จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 840 พวกกระจอกงอกง่อย
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ตะโกนพูดเสียงดังโวยวายว่า “รีบหลบไปเร็ว!”
แต่ว่า การโจมตีของหลินหยุนรวดเร็วเพียงใด ไม่ใช่ที่พวกเขาจะหลบหลีกไปได้ง่ายๆเลย
โป้ง!
พลังแรงมหึมาที่แข็งแกร่งราวกับภูเขาก็ตกลงมาจากฟากฟ้า แล้วกระแทกลงบนศีรษะของพวกผู้อาวุโสใหญ่อย่างแรง
รัศมีบริเวณรอบๆสิบเมตรห่างจากพวกผู้อาวุโสใหญ่ ถูกพลังค้อนดาวร่วงปกคลุมไปทั่ว
อ้วก!
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ถูกพลังแรงที่แข็งแกร่งนั้น ซัดจนกระเด็นลอยออกไปแล้วกระอักเลือดออกมา
ยังมีพวกผู้อาวุโสหลายคนก็ถูกกระแทกจนกระเด็นลอยออกไปเช่นกัน
แต่ว่า พวกลูกศิษย์ที่ฝีมือเก่งกาจของสำนักอู๋อิ่งเหล่านั้น กลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้นเลย
พวกลูกศิษย์เหล่านี้ก็เพียงแค่แดนพรสวรรค์เท่านั้นเอง ไม่มีทางที่จะต้านทานหมัดอันทรงพลังที่มาพร้อมความโกรธแค้นของหลินหยุนนั้นได้เลย!
พวกลูกศิษย์ของสำนักอู๋อิ่งสิบกว่าคน ก็ถูกหมัดหลินหยุนทุบจนกลายเป็นหมูบะช่อ ร่างทั้งหมดก็ถูกฝังลงไปใต้ดิน
เย่ซื่อหมิงเมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ทั้งโกรธทั้งแค้น
ส่วนในขณะนี้เอง หลินหยุนก็เหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ลูกหนึ่ง พุ่งลงมาจากท้องฟ้าแล้วกระแทกลงบนพื้นดินอย่างแรง
โป้ง !
ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า
“ท่านอาจารย์!”
“ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว!” ซูจื่อเหลียงสีหน้าดีใจ เมื่อจิตใจผ่อนคลายแล้ว จึงนอนสลบไปเลย
หลินหยุนก้าวเดินออกไปหนึ่งเก้า ก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายซูจื่อเหลียงทันที แล้วหยิบโอสถออกมาหนึ่งเม็ด ใส่เข้าไปในปากของซูจื่อเหลียง
หันหน้าไปมองซูหนานและคาร์นอตวิลเลียม แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “ดูแลเขาให้ดีๆด้วย!”
พูดจบ หลินหยุนก็ลุกขึ้นยืน กวาดสายตาที่เยือกเย็นไปยังเหล่าผู้คนของสํานักอู๋อิ่ง
ผู้คนทั้งหลายของสำนักอู๋อิ่ง ถูกสายตาของหลินหยุนจ้องมองจนตกใจถึงกับถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว
ภายในคฤหาสน์นั้น หวางซูเฟินและหลินซื่อเฉิงสีหน้าดีใจ “สุดยอดไปเลย ในที่สุดเสี่ยวหยุนก็กลับมาแล้ว!”
ผู้อาวุโสทั้งเก้าคนมองไปยังหลินหยุนด้วยสีหน้าหวาดผวา แล้วไปรวมตัวกันอยู่หน้า บริเวณรอบๆ เจ้าสำนักเย่ซื่อหมิง
บรรดาพวกลูกศิษย์ทั้งหลาย ก็กลับเข้ามาข้างกายเย่ซื่อหมิง ดูไปแล้วก็เหมือนกำลังปกป้องเจ้าสำนักของพวกเขาอยู่ แต่แท้จริงแล้วพวกเขากลัวว่าหลินหยุนจะเข้าโจมตีอีกครั้งต่างหาก
หมัดของหลินหยุนที่ชกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อครู่นั้น มันน่ากลัวจริงๆ!
