จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 863 มายั่วยุถึงที่
หวางซูเฟินส่ายหัวทันที:”ไม่ได้ ตอนนี้ตระกูลหวางคงอยากจะให้เสี่ยวหยุนออกมา!”
“ถ้าเป็นอย่างนี้ พวกเขาก็คงใช้อำนาจของรัฐบาลจีนมาเป็นข้ออ้างในการต่อสู้กับเสี่ยวหยุน”
“ถึงแม้บริษัทตงหวางกรุ๊ปจะล้มละลายไปก็ไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ควรดึงเสี่ยวหยุนมาเผชิญกับเรื่องอันตรายแบบนี้!”
ฉินหลันพูดอย่างจำใจ:”แต่พวกเราสร้างบริษัทตงหวางกรุ๊ปมาหลายสิบปี ถ้ามันล้มละลายไป ฉันยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ”
“และถ้าไม่มีบริษัทตงหวางกรุ๊ปแล้ว ถึงแม้หลินหยุนอยากจะต่อสู้กับตระกูลหวางในอนาคต ก็คงต้องสูญเสียบริษัทที่สามารถช่วยเหลือเขาได้!”
“อีกอย่างหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าพวกเราขอความช่วยเหลือจากเสี่ยวหยุน เขาก็อาจจะไม่ต้องใช้กำลังในการต่อสู้กับตระกูลหวางก็ได้ บางทีเขาอาจจะมีวิธีอื่นๆก็ได้?”
“ท่านประธาน ท่านยังจำได้ไหม? ในมือของเขายังมีหุ้นของน้ำแห่งชีวิต และยังมีเงินห้าหมื่นล้านหยวนที่เขาเอาออกมาได้อย่างง่ายดายด้วย”
“นี่ก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ในมือของเสี่ยวหยุน ต้องมีเงินทุนจำนวนมหาศาลอยู่แน่นอน!”
สีหน้าของหวางซูเฟินแสดงความดีใจออกมาทันที:”ใช่จริงๆด้วย ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย ขอแค่เสี่ยวหยุนไม่ใช้กำลัง ต่อสู้กันด้วยธุรกิจ ตระกูลหวางก็หาข้ออ้างอะไรไม่ได้!”
“แต่ฉันรู้สึกกังวลใจ ด้วยนิสัยของเขา เมื่อเขาเห็นสภาพในตอนนี้ของพวกเรา ถ้าเขาใช้กำลังในการต่อสู้กับตระกูลหวางจะทำยังไงดี?”
ฉินหลันพูดด้วยรอยยิ้ม:”ท่านประธานโปรดวางใจ ฉันรู้สึกว่าหลินหยุนไม่ใช่คนบุ่มบ่ามขนาดนั้น!”
“คุณลองคิดดูดีๆ ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ชอบใช้อำนาจ แต่ทุกครั้งเขาก็สามารถจัดการปัญหาทุกอย่างได้ดี”
“มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เขารู้ตัวดี เรื่องไหนควรทำ เรื่องไหนไม่ควรทำ เขารู้ว่าเวลาควรทำอะไร!”
หวางซูเฟินรู้สึกวางใจทันที เธอพยักหน้าและพูด:”ก็ได้ ตอนนี้คุณโทรศัพท์หาเสี่ยวหยุน ให้เขามาที่นี่เลย!”
“ได้!”ฉินหลันเดินไปข้างๆและรีบโทรศัพท์ทันที
แต่ฉินหลันกลับขมวดคิ้วทันที
“ท่านประธาน โทรศัพท์ของเขาปิดเครื่องอยู่!”
หวางซูเฟินเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา:”ไอ้หมอนี่ ตอนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา แต่เขากลับปิดเครื่องโทรศัพท์”
“เธอรีบไปหาคุณซู เขายังอยู่ที่นี่ใช่ไหม? บอกให้เขาไปตามหาเสี่ยวหยุน”
“ได้!”
ฉินหลันรีบไปยังที่พักของซูจื่อเหลียง
แต่หลังจากเจอตัวซูจื่อเหลียงแล้ว ทำให้เธอรู้ว่าหลินหยุนกำลังเก็บตัวฝึกพลังบู๊อยู่ ทำให้ฉินหลันขมวดคิ้วอีกครั้ง
ฉินหลันกับซูจื่อเหลียงกลับไปที่ห้องทำงานของหวางซูเฟินในบริษัทตงหวางกรุ๊ป
เมื่อหวางซูเฟินรู้เรื่องนี้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว:”ไอ้หมอนี่เก็บตัวฝึกพลังบู๊เหรอ!”
