จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 86 อ่อนแอแต่กำเนิด ดั่งมดน้อย
บทที่ 86 อ่อนแอแต่กำเนิด ดั่งมดน้อย
“นี่มัน……” เดิมทีเส้เทียนหัวจำใจคิดว่าจะต้องทดลองดูกันสักตั้งแต่ตอนนี้ก็ต้องจำยอมที่จะถอนตัวออกกลางคัน
คิดไม่ถึงว่า หลินหยุนจะพูดขึ้นอย่างกะทันหัน“ท่านเส้ ให้เงินข้าหนึ่งร้อยล้าน ข้าจะเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ให้แก่ท่าน”
ภาพเหตุการณ์นี้ เหมือนกับตอนที่เกิดขึ้นในบ่อนพนัน อย่างไรอย่างนั้น!
ทันใดนั้นเส้เทียนหัวก็เกิดความมั่นใจขึ้นในตัวหลินหยุนอีกครั้ง ครานั้นที่บ่อนพนันเขาก็รู้สึกว่าหลินหยุนคงจะไม่มีทางชนะพนันได้ แต่หลินหยุนก็เอาชนะได้ไม่ใช่เหรอ?
ครั้งนี้ ไม่แน่ว่าหลินหยุนอาจจะสร้างปรากฏการณ์เหมือนครั้งก่อนนั้นก็เป็นได้? อีกทั้งตอนนี้เส้เทียนหัวก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว
“ตกลง คุณท่านหลิน หากท่านสามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ให้แก่ข้าได้ ข้าจะให้เงินท่านหนึ่งร้อยล้าน! ” การต่อสู้ในครั้งนี้ มีความเกี่ยวพันไปถึงเขตพื้นที่ปกครองทั้งหมดของเส้เทียนหัว ไม่เพียงแค่หนึ่งร้อยล้าน หากว่าหลินหยุนเอาชนะได้ หนึ่งพันล้านเส้เทียนหัวก็ยอมจ่ายให้โดยไม่ขมวดคิ้วใด ๆ
หลิ่วเฉิงเฟิงพูดด้วยท่าทางที่เหยียดหยาม“ไอ้หนุ่มน้อย ฉินอู๋ชีเป็นนักบู๊ที่มีทักษะด้านนั้น ๆ ติดตัวมาแต่กำเนิดโดยไม่ต้องฝึกฝน พลังยุทธ์ถึงขั้นเปรียบได้กับนักบู๊พรสวรรค์สูงสุดเลย นายจะเอาอะไรไปสู้กับเขา! ”
“คิดเพ้อเจ้อเหลวไหลเสียจริง! ”
หลินหยุนมีสีหน้าที่หมดหวัง มองไปที่หลิ่วเฉิงเฟิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่แปลก“ก็แค่นักบู๊พรสวรรค์เองไม่ใช่เหรอ? เพียงแค่ข้าต้องการ ก็สามารถมีได้ทุกเมื่อ”
หลิ่วเฉิงเฟิงหัวเราะฮาฮาขึ้น เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการดูหมิ่นเหยียดหยาม“ไอ้หนุ่มน้อย นายคิดว่านักบู๊พรสวรรค์เป็นผักกาดขาวข้างทางงั้นเหรอ? นายต้องการก็สามารถมีได้! มันเป็นเรื่องที่ตลกขบขันเสียจริง! ”
“ท่านเส้ เขาผู้นี้คงเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ ข้าเตือนให้ท่านรีบคิดหาวิธีการใหม่เสียแต่เนิ่น ๆ อย่าไปเสียเวลากับเขาผู้นี้อีกเลย! ”
หลินหยุนไม่ได้สนใจอะไรเขา แล้วก็นำยาเม็ดหนึ่งออกมา ยื่นไปให้กับซูจื่อเหลียงที่กำลังตกตะลึงอยู่“ทานมันเข้าไป”
ซูจื่อเหลียงได้กลิ่นความหอมที่ระเหยออกมาจากยาเม็ดนั้น ท่าทางดีใจ รับยาเม็ดนั้นมาแล้ว ก็กลืนลงไปทันที
เสียงพูดของหลินหยุนก็ค่อย ๆ ดังขึ้น“ขับเคลื่อนพลังเพื่อปรับลมปราณ”
ซูจื่อเหลียงรีบขับเคลื่อนพลังอย่างเงียบ ๆ ดูดรับพลังจากยาเม็ดนั้น
เส้เทียนหัวและทุกคนมีท่าทางที่อยากรู้อยากเห็น ไม่เข้าใจว่าหลินหยุนกำลังทำอะไรอยู่!
