จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 852 หลินหยุนลงมือ
ในสำนักชิงชาง ตี๋ซานถิงมีฉายาว่า นักฆ่ากำจัดประไพนาง
ชายคนนี้ชอบเด็กสาวสวย ๆ มากเป็นพิเศษ เด็กสาวจำนวนมากต่างเคยถูกเขาจับมาทรมาน
ยิ่งเด็กสาวที่มีฐานะไม่ธรรมดา ก็ยิ่งเป็นที่โปรดปรานของตี๋ซานถิงมากเป็นพิเศษ
เขามองแวบเดียวก็รู้ว่าฐานะของหานหลิงเอ๋อนั้นไม่ธรรมดา อาจเป็นคุณหนูหัวแก้วหัวแหวนของสำนักเฟยอวิ๋นก็ได้
นี่ทำให้หานหลิงเอ๋อรู้สึกสนใจในตัวหานหลิงเอ๋อขึ้นมาทันที
ตามหลักแล้ว ด้วยอายุของตี๋ซานถิง สามารถเป็นคุณปู่ของหานหลิงเอ๋อได้แล้ว แต่ว่า เนื่องจากเขาฝึกวิชาบู๊ ตี๋ซานถิงจึงดูเหมือนคนอายุห้าสิบกว่า ร่างกายแข็งแรงกำยำมาก
เมื่อเห็นสายตาอันชั่วร้ายของตี๋ซานถิง หานหลิงเอ๋อก็ตกใจทันที จนถอยหลังไปอย่างอดไม่ได้
เว่ยซิวหมิงรีบเอาตัวบังหานหลิงเอ๋อไว้ด้านหลัง แล้วยิ้มพลางเอ่ยพูดกับตี๋ซานถิงว่า : “ท่านอย่าถือสาเด็กเลยนะ ยาวิเศษอยู่ด้านหน้านี้เอง ไปเอายาวิเศษก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
“ไม่รีบ ยาวิเศษค่อยเอาก็ได้ แต่สาวงามอยู่ตรงหน้า ถ้าหากไม่ได้ใช้การให้หนำใจ จะไม่เสียของหรอกเหรอ?” ตี๋ซานถิงยิ้มอย่างชั่วร้ายพลางเดินเข้ามาหาหานหลิงเอ๋อ
“ท่าน นี่ไม่ใช่ลูกศิษย์ธรรมดาของสำนักเฟยอวิ๋น แต่เป็นบุตรสาวของเจ้าสำนัก เห็นแก่หน้าของสำนักเฟยอวิ๋นเถอะ ปล่อยเธอไป วันหลังข้าจะส่งเด็กสาวสิบคนไปให้ท่านด้วยตัวเอง!” เว่ยซิวหมิงร้อนใจแล้ว ถ้าหากตี๋ซานถิงดึงดันที่จะรังแก เขาก็ขวางไว้ไม่อยู่
“ลูกสาวเจ้าสำนัก? เหอะเหอะ ก็เป็นคุณหนูหัวแก้วหัวแหวนเลยล่ะสิ งั้นก็ยิ่งสมใจฉันเลย!” ตี๋ซานถิงถูกใจฐานะของหานหลิงเอ๋อ ยิ่งเป็นคุณหนูฐานะสูงส่ง ตี๋ซานถิงยิ่งสะใจถ้าได้ครอบครอง
ได้ยินเว่ยซิวหมิงพูดอย่างนี้ เขาก็ยิ่งไม่มีทางปล่อยหานหลิงเอ๋อไปแน่นอน
สาวงามผู้แสนเย็นชาและเย่อหยิ่งอย่างเฉินซีเยว่ที่อยู่ด้านข้าง ไม่เข้าตาเขาเลยแม้แต่น้อย
ตี๋ซานถิงพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วทันที เพื่อไปจับตัวหานหลิงเอ๋อ
“หยุดนะท่าน!” เว่ยซิวหมิงสะบัดมือ ไปคว้ามือของตี๋ซานถิงที่กำลังจะเข้าไปจับหานหลิงเอ๋อไว้
ถ้าหากเป็นลูกศิษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ถูกตี๋ซานถิงจับตัวไปก็ไม่เป็นไร แต่หานหลิงเอ๋อเป็นถึงลูกสาวของเจ้าสำนัก ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นตอนอยู่กับเว่ยซิวหมิงที่นี่ เว่ยซิวหมิงคงหนีความผิดไปไม่พ้น
“ไสหัวไป!” ตี๋ซานถิงเกรี้ยวกราด เปลี่ยนจากจะจับเป็นพลิกฝ่ามือ กระแทกเข้าใส่หน้าอกของเว่ยซิวหมิงทันที
พลังของเว่ยซิวหมิงก็ไม่ธรรมดา ระหว่างเร่งรีบอยู่นั้น ได้เปลี่ยนทิศทางการโจมตี กระแทกฝ่ามือเข้าใส่ตี๋ซานถิง
ปึก!
