิน
บทที่ 78 คำเชิญของคุณฉิน
ทั้งคืนหลินหยุนฝึกฝนอย่างเงียบๆในวิลล่าตึกว่างเยว่ ชี่ทิพย์ของที่นี่เข้มข้นกว่าที่ชุมชนฝูย่วนมาก หลังจากการฝึกฝนมาหนึ่งคืน เขาก็เข้าใกล้ขั้นตอนระดับกลาง
ในคืนนี้ ในเวลาตอนตีสามกว่า ในเมืองหลินโจวซึ่งไม่ห่างไหลมากกับเมืองฉินโจว ตระกูลฉินที่รวยที่สุด ดวงไฟยังคงสว่างไสว
หัวหน้าหลายคนของตระกูลฉินถูกเรียกตัวกลับมา และรวมตัวกันที่สนามตระกูลฉิน
ในห้องโถง พ่อบ้านฉินยังไม่ได้สติ ฉินอู๋ซวงคุณชายใหญ่ของตระกูลฉิน ถูกคนใช้เปลหามกลับมา มีสีหน้าอาฆาตแค้นและบ่นให้กับชายวัยกลางคนที่นั่งตรงที่นั่งหัวหน้าใหญ่
ใบหน้าของชายคนนั้นเคร่งขรึม มีพลังอำนาจ มีออร่าซ่อนเร้น ใบหน้าที่เชือดเฉือนของเขาเผยให้เห็นท่าทางเย็นชา
เขาเป็นเจ้าบ้านแห่งตระกูลฉิน ฉินหนานเทียน
“ท่านพ่อ ท่านต้องล้างแค้นให้กับพ่อบ้านฉินและลูก!” ฉินอู๋ซวงนั่งอยู่บนเปล บ่นด้วยสีหน้าอาฆาต
ฉินหนานเทียนพูดด้วยเสียงขรึม “ไม่ต้องกังวล พ่อบ้านฉินรับใช้ตระกูลฉินของฉันมานานกว่ายี่สิบปี และตอนนี้ถูกเขาทำลายพลังทั้งหมด แล้วยังกล้ามาตีขาทั้งสองข้างของลูกชายฉันจนหัก แค้นนี้ถ้าไม่ชำระ ต่อไปตระกูลฉินจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”
“พี่ใหญ่ ดูเหมือนว่าตระกูลฉินของเราไม่ก้าวออกไปสู่โลกภายนอกเป็นเวลานาน และบางคนก็เริ่มไม่สนใจพวกเราแล้ว” ลูกชายคนที่สามของตระกูลฉินพูดอย่างเย็นชา
ฉินหนานเทียนลุกขึ้นยืนทันที มองไปที่ท้องฟ้าระยะไกลด้วยสายตาที่เคร่งขรึม และพูดอย่างเย็นชา “ฉินอู๋ชีพาคนไปโจมตีเส้เทียยนหัวที่เว่ยเหอ ให้เขาส่งตัวฆาตกรที่ทำร้ายคนในตระกูลฉินของฉัน!”
ชายวัยกลางคนในชุดดำยืนขึ้นช้าๆ และโค้งคำนับโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ “รับคำสั่ง!”
“พี่ใหญ่ พวกเราใช้โอกาสนี้แย่งอำนาจในเว่ยเหอดีกว่า!” ลูกชายคนที่สามของตระกูลฉินพูด
“ไม่ต้องรีบร้อน ก่อนอื่นต้องบังคับให้เส้เทียนหัวส่งผู้ร้ายออกมา จากนั้นค่อยจัดการเขา!” ฉินหนานเทียนมีสีหน้าโหดเหี้ยม
… …
… …
ในตอนเช้าตรู่ เมื่อท้องฟ้าทางทิศตะวันออกได้สาดแสงออกมา หลินหยุนซึ่งนั่งอยู่ด้านบนของวิลล่าก็ลืมตาขึ้น
แสงประกายผ่านดวงตาของหลินหยุน ราวกับสายฟ้าฟาด ซึ่งทำให้รู้สึกหวาดกลัว
“มันยังไม่เพียงพอ หากสามารถหาหยกหรือเครื่องราง และสามารถประดิษฐ์เป็นค่ายกลรวมพลัง จะสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้อย่างมาก”
“น่าเสียดายที่โลกนี้ชี่ทิพย์มีน้อยนิด และวัสดุธรรมดาในโลกเซียน อยู่บนโลกนี้หาได้ยากมาก”
หลินหยุนหยุดการฝึกฝน แล้วอาบน้ำล้างตัว จากนั้นก็ลงเขา
ระหว่างทาง หลินหยุนได้รับโทรศัพท์จากเฉียนหัวชิง
สำหรับอาจารย์ด้านตรวจสอบโบราณวัตถุท่านนี้ หลินหยุนมีความรู้สึกดีๆให้เขา
หลังจากรับโทรศัพท์ หลินหยุนก็ถามว่า “ท่านเฉียน มีธุระอะไรรึเปล่า?
