จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 801 ใครกันแน่ที่กระจอก
หลินหยุนมองหัวหน้าโจรสลัดอย่างเย็นชา แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “คนที่กล้าเอาปืนจ่อฉัน ตายไปหมดแล้ว”
พูดจบ หลินหยุนเอามือไพล่หลัง แล้วก้าวเข้าไปหาหัวหน้าโจรสลัดช้าๆ
หัวหน้าโจรสลัดรู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ
หลินหยุนมีเพียงมือเปล่า ส่วนเขามีปืนกลรุ่นใหม่ล่าสุดของสหรัฐอเมริกา แต่เขากลับรู้สึกกลัวเสียอย่างนั้น
สำหรับพวกโจรสลัด ที่อยู่กับการนองเลือดเป็นประจำ ความรู้สึกกลัว คือความอัปยศอย่างหนึ่ง
“หยุด!”
“ถ้าแกก้าวเข้ามาอีกแค่ก้าวเดียว ฉันจะยิง!”
หัวหน้าโจรสลัดตะโกนออกมาเป็นภาษาจีน
โจรสลัดพวกนี้โลดแล่นอยู่แถบตงไห่ ทำให้ใช้ภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่วมาก
หลินหยุนไม่แยแสสักนิด เขาเอามือไพล่หลัง แล้วเดินเข้าไป
หัวหน้าโจรสลัดคนนั้น แบกรับความกดดัน ที่แผ่ออกมาจากตัวหลินหยุนไม่ไหวแล้ว เขาทนไม่ไหว และตวาดออกมา
“อ๊าก!”
หัวหน้าโจรสลัดคำรามเสียงดัง และรัวกระสุนออกมาจากปืนกลในมือ
กระสุนถูกสาดเข้าไปหาหลินหยุน ราวกับม่านฝนหนา
หลี่หมิ่นจูหลับตาปี๋ เธอทนดูไม่ได้
รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย้นเฉิงตง “ไอ้หมอนี่ไม่รู้ที่ตาย ครั้งนี้จะยิงให้พรุนเลย หึ!”
ทว่าหัวล้านหลิวกลับส่ายหน้า “น่าเสียดาย ไอ้หมอนี่กล้าและเก่ง ถ้าได้ตามฉันไป ต่อไปต้องเป็นกำลังหลักให้ฉันได้”
คนที่เหลือส่วนใหญ่พากันก้มหน้า ไม่กล้าดูต่อ
“เป็นไปได้ยังไง!”
เมื่อเสียงปืนกลผ่านไป หัวหน้าโจรสลัดตะโกนออกมาอย่างตกใจ
หลี่หมิ่นจูลืมตา เห็นหลินหยุนยังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ที่เดิม ดูเหมือนเขาไม่เป็นอะไรสักนิด สีหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“เขากันกระสุนได้!”
“นี่ นี่ไม่น่าจะเป็นไปได้!”
เย้นเฉิงตงอึ้งไป แววตาที่มองไปยังหลินหยุน เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“เขา เขาคือปรมาจารย์บู๊!”
“คนที่มีความสามารถเช่นนี้ มีเพียงปรมาจารย์บู๊เท่านั้น!”
“มิน่าล่ะ ไอ้หมอนี่ไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ ที่แท้เขาคือปรมาจารย์บู๊!”
เสียงตุ้บดังขึ้น มือถือในมือของหัวล้านหลิว หล่นลงบนพื้น เขามองหลินหยุนด้วยสีหน้าตกตะลึง
“ฉัน เมื่อกี้ฉันล่วงเกินปรมาจารย์บู๊อย่างนั้นเหรอ!”
“ซวยแล้ว ฉันตายแน่!”
ลูกน้องคนหนึ่งพูดอย่างตื่นตระหนก “จะทำยังไงดีลูกพี่ เราหนีกันดีไหม!”
ลูกน้องอีกคนด่าขึ้นมาว่า “หนีเหรอ หนีไปไหน นี่มันทะเล เราจะว่ายน้ำกลับไปงั้นเหรอ!”
สีหน้าของหัวล้านหลิวเคร่งขรึม เขามองลูกน้องตรงหน้า แล้วพูดสั่งเบาๆ ว่า “เดี๋ยวพวกแกคุกเข่าลง ร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิต ร้องได้เจ็บปวดมากเท่าไรยิ่งดี!”
“ไม่งั้น พวกเราตายแน่!”
“เข้าใจหรือยัง!”
พวกลูกน้องรีบพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ!”
