จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 829 ผู้เสแสร้ง
เหล่าทหารของกองทัพของมัตซุยต่างกรีดร้องพร้อมกันเมื่อขีปนาวุธระเบิดขึ้น
ดวงตาทั้งสองของพวกเขาเกือบจะบอดด้วยแสงอันแรงกล้าของการระเบิด
นี่เป็นเพียงขีปนาวุธนำวิถีเท่านั้น หากเป็นระเบิดนิวเคลียร์ ในขณะที่เกิดการระเบิดขึ้น ร่างกายมนุษย์จะระเหยโดยตรงที่ระยะ 1500 เมตร
จากนั้นคลื่นกระแทกอันรุนแรง ก็จะทำให้ออกซิเจนในอากาศเผาไหม้ ทหารที่เหลือทั้งหมดของมัตซุยก็จะตายลงทั้งหมด
คลื่นกระแทกขนาดใหญ่ทำให้ทุกอย่างที่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางของการระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
ในอาคารรัฐสภาของญี่ปุ่น ประธานาธิบดีญี่ปุ่นตัวเตี้ย กำลังมองดูภาพจากดาวเทียมตรวจสอบ
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นแสดงความตื่นเต้นขึ้นมาในสายตาของเขา
“ปรมาจารย์หลิน ครั้งนี้ฉันไม่เชื่อว่านายจะรอดชีวิตได้!”
อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่ได้แสดงความตื่นเต้นออกมาแม้แต่น้อย อีกทั้งยังกลับแสดงท่าทางเศร้าๆออกมาอีกด้วย
เขาโค้งคำนับหน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าและก้มศีรษะลง “กองทัพนักรบผู้กล้าของมัตซุยพวกคุณเสียสละชีวิตเพื่อประเทศ ประชาชนทั่วทั้งญี่ปุ่นจะไม่มีวันลืมคุณ!”
“พวกคุณ จะอยู่ต่อไปอย่างนิรันดร์!”
ข้างหลังพวกเขายังมีพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นที่มีก็โค้งคำนับหน้าจอขนาดใหญ่เช่นกัน
ผ่านไปกว่าสิบวินาที ประธานาธิบดีญี่ปุ่นก็หันกลับมายิ้มให้ผู้คนและกล่าวว่า “ปรมาจารย์หลินถูกกำจัดไปแล้ว ให้ราชครูไปที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสักหน่อย หากไม่พบปรมาจารย์หลิน เราก็สามารถจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง!”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงกลุ่มหนึ่งหัวเราะร่าและพูดขึ้นว่า “ยินดีด้วย ยินดีด้วย! กำจัดปรมาจารย์หลินได้ ชาวจีนก็ได้สูญเสียบุคคลที่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามไปแล้ว ภัยคุกคามของเราได้รับการกำจัดแล้ว!”
ภายในเวลาไม่ถึงนาที คนเหล่านี้ก็ลืมเหล่าทหารหลายหมื่นนายของกองทหารมัตซุยที่เสียสละตนเองไปจนหมดสิ้น
แต่พวกเขาดีใจได้เพียงไม่กี่นาทีจนกระทั่งเมื่อควันกระจายออกไป วงกลมสีทองก็ปรากฏขึ้นปกคลุมไปทั่วพื้นที่ระเบิดในหน้าจอขนาดใหญ่
หลินหยุนและฉินหลันยืนอยู่ในวงกลมนั้นโดยไม่เป็นอันตรายอะไรเลยสักนิด
“เป็นไปได้ยังไง!”
ประธานาธิบดีญี่ปุ่นตกตะลึง
“พลังของขีปนาวุธที่น่าหวาดกลัวจนต้องตกตะลึงกลับไม่สามารถทำอันตรายอะไรเขาได้เลย!”
“นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
“ปรมาจารย์หลินคนนี้ เป็นยอดมนุษย์หรือไง?”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่นที่อยู่ด้วยก็ล้วนตกตะลึงไปเช่นกัน!
ประธานาธิบดีของญี่ปุ่นซึ่งเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนชิวตา เมื่อเห็นว่าหลินหยุนยังมีชีวิตอยู่ก็สงบลงทันที
“รีบแจ้งราชครู ให้ดำเนินการวางแผนขั้นต่อไป!”
รมว.กลาโหมโค้งคำนับและพูดว่า “ผมจะแจ้งไปแจ้งเดี๋ยวนี้!”
ประธานาธิบดีของญี่ปุ่นมีสีหน้าหนักอึ้ง “เด็กหนุ่มนั่นไม่กลัวแม้กระทั่งขีปนาวุธ เกรงว่ามีแต่ระเบิดนิวเคลียร์เท่านั้นที่จะทำร้ายเขาได้ ราชครูคราวนี้ต้องพึ่งนายทั้งหมดแล้ว!”
