จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 849 ต่อสู้กับงูยักษ์
งูยักษ์ที่มีรูปร่างใหญ่ขนาดนี้ โดยปกติมันจะปรากฏตัวแค่ในเขตป่าร้อนชื้น
แต่ตอนนี้มันกลับปรากฏตัวที่ชายแดนฝั่งตะวันตกของประเทศจีน
มันต้องมีเรื่องอะไรผิดปกติแน่นอน ไม่ต้องถามก็รู้ งูยักษ์ตัวนี้คือสัตว์ทิพท์ที่คอยคุ้มครองยาวิเศษต้นนั้นอย่างแน่นอน
แต่ว่ายาวิเศษอยู่ไหนละ?
นักบู๊ทั้งหลายไม่กล้าเดินเข้าไป สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
งูยักษ์ที่มีรูปร่างใหญ่ขนาดนี้ มีเกล็ดที่แข็งแกร่งมากๆ แม้แต่พลังของนักบู๊ขั้นแดนพรสวรรค์ ก็ไม่อาจจะทำลายเกล็ดอันแข็งแกร่งของมันได้
“งูยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ มันเป็นปีศาจแล้วใช่ไหม!”
“ถึงแม้จะไม่ใช่ปีศาจจริงๆ แต่ก็คงใกล้จะถึงขั้นนั้นแล้ว!”
“แต่มันนอนขดตัวอยู่ตรงนั้น พวกเราจะไปเอายาวิเศษยังไง?”
นักบู๊ทุกคนขมวดคิ้วและคุยกัน
ผู้อาวุโสชิ่งกั๋วถัยของสำนักอัคคี ใช้สายตามองเว่ยซิวหมิงของสำนักเฟยอวิ๋นทันที
เว่ยซิวหมิงก็มองไปที่เขาเหมือนกัน
จู่ๆชิ่งกั๋วถัยก็จับนักบู๊วัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆตัวเอง ยกขึ้นมาเหมือนเขาเป็นลูกไก่ จากนั้นก็โยนนักบู๊คนนั้นลงไปที่งูยักษ์อยู่ทันที
“อ๊าก!”
นักบู๊คนนั้นกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
งูยักษ์ที่นอนขดตัวอยู่ จู่ๆก็ขยับตัวทันที
การเคลื่อนไหวของมันไม่มีเสียงเลย แต่การเคลื่อนไหวของมันนั้นเร็วมากๆ
มันอ้าปากขนาดใหญ่และกลืนนักบู๊คนนั้นเข้าไปทันที
การเคลื่อนไหวของมัน ใช้เวลาเพียงแค่นิดเดียว
นักบู๊ทุกคนมองเห็นเหตุการณ์นี้แล้วอึ้งทันที
มีคนจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกเสียงเลย และมันก็เงียบอย่างน่ากลัว
ผ่านไปสักพัก จู่ๆก็มีนักบู๊คนหนึ่งวิ่งไปทางด้านข้างทันที
นักบู๊คนนั้นอ้วกออกมาทันที
“ไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้ กลืนคนเข้าไปเลย!”
เมื่อเห็นงูยักษ์ขยับท้องของตัวเอง สามารถคาดเดาได้เลยว่าไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนี้กำลังย่อยสลายนักบู๊คนนั้นที่กลืนเข้าไปอย่างแน่นอน
“ดูสิ ด้านบนของเสาหินสีน้ำตาลที่อยู่ตรงกลางของงูยักษ์ มีหญ้าสีแดงต้นหนึ่งอยู่!”
“มันน่าจะเป็นยาวิเศษแน่ๆ?”
“ตรงนี้เป็นภูเขาหัวโล้น มีหญ้าเพียงต้นเดียว มันต้องเป็นยาวิเศษที่พวกเราตามหาอย่างแน่นอน!”
หลินหยุนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อมองเห็นต้นหญ้าสีแดงนี้แล้ว สายตาของเขาขยับเล็กน้อย:”เป็นหญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงจริงๆด้วย!”
สายตาของหลินหยุนสังเกตลักษณะภูมิประเทศโดยรอบ
ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่แปลกมากๆ ดูเหมือนมันจะเป็นหน้าผา แต่หน้าผานี้มันลื่นและเงาเหมือนกระจก
และดินของหน้าผานี้โดนเผาไหม้ตลอดเวลา ทำให้ดินแข็งมากๆ เหมือนกับเครื่องปั้นดินเผา
“ตรงนี้น่าจะเป็นที่พักอาศัยของมังกรคบเพลิง มีเพียงที่พักอาศัยของมังกรคบเพลิงเท่านั้นถึงจะมีดินที่แข็งมากๆอย่างนี้
“แต่ตรงนี้ไม่ใช่แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรแห่งฟ้าดิน ทำไมมังกรคบเพลิงต้องพักอาศัยอยู่ตรงนี้ด้วย?”