หลิ่วเฉิงเฟิงมีสีหน้าที่ซีดเซียว เขาเป็นผู้ที่รู้จักรู้คุณภาพของสิ่งของดี จึงทราบได้ว่ายาเม็ดนั้นเมื่อครู่นี้ของหลินหยุนมีคุณค่าสำคัญมากเพียงใด
“หรือว่าเขาจะสามารถสร้างนักบู๊พรสวรรค์ให้เกิดขึ้นได้จริง ๆ งั้นเหรอ? คงไม่ มันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน! ”
หลิ่วเฉิงเฟิงฝึกฝนบู๊มากว่าหลายสิบปี ในปีนี้เองที่เพิ่งจะฝึกถึงระดับขั้นพรสวรรค์ ความเจ็บปวดนี้มีเพียงหลิ่วเฉิงเฟิงผู้เดียวเท่านั้นที่ทราบดี
หลินหยุนจะสามารถสร้างนักบู๊พรสวรรค์ขึ้นได้ภายในช่วงเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? มันไม่ถูกต้องตามหลักความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์! หลิ่วเฉิงเฟิงคงจะลืมไปแล้วว่า การดำรงอยู่ของนักบู๊นั้นที่จริงมันก็ไม่ได้ถูกต้องเป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์สักหน่อย
“ไอ้หนุ่มน้อย นายอย่ามาเจตนาแสดงความเร้นลับซับซ้อนเพื่อจะตบตาคนเลย แม้ว่ายาเม็ดนั้นของนายจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็คงไม่สามารถที่จะทำให้นักบู๊พรแสวงผู้หนึ่งกลายเป็นนักบู๊พรสวรรค์ได้ในเวลาอันสั้นขนาดนี้ มิเช่นนั้นแล้ว นักบู๊พรสวรรค์ก็คงจะมากจนล้นโลกใบนี้แล้ว” หลิ่วเฉิงเฟิงยิ้มอย่างดูหมิ่นเหยียดหยาม
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เพียงจ้องมองที่ซูจื่อเหลียง การฝึกฝนที่ทะลุข้ามขั้นนั้นค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะในเวลาสถานการณ์เช่นนี้ แต่ว่าหลินหยุนก็มีความมั่นใจอย่างที่สุดซึ่งรับรองได้ว่าซูจื่อเหลียงจะไม่เป็นอันตรายใด ๆ
ฝั่งตรงข้าม ฉินอู๋ชีก็มองไปที่หลินหยุนด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในใจสงสัยว่า“ไอ้หนุ่มคนนี้กำลังทำอะไร? หรือว่าเขาเตรียมที่จะสร้างนักบู๊พรสวรรค์ให้ถือกำเนิดขึ้นในที่แห่งนี้! ”
“น่าขันเสียจริง! ”
“การจะเป็นผู้มีพรสวรรค์นั้นยากยิ่ง ดั่งการขึ้นสู่สวรรค์ จำต้องกลายเป็นนักบู๊พรสวรรค์ก่อน จึงจะนับว่าได้เข้าสู่ประตูวงการบู๊อย่างแท้จริง หากว่าดินแดนพรสวรรค์นั้นง่ายต่อการเข้าถึง ถ้าอย่างนั้นนักบู๊พรสวรรค์ก็ไม่มีคุณค่าใด ๆ เลย! ”
ฉินอู๋ชียิ้มเยาะในใจ“ข้าจะให้เวลานาย ดูสิว่านายจะสามารถทำอะไรออกมาให้ได้ชมได้เห็นกัน! ”
เวลาที่ดำเนินผ่านไป ลมหายใจในร่างของซูจื่อเหลียงยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น ฟ้าดินและชี่ทิพย์บริเวณรอบ ๆ เกิดแรงปะทุขึ้นอย่างชัดเจน
หลิ่วเฉิงเฟิงแอบสงสัยและหวาดผวาในใจ“ลักษณะนี้เหมือนว่าจะฝึกฝนทะลุขั้นสำเร็จแล้วจริง ๆ เหรอ? ”