“มีวิธีปลุกเขาไหม?”หวางซูเฟินถาม
ซูจื่อเหลียงกล่าวอย่างเคร่งขรึม:”ไม่เหมาะที่จะปลุกเขาให้ตื่น ฉันคิดว่าตอนนี้เขาคงอยู่ช่วงสำคัญของการเก็บตัวฝึกพลังบู๊ มิฉะนั้นเขาก็คงไม่สร้างค่ายกลที่ทรงพลังมากๆไว้ปกป้องตัวเอง”
“พวกเราควรทำยังไงดี?”หวางซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
ซูจื่อเหลียงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และพูด:”เอาอย่างนี้ละกัน เดี๋ยวฉันกลับไปดู ถ้าอาจารย์เก็บตัวฝึกพลังบู๊เสร็จ ฉันก็จะรีบพูดเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาทราบ”
“แต่ฉันกังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกคุณ!”
หวางซูเฟินพูด:”เรื่องของพวกเราคุณไม่ต้องเป็นห่วง ครั้งนี้ตระกูลหวางใช้อำนาจทางธุรกิจมากลั่นแกล้งและโจมตีพวกเรา และตอนนี้พวกเขาก็ใกล้จะทำสำเร็จแล้ว พวกเขาไม่ทำร้ายพวกเราอย่างแน่นอน คุณไม่ต้องกังวลและรีบกลับไปเลย”
ซูจื่อเหลียงพยักหน้า:”ได้ งั้นฉันจะกลับไปตอนนี้เลย”
หลังจากที่ซูจื่อเหลียงจากไป หวางซูเฟินมองฉินหลันและถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:”ตอนนี้พวกเรายังเหลือคนเท่าไหร่?”
ฉินหลันมองหวางซูเฟินด้วยความกังวลใจและพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ:”ผู้บริหารระดับกลางมากกว่า80เปอร์เซ็นต์ได้จากไปแล้ว พวกเรายังเหลือลูกน้องไม่กี่คน ตอนนี้เหลือเพียงคนแก่ๆเท่านั้น”
หวางซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ:”เฮ้อ เมื่อไม้ล้มฝูงลิงก็หนีกระเจิงออกไป! ช่างมันเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเขาอีก ถ้ายังมีคนอยากจะจากไป ก็ให้พวกเขาจากไปได้เลย!”
“เนื่องจากตระกูลหวางเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจและมั่งคั่ง พวกเขาที่เป็นคนธรรมดาไม่กล้าไปมีเรื่องผิดใจกับตระกูลหวางอยู่แล้ว!”
ฉินหลันก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน:”ต้องดูว่าครั้งนี้เสี่ยวหยุนจะช่วยพวกเราได้ไหม!”
“อืม เงินทุนของบริษัทในตอนนี้ สามารถยืนหยัดได้อีกกี่วัน?”หวางซูเฟินถาม
สีหน้าของฉินหลันไม่ค่อยดีนักและพูด:”มากสุดอยู่ได้อีกสามวัน!”
“มาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ? แล้วทางฝั่งธนาคารพูดว่ายังไงบ้าง?”หวางซูเฟินถาม
ฉินหลันส่ายหัว:”เมื่อพวกเขารู้ว่าตระกูลหวางกำลังกวาดล้างและโจมตีพวกเรา ทางฝั่งธนาคารก็ไม่ให้พวกเรากู้เงินแม้แต่บาทเดียว!”
หวางซูเฟินนั่งอยู่บนเก้าอี้และยอมแพ้ทันที:”ช่างมันเถอะ งั้นก็รอเสี่ยวหยุนมาที่นี่ละกัน!”
เวลาบ่ายสองโมง งานฉลองของตระกูลหวางได้เสร็จสิ้นลง
หวางเซิ่งเฉียนได้พาผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวางจำนวนมากไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปทันที
หวางเซิ่งเฉียนและคนอื่นๆมาอย่างเอิกเกริก
ทำให้ทุกคนในมณฑลจงโจวรู้ว่าหวางเซิ่งเฉียนกำลังพาคนไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ป
แน่นอน เรื่องนี้หวางเซิ่งเฉียนจงใจทำให้ทุกคนรู้ เขาอยากให้ทุกคนรู้ว่าการต่อสู้ทางธุรกิจระหว่างตระกูลหวางกับบริษัทตงหวางกรุ๊ป ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะคือตระกูลหวาง
เมื่อหวางซูเฟินรู้เรื่องนี้ เธอที่อยู่ในห้องทำงานรู้สึกโกรธมากๆ:”หวางเซิ่งเฉียนคนนี้ทำเรื่องอะไรก็หยิ่งยโสโอหังมากกว่าพ่อของเขาอีก!”
“มันน่าขยะแขยