จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 846 สำนักอัคคีที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะประเมินผู้หญิงคนนี้สูงขึ้นทันที
สามารถมองเห็นความพิเศษบนตัวหลินหยุน แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่มีสายตาเฉียดแหลม
ในเวลานี้ จู่ๆก็มีเสียงดังวุ่นวายในฝูงชนอย่างกะทันหัน
มีคนพูดจาเย่อหยิ่งอวดดี:”สำนักอัคคีอยู่ตรงนี้ ถ้าอยากจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องเข้าร่วมกับทีมสำนักอัคคีของพวกเรา!”
เก้าสำนักใหญ่ สี่สำนักรอง เจ็ดสาขาของโลกบู๊ และสำนักอัคคีคือหนึ่งในนั้น
เมื่อสำนักอัคคีเป็นหนึ่งในเก้าสำนักใหญ่ ความแข็งแกร่งของสำนักอัคคีนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
เกิดความกลโหลขึ้นในหมู่ฝูงชน มีคนตะโกนด้วยความตกใจ:”สำนักอัคคีมาแล้ว!”
มีชายชราคนหนึ่ง เดินมาพร้อมกับลูกศิษย์สิบกว่าคน พวกเขาเดินเข้ามาด้วยความหยิ่งยโส เดินอย่างไม่เกรงใจใคร
ในฝูงชน มีนักบู๊จำนวนมากเดินถอยหลัง ไม่กล้าต่อกรกับพวกเขา
หลินหยุนได้ยินผู้หญิงที่อยู่ข้างๆบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงเบาๆ:”หึ คนของสำนักอัคคี ช่วงนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งอวดดีมากเกินไปแล้ว”
จากคำพูดนี้ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ผู้หญิงคนนี้รู้จักสำนักอัคคีเป็นอย่างดี
“คุณจะเข้าร่วมกับทีมสำนักอัคคีของพวกเราหรือเปล่า?”มีลูกศิษย์วัยรุ่นคนหนึ่ง ตะโกนใส่นักบู๊วัยกลางคนคนหนึ่งด้วยความหยิ่งยโส
นักบู๊วัยกลางคนตอบด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆ:”ฉันเต็มใจ การได้เข้าร่วมกับทีมสำนักอัคคี เป็นความโชคดีของฉัน!”
ความแข็งแกร่งของเก้าสำนักใหญ่ ไม่ใช่สำนักเล็กๆในโลกบู๊จะเทียบได้ เพราะพวกเขาเป็นเสาหลักของโลกบู๊
ถึงแม้หลายสิบปีมานี้ เก้าสำนักใหญ่ จะไม่ได้มีลูกศิษย์ที่โดดเด่นมากๆ และพวกเขากลับถูกชื่อเสียงของเทพกระบี่ เทพแห่งทวน เทพแห่งสงครามบดบัง ทำให้พวกเขาไม่มีชื่อเสียงเลย
แต่พวกเขาเป็นสำนักอันดับต้นๆของโลกบู๊ และสำนักของพวกเขาก็มีความแข็งแกร่งมากๆ แม้แต่ตอนที่เทพกระบี่และเทพสงครามอยู่ในช่วงที่แข็งแกร่งที่สุด แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับคนของเก้าสำนักใหญ่
ลูกศิษย์ของสำนักอัคคีคนนั้น แสดงความภาคภูมิใจ ชี้และตะโกนไปยังคนอื่นๆ:”พวกคุณละ จะยอมเข้าทีมสำนักอัคคีของพวกเราไหม?”
คนที่ถูกเขาชี้หน้า น้อยคนนักที่จะกล้าพูดปฏิเสธ
ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้รับยาวิเศษไหม ถ้ากล้าพูดปฏิเสธแล้วล่วงเกินผิดใจกับสำนักอัคคี ในอนาคตพวกเขาอยู่ในโลกบู๊ก็คงกลายเป็นเรื่องลำบาก
ทีมของสำนักอัคคีใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จากตอนแรกที่มีเพียงสิบกว่าคน ตอนนี้มีตั้งหลายสิบคน
และตรงนี้ยังมีคนอีกร้อยกว่าคน คนของสำนักอัคคีต้องการให้คนที่อยู่ที่นี่อีกร้อยกว่าคนเข้าร่วมทีมสำนักอัคคีของพวกเขา
ถ้าเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องพูดก็รู้ ไม่ว่าใครได้ยาวิเศษ ยาวิเศษก็จะกลายเป็นของสำนักอัคคีทันที
จุดประสงค์ของสำนักอัคคี ไม่ต้องพูดก็รู้
จุ่ๆหลินหยุนก็หันหน้าไปมองผู้หญิงคนนั้นและถามว่า:”เมื่อสักครู่เธอเชิญฉันเข้าร่วมกับทีมของเธอใช่ไหม?”
ผู้หญิงคนนั้นอึ้งไปสักครู่ เธอไม่ค่อยเข้าใจความหมายของหลินหยุน ทำไมจู่ๆเขาถึงถามคำถามนี้ออกมา?
แต่เธอก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว:”ใช่แล้ว ฉัน……”
ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ทันได้ถามออกมา หลินหยุนก็พูดทันที:”ฉันเต็มใจ เข้าร่วมทีมของเธอ”
“เอ่อ……”ผู้หญิงมองไปที่หลินหยุน เธอกรอกตาขาว:”ตอนนี้คุณตกลงก็ไม่มีประโยชน์หรอก? อีกเดี๋ยวคนของสำนักอัคคีก็จะบังคับให้พวกเราเข้าร่วมกับทีมของพวกเขา!”
หลินหยุนมองคนของสำนักอัคคี เขาหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ไม่ได้ตอบอะไรเลย
ในเวลานี้ ด้านหน้าที่เป็นพื้นที่ราบ จู่ๆก็มีควันพุ่งขึ้นมา
“อ๊าก เกิดเรื่องอะไรขึ้น? พื้นดินมีควันพุ่งออกมาได้ยังไง!”
“ยาวิเศษกำลังจะโตเต็มที่แล้วเหรอ?”
มีนักบู๊อุทานออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า มองไปที่ชายชราที่อธิบายให้พวกเขาเข้าใจ
ชายชราที่มีความรู้มากๆ พยักหน้าและพูด:”ใช่แล้ว แต่ตอนนี้มันยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ ถ้าเพลิงไฟใต้ดินพุ่งขึ้นมาอีก ยาวิเศษก็จะเติบโตอย่างสมบูรณ์”
“ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว ยาวิเศษใกล้จะเติบโตอย่างสมบูรณ์แล้ว ทุกคนรีบๆเตรียมตัวได้แล้ว!”
หลินหยุนหรี่ตาตัวเอง คนอื่นๆอาจจะรู้สึกว่าคำพูดของชายชรานั้นถูกต้อง แต่หลินหยุนกลับรู้สึกได้จากคำพูดของเขา เหมือนเขากำลังยั่วยุทุกคนอยู่
เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ ลูกศิษย์เหล่านั้นของสำนักอัคคี ใช้อำนาจบาตรใหญ่ในการข่มขู่นักบู๊คนอื่นๆให้เข้าร่วมกับทีมของพวกเขา
มีนักบู๊สองคนไม่ยอมเข้าร่วม กลับถูกผู้อาวุโสของสำนักอัคคีฆ่าตายทันที
ในเวลานี้ นักบู๊ที่เหลือ ก็ไม่มีใครกล้าพูดปฏิเสธอีก
ผ่านไปเพียงชั่วครู่ ลูกศิษย์คนหนึ่งของสำนักอัคคี เดินมาถึงด้านหน้าของหลินหยุนกับผู้หญิงคนนั้น ถามด้วยความหยิ่งยโส:”เข้าร่วมทีมของพวกเรา หรือไม่ก็จากไปตั้งแต่ตอนนี้”
หลินหยุนยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูด ผู้หญิงคนนั้นก็พูดอย่างเย็นชา:”คนของสำนักอัคคีอวดดีมากเกินไปแล้ว ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของสำนักอัคคี พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเรา!”
ลูกศิษย์คนนั้นจ้องเขม็งไปที่ผู้หญิง เขาไม่ได้อ่อนโยนต่อสตรีเลย เขาพูดข่มขู่ทันที:”เธอหาเรื่องตายใช่ไหม!”
ผู้หญิงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา:”ฉันจะไม่เข้าร่วมกับพวกคุณ และฉันก็ไม่ออกไปจากที่นี่เหมือนกัน”
“ฉันจะดูสิว่าคุณกล้าทำอะไรฉันหรือเปล่า!”
ความกล้าและเด็ดเดี่ยวของผู้หญิง ทำให้ทุกคนอึ้งไปเลย
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอ? เธอกล้ามากที่พูดแบบนี้กับคนของสำนักอัคคี!”
“หึ เป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่กลัวตายจริงๆ! ในเวลานี้กล้าล่วงเกินผิดใจกับคนของสำนักอัคคี หาเรื่องตายชัดๆ?”
“เฮ้อ เสียดายผู้หญิงที่สวยๆคนนี้มากๆ เธอใกล้จะตายแล้ว!”
