จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 794 จุดอ่อนของหลินหยุน
คนขับรถแท็กซี่หัวล้านพูดขึ้นว่า: “ไอ้หนุ่ม ที่นี่คือตึกอาคารของบริษัท ยามาโนะ กรุ๊ป เหมือนกับว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นแล้ว คาดว่าวันนี้นายคงจะขึ้นไปไม่ได้แล้ว”
เมื่อพูดจบ คนขับรถก็สะดุ้งตัวสั่นขึ้นอย่างกะทันหัน
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้เย็นขนาดนี้! ”
เงาร่างของหลินหยุนหายวับไปจากที่นั่งด้านหลัง และบนเบาะที่นั่งก็มีธนบัตรสีแดงวางทิ้งอยู่จำนวนหนึ่ง
“ไม่ต้องทอน”
หลินหยุนใช้พลังทั้งหมด เพื่อรีบมุ่งหน้าตรงไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงทันที
เขาจะต้องทำเวลาให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะรีบกลับไปจงโจว
ฉินหลัน คือความเสียใจที่เจ็บปวดทรมานที่สุด ที่ฝังอยู่ลึกในจิตใจของหลินหยุนในชาติที่แล้ว
ผู้หญิงคนสวยที่เป็นทั้งพี่สาวและเป็นทั้งแม่ ซึ่งผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้เพื่อช่วยชีวิตของหลินหยุน ยินยอมที่จะลดตัวลงแต่งงานกับศัตรู สุดท้ายกลับต้องทนทุกข์ทรมานจนผูกคอฆ่าตัวตาย
“พี่ฉินหลัน ขอให้คุณอย่าได้เกิดเรื่องโดยเด็ดขาด! ”
“ชาติที่แล้ว ฉันได้สูญเสียคุณไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ หากว่าต้องสูญเสียคุณไปอีก ต่อให้ฝังกลบทั้งโลกและจักรวาลนี้ แล้วอย่างไรล่ะ? ”
หลินหยุนดวงตาสองข้างแดงก่ำ วิ่งมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางฝูงชน
คนธรรมดาเหล่านั้น เพียงแค่รู้สึกว่าด้านข้างมีเงาดำแวบผ่าน พัดพาสายลมโชยมา โดยที่มองไม่เห็นคน
หลินหยุนวิ่งตะบึงอย่างรวดเร็ว
แต่ว่า ด้านหลังของเขา มีเด็กหนุ่มผิวขาวที่หล่อเหลาสองคน ก็กำลังวิ่งไล่ตามอย่างรวดเร็ว
ความเร็วนั้น ช้ากว่าหลินหยุนเพียงเล็กน้อย
เด็กหนุ่มสองคนนี้ คนหนึ่งผมทองดวงตาสีฟ้า หน้าตาจริงจัง ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ
อีกคนหนึ่ง มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เป็นคนที่สะเพร่าเลินเล่ออย่างมาก
“เทพแห่งสว่างที่สมควรตาย ความเร็วของไอ้หนุ่มนี้ ยังจะรวดเร็วกว่าพวกเราเผ่าโลหิตเสียอีก! ”
“ช่างน่าตกใจจริง ๆ! ” เด็กหนุ่มที่สีหน้าท่าทางเลินเล่อ ดุด่าขึ้นเบา ๆ
“เจสเตอร์ หุบปากอันน่ารำคาญของนายซะ! ”
“หากนายกล้าที่จะไม่เคารพเทพแห่งสว่าง ฉันจะเป็นตัวแทนของสรวงเทพสว่าง จัดการปรับสภาพนายเอง! ”เด็กหนุ่มอีกคนที่สีหน้าท่าทางจริงจังกระซิบขึ้น