เย่ซื่อหมิงจ้องหน้าหลินหยุนอย่างเยือกเย็น แล้วตะคอกถามด้วยความโกรธว่า “แกก็คือปรมาจารย์หลินเหรอ?”
“ฉันถามแกหน่อย สำนักอู๋อิ่งของฉันไม่มีความแค้นอะไรกับแกเลย ทำไมถึงต้องมาฆ่าลูกชายฉัน?”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร คำตอบของเขาก็คือหมัดที่สะท้านฟ้า!
“ท่าสยบเขา!”
เย่ซื่อหมิงทำเสียงฮื่อใส่: “หมัดเทพไร่คู่เปรียบ!”
ก็ชกหมัดสวนออกไปหนึ่งหมัดเช่นกัน
โป้ง!
หมัดทั้งสองก็ปะทะกัน เย่ซื่อหมิงถูกกระแทกจนถอยหลังไปหลายก้าว จึงจะยืนทรงตัวไว้ได้
ส่วนเสียงที่ราบเรียบของหลินหยุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง: “ท่าแยกน้ำ””
เย่ซื่อหมิงสีหน้าโกรธจัด ตะโกนเสียงดังตามออกไปว่า: “ฝ่ามือไร้เงา!”
มือทั้งสองของเขาก็สลับกันไปมาอยู่ตรงหน้า ชั่วพริบตาเดียวก็ไล่รำจนกลายเป็นเงาฝ่ามือจำนวนนับหมื่นนับพัน
เงาฝ่ามือที่กระจายทั่วท้องฟ้านั้น แยกไม่ออกเลยว่าอันไหนเป็นของจริง อันไหนเป็นของปลอม พุ่งไปยังหลินหยุนทันที
หลินหยุนไม่ได้หลบหลีกเลย ชกหมัดออกไปยังร่างของเย่ซื่อหมิงหนึ่งที
แต่ว่า ตัวเขาเองก็ถูกหมัดของเย่ซื่อหมิงชกไปหนึ่งทีเช่นกัน
โป้ง!
เย่ซื่อหมิงถูกหลินหยุนชกจนกระอักเลือดกระเด็นถอยออกไป ส่วนเงาร่างของหลินหยุนเพียงแค่สะบัดแวบเดียว เลือดลมภายในร่างกายก็หมุนย้อนทันที บาดแผลเล็กน้อยเช่นนี้ ร่างภูตป่าที่แข็งแกร่งก็ฟื้นฟูขึ้นมาได้ในเวลาอันสั้น
“เจ้าสำนัก!” พวกผู้อาวุโสใหญ่ทั้งหลายต่างก็ตะโกนร้องด้วยความตกใจ
เย่ซื่อหมิงคลานขึ้นมาจากพื้น ตะโกนพูดด้วยสีหน้าที่โกรธจัด: “ผู้อาวุโสใหญ่ วางค่ายกล!”
“ครับ!”
ค่ายกลหลงทางอู๋อิ่งก็ถูกจัดวางใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ด้านหลังนั้น ซูหนานก็พูดเตือนด้วยเสียงเข้มว่า “ระวังนะครับ ค่ายกลนี้สามารถปิดบังสายตาได้!”
หลินหยุนสีหน้าไร้ความรู้สึก กวาดสายตาไปยังลูกศิษย์สำนักอู๋อิ่งที่กระโดดไปมาซ้ายทีขวาทีพวกนั้น แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “ฝีมือกระจอก!”
แสงประกายสีแดงพุ่งออกมาจากกลางกระหม่อมของหลินหยุน ดาบเฮ่าเทียนส่งเสียงร้องเบาๆ แล้ววนเวียนอยู่เหนือศีรษะหลินหยุนขึ้นไปสามฟุต
เงาร่างของหลินหยุนก็หายไปจากตำแหน่งเดิม เงาร่างจางๆของยักษ์ตนหนึ่ง พุ่งทะยานสู่ กลางอากาศ สูงราวกับภูเขา
“เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์……”
เสียงคนแก่ที่เยือกเย็น ดังสนั่นอยู่กลางอากาศ ราวกับเสียงฟ้าร้อง
ยักษ์ตัวนั้นถือดาบด้ามยาว เล็งไปยังค่ายกลหลงทางอู๋อิ่ง แล้วฟันลงไปหนึ่งที
ราวกับแสงออโรราที่ยิงมาจากสุดขอบฟ้า จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นประกายแสงดาบคมกริบที่สะท้านฟ้าในชั่วพริบตา
ความรุนแรงของดาบนั้น ดูราวกับว่าจะผ่าโลกให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
โครม!