หลินหยุนเดินเข้าไปหาหัวหน้าโจรสลัดเรื่อยๆ กระสุนจากปืนกล ไม่สามารถทำให้หลินหยุนหยุดเดินได้
หัวหน้าโจรสลัดคนนั้นตกใจจนเข่าอ่อน ทรุดลงกับพื้น
“ปีศาจ แกเป็นปีศาจ!”
หัวหน้าโจรสลัดตะโกนเสียงดัง แทบขาดใจ เขาตะเกียกตะกายถอยไปข้างหลัง
ขณะที่กำลังหนี ก็ตะโกนบอกพวกโจรสลัดที่ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม “ยิงสิ ยิง ยิงมันให้ตาย รีบเร็ว!”
เสียงปืนกลดังสนั่น……
พวกโจรสลัดที่ตั้งสติได้ รีบยิงใส่หลินหยุนทันที
ครั้งนี้ ทุกคนไม่หลับตา พวกเขาสงสัยมาก เมื่อกี้หลินหยุนสกัดกั้นกระสุน จากปืนกลของหัวหน้าโจรสลัดได้อย่างไร
หลี่หมิ่นจูเห็นอย่างชัดเจน เหมือนรอบตัวหลินหยุน ถูกปกคลุมด้วยเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น กระสุนที่ถูกยิงไปหาเขา ล้วนกระเด็นออกไปทั้งหมด
กระสุนแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่สามารถทำอะไรเขาได้แม้แต่ปลายเสื้อ
แต่ผู้คนบนเรือกลับเอามือกุมหัว และหมอบลงบนพื้น
เพราะกลัวกระสุนอันน่ากลัวที่ยิงไปหาหลินหยุน จะพลาดมาโดนพวกเขา
“ปีศาจ เขาเป็นปีศาจแน่ๆ!” เมื่อเห็นว่ากระสุนทำอะไรหลินหยุนไม่ได้ โจรสลัดพวกนั้นพากันสติแตก
แสงสีแดงพุ่งจากตัวหลินหยุน ขึ้นไปบนท้องฟ้า และพาดผ่านลำคอของโจรสลัดสองสามคน
เพียงพริบตา หัวกับตัวของโจรสลัดทั้งหมด อยู่กันคนละที่
ฝีมือระดับนี้ ทำให้ทุกคนพากันตกตะลึง
แววตาที่มองไปยังหลินหยุนอีกครั้ง เต็มไปด้วยความเคารพและหวาดกลัว
เมื่อฆ่าโจรสลัดจนหมด หลินหยุนหันไปมองหัวล้านหลิว
หัวล้านหลิวใจหล่นวูบ จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง เย็นยะเยือกไปทั้งตัว
พวกลูกน้องที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ก็สติกระเจิดกระเจิง ยืนขาสั่นอยู่ที่เดิม โดยไม่ขยับไปไหน
“ตอนนี้ แกน่าจะรู้แล้วสินะว่าอะไรคือกระจอก!” เสียงราบเรียบของหลินหยุนดังขึ้น
หัวล้านหลิวทรุดลงบนพื้น เขาตกใจเป็นอย่างมาก “ท่านปรมาจารย์ ผมมีตาหามีแววไม่ จึงล่วงเกินท่านปรมาจารย์ หวังว่าท่านปรมาจารย์จะให้อภัย!”
หลินหยุนเหลือบมองเขา จากนั้นจึงพูดออกมาว่า “ไสหัวไป!”
“หา!” หัวล้านหลิวอึ้งไปก่อน จากนั้นจึงดีใจเป็นอย่างมาก “ขอบคุณท่านปรมาจารย์ ผมจะไสหัวไป ไสหัวไปเลย!”
พูดจบ เขายกมือกุมหัวแล้วตะเกียกตะกายไปอีกด้าน
หลินหยุนมองไปยังเย้นเฉิงตง
เย้นเฉิงตงใจสั่น ใบหน้าอันหล่อเหลา ซีดเผือดลงทันที
“แก แกคิดจะทำอะไร!” เย้นเฉิงตงถามด้วยเสียงสั่นเครือ
หลินหยุนไม่ตอบ เขาเอามือไพล่หลัง แล้วก้าวเข้าไปหาเย้นเฉิงตง
เย้นเฉิงตงถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว และตะโกนด้วยสีหน้าตื่นกลัว “ฉันจะบอกแกให้นะ ฉันเป็นผู้สืบทอดบริษัท ไห่หลาน จำกัด แกกล้าแตะต้องฉัน พ่อฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!”
“ฉันจะบอกให้นะ ข้างกายพ่อฉัน มีปรมาจารย์บู๊ฝีมือดีสองคน ที่ใช้เงินจำนวนมากจ้างมา ความสามารถของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าแกเยอะ!”
