จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 838 ขอโทษด้วยตัวเอง
ประธานาธิบดีจีนกวาดสายตาไปยังทุกคน ยิ้มแล้วพูดว่า “ทุกท่านโปรดรอสักครู่ ฉันจะไปฟังก่อนว่าประธานาธิบดีญี่ปุ่นทางนั้นพูดว่ายังไง!”
พวกหวางจิงหลง ก้มหน้าเล็กน้อยแสดงการตอบรับ
หงซานเหอไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนว่ายังไม่หายโกรธ
หลินหยุนยังคงนั่งจิบน้ำชาอย่างเงียบๆเช่นเดิม ดูเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจกับการพิพากษาตัดสินความเป็นความตายของเขาที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
ประธานาธิบดีจีนก็เดินไปด้านข้าง เลขาก็รออยู่หน้าประตู แล้วยื่นมือถือให้กับประธานาธิบดีจีน
พวกหวางจิงหลง ก็แอบสังเกตมองประธานาธิบดีจีน ในใจก็แอบคาดเดาเรื่องที่ประธานาธิบดีญี่ปุ่นโทรศัพท์มาหา
แต่ว่า พวกเขาก็ต้องผิดหวังเสียแล้ว สีหน้าประธานาธิบดีจีนดูราวกับว่ามีแต่รอยยิ้มที่เรียบง่ายแต่เชื่อมั่นในตัวเองเช่นนั้นตลอดเวลา ไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางอะไรออกมาให้เห็นเลย
ทันใดนั้น ประธานาธิบดีจีนก็กดปุ่มแฮนด์ฟรีบนโทรศัพท์มือถือ
เสียงของประธานาธิบดีญี่ปุ่นก็ดังไปทั่วห้องประชุม ถึงแม้ว่าจะเสียงเบามาก แต่ก็ยังพอที่จะให้ทุกคนได้ยินกันทั่วหน้า
สำเนียงภาษาจีนของประธานาธิบดีญี่ปุ่นไม่ค่อยได้มาตรฐานนัก แต่ว่าก็ยังสามารถฟังเข้าใจได้ อีกทั้งก็ยังแยกแยะเนื้อหาได้ดีอีกด้วย
“เป็นเพราะว่าตระกูลยามาโนะก่อกรรมทำเข็ญ ไปลบหลู่ปรมาจารย์หลิน เป็นความผิดพลาดของกระผมเอง กระผมจึงอยากจะขอโทษสำหรับเรื่องนี้ด้วย!”
“แต่ว่า ตระกูลยามาโนะก็ได้รับผลกรรมที่สมควรได้รับไปแล้ว และหวังว่าปรมาจารย์หลินเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ให้อภัยประเทศเราด้วยนะครับ!”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้แล้ว หวางจิงหลงและเจ้าบ้านอีกสามตระกูลใหญ่ที่เหลือ ต่างแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อออกมา
ประธานาธิบดีของประเทศญี่ปุ่น ถึงกับโทรศัพท์มาด้วยตัวเอง เพื่อขอโทษหลินหยุน!
ถ้าไม่ใช่ได้ยินกับหูตัวเองละก็ นี่มันต้องเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!
แต่ว่า ประธานาธิบดีจีนตอนนี้ก็ยังคงจับมือถือไว้ แล้วชูขึ้นสูงต่อหน้าทุกคน
“หลินหยุน ประธานาธิบดีญี่ปุ่นโทรศัพท์มาขอโทษด้วยตัวเอง เพื่อแสดงความจริงใจ แล้วนะ!”
“คุณเห็นว่ายังไงล่ะ?”
หลินหยุนจิบน้ำชาไปหนึ่งคำ แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า: “บอกเขาด้วยว่า คราวนี้ยกเว้นให้คราวหน้าอย่าได้เกิดขึ้นอีก!”