พังทลายลงอย่างง่ายดาย
ค่ายกลหลงทางอู๋อิ่งก็ถูกดาบเฮ่าเทียนฟันจนแตกกระเจิงไปเลย
พวกลูกศิษย์ทั้งหลายที่ยืนขวางอยู่ตรงหน้าประกายแสงดาบนั้น ล้วนแหลกละเอียดกลายเป็นเถ้าถ่าน
แม้แต่ผู้อาวุโสสามคนในนั้น ก็ถูกหลินหยุนฆ่าตายด้วยการฟันดาบเพียงครั้งเดียว
เพียงแค่กระบวนท่าดาบเพลงเดียวเท่านั้น แทบจะสังหารคนของสำนักอู๋อิ่งไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
เย่ซื่อหมิงมองด้วยความโกรธแค้น ขณะเดียวกันในใจก็รู้สึกหวาดผวา
เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่า พละกำลังของปรมาจารย์หลินถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้!
ลูกศิษย์ของสำนักอู๋อิ่งที่เหลือพวกนั้น ถึงกับตกใจจนคลานลงไปบนพื้น แล้วก้มลงกราบไหว้หลินหยุน
“ท่านเทพเซียนโปรดไว้ชีวิตด้วย!”
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว เย่ซื่อหมิงด่าทอด้วยความโกรธว่า: “พวกแกไอ้ทรยศพวกนี้ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
อย่าว่าแต่พวกลูกศิษย์พวกนั้นเลย แม้แต่ในบรรดาผู้อาวุโสจำนวนหลายคน ตอนนี้ตกใจจนขาทั้งสองข้างกำลังสั่นอยู่เลย
เพลงดาบเมื่อครู่นี้ มันน่ากลัวจริงๆ!
อาจไม่แน่ เพลงดาบนั้นเป็นเวทมนตร์ของเทพเซียนที่แท้จริงก็ได้!
หลินหยุนเล็งไปยังเย่ซื่อหมิงที่กำลังตะโกนโหวกเหวกอยู่ แล้วฟาดดาบลงไปอีกหนึ่งที!
เย่ซื่อหมิงตกใจมาก รีบตั้งรับต่อสู้ขัดขวาง แต่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่นี้แล้ว ตอนนี้เหลือพละกำลังระดับสูงสุดเพียงสามแค่ส่วนเท่านั้น
เขาไม่สามารถที่จะต้อนรับเพลงดาบของหลินหยุนนี้ได้แล้ว
โป้ง!
ร่างของเย่ซื่อหมิงถูกฟันจนกระเด็นลอยออกไป แล้วไปตกลงตรงหน้าประตูทางเข้าลานบ้านของคฤหาสน์
อ้วก!
แล้วกระอักเลือดออกมา จากนั้นเย่ซื่อหมิงก็ตะโกนไปยังลูกศิษย์สำนักอู๋อิ่งที่เหลือพวกนั้น ด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า “บุกเข้าไปพร้อมกัน ขวางเขาไว้!”
พอพูดจบ เย่ซื่อหมิงก็ใช้มือกุมหน้าอกไว้ หันหลังกลับแล้วรีบวิ่งลงไปยังเชิงเขาอย่างไม่คิดชีวิต
ถึงกับคิดจะหนีแล้ว!
เมื่อลูกศิษย์สำนักอู๋อิ่งพวกนั้นเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ก็รีบวิ่งหนีเอาตัวรอดกันหมด
หลินหยุนไม่ได้ไปสนใจลูกศิษย์ของสำนักอู๋อิ่งพวกนั้น แต่กลับวิ่งไล่ตามเย่ซื่อหมิงไป
ผ่านไปไม่นานนัก ก็สามารถมายืนขวางอยู่ตรงหน้าเย่ซื่อหมิงแล้ว
“ไปตายซะ!”