“ฮ่าฮ่า คริสติน จะลงมือก็ลงมือ อย่าได้พูดไร้สาระอยู่อีก! ” เจสเตอร์พูดขึ้นด้วยท่าทางที่กำเริบเสิบสาน
คริสตินส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา โดยไม่ได้โต้เถียงอะไรกับเจสเตอร์ต่ออีก
“ฮึ หากไม่ใช่ว่ามีภารกิจหน้าที่ ค้างคาวดำผู้น่ารำคาญอย่างนายนี้ ฉันคงจะจัดการส่งนายไปลงนรกตั้งนานแล้ว”
เจสเตอร์ยักคิ้ว และโต้แย้งกลับไปแบบหนามยอกเอาหนามบ่ง: “หากไม่ใช่เป็นเพราะภารกิจ ผู้นับถือปฏิบัติที่น่ารำคาญอย่างนายนี้ ฉันก็คงจะจัดการส่งนายไปหาเทพแห่งสว่างที่สมควรตายนั้นตั้งนานแล้ว”
สองคนวิ่งไล่ตามหลินหยุนไปพลาง และก็ดุด่ากันไปพลาง
ไล่ตามมาตลอด ผ่านเขตเมืองที่ครึกครื้น มาจนถึงบริเวณข้างสถานีรถไฟความเร็วสูง
หลินหยุนหยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน แล้วก็หันหลังมองไปยังสองคนนั้นที่วิ่งไล่ตามไม่หยุดที่อยู่ไม่ไกลออกไปมากนัก
“พวกนายเป็นใคร? ” หลินหยุนมองไปยังเด็กหนุ่มสองคนที่หยุดยืนอยู่เบื้องหน้าในระยะห่างออกไปห้าเมตร และถามขึ้นอย่างเย็นชา
เจสเตอร์ยิ้มขึ้นอย่างสง่า แล้วก็แสดงความเคารพต่อหลินหยุนตามมารยาทตระกูลสูงศักดิ์ของตะวันตกอย่างมาตรฐาน: “ฉันขอแนะนำตัวเองหน่อยว่า ฉันคือมาร์ควิสเจสเตอร์ แดร็กคิวล่าที่ หล่อเหลามาดเท่ห์ สมาชิกของตระกูลแดร็กคิวล่าที่ยิ่งใหญ่”
พูดจบ เจสเตอร์ก็ชี้ไปยังคริสตินที่อยู่ด้านข้าง: “เขา คือสรวงเทพสว่างที่หยิ่งยโสและน่ารำคาญ คือเพชฌฆาตแห่งศาลตัดสิน! ”
หลินหยุนสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก: “พวกนายคิดจะทำอะไร? ”
เจสเตอร์หัวเราะแหะแหะ และก็พูดขึ้นแบบลวก ๆ ว่า: “ก็จะฆ่านายยังไงล่ะ”
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “กล้าที่จะพูดแบบนี้กับฉัน นายจะต้องตายอย่างแน่นอน”
“แต่ว่า วันนี้ถือว่าพวกนายโชคดี ฉันมีธุระด่วน รีบไสหัวไปซะ! ”
คริสตินพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “เจสเตอร์ นายพูดไร้สาระมากเกินไปแล้ว รีบลงมือเดี๋ยวนี้ อีกไม่นานพวกชาวจีนก็จะไล่ตามมาแล้ว”
พูดจบ คริสตินก็ชกหมัดเข้าใส่หลินหยุนทันที
บนกำปั้นของเขา ห่อหุ้มไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวนวล ซึ่งแสงสว่างนั้นเปล่งประกายกลิ่นอายของความศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม เหมือนกับร่างแปลงกายของแสงสว่างและความยุติธรรมทั้งหมด
“เมื่อไหร่กัน ที่ทายาทของโรมันคาทอลิกธรรมดา ๆ ก็กล้าที่จะกำเริบเสิบสานขนาดนี้ต่อหน้าฉัน! ”
หลินหยุนหน้าตาเย็นชา แล้วก็ปล่อยหมัดเข้าใส่
ตุบ!