ประธานาธิบดีจีนก็หันไปพูดกับประธานาธิบดีญี่ปุ่น เมื่อประธานาธิบดีญี่ปุ่นได้ยินแล้วก็ดีใจมาก จึงพูดขอบคุณด้วยภาษาจีนสำเนียงเพี้ยนของเขา จากนั้นก็พูดร่ำลาประธานาธิบดีจีนตามมารยาทแล้ววางสายไป
หงซานเหอเงยหน้าขึ้น แล้วหัวเราะเสียงดังลั่น: “ฮ่าๆๆๆ หวางจิงหลง ตอนนี้ประธานาธิบดีญี่ปุ่นก็ได้โทรศัพท์มาขอโทษหลินหยุนด้วยตัวเองแล้ว คุณยังมีอะไรจะพูดอีกล่ะ!”
“นี่เขาเรียกว่าคนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต คุณคิดไม่ถึงล่ะสิ การต่อสู้ครั้งนี้ของหลินหยุน ทำให้ประเทศญี่ปุ่นยอมสยบราบคาบไปเลย!”
“ข้อกล่าวหาทั้งหลายที่คุณยัดเยียดให้กับหลินหยุนนั้น ล้วนแต่เป็นคำพูดบัดซบห่วยแตก ทั้งนั้น!”
หงซานเหอด้วยความโกรธจัด ถึงกับพูดคำหยาบออกมา
สีหน้าของหวางจิงหลงเปลี่ยนเป็นขาวซีด ผ่านไปสักพักใหญ่ จึงพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “คราวนี้ถือว่าเขาโชคดีไป!”
“แต่ว่า พวกคุณก็อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป รีบไปดูทะเลสาบเยว่หยาของแกก่อนเถอะ! ถ้าไปช้ากว่านี้อีกละก็ เกรงว่าต้องไปตามเก็บศพลูกศิษย์พวกนั้นของแกแล้ว!”
สีหน้าหลินหยุนเปลี่ยนทันที พูดด้วยเสียงเข้มว่า “คุณพูดว่ายังไงนะ?”
หวางจิงหลงพูดเยาะเย้ยว่า “ฮื่อ แกกลับไปดูก็รู้เอง”
“ลาก่อน!”
หวางจิงหลงหันหลังกลับแล้วเดินออกไป
เจ้าบ้านสามตระกูลใหญ่ที่เหลือ ก็รีบเดินตามหลังออกไปเช่นกัน
สายตาที่เยือกเย็นของหลินหยุนมองไปยังประธานาธิบดี “คำพูดของเขา หมายความว่ายังไงเหรอ?”
สีหน้าหงซานเหอรู้สึกละอายใจทันที “หลินหยุน เป็นเพราะพวกเราที่ผิดต่อคุณเอง! คุณไปญี่ปุ่นเพื่อสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับพวกเราชาวจีน ส่วนพวกเรากลับไม่สามารถปกป้องคนในครอบครัวของคุณไว้ได้เลย!”
“แต่ว่า พวกเราก็พยายามช่วยเต็มที่แล้ว ฉันก็ได้ส่งหน่วยมังกรเข้าไปช่วยเหลือ……”
ยังไม่ทันรอให้หงซานเหอพูดจบเลย หลินหยุนก็รีบตัดตอนคำพูดเขาว่า “บอกผมมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
สีหน้าประธานาธิบดีก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาทันที มองไปยังหลินหยุนแล้วพูดว่า “มีคนอ้างชื่อของคุณ ไปฆ่าเจ้าสำนักน้อยของสำนักอู๋อิ่งในโลกบู๊โบราณ สำนักอู๋อิ่งจึงตามมาแก้แค้น กำลังเข้าบุกล้อมทะเลสาบเยว่หยา”
“แม่และปู่ของคุณ ตอนนี้ก็ไปหลบภัยอยู่ที่ทะเลสาบเยว่หยาด้วย แต่ว่า พวกเราได้ข่าวมาว่า คนของสำนักอู๋อิ่งเชิญพวกปรมาจารย์ค่ายกลมาด้วย น่าจะทำลายค่ายกลฮู่ซานที่คุณได้วางไว้แล้ว”
สีหน้าหลินหยุนเย็นชา จิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที ปกคลุมไปทั่วทั้งคฤหาสน์สภาประเทศ
แม้แต่หงซานเหอและประธานาธิบดีที่เคยผ่านมรสุมชีวิตมามากมายแล้วก็ตาม ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเลย!