ทางเหนือของญี่ปุ่น เป็นเขตแดนที่ไร้ผู้คน
สภาพแวดล้อมและภูมิประเทศทั้งหมดล้วนถูกทำลายโดยขีปนาวุธนำวิถี พื้นดินก็จมลงไปลึกมากกว่าสิบเซนติเมตร
หลินหยุนยืนอยู่กลางหลุมและเปล่งโล่แสงกระจายปกคลุม
ฉินหลันหลับตาอยู่ ใบหน้าที่งดงามของเธอนั้นไร้ที่ติ ไม่มีความกลัวใดๆแต่กลับมีรอยยิ้มจาง ๆประดับอยู่
รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความพึงพอใจ
ในขณะที่ขีปนาวุธระเบิด ฉินหลันไม่คิดว่าหลินหยุนจะสามารถหยุดมันได้ อย่างไรก็ตาม เธอกลับรู้สึกว่าการไปสู่ยมโลกกับหลินหยุนถือเป็นเรื่องที่มีความสุขมากอย่างยิ่ง
หลินหยุนไม่รู้ว่าฉินหลันคิดอะไรอยู่ เขาเรียกเธอเบาๆ “พี่ฉินหลัน ไม่เป็นไรแล้ว!”
ขนตางอนยาวของฉินหลันค่อยขยับแล้วลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
“พวกเรา ยังมีชีวิตอยู่?” หลังจากสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบ ฉินหลันก็ถามด้วยความประหลาดใจ
“ขีปนาวุธเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำร้ายผมได้” หลินหยุนเอ่ยเสียงเรียบ ในคำพูดของเขา แสดงออกถึงความมั่นใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
ฉินหลันมองไปยังทหารญี่ปุ่นเหล่านั้นตรงหน้าที่ไม่เหลือแม้กระทั่งศพ เธอพูดขึ้นอย่างแฝงด้วยอารมณ์เศร้า “คนพวกนั้นตายหมดแล้วเหรอ?”
“ภายใต้ขีปนาวุธนำวิถี คนธรรมดาพวกนั้นไม่มีทางรอด” เสียงของหลินหยุนเรียบเฉยและไม่แยแส
ทหารเหล่านั้น ก็เป็นเพียงเหยื่อของผู้มีอำนาจเท่านั้นเอง
“พวกเราไปกันเถอะ!”
แม้ว่าเขาจะสกัดกั้นขีปนาวุธเอาไว้ได้ แต่หลินหยุนก็ใช้พลังทิพย์ไปจำนวนมาก
“อืม” ฉินหลันพยักหน้าอย่างอ่อนโยน เธอดูราวกับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ว่าหลินหยุนจะพูดอะไร เธอก็เพียงแต่พยักหน้าเห็นด้วย
หลินหยุนพาฉินหลันออกจากพื้นที่ที่ถูกทำลายโดยขีปนาวุธและมายังหน้าถนนบนทางด่วน
ที่ด้านหน้าถนนบนทางด่วน มีการวางสิ่งกีดขวางเอาไว้บนถนนเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครบุกเข้ามาและตกเป็นเหยื่อของขีปนาวุธ
หลินหยุนและฉินหลันเดินหน้าต่อไปผ่านสิ่งกีดขวาง แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นยานพาหนะใด ๆ
ถ้าอยากหารถกลับไป เกรงว่าคงต้องเดินไปอีกประมาณหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้กลับมีรถยนต์โตโยต้าคราวน์สีดำมาหยุดที่หน้าหลินหยุน
บนรถ มีชายวัยกลางคนผู้สง่างามคนหนึ่ง เขาสวมสูทสีดำ สวมแว่นตากรอบสีทองและมีใบหน้าที่อ่อนโยนลงมาจากรถ
ข้างหลัง ยังมีชายหนุ่มในชุดดำอยู่ข้างหลังเขา
ชายวัยกลางคนคนนั้นเดินไปหยุดอยู่ข้างหน้าหลินหยุนในระยะสามเมตร จากนั้นจึงหยุดลงและโค้งคำนับ “ปรมาจารย์หลินหยุน ฉันเป็นราชครูแห่งญี่ปุ่นฮิโระชิ ทาเคดา”
“ฉันมาในนามของประธานาธิบดีเพื่อขอโทษปรมาจารย์หลิน!”
หลินหยุนเหลือบมองเขา จากนั้นก็เอ่ยเสียงเรียบ “คิดว่าแม้แต่ขีปนาวุธก็ไม่สามารถฆ่าฉันได้ ก็เลยเตรียมพร้อมมาประนีประนอมกับฉันงั้นหรือ”
ฮิโระชิ ทาเคดายิ้มอย่างประดักประเดิด “ท่านประธานาธิบดีใจดีมีเมตตา ทนไม่ได้ที่จะมีการบาดเจ็บล้มตายอีก ดังนั้นเขาจึงส่งผมมาเพื่อเจรจาสันติภาพกับปรมาจารย์หลิน!”