คริสตินถูกชกจนลอยกระเด็นไปไกล
“โอ้ว คริสติน นายมีความสามารถเท่านี้เองเหรอ? ” เจสเตอร์ยิ้มเยาะและพูดขึ้นอย่างสบาย ๆ อยู่ด้านข้าง
“ฉันคิดว่า นายควรที่จะไสหัวกลับไปอยู่เบื้องหน้าเทพแห่งสว่างของนายนั้น แล้วอธิษฐานขอให้เขามอบพลังศักดิ์สิทธิ์ให้กับนายมากกว่านี้หน่อย”
คริสตินโมโหอย่างมาก: “เจสเตอร์ นายไอ้ค้างคาวดำสกปรกที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืด หรือว่านายจะเป็นแค่ยืนพูดเยาะเย้ยอยู่ด้านข้างอย่างนั้นใช่ไหม? ”
“ฉันจะบอกนายว่า ไอ้หนุ่มนี้แข็งแกร่งอย่างมาก ถ้าหากนายยังคงติดประมาทอยู่อย่างนี้ ภารกิจของพวกเราคงจะไม่สำเร็จเป็นแน่”
“เมื่อถึงเวลานั้น หากองค์กรกล่าวโทษ นายก็รับผิดชอบเอาเองแล้วกัน! ”
เจสเตอร์จึงเกิดความมุ่งมั่นตั้งใจขึ้น และพูดขึ้นด้วยความรำคาญว่า: “พอได้แล้ว พอได้แล้ว รู้แล้ว ผู้นับถือที่บ้าแบบนายนี้ ไม่มีอารมณ์ขันเลยแม้แต่น้อย ช่างน่าเบื่อจริง ๆ! ”
หลินหยุนกวาดสายตามองไปที่สองคนนั้นอย่างเย็นชา และพูดขึ้นว่า: “บุกเข้ามาพร้อมกันเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
พูดจบ หลินหยุนก็ชิงลงมือก่อน ชกหมัดเข้าใส่คริสติน
“ท่าสยบเขา! ”
เมื่อปล่อยหมัดออกไป ฟ้าดินก็สั่นสะเทือนเลือนลั่น โดยหลังจากที่สร้างตัวอ่อนยาทองสำเร็จ พลังอานุภาพของสิบแปดท่าต้าเต๋า ก็ทรงพลังเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
ถ้าหากพลังการบำเพ็ญของหลินหยุน กลับขึ้นไปถึงขั้นแดนกษัตริย์เซียน ท่าสยบเขานี้ ก็จะเป็นดั่งชื่อ ซึ่งเพียงพมัดก็สามารถสยบเขาได้เลยทีเดียว
“สมควรตาย พลังความสามารถของไอ้หนุ่มนี้ แข็งแกร่งทรงพลังมากกว่าข่าวสารที่เราได้รับทราบมากมายเลย ไอ้พวกสารเลวนั่นต้องการที่จะกดราคา จึงได้แจ้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความสามารถของไอ้หนุ่มนี้! ”
“คลื่นกระแทกศักดิ์สิทธิ์! ”
คริสตินตะโกนเสียงดัง ผลักฝ่ามือทั้งสองข้างพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว พลังแสงศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังได้ระเบิดขึ้นราวกับลูกระเบิด
พลังแสงศักดิ์สิทธิ์สีขาวนวล พุ่งโจมตีเข้าใส่หลินหยุน
ในขณะที่พลังแสงศักดิ์สิทธิ์ได้ระเบิดขึ้นนั้น แม้แต่อากาศที่อยู่ตรงหน้า ก็ยังถูกระเหยหายไป ต่อให้เป็นเหล็กกล้า คาดว่าก็ยังคงต้องหลอมละลาย
เจสเตอร์เองก็มองออกได้ว่า พลังหมัดเมื่อครู่ของหลินหยุนนั้น ทรงพลังมากเพียงใด
ตอนนี้ เจสเตอร์สีหน้าท่าทางเคร่งขรึม และจ้องมองไปที่หลินหยุน
เมื่อพลังหมัดนั้นของหลินหยุน ใกล้ที่จะประชิดตัวของคริสติน เจสเตอร์ก็ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาอย่างรวดเร็ว
ความเร็วเทียบเคียงได้กับการเคลื่อนย้ายของสสารในพริบตา กรงเล็บที่มีร่องรอยแสงสีเลือดของ เจสเตอร์นั้น ได้พุ่งตรงไปคว้าจับที่ศีรษะของหลินหยุน อย่างแม่นยำ
หลินหยุนรับรู้ได้ถึงการจู่โจมอันทรงพลังของเจสเตอร์ที่อยู่ด้านหลัง
แต่ว่า หลินหยุนไม่ได้สนใจอะไร ซึ่งพลังหมัดนั้นของเขาได้ชกเข้าใส่เสาศักดิ์สิทธิ์ของคริสติน
จากนั้น หลินหยุนก็ปล่อยหมัดอีกครั้งโดยที่ทุกคนคาดไม่ถึง เพื่อต้านทานการลอบจู่โจมของเจสเตอร์
“สิบแปดท่าต้าเต๋าท่าแยกน้ำ! ”
โครมโครม!