เฉียนหัวชิงถามด้วยเสียงอบอุ่น “คุณหลิน ตอนนี้ว่างไหม? ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ”
“คุณพูดสถานที่มา ผมไปหาคุณ” หลินหยุนพูด
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอคุณที่บ้าน! คุณยังจำทางได้ไหม?” เฉียนหัวชิงพูด
“จำได้ เดี๋ยวสักพักฉันค่อย” หลินหยุนพูด
“โอเค!”
หลังจากวางสายแล้ว หลินหยุนก็เดินไปที่ด้านล่างของภูเขา เดิมทีว่าจะไปบอกโจวเฟิน แต่เมื่อคิดทบทวนแล้วก็ช่างเถอะ
หลังจากกลับไป โจวเฟินจะต้องถามเขาอย่างแน่นอนว่าทำไมถึงย้ายออกไป แต่หลินหยุนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
โบกเรียกรถแท็กซี่ และตรงไปที่บ้านของเฉียนหัวชิง
สวมเสื้อยืดสีชมพูตัวยาว พร้อมลายตุ๊กตาการ์ตูนที่หน้าอกเสื้อคือเฉียนเป้ยเป้ยที่เปิดประตูให้หลินหยุน
คราวนี้เห็นหลินหยุน เฉียนเป้ยเป้ยไม่ได้มีท่าทีเป็นปรปักษ์เหมือนครั้งแรก
แต่สายตาเด็กน้อยที่จ้องมองหลินหยุน ซึ่งดูแปลกๆ เสมือนเด็กน้อยที่เห็นของเล่นแปลกใหม่
รูปลักษณ์แปลกๆแบบนี้ ควบคู่ไปกับรูปลักษณ์เฉียนเป้ยเป้ยก็เหมือนเด็กผู้หญิงโลลิตาที่สวยงาม ซึ่งมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชาย
อย่างไรก็ตามหลินหยุนเห็นมาเยอะกับเทพธิดาเหล่านี้ เห็นสาวงามก็มีภูมิคุ้มกัน ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
“คุณหลิน เชิญนั่ง!” เฉียนหัวชิงชงชาเสร็จ แล้วยิ้มให้หลินหยุนและยื่นมือออกไป
หลินหยุนไม่เกรงใจ นั่งตรงข้ามเฉียนหัวชิง
เฉียนเป้ยเป้ยเดินไปที่โซฟา แต่เฉียนหัวชิงได้เรียกเอาไว้ “เป้ยเป้ย เธอมาชงชา!”
“อ่อ!” เฉียนเป้ยเป้ยไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็เดินมา
เห็นได้ชัดว่าเฉียนเป้ยเป้ยเคยเรียนรู้ทักษะและเทคนิคการชงชา การชงชานั้นมีความชำนาญและสง่างาม เห็นแล้วก็เจริญตายิ่งนัก
เฉียนหัวชิงหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้ยเป้ยเคยไปเรียนทักษะการชงชามาหลายปี มีพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์ สามารถชงชาได้ดีกว่าฉันถึงสิบเท่า ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคุณหลินมา ปกติฉันยังค่อยไม่มีโอกาสได้ดื่ม”
“คุณปู่ พูดอย่างกับว่าโดนหนูทารุณ!” ฉินเป้ยเป้ยทำปากมุ่ยขณะที่พูด ท่าทางน่ารักมาก
“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องลิ้มรสดีๆ” หลินหยุนยิ้ม
หลังจากจิบชาแล้ว ชาที่เฉียนเป้ยเป้ยชงนั้นมีรสชาติที่ดีมาก
หลินหยุนวางแก้วชาลง และพูดว่า “ท่านเฉียน คุยธุระกันเถอะ!”