เว่ยซิวหมิงถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป
“เหอะ อย่างแกเนี่ยนะ คิดจะมาขวางฉัน!”
“ไม่ประมาณกำลังตนเอง!”
ตี๋ซานถิงแสยะยิ้มด้วยสีหน้าเหยียดหยาม จากนั้น ได้พุ่งเข้าไปหาหานหลิงเอ๋อที่ไม่เหลือที่พึ่งพาใด ๆ อีกแล้ว
“คุณหนูแห่งสำนักเฟยอวิ๋นเหรอ จิ๊จิ๊ ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร!” ตี๋ซานถิงยิ้มชั่วร้าย มองไปที่หานหลิงเอ๋อด้วยท่าทางน่าขยะแขยง
ตี๋ซานถิงยื่นมือจะไปจับหานหลิงเอ๋อ หานหลิงเอ๋อก็ได้ตะโกนร้องเรียกเสียงดัง : “ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง ช่วยฉันด้วย!”
จางเทียนเยว่สีหน้าถมึงทึง กำหมัดแน่นทั้งสองมือ เขาชอบหานหลิงเอ๋อมาโดยตลอด เพราะหานหลิงเอ๋อเป็นคนสวย ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็คือเธอเป็นลูกสาวของเจ้าสำนัก ถ้าหากได้แต่งงานกับหานหลิงเอ๋อ อนาคตสำนักเฟยอวิ๋นต้องตกเป็นของเขาจางเทียนเยว่แน่นอน
แต่ว่า มีสาวงามมากมายในใต้หล้า สิ่งที่จางเทียนเยว่สนใจมากที่สุดคือฐานะคุณหนูแห่งสำนักเฟยอวิ๋นของหานหลิงเอ๋อ
ดังนั้น สิ่งที่จางเทียนเยว่ชอบยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่หานหลิงเอ๋อ แต่เป็นฐานะของหานหลิงเอ๋อที่สามารถนำผลประโยชน์มากมายมาสู่เขาได้
หากเป็นผลประโยชน์ที่ต้องให้เขาใช้ชีวิตตัวเองมาแลก อย่างนั้นจางเทียนเยว่คงไม่มีทางทำแน่นอน
ฉะนั้น ตอนที่หานหลิงเอ๋อร้องขอความช่วยเหลือ จางเทียนเยว่กลับนิ่งเฉยไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย
ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของเฉินซีเยว่ หายไปจนหมดสิ้นนานแล้ว
พลังของเว่ยซิวหมิงเป็นอย่างไร เธอรู้ชัดเจนดีอยู่แล้ว แม้แต่เว่ยซิวหมิงยังถูกตี๋ซานถิงโจมตีจนกระเด็น สำหรับตี๋ซานถิงแล้ว เธอไม่มีพละกำลังที่จะสู้กลับได้เลย
อีกอย่าง เฉินซีเยว่รู้สึกกลัวแทบขาดใจ ตี๋ซานถิงลามกขนาดนี้ ยิ่งรูปร่างหน้าตาของเธอด้วยแล้ว ตอนนี้จึงคิดแค่อยากจะหาที่หลบซ่อนตัวเท่านั้น
กล้าไปช่วยเหลือหานหลิงเอ๋อที่ไหนกันล่ะ!