เสียงดังสนั่นขึ้นสองครั้ง คริสตินกับเจสเตอร์ทั้งสองคน ต่างก็ถูกพลังกระแทกกลับเข้าใส่ จนกระเด็นลอยออกไปไกล
เลือดลมในร่างกายของทั้งสองคนปั่นป่วน แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
“ทำไมคนหนึ่งคนสามารถที่จะปล่อยพลังจู่โจมอีกครั้งได้ ในขณะที่การจู่โจมก่อนหน้ายังไม่เสร็จสิ้นลง! ”
เจสเตอร์กับคริสตินตกตะลึง วิธีการต่อสู้ที่หลินหยุนแสดงออกมานั้น ช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก
คนทั่วไปขณะที่กำลังปล่อยพลังหมัดหนึ่งอยู่อย่างเต็มที่นั้น พลังจิตวิญญาณทั้งหมด ก็รวมอยู่ในพลังหมัดนี้แล้ว
โดยไม่มีโอกาส ที่จะไปใช้พลังการบำเพ็ญภายในร่างกาย เพื่อปล่อยอีกพลังหมัดหนึ่งที่มีอานุภาพทรงพลังเทียบเท่ากันได้
วิธีการของหลินหยุนเมื่อสักครู่ ช่างลบล้างความรู้และประสบการณ์ของพวกเขาทั้งสองโดยสิ้นเชิง
“ใช้พลังความสามารถที่แท้จริงของพวกนายออกมา ฉันไม่มีเวลาที่จะมาชักช้ากับพวกนาย”
หลินหยุนก้าวเดินออกมา ฟ้าดินเหมือนกับเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น: “ท่าห้ามสิ่งวายชนม์! ”
“พลิกฟ้าผ่าตะวัน! ”
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ใช้พลังการจู่โจมสองครั้งพร้อมกัน อานุภาพของทั้งสองท่าของสิบแปดท่าต้าเต๋าที่รวมกัน ไม่ใช่ว่าจะง่ายดายเหมือนสองพลังทั่วไปรวมกันอย่างนั้น
แต่คือการรวมพลังกันที่เพิ่มอานุภาพขึ้นอย่างทวีคูณ
“สมควรตาย ฉันไม่สามารถขยับตัวได้แล้ว! ” เจสเตอร์ตะโกนดุด่าเสียงดัง
คริสตินเองก็ตื่นตกใจอย่างมาก: “นี่มันคือพลังอะไรกัน! ถึงขนาดสามารถควบคุมหยุดการเคลื่อนไหวของพวกเราได้”
เจสเตอร์ตะโกนขึ้นเสียงดัง: “อย่ามัวชักช้าอยู่ แสดงพลังที่แท้จริงของนายออกมาเลย! ”
“ย้ากกกก! ”
เจสเตอร์ตะโกนขึ้นเสียงดัง วงลำแสงสีแดงระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
ทันใดนั้น ก็ทำลายการควบคุมของหลินหยุนลง
หลินหยุนเข้าใจอย่างดีว่า นี่คือการกระตุ้นพรสวรรค์ความสามารถในสายเลือดของเผ่าโลหิตให้ระเบิดขึ้นแล้ว
คริสตินเองก็ส่งเสียงอุดอู้ขึ้น และก็มีแสงสีขาวที่ทรงพลังออกมาจากร่างกาย
“กรองศักดิ์สิทธิ์! ”
ทันใดนั้น คริสตินก็หลุดพ้นออกจากการควบคุมเช่นกัน