แต่ว่า หลินหยุนก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าสำหรับคนของโลกบู๊โบราณแล้ว ทางการรัฐบาลจีนก็มีอำนาจควบคุมที่มีขีดจำกัด
ถึงแม้ว่าอาวุธนิวเคลียร์สามารถทำให้โลกบู๊โบราณสั่นคลอนได้ก็จริง แต่ว่าญาติสนิทของหลินหยุนก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกประธานาธิบดีก็คงไม่กล้าที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่า คนของสำนักอู๋อิ่งก็เข้าใจประเด็นนี้ดี ดังนั้นจึงได้เหิมเกริมบุกเข้าไปล้อมทะเลสาบเยว่หยาอย่างไม่กลัวเกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น
ประธานาธิบดีและหงซานเหอ ก็ได้ช่วยเต็มที่แล้ว
“รีบส่งผมกลับไปให้เร็วที่สุด”
ประธานาธิบดีพูดว่า “ฉันได้เตรียมเครื่องบินโดยเฉพาะไว้ให้แล้ว เจ้าหวาง พาหลินหยุนไปที!”
“ครับผม!”
เลขาหวางที่อยู่หน้าประตู ก็รีบวิ่งเข้ามา
“ปรมาจารย์หลิน เชิญตามผมมาครับ!”
หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย ก้าวเท้าทีเดียวไกลถึงสิบเมตร ทำให้เจ้าหวางตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
หงซานเหอตะโกนอยู่ข้างหลังว่า: “เจ้าหนู ใจเย็นๆ!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจ ออกแรงยกเจ้าหวางขึ้นมา แล้วหายวับไปกับตา
บนเครื่องบินนั้น หลินหยุนมองดูฉินหลันที่จะตามมาให้ได้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “พี่ฉินหลัน รออยู่ที่เมืองหลวงปลอดภัยที่สุดแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องตามผมมาด้วยเลย!”
ฉินหลันพูดว่า: “ฉันเป็นห่วงผู้อำนวยการหวาง ถ้าไม่ได้ไปดูซะหน่อย ฉันก็ไม่สบายใจทั้งนั้น”
“อีกอย่าง คุณก็เพิ่งผ่านการสู้รบหลายครั้งกับพวกญี่ปุ่นมา ตอนนี้ร่างกายฟื้นฟูดีขึ้นมาแล้วหรือยังล่ะ?” สายตาฉินหลันแสดงออกถึงความห่วงใย
หลินหยุนเข้าใจว่า ฉินหลันไม่ได้เป็นห่วงแม่แก่หรอก น่าจะเป็นห่วงเขามากกว่า
“ระหว่างทางที่กลับจากญี่ปุ่น ผมก็ฟื้นฟูพละกำลังบางส่วนได้แล้ว ระหว่างทางที่ไปนี้ก็สามารถพักฟื้นให้ดีขึ้นได้บ้าง รอให้ถึงทะเลสาบเยว่หยา ก็ใช้ได้แล้วล่ะ” หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ฉินหลันก็ยังคงเป็นห่วง: “ถ้าหากพลังฝึกฝนยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ ก็อย่าไปฝืนเลย ฉันจะไปพูดกับคนของสำนักอู๋อิ่งให้เข้าใจเอง ว่าคุณถูกคนอื่นใส่ร้าย”
“ฮ่าๆๆ!” หลินหยุนหัวเราะ ในเมื่อเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แล้วจะพูดได้ง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ?