ยาเม็ดที่หลินหยุนให้ซูจื่อเหลียงทานนั้น ก็คือยาปฐมภูมิที่กลั่นให้กับควีนจิน แม้ว่าเป็นเพราะสมุนไพรจะมีอายุไม่นานเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับยาปฐมภูมิที่แท้จริงแล้วนั้นก็มีความแตกต่างกันมาก แต่ทว่าสำหรับซูจื่อเหลียงผู้อาวุโสที่มีอายุมากทานยานี้แล้ว จะยิ่งได้ผลดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ไม่เพียงแค่จะส่งผลให้ซูจื่อเหลียงลอกคราบเปลี่ยนแปลงร่างกายใหม่ทั้งหมดแล้ว ยังสามารถเพิ่มการบำเพ็ญฝึกฝนของซูจื่อเหลียงให้มากขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วย
เดิมทีซูจื่อเหลียงก็มีพลังยุทธ์ในระดับขั้นพรแสวงสูงสุดแล้ว ยาปฐมภูมิเม็ดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เขาทะลุถึงขั้นพรสวรรค์สูงสุดเลยทีเดียว
เวลาสั้น ๆ แค่สิบนาทีผ่านไป คลื่นพลังแสงเส้นเบาบางที่สั่นไหวโชติช่วงพุ่งปรากฏออกมาจากร่างกายของซูจื่อเหลียง
แม้ว่าคลื่นพลังแสงจะเบาบางก็ตาม แต่กลับทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดผวา
ราวกับว่ามีชีวิตที่แข็งแกร่งกำเนิดขึ้นใหม่ แสดงให้ผู้คนในโลกเห็นว่าเขามีตัวตนดำรงอยู่จริง
หลิ่วเฉิงเฟิงสีหน้าเซื่องซึม“แดนพรสวรรค์! ”
ฉินอู๋ชีก็มีสีหน้าที่ตกตะลึง“ทะลุสู่ขั้นพรสวรรค์แล้วจริง ๆ ด้วย! ”
“คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำสำเร็จ! ” ทั้งสองคนมองไปที่หลินหยุน ด้วยสีหน้าท่าทางซับซ้อน
ลมหายใจของซูจื่อเหลียงยังคงแรงขึ้น สองนาทีจากนั้น ถึงระดับขั้นพรสวรรค์ชั้นต้น
ห้านาทีจากนั้น ถึงระดับขั้นพรสวรรค์ชั้นสูง
ถึงขนาดที่ว่า แอบมีลางสังหรณ์ที่จะสามารถสำเร็จทะลุไปถึงขั้นพรสวรรค์สูงสุดเลยทีเดียว
“พอได้แล้ว” หลินหยุนพูดสองคำนี้ออกมา ยื่นมือออกมากดสัมผัสไปในอากาศ ลมหายใจในร่างกายของซูจื่อเหลียงที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นหยุดชะงักในทันที
ซูจื่อเหลียงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ลำแสงสองเส้นส่องสว่างขึ้นแวบหนึ่งแล้วก็หายไป
ในที่สุด การฝึกฝนของซูจื่อเหลียงได้หยุดอยู่ที่ขั้นพรสวรรค์ชั้นสูง
ซูจื่อเหลียงคุกเข่าลงไปที่เบื้องหน้าของหลินหยุน ซาบซึ้งใจอย่างมาก“บุญคุณของท่านอาจารย์ ลูกศิษย์ผู้นี้จะไม่ลืมเลือนไปตลอดชีวิต! ”
ยาปฐมภูมิเม็ดนี้ทำให้ซูจื่อเหลียงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร มีเพียงซูจื่อเหลี่ยงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้อยู่แก่ใจ แทบที่จะทำให้เขาได้ปรับเปลี่ยนกลายเป็นชีวิตใหม่ หลินหยุนมีบุญคุณที่ได้ชุบชีวิตใหม่ให้กับเขา
นักต้มตุ๋นอาวุโสผู้นี้ตระเวนไปทั่วกว่าครึ่งชีวิต ในที่สุดก็บรรลุในสิ่งที่ตนต้องการ ความซาบซึ้งและคำขอบคุณของซูจื่อเหลียงที่มีต่อหลินหยุน ไม่สามารถใช้คำพูดมาอธิบายได้
ท่านอาจารย์!
ได้ยินซูจื่อเหลียงเรียกขานหลินหยุน เส้เทียนหัวและทุกคนต่างพากันตกตะลึง หลินหยุนทำไมกลับกลายมาเป็นอาจารย์ของซูจื่อเหลียงไปได้
นี่มันเป็นมาอย่างไรกันแน่?