เฉียนหัวชิงหุบยิ้ม และพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “เป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้เจี่ยงสงจะเชิญฉันไปตรวจสอบสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง ว่ากันว่าสมบัตินี้มีมนต์ขลังมาก มันเป็นสิ่งของที่ปุโรหิตสมัยก่อนท่านหนึ่งเหลือไว้”
“แต่ฉันกังวลว่าฝีมือของฉันอาจเก่งไม่พอ จึงแนะนำคุณให้เจี่ยงสง ฉันหวังว่าพรุ่งนี้คุณจะไปกับฉัน” เฉียนหัวชิงจ้องมองหลินหยุน ด้วยความคาดหวัง
หลินหยุนคิดในใจ “สมบัติวิเศษที่ปุโรหิตเหลือไว้? หรือว่าจะเป็นเครื่องราง? ถ้างั้นฉันจะต้องไปดู”
“ในเมื่อท่านเฉียนออกปากขอ ผมจะปฏิเสธได้อย่างไร พรุ่งนี้จะไปพบคุณได้ที่ไหน” หลินหยุนถาม
เฉียนหัวชิงดีใจมาก “ถ้าอย่างนั้นวันพรุ่งนี้คุณมาหาฉันก่อน รอคนของท่านเจี่ยงมารับพวกเรา”
“โอเค” หลินหยุนเห็นด้วย
ทั้งสองนั่งคุยกันสักพัก หลินหยุนก็พูดคุยเกี่ยวกับความคิดเห็นเกี่ยวกับโบราณวัตถุ แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ค่อยเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโบราณวัตถุบนโลกมากนัก แต่เป็นถึงมหากษัตริย์ชางฉองผู้ยิ่งใหญ่ แค่พูดความรู้บางอย่างออกมา ก็สามารถทำให้เฉียนหัวชิงประหลาดใจ
ออกจากบ้านของเฉียนหัวชิง หลินหยุนเดินไปรอบๆตลาดโบราณ เพื่อต้องการมองหาพระพุทธรูปที่รวบรวมพลังชี่ในสวรรค์และพื้นโลก เหมือนครั้งที่แล้ว
น่าเสียดายที่ หลินหยุนค้นหาไปรอบๆ แต่ไม่พบแม้แต่ชิ้นเดียว
ดูเหมือนสิ่งของแบบนั้นจะมีน้อยมาก สิ่งที่ไม่ใช่ของเราฝืนยังไงมันก็คงไม่ได้
เวลาห้าโมงเย็น โจวเฟินโทรหาหลินหยุน และถามว่าหลินหยุนไปไหน
ดูเหมือนว่าเซี่ยหยู่เวยไม่ได้บอกโจวเฟินว่าตัวเองได้ย้ายออกไป โจวเฟินเลยคิดว่าตัวเองออกไปเที่ยวเล่น
เมื่อเป็นเช่นนี้หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร บอกเพียงว่าตัวเองไปที่บ้านของเพื่อนร่วมชั้น และรอสองสามวันค่อยกลับไป
โจวเฟินบอกให้หลินหยุนระวังเรื่องความปลอดภัย รีบๆกลับไป จากนั้นก็วางสาย
ตอนนี้ หลินหยุนรู้สึกโล่งใจ กลับไปที่วิลล่าทะเลสาบเยว่หยาและฝึกฝนต่อไป
หลินหยุนฝึกฝนด้วยความสบายใจ และทั่วทั้งเมืองเว่ยเหอก็วุ่นวายไปหมด
ตระกูลฉินซึ่งไม่เคยถูกกับเส้เทียนหัว จู่ๆก็หาผู้มีฝีมือ ภายในวันเดียว สามารถพาคนเหล่านี้ยึดครองดินแดนหนึ่งในสามของเส้เทียนหัว
ภายในขอบเขตอิทธิพลที่เส้เทียนหัวควบคุม โดนโจมตีจนเละไปหมด และขอความช่วยเหลือไปทุกแห่ง
ลูกน้องที่เก่งกาจหลายคนของเส้เทียนหัว หลังจากที่ส่งออกไป พวกเขาทั้งหมดก็หายไปอย่างไร้วี่แวว และไม่มีข่าวคราวใดๆส่งกลับมา
เส้เทียนหัวกังวลมาก และเริ่มใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อค้นหายอดฝีมือที่สามารถต่อต้านกับตระกูลฉิน
ในทางกลับกัน เส้เทียยนหัวได้ส่งคนไปยังตระกูลฉิน เพื่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของตระกูลฉิน และถามพวกเขาทำไมถึงโจมตีอย่างกะทันหัน
เมื่อเขารู้ว่าหลินหยุนได้ตีขาทั้งสองข้างของฉินอู๋ซวงจนหัก และทำให้พ่อบ้านฉินพิการ เส้เทียนหัวก็ตกตะลึง
ในเวลานี้ ตระกูลฉินได้ส่งจดหมายสงครามมาให้เส้เทียนหัว
สามวันต่อมา บนเกาะหูซิ่นในเมืองเว่ยเหอ ท้าเส้เทียนหัวไปสู้รบ หากเส้เทียนหัวไม่ไป ตระกูลฉินจะโจมตีทั่วเมืองเว่ยเหอเต็มรูปแบบ
และตระกูลฉินยังคงมีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง นั่นคือต้องนำหลินหยุนไปด้วย
อีกด้านหนึ่งเส้เทียนหัวได้รวบรวมยอดฝีมือ อีกด้านหนึ่งได้บอกให้อู๋กั๋วส้วงไปเชิญหลินหยุนมา
เขาเตรียมพร้อมทั้งสองวิธี หากศึกครั้งนี้ได้พ่ายแพ้ให้กับตระกูลฉิน ก็จะมอบหลินหยุนให้เขา
ถ้าเขาชนะแล้ว ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่าย