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมรู้ว่าควรจะทำยังไง” หลินหยุนปลอบโยนด้วยเสียงนุ่มนวล
ฉินหลันก็ไม่ได้พูดเตื่อนหลินหยุนอีก เธอไม่หวั่นเกรงอันตรายใดๆ จุดมุ่งหมายที่ตามหลินหยุนมานั้น ก็เพื่อหวังว่าในเวลาที่หลินหยุนกำลังได้รับอันตราย เธอสามารถไปรับแทนเขาได้
ทะเลสาบเยว่หยา การต่อสู้ที่สะท้านฟ้าสะเทือนแผ่นดินนี้ กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน
ซูจื่อเหลียง ซูหนาน คาร์นอตวิลเลียมทั้งสามคน กำลังต่อสู้กับอาวุโสทั้งเก้าคนของสำนักอู๋อิ่ง
ถึงแม้ศัตรูจะมีจำนวนมากกว่าซูจื่อเหลียงทั้งสามคนหลายเท่าก็จริง แต่ว่าทั้งสามคนถึงกับยังเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกด้วย
และค่อยๆเอาชนะผู้อาวุโสทั้งเก้าคนของสำนักอู๋อิ่งได้แล้ว
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เย่ซื่อหมิงเจ้าสำนักก็โกรธจัด
“ฮื่อ ไร้เหตุผลสิ้นดี! ผู้อาวุโสใหญ่ทั้งเก้าของสำนักอู๋อิ่งฉันก็ได้ลงมือพร้อมกันแล้ว ถึงกับยังแพ้ให้กับลูกศิษย์ทั้งสามคนของปรมาจารย์หลินเลย!”
“มิน่าล่ะเราไม่เคยมีความโกรธแค้นอะไรกันเลย ปรมาจารย์หลินแกกลับฆ่าลูกชายฉัน! ที่แท้ปรมาจารย์หลินแกก็มีความเหิมเกริมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว!”
“แต่ว่า สำนักอู๋อิ่งของฉันก็ไม่ใช่ว่าจะให้รังแกกันง่ายๆหรอก! วันนี้ฉันจะให้แกชำระหนี้เลือดด้วยเลือด!”
“ลูกศิษย์ทุกคนจงฟังคำสั่ง วางค่ายกลหลงทางอู๋อิ่ง!”
“ช่วยเหลือผู้อาวุโสทั้งหลาย!”
“ครับ!”
พวกลูกศิษย์ฝีมือยอดเยี่ยมของสำนักอู๋อิ่งเหล่านั้น ก็รีบล้อมรอบพวกซูจื่อเหลียงทั้งสามคนไว้ทันที ค่ายกลที่ฝึกฝนจนคล่องแคล่วว่องไวอยู่ทุกวัน ตอนนี้ก็ได้ยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่เคยฝึกฝนมาแล้ว
ลำพังแค่พละกำลังของแต่ละคนในบรรดาลูกศิษย์สำนักอู๋อิ่งพวกนี้ก็ไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ว่าเมื่อรวมกันเป็นค่ายกลแล้ว พละกำลังของคนจำนวนมากขนาดนี้ ก็มากพอที่จะส่งผลต่อการสู้รบแล้ว
ผู้อาวุโสใหญ่ชกหมัดกลางอากาศหนึ่งที แล้วถอยออกจากวงการต่อสู้ ตะโกนเสียงดังให้กับพวกลูกศิษย์ทั้งหลายว่า “ฟังคำสั่งฉัน ตำแหน่งเฉียนย้อนกลับ!”
“ครับ!”
พวกลูกศิษย์ทั้งหลาย ก็เคลื่อนย้ายสลับตำแหน่งของตัวเองอย่างแปลกประหลาดทันที เข้าทางด้านข้าง แล้วไปขวางอยู่ด้านหน้าของบรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายพวกนั้น ทำให้แยกออกจากพวกซูจื่อเหลียงทั้งสามคนนั้นไป
ถึงแม้ว่าบรรดาลูกศิษย์พวกนี้พละกำลังมีเพียงแค่ระดับแดนพรสวรรค์เท่านั้น แต่ว่าพวกซูจื่อเหลียงก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของคนพวกนี้เลย จึงไม่กล้าที่จะเสี่ยงบุกเข้าไป
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ตะโกนเสียงดังว่า “เดินตามตำแหน่งคุน ย้ายไปยังตำแหน่งหลี ย้อนกลับไปตำแหน่งตุ้ย!”