มังกรคบเพลิงเป็นสัตว์ดุร้ายและแข็งแกร่งมากๆ ถ้ามันอาศัยอยู่ที่ไหนนานๆ แปลว่าสถานที่นั้นๆต้องมีสิ่งของที่มันสนใจและอยากได้
แต่หลินหยุนสังเกตลักษณะภูมิประเทศแล้ว มันเป็นแค่ภูเขาธรรมดา มันน่าจะไม่มีสิ่งของที่ดึงดูดความสนใจของมังกรคบเพลิงได้
“ทำยังไงดี ? งูยักษ์ตัวนี้ดุร้ายมากๆ มันต้องเป็นสัตว์ทิพท์ที่คอยปกป้องยาวิเศษต้นนั้นอย่างแน่นอน!”
“ช่างมันเถอะ เราไม่อยากได้แล้ว ถึงแม้ยาวิเศษจะเป็นของดี แต่ชีวิตสำคัญกว่า!”
นักบู๊จำนวนมากผิดหวังและส่ายหัว พวกเขาเริ่มถอยหลัง
ชิ่งกั๋วถัยมองไปที่งูยักษ์ จู่ๆก็พูดอย่างเย็นชา:”ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ฉันจะไปสู้กับแกเอง!”
ขณะพูด เขาก็กระโดดขึ้นกลางอากาศและต่อยหมัดใส่งูยักษ์ทันที
ความเร็วของงูยักษ์น่ากลัวมากๆ และการเคลื่อนไหวของมันก็ไม่เกิดเสียงอะไรเลย มันอ้าปากกว้างๆและกัดไปที่ชิ่งกั๋วถัย
ชิ่งกั๋วถัยมีพลังที่แข็งแกร่งและเตรียมตัวมาแล้ว และต่อยหมัดเข้าไปที่ลำคอของงูยักษ์ทันที
ตู๊ม!
งูยักษ์ถูกหมัดของชิ่งกั๋วถัยโจมตีจนต้องถอยหลังออกไป
แต่ชิ่งกั๋วถัยก็โดนแรงกระแทกจนต้องถอยหลังเหมือนกัน และถอยหลังไปหลายก้าวถึงจะสามารถหยุดได้
หลังจากตกลงพื้นแล้ว งูยักษ์ก็คำรามออกมา น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยความโกรธ ดูเหมือนมันกำลังข่มขู่ชิ่งกั๋วถัยอยู่
ชิ่งกั๋วถัยไม่ได้พุ่งไปข้างหน้าอีก เขาหั่นหลังและมองไปที่เว่ยซิวหมิง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:”ไอ้เดรัจฉานตัวนี้แข็งแกร่งมากๆ ฉันคนเดียวเอาชนะมันไม่ได้ พวกเราสองคนร่วมมือกันฆ่ามันก่อน จากนั้นค่อยแย่งยาวิเศษกัน คุณคิดว่าไง?”
เว่ยซิวหมิงพูด:”ฉันก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน”
“งั้นก็ลงมือพร้อมกันเลย!”
ชิ่งกั๋วถัยหยิบมีดสั้นออกมาจากร่างกายตัวเอง มีดสั้นนั้นยาวประมาณ1ฟุตกว่าๆ มีดสั้นเปล่งแสงสีแดงจางๆออกมา ทำให้คนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัวทันที แค่มองก็รู้ว่ามีดสั้นเล่มนี้ไม่ใช่มีดสั้นธรรมดาอย่างแน่นอน
เว่ยซิวหมิงรู้สึกตกใจเล็กน้อย สายตามีความอิจฉาเล็กน้อย:”เขาเอาเดชขนนกยูงออกมาด้วย”
ชิ่งกั๋วถัยหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ:”แล้วแส้มังกรเพลิงเจ็ดท่อนของคุณละ?”
เว่ยซิวหมิงเอามือไปจับเอว แล้วสะบัด:”อยู่นี่ไง!”
“งั้นก็ลงมือเลย!”
ชิ่งกั๋วถัยหันหลังและมองไปที่งูยักษ์ สายตาของเขามีแต่ความเย็นชา:”ไอ้เดรัจฉานอย่างแก กล้าขวางฉันเอายาวิเศษ แกสมควรตาย!”
ชิ่งกั๋วถัยอยู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว และมีอาวุธเดชขนนกยูงอยู่ในมือ ถึงแม้งูยักษ์ตัวนี้จะต่อกรด้วยยาก แต่ชิ่งกั๋วถัยไม่ได้มองงูยักษ์ตัวนี้อยู่ในสายตาเลย
“ฉันจะไปสู้กับมันแล้ว”ชิ่งกั๋วถัยมองไปที่เว่ยซิวหมิง ดูเหมือนเขากำลังแสดงความจริงใจ ก็เลยลงมือก่อน
เว่ยซิวหมิงตะโกนทันที:”ฉันก็จะลงมือเหมือนกัน!”
ยอดฝีมือปรมาจารย์ขั้นสูงสุดสองคน ร่วมมือกันต่อสู้กับงูยักษ์
หลินหยุนสองมือไขว้หลัง มองยอดฝีมือสองคนสู้กับงูยักษ์ ถ้าดูจากพลังของงูยักษ์ในตอนนี้ ยอดฝีมือสองคนร่วมมือกันน่าจะฆ่างูยักษ์ได้อย่างสบาย
แต่หลินหยุนรู้สึกว่างูยักษ์ตัวนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน บางทีมันอาจจะซ่อนพลังทั้งหมดเอาไว้ก็เป็นไปได้
สายตาของหลินหยุนคอยสังเกตบริเวณโดยรอบตลอดเวลา เขาพบว่าชายชราที่อธิบายเรื่องต่างๆให้ทุกคนฟัง ไม่ได้ตามมาด้วย
ถ้าชายชราต้องการยาวิเศษจริงๆและมาที่นี่ มันก็ไม่สมเหตุสมผลเลย
เห็นได้อย่างชัดเจน ชายชราคนนั้นต้องมีจุดประสงค์อื่นอย่างแน่นอน
เพียงแต่เขามาที่นี่ทำไม หลินหยุนก็เดาไม่ออกเหมือนกัน
ชิ่งกั๋วถัยกับเว่ยซิวหมิงกำลังต่อสู้กับงูยักษ์อยู่
เป็นเหมือนอย่างที่หลินหยุนคาดคิด ทั้งสองคนร่วมมือสามารถเอาชนะงูยักษ์ได้อย่างสบาย
งูยักษ์โดนทำร้ายจนคำรามออกมาด้วยความโกรธครั้งแล้วครั้งเล่า
นักบู๊เหล่านั้น เมื่อเห็นว่าชิ่งกั๋วถัยกับเว่ยซิวหมิงสองคนกำลังจะเอาชนะงูยักษ์ได้ ทุกคนก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ไอ้เดรัจฉานตัวนี้แค่ตัวใหญ่เฉยๆ พลังของมันธรรมดามากๆ”
“ไม่ใช่งูยักษ์มีพลังที่ธรรมดาเกินไป แต่เพราะผู้อาวุโสของสำนักเฟยอวิ๋นกับสำนักอัคคีแข็งแกร่งมากๆต่างหาก”
“ใช่แล้ว พลังของทั้งสองคน แข็งแกร่งมากๆเลย!”
ชิ่งกั๋วถัยตะโกนทันที:”ฆ่ามันตายเดี๋ยวนี้ อย่าเสียเวลาอีกเลย”
เว่ยซิวหมิงพูด:”ได้!”
ในขณะที่พวกเขาสองคนกำลังจะใช้ท่าไม้ตาย เพื่อฆ่างูยักษ์
งูยักษ์รู้สึกได้ถึงอันตราย มันคำรามใส่ท้องฟ้าทันที
จากนั้น ก็มีพลังที่น่ากลัวถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของงูยักษ์ทันที
“เกิดอะไรขึ้น!”
“ไอ้เดรัจฉานตัวนี้มันซ่อนพลังของตัวเองไว้!”
ชิ่งกั๋วถัยกับเว่ยซิวหมิงรีบถอยหลังทันที และมองงูยักษ์อยู่ไกลๆด้วยสีหน้าตกใจ
นักบู๊เหล่านั้น ก็ตกใจกลัวจนรีบถอยหลังไปหลายเมตร มองงูยักษ์ที่กำลังปลดปล่อยพลังออกมาด้วยสีหน้าตกใจ
“ใช่จริงๆเหรอ ไอ้เดรัจฉานตัวนี้รู้จักซ่อนพลังตัวเองด้วยเหรอ!”
“พลังของมันในตอนนี้ แข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสสองคนอีก!”
“โอ้พระเจ้า ไอ้เดรัจฉานตัวนี้มันฝึกถึงขั้นแดนเทพแล้วเหรอ!”
นักบู๊ต่างๆพูดคุยกันทันที สำหรับพลังที่งูยักษ์ปลดปล่อยออกมา ทำให้พวกเขาตกใจมากๆ
สีหน้าของชิ่งกั๋วถัยและเว่ยซิวหมิงเริ่มมีความตึงเครียดมากขึ้น
เว่ยซิวหมิง คิดไม่ถึงจริงๆว่าไอ้เดรัจฉานตัวนี้จะซ่อนพลังของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้พลังของมันสูงกว่าพวกเราสองคนแล้ว”
“ถ้าพวกเราอยากจะฆ่ามัน คงต้องใช้เวลาและพลังทั้งหมดแล้ว”
เว่ยซิวหมิงมองไปที่นักบู๊ทุกคนที่อยู่ในนี้ เขาหัวเราะและพูดอย่างเย็นชา:”กลัวอะไร พวกเรามีคนตั้งเยอะ พวกเราใช้พลังของทุกคนค่อยๆฆ่ามันให้ตาย!”
ชิ่งกั๋วถัยหัวเราะออกมา:”งั้นก็ลงมือพร้อมกัน!”
เว่ยซิวหมิงก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์:”ลงมือพร้อมกัน”