มีคนตกตะลึง มีคนรู้สึกเสียดาย มีคนยิ้มเยาะเย้ย แต่ไม่มีใครกล้าเดินออกมา และต่อสู้กับสำนักอัคคีพร้อมกัน
ผู้อาวุโสของสำนักอัคคีและลูกศิษย์คนอื่นๆ ก็มองมาที่ผู้หญิงคนนี้ทันที
โดยเฉพาะผู้อาวุโสของสำนักอัคคี สีหน้าของเขาเย็นชาและน่ากลัวมากๆ
“เธออยากตายใช่ไหม!”ลูกศิษย์คนนั้นรู้สึกโกรธมากๆ และชกหมัดไปที่หน้าอกของเธอทันที
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกอายมากๆ :”ถุย ไอ้ลามก!”
จากนั้นเธอก็ต่อยออกไปทันที
กร๊อบแกร๊บ!
“อ๊าก!”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ลูกศิษย์คนนั้นของสำนักอัคคี แขนหักไปข้างหนึ่งทันที
ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะดูอ่อนแอ แต่ด้วยความแข็งแกร่งขั้นพรสวรรค์สูงสุด เธอมีความแข็งแกร่งมากจริงๆ
ลูกศิษย์ของสำนักอัคคีคนนั้นอยู่แค่ขั้นพรแสวงสูงสุด เขาสู้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ผู้หญิงคนนี้จะกล้าลงมือต่อหน้าผู้อาวุโสและคนของสำนักอัคคีจริงๆ
“เธอทำร้ายลูกศิษย์ของสำนักอัคคีต่อหน้าของฉัน เธอกล้ามากๆ!”
ผู้อาวุโสของสำนักอัคคีตะโกนด้วยความโกรธ ทะยานขึ้นฟ้าเหมือนกับนกตัวใหญ่ที่อยู่กลางอากาศ เขาก็เปลี่ยนมือเป็นกรงเล็บและจับไปที่ผู้หญิงคนนั้นทันที
เขาอยู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด ผู้หญิงคนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับเขา เธอไม่มีทางสู้กับเขาได้เลย
ในขณะที่หลินหยุนจะลงมือช่วย จู่ๆเขาก็มองไปด้านหลัง
มีเงาสีขาวพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และทะยานขึ้นไปปะทะกับผู้อาวุโสของสำนักอัคคี
ตูม
ทั้งสองคนปะทะกันหนึ่งครั้ง และทั้งสองคนก็ถอยหลังทันที
“ชิ่งกั๋วถัย คุณมันหน้าไม่อาย ด้วยฐานะของคุณ กล้าลงมือกับลูกศิษย์คนหนึ่งของสำนักเฟยอวิ๋น!”ชายวัยกลางคนใส่เสื้อขาวลงมาถึงพื้น เขาก็ด่าผู้อาวุโสห้าของสำนักอัคคีด้วยสีหน้าที่โกรธจัด
“เว่ยซิวหมิง เป็นคุณนี่เอง!”ชิ่งกั๋วถัยก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนรู้จักกัน
ในหมู่ฝูงชนมีคนพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ:”เขาคือเว่ยซิวหมิง เป็นอาวุโสรองของสำนักเฟยอวิ๋น!”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกศิษย์ของสำนักเฟยอวิ๋นที่เป็นหนึ่งในสำนักใหญ่นี่เอง! ไม่แปลกใจเลยที่เธอกล้าต่อกรกับสำนักอัคคี!”
“ฉันยังนึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวตายจริงๆ ที่ไหนได้เธอเป็นลูกศิษย์ของสำนักเฟยอวิ๋นนี่เอง!”
ในฝูงชน มีนักบู๊จำนวนมากมองผู้หญิงคนนี้ด้วยสายตาอิจฉา
เว่ยซิวหมิงมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น พูดด้วยสีหน้าที่โกรธ:”หลิงเอ๋อ เธอทำเรื่องบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว ถ้าวันนี้ฉันมาไม่ทัน เธอก็คงจะตายอยู่ที่นี่แล้ว!”
เดี๋ยวฉันจะกลับไปพูดเรื่องนี้กับพ่อของเธอ ดูสิว่าพ่อของเธอจะลงโทษเธอยังไง!”
ผู้หญิงพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน:”ลุงเว่ย ฉันแค่สงสัยก็เลยเข้ามาดู คุณอย่าบอกคุณพ่อได้ไหม ถ้าบอกคุณพ่อ ฉันก็คงไม่ได้ออกจากบ้านอีกแน่นอน!”
ชิ่งกั๋วถัยจ้องเว่ยซิวหมิงด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า:”เว่ยซิวหมิง สำนักเฟยอวิ๋นของพวกคุณก็ให้ความสนใจกับยาวิเศษของที่นี่เหรอ?”