ดาบเฮ่าเทียนเปล่งประกายแสงสีแดงออกมา จากนั้นก็ทำลายชี่แท้ป้องกันตัวของเย่ซื่อหมิง แล้วแทงทะลุเข้าไปยังหน้าอกของเขา
เย่ซื่อหมิงมองดูเลือดที่ไหลออกจากหน้าอกตัวเองด้วยความมึนงง ชี้หน้าหลินหยุนด้วยสีหน้าที่ไม่ยอมแพ้: “ทำไม…….”
หลินหยุนมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย: “ฉันไม่ได้ฆ่าลูกชายแก”
“แต่ว่าแกบุกล้อมทะเลสาบเย่วหยาของฉัน ต้องตาย!”
สีหน้าของเย่ซื่อหมิงเคว้งคว้าง ตายอย่างมึนงงไม่รู้อีโหน่อีเหน่
ในเมื่อหลินหยุนไม่ใช่เป็นคนฆ่าลูกชายเขา แล้วทำไมหลินหยุนไม่ยอมอธิบายล่ะ?
เย่ซื่อหมิงไม่รู้เลยว่า มีคนบางประเภทที่เวลาทำงาน มักจะไม่สนใจที่จะอธิบายให้ใครเข้าใจทั้งนั้น
เมื่อสังหารเย่ซื่อหมิงแล้ว หลินหยุนก็วิ่งตรงไปยังผู้อาวุโสพวกนั้น
ผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักอู๋อิ่ง รวมทั้งลูกศิษย์ทั้งหลาย ใครก็ตามที่บุกเข้ามาในบริเวณเขตคฤหาสน์ตึกว่างเย่ว ล้วนถูกหลินหยุนสังหารจนหมดสิ้น
คราวนี้ หลินหยุนโกรธจริงๆแล้วด้วย
ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นกับแม่แก่ของตัวเองและปู่ของเขาละก็ หลินหยุนถึงจะต้องตายอีกหมื่นครั้งก็ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้!
หลินหยุนยังแค้นใจที่ฆ่าคนพวกนี้ไม่มากพอ จะต้องฆ่าจนคนพวกโลกบู๊โบราณเมื่อได้ยินชื่อปรมาจารย์หลินแล้วก็ต้องตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เช่นนี้แล้วต่อไปเมื่อเวลาที่พวกเขาคิดจะออกมาหาเรื่องอีกละก็ ควรจะไต่ตรองดูพละกำลังของตัวเองให้ดีเสียก่อน
เมื่อจัดการคนของสำนักอู๋อิ่งเรียบร้อยแล้ว หลินหยุนก็กลับเข้าไปในคฤหาสน์
ภายในห้องรับแขก หวางซูเฟินและหลินซื่อเฉิงกำลังนั่งรอหลินหยุนอยู่
เมื่อเห็นหลินหยุนกลับมาแล้ว ทั้งสองคนก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน
“เสี่ยวหยุน นายได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?” หลินซื่อเฉิงถามด้วยความเป็นห่วง
สายตาหลินหยุนกวาดไปยังหลินซื่อเฉิงและหวางซูเฟิน สามารถรับรู้ถึงความห่วงใยภายในจิตใจของทั้งสองคนได้
“ผมไม่เป็นไรครับ ทำให้พวกท่านตกใจหรือเปล่า?”
หลินซื่อเฉิงหัวเราะ “เสี่ยวหยุน นายคิดว่าปู่เป็นคนยังไงล่ะ? อันตรายนิดเดียวแค่นี้ ไฉนเลยจะทำให้ปู่อย่างฉันตกใจได้!”
หวางซูเฟินยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน โชคดีที่ยังมีพวกซูจื่อเหลียงทั้งสามคน พวกเขาช่วยขัดขวางคนของสำนักอู๋อิ่งไว้ข้างนอกมาโดยตลอด”
“อีกประเดี๋ยวแกต้องไปขอบคุณพวกเขาด้วยนะ!”
“ครับ” หลินหยุนพยักหน้า คราวนี้พวกซูจื่อเหลียงทั้งสามคนมีความดีความชอบไม่น้อยเลยจริงๆ