อู๋กั๋วส้วงพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น“เมื่อครู่ทุกคนต่างคิดว่าซูจื่อเหลียงคืออาจารย์ของหลินหยุน คิดว่าที่พึ่งของหลินหยุนก็คือซูจื่อเหลียง ที่แท้พวกเราเข้าใจผิดกันไปหมด”
หลิ่วเฉิงเฟิงมีท่าทีที่ไม่ค่อยเชื่อ มองไปที่หลินหยุน จนถึงตอนนี้เขายังคงไม่กล้าที่จะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
“ต่อให้เขาจะอยู่ในขั้นพรสวรรค์แล้ว ก็คงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินอู๋ชีอยู่ดี เขาแค่เพิ่งเข้าสู่ขั้นพรสวรรค์ แต่ฉินอู๋ชีอยู่ในขั้นพรสวรรค์มาตั้งนานแล้ว แม้แต่พลังยุทธ์ก็เทียบเท่ากับขั้นพรสวรรค์สูงสุด! ” หลิ่วเฉิงเฟิงกล่าวขึ้นอย่างไม่ยอมตายใจ
หลินหยุนไม่ได้สนใจในตัวเขา มองไปที่ซูจื่อเหลียง พูดว่า“มีคนไม่เชื่อในพลังยุทธ์ของนาย แสดงให้เขาเห็นเป็นที่ประจักษ์หน่อย”
“ตกลง! ” ซูจื่อเหลียงลุกขึ้นยืน จ้องมองไปที่หลิ่วเฉิงเฟิงอย่างเย็นชา“ความสามารถของตนเองมีไม่พอ อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนกับตัวนายไอ้คนไม่ได้เรื่อง! ”
หลิ่วเฉิงเฟิงหน้าตาแดงก่ำในพริบตา
ซูจื่อเหลียงกระโดด ไปยืนอยู่ที่ด้านหน้าของฉินอู๋ชี กลิ่นอายของความแข็งแกร่งส่งกลิ่นกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย“เมื่อครู่ทำให้นายรอนานไปหน่อย ตอนนี้ข้าให้นายเป็นผู้ออกอาวุธลงมือก่อน”
ฉินอู๋ชีพูดอย่างเย็นชาว่า“นี่คือสิ่งที่นายชดเชยให้ข้าใช่ไหม? ไม่ต้องหรอก! คนรุ่นหลังที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นพรสวรรค์อย่างนาย ไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าแม้แต่น้อย”
“ถ้างั้นนายอย่าเสียใจภายหลังเด็ดขาด! ” ซูจื่อเหลียงมียิ้มแสยะบนมุมปากของเขา พูดว่า“เตรียมพร้อมรับมือนะ! ”
พูดจบ ก็ชกหนึ่งหมัดไปที่ฉินอู๋ชี
แม้ว่าจะมีพลังยุทธ์ระดับแดนพรสวรรค์ แต่ทว่าพลังหมัดนี้ของซูจื่อเหลียง มีพลังเหนือกว่าหมัดเมื่อครู่ของหลิ่วเฉิงเฟิง
ฉินอู๋ชีมีสีหน้าที่ตกใจ แอบพูดในใจว่า“เป็นไปได้อย่างไร! ” พลังยุทธ์ของเขาก็แค่ระดับขั้นพรสวรรค์ชั้นสูง แต่พลังของหมัดนี้เทียบได้กับขั้นพรสวรรค์สูงสุดเลยทีเดียว! ”
หลิ่วเฉิงเฟิงที่อยู่ด้านในศาลาก็มีท่าทีที่ตกตะลึง ในใจหวาดผวาแล้วพูดว่า“มันเป็นไปไม่ได้! ทำไมเขาจึงแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้! ”
พลังยุทธ์ของหลิ่วเฉิงเฟิงก็อยู่ในขั้นพรสวรรค์ชั้นสูง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับนักบู๊พรสวรรค์ชั้นสูงหน้าใหม่อย่างซูจื่อเหลียงแล้ว ช่างแตกต่างกันหลายระดับเลยทีเดียว!
ซูจื่อเหลียงเพียงคนเดียว สามารถต่อสู้กับหลิ่วเฉิงเฟิงได้ถึงสิบคน
แต่ว่า ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่เบื้องหน้า พวกเขาไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ฉินอู๋ชีสีหน้าเคร่งเครียด ระมัดระวังตั้งใจเป็นพิเศษ เตรียมพร้อมพละกำลังทั้งหมด แล้วชกออกไปหนึ่งหมัด
แต่ว่า ยังไม่ทันได้ปะทะกับหมัดนั้นของซูจื่อเหลียง ฉินอู๋ชีมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ร้องตะโกนอย่างหวาดผวา
“เป็นไปได้อย่างไร! พลังเพียงหมัดเดียวนี้ เทียบเท่าได้กับการรวบรวมพลังหมัดของนักบู๊พรสวรรค์สูงสุดเลยทีเดียว! ”
ตุ๊บ!
ฉินอู๋ชียังไม่ทันได้ตกใจ ก็ถูกหมัดของซูจื่อเหลียงชกลอยกระเด็นออกไป ล้มฟุบไปยังพื้น กระอักเลือดออกมา!
เพียงหมัดเดียว ทำให้ผู้เก่งกาจอย่างฉินอู๋ชี พบกับความพ่ายแพ้!