อีกอย่างเธอเองก็ไม่มีความสามารถที่จะช่วยหานหลิงเอ๋อได้ ถ้าเกิดเธอออกหน้า แล้วถูกตี๋ซานถิงสังเกตเข้า งั้นเธอต้องถูกตี๋ซานถิงทำร้ายไปด้วยน่ะสิ
หลังจากที่เว่ยซิวหมิงถูกโจมตีจนถอยร่นไป มีเพียงเลือดลมปั่นป่วนเท่านั้น แต่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ
แต่ว่า ตอนนี้เว่ยซิวหมิงกลับนั่งหมดแรงอยู่บนพื้น แสร้งทำเป็นบาดเจ็บสาหัส
ถึงแม้เจ้าสำนักได้มอบหมายให้เขาดูแลหานหลิงเอ๋อ แต่ถ้าหากเขาดึงดันที่จะออกหน้า ชีวิตของตัวเองก็จะตกอยู่ในอันตราย และอาจจะช่วยหานหลิงเอ๋อไม่สำเร็จก็เป็นได้
ดังนั้น เว่ยซิวหมิงจึงแสร้งทำเป็นบาดเจ็บหนัก ท่าทางไร้เรี่ยวแรงต่อสู้
เพียงแต่ ต้องแสดงเอาหน้าสักหน่อย เว่ยซิวหมิงจึงทำหน้าตาโกรธแค้นพลางตะคอกออกมาว่า : “ท่านเองก็เป็นผู้อาวุโสในโลกบู๊ ทำไมถึงได้ลงมือกับเด็กผู้หญิงอย่างนี้ล่ะ!”
“ท่านไม่กลัวคนในวงการหัวเราะเยาะเอาเหรอ?”
ตี๋ซานถิงหันกลับไป กวาดตามองทุกคนด้วยสีหน้าถมึงทึง แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย : “หัวเราะเยาะ? ฉันจะดูสิว่าใครมันกล้า!”
แม้ว่าน้ำเสียงของตี๋ซานถิงไม่ดังนัก แต่เสียงนั้นราวกับเป็นพระราชโองการที่น่าเกรงขามของราชา นักบู๊มากมายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงไม่มีใครกล้าต่อต้านเลยแม้แต่คนเดียว
ตี๋ซานถิงยิ้มอย่างพอใจที่เห็นผลลัพธ์อย่างนี้
จากนั้น ได้จับตัวหานหลิงเอ๋อที่กำลังคิดจะหนีเอาไว้ทันที แล้วสกัดจุดลมปราณของเธอ
ใบหน้าหานหลิงเอ๋อซีดเซียว มองไปที่ตี๋ซานถิงด้วยความหวาดกลัว : “แก แกคิดจะทำอะไร?”
ตี๋ซานถิงหัวเราะออกมา : “ยังต้องถามอีกเหรอ? แน่นอนว่า……ฮ่าฮ่า……”
ขณะที่พูด ตี๋ซานถิงได้ฉีกเสื้อของหานหลิงเอ๋อออก
ไอ้แก่นี่ ถึงกับกล้ารังแกหานหลิงเอ๋อต่อหน้าทุกคน!
นักบู๊หนุ่มจำนวนหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะหายใจกระหืดกระหอบ สายตาดูเร่าร้อนขึ้นมา
เฉินซีเยว่รวมถึงนักบู๊หญิงคนอื่น ๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ต่างอายจนหน้าแดง สาปแช่งตี๋ซานถิงอยู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันรอบ
ถ้าหากหานหลิงเอ๋อถูกเขารังแกต่อหน้าทุกคนจริง ๆ แล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร?
“ผู้อาวุโสเว่ย ช่วยฉันด้วย!” หานหลิงเอ๋อไม่สามารถขยับตัวได้ ทำได้แค่ร้องขอความช่วยเหลือ
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รอง ช่วยฉันด้วยสิ!”