“ท่านประธานาธิบดีบอกว่าหวังว่าจะสามารถพูดคุยกับปรมาจารย์หลินได้!”
“แน่นอน ถ้าปรมาจารย์หลินต้องการกลับไปจีน ผมก็จะส่งปรมาจารย์หลินไปที่สนามบินเดี๋ยวนี้”
หลินหยุนมองไปที่ฮิโระชิ ทาเคดา ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นราชครูแห่งญี่ปุ่น
เขามีบุคลิกที่สง่างาม ใบหน้าที่ใจดีมีเมตตา และไม่พบสิ่งผิดปกติใด
ยิ่งกว่านั้น น้ำเสียงของเขาก็จริงใจ ทัศนคตินอบน้อมสุภาพ และให้กลิ่นอายที่เป็นมิตรเป็นพิเศษ
“นำทางเถอะ!” หลินหยุนพูดจบก็ดึงฉินหลันไปเปิดประตูรถและเข้าไปนั่งด้านหลัง
ฉินหลันเป็นกังวลอยู่บ้าง เธอเอ่ยกระซิบว่า “หลินหยุน นี่เป็นอุบายรึเปล่า?”
หลินหยุนยิ้มอย่างแผ่วเบา “ไม่ต้องกังวล พวกเขากลัวผมไปแล้ว ตอนนี้กำลังกังวลว่าผมจะตอบโต้ ดังนั้นจึงเตรียมมาเจรจากับผม”
ฉินหลันพยักหน้า แต่ก็ยังกังวลอยู่บ้าง “ฉันคิดว่าพวกเราควรจะกลับไปจีนโดยเร็วที่สุด”
หลินหยุนเอ่ย “เมื่อเราได้พบกับประธานาธิบดีของญี่ปุ่นแล้ว พวกเราก็จะกลับไปจีนทันที”
“อืม” ฉินหลันพยักหน้า
เมื่อรถสตาร์ทขึ้น ฮิโระชิ ทาเคดาก็หันไปมองหลินหยุนและพูดด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม “ผมมีคำถามข้อหนึ่งที่อยากให้ปรมาจารย์หลินช่วยชี้แนะได้หรือไม่?”
“ไม่ต้องถามแล้ว ฉันไม่ตอบคำถามของนาย” ก่อนที่ฮิโระชิ ทาเคดาจะได้เอ่ยปาก หลินหยุนก็เอ่ยปฏิเสธขึ้นก่อน
ฮิโระชิ ทาเคดารู้สึกเก้อเขินอยู่บ้าง จากนั้นจึงยิ้มและกล่าวว่า “ก็ได้ ดูเหมือนว่าปรมาจารย์หลินจะมีความลับไม่น้อยเลย! หึหึ…”
ขณะรถกำลังขับไปบนทางด่วนด้วยความเร็ว และฮิโระชิ ทาเคดาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
หลินหยุนหลับตาทั้งสองข้าง และปรับลมหายใจของเขาอย่างลับๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา จู่ๆ รถก็จอดที่ริมถนน
ทันทีที่ฮิโระชิ ทาเคดาเปิดประตูลงจากรถ เขาก็ยืนอยู่นอกรถและพูดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ “ปรมาจารย์หลิน ถึงแล้ว ได้โปรดลงจากรถเถอะ!”
ฉินหลันเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ที่นี่เป็นที่รกร้างว่างเปล่า ประธานาธิบดีญี่ปุ่นจะมาพบหลินหยุนที่นี่ได้อย่างไร?
“ไม่ได้การแล้ว เราถูกหลอก!” ฉินหลันอุทาน
หลินหยุนลืมตาขึ้น ใบหน้าของเขาเรียบเฉย “ไม่ต้องกังวล ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ได้มารับพวกเราไปหาประธานาธิบดีของพวกเขา”
“นายรู้อยู่แล้ว? อย่างนั้นทำไมถึงได้ขึ้นรถเขามา?” ฉินหลันถามอย่างงงุนงง
หลินหยุนยิ้มจางๆ “ถ้าไม่ต่อสู้จนพวกเขายอมศิโรราบ พวกเขาก็จะไม่ยอมให้พวกเรากลับไปจีน”
“ลงจากรถก่อนเถอะ! ตามฉันมาอย่างใกล้ชิดก็พอ ไม่ต้องห่วง”
จากนั้นหลินหยุนก็จับมือฉินหลันและลงจากรถ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฮิโระชิ ทาเคดาข้ามรั้วกั้นทางด่วนและเปลี่ยนมายืนอยู่บนเนินเขาห่างออกไปหลายสิบเมตร
ในขณะนี้ ใบหน้าของเขาไม่มีบุคลิกสง่างามอีกต่อไป เขาเสื้อคลุมสีดำปักลวดลายของปลาหยินหยางอยู่บนหน้าอก ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษ หากเพิ่มเคียวให้เขาอีกสักอัน ก็คงกลายเป็นเทพเจ้าแห่งความตายคนหนึ่ง