เมื่อหลินหยุนยืนห่างจากเย้นเฉิงตงประมาณห้าเมตร เขาชะงักฝีเท้าลง และมองเย้นเฉิงตงอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “วันนี้ฉันจะหักขาทั้งสองข้างของแก”
พูดจบ หลินหยุนดีดนิ้ว กระดูกเข่าทั้งสองข้างของเย้นเฉิงตง แหลกสลายทันที
“อ๊าก!”
เย้นเฉิงตงส่งเสียงโอดครวญออกมาอย่างเวทนา บอดี้การ์ดของเขา ต่างพากันก้มหน้า ไม่กล้าขยับไปไหน
“ถ้ายังมีครั้งหน้า ฉันจะหักแก ไม่ใช่ขาของแก” เสียงของหลินหยุนราบเรียบ
เย้นเฉิงตงกัดฟัน ไม่พูดอะไรสักคำ เขาสะกดกลั้นความโกรธไว้ในใจ
“ไอ้กระจอก รอให้ฉันสืบเบาะแสของแกให้ได้ก่อนเถอะ ฉันจะทำให้แกน่าเวทนาและเจ็บปวดกว่าฉันเป็นสิบเท่า!”
หลินหยุนรู้ความคิดของเย้นเฉิงตงดี แต่เขาไม่สนใจสักนิด
อย่างที่เขาพูดเตือนเย้นเฉิงตง ถ้ามีครั้งหน้าอีก สิ่งที่หักจะไม่ใช่ขา แต่คือชีวิต
หลินหยุนกวาดตามองคนรอบๆ สุดท้ายสายตาของเขาหยุดลงที่หลี่หมิ่นจู
ทว่าหลินหยุนไม่พูดอะไรสักคำ เขาทำเพียงแค่มองเธอ และหันหลังเดินไปยังประตูห้องโดยสารเรือ
ทุกคนจ้องหลินหยุนที่เดินออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ขนาดพวกโจรสลัดที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวเมื่อครู่ ทุกคนยังไม่กลัวขนาดนี้
หลินหยุนทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน มากกว่าโจรสลัดพวกนั้นเสียอีก
“เขาไปแล้วเหรอ”
“ไปแล้ว”
“ใช่สิ ที่นี่เป็นทะเล เขาเดินออกไปจากห้องโดยสารเรือ ไปดาดฟ้าเรือเหรอ”
“เขาไปดาดฟ้าเรือทำไม”
ทุกคนต่างพากันพูดขึ้นมา
หลี่หมิ่นจูก็ตั้งสติได้ เธอด่าตัวเองในใจ “สมองฉันนี่บื้อจริงๆ ทำไมถึงไม่เข้าไปคุยกับเขาล่ะ”
“ยังดีที่นี่เป็นทะเล เขาไปไหนไม่ได้ ฉันยังตามเขาทัน ขืนเป็นที่อื่น คงพลาดโอกาสแล้ว”
หลี่หมิ่นจูคิด และตามออกไป
“เราออกไปดูกันเถอะ!” เมื่อเห็นหลี่หมิ่นจูตามออกไป ก็มีคนเสนอขึ้น
“ไป ไปดูกัน!”
ทุกคนต่างพากันประหลาดใจกับหลินหยุนมาก
ถึงหลินหยุนจะทำให้พวกเขากดดันมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสะกดกลั้น ความอยากรู้ภายในใจได้
เมื่อทุกคนมาถึงดาดฟ้าเรือ เห็นเพียงหลี่หมิ่นจูที่มีสีหน้าตกตะลึง
ส่วนเงาของหลินหยุน หาทุกซอกทุกมุมของดาดฟ้าเรือ ก็หาไม่เจอ
“อ้าว เขาอยู่ไหนล่ะ อย่าบอกนะว่าเขาบินได้” ทุกคนทั้งสงสัยและตกใจ
หลี่หมิ่นจูชี้ไปยังทะเลอย่างเหม่อลอย แล้วพูดพึมพำว่า “อยู่นั่นไง!”
ทุกคนพากันมอง เห็นเพียงเงาคนเอามือไพล่หลัง เหยียบอยู่บนเกลียวคลื่นในทะเล มุ่งหน้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“นี่เซียน เซียนนี่นา!”
เศรษฐีหัวโบราณสองสามคน รีบคุกเข่าเพื่อบูชา
เมื่อเห็นพวกเขาเคารพบูชา คนที่เหลือต่างพากันคุกเข่า ขอให้หลินหยุนคุ้มครองพวกเขา