เว่ยซิวหมิงปิดตาลง ถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญา
จางเทียนเยว่กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง พลางก้มหน้าไม่เอ่ยพูดอะไรสักคำ
เฉินซีเยว่หันหน้าหนีไปทางอื่น ทนดูต่อไปไม่ไหว
ตี๋ซานถิงหัวเราะเสียงดังอย่างได้ใจ : “อย่าร้องเรียกอีกเลย พวกมันไม่กล้ามาช่วยแกหรอก!”
“ไว้รอให้ฉันเสพสุขกับคุณหนูแห่งสำนักเฟยอวิ๋นก่อน แล้วค่อยไปฆ่าไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่น จากนั้นไปเอายาวิเศษ!”
“ยอดเยี่ยมจริง ๆ ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย ฮ่าฮ่า!”
หลินหยุนมองดูตี๋ซานถิงที่บ้าคลั่งและอวดดี แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ความคลั่งไคล้ของไอ้คนคนนี้ มันสมควรตายจริง ๆ!
แม้ว่าหานหลิงเอ๋อจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ยังคงมีนิสัยบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
หลินหยุนรู้สึกประทับใจในตัวเธอไม่น้อย จึงทนเห็นเธอถูกล่วงละเมิดไม่ได้
เดิมทีคิดจะรอให้เหล่านักบู๊พวกนี้ทำลายพลังของงูเหลือมยักษ์นั้นไปสักหน่อย จากนั้นค่อยลงมือฆ่า
แต่ว่าตอนนี้เพราะมีเรื่องของหานหลิงเอ๋อ หลินหยุนจึงจำเป็นต้องลงมือก่อน
ขณะที่ตี๋ซานถิงกำลังหัวเราะอย่างชั่วร้ายอยู่นั้น ได้ฉีกชุดชั้นในของหานหลิงเอ๋อออก หานหลิงเอ๋ออยากตายแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ได้แต่หลับตาลงอย่างจนปัญญา และขณะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เสียงที่ราบเรียบเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมากะทันหัน
“แกสมควรตาย!”
แม้ว่าน้ำเสียงนี้เบามาก แต่เสียงกลับเหมือนดังก้องอยู่ในหัวของทุกคน มาพร้อมกับความหนาวเหน็บ ที่ทำให้ทุกคนต้องหนาวสั่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ใคร!” ตี๋ซานถิงหยุดลงมือ แล้วจ้องเขม็ง
ชายหนุ่มชุดดำคนหนึ่ง เดินเอามือไขว้หลังอย่างช้า ๆ ออกมาจากมุมที่ทุกคนไม่ได้สังเกต
“ปล่อยเธอซะ” หลินหยุนเดินมาหยุดตรงหน้าตี๋ซานถิงที่มีระยะห่างเพียงห้าเมตร แล้วเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉยด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
หานหลิงเอ๋อลืมตาขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาวิกฤติอย่างนี้ ที่แม้แต่พี่น้องร่วมสำนักของเธอยังไม่ยอมยื่นมือช่วย แต่หลินหยุนกลับเดินออกมา
จู่ ๆ หานหลิงเอ๋อก็รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมา ความจริง เป็นสิ่งที่บางครั้งก็ทำให้คนเราคาดคิดไม่ถึง
“หลินหยุน ขอบคุณนายมากที่นายยื่นมือมาช่วยในเวลาอย่างนี้ แต่นายไปซะเถอะ!”
คนที่ใกล้ตาย มักจะพูดด้วยใจจริง นกที่ใกล้ตาย มักจะร้องอย่างโศกเศร้า
หานหลิงเอ๋อคิดว่ายังไงก็ต้องตาย จึงรู้สึกขอบคุณหลินหยุนที่ยื่นมือมาช่วยเธอในยามคับขัน แต่เธอคิดว่าหลินหยุนไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของตี๋ซานถิงได้ จึงไม่อยากให้หลินหยุนตายไปอย่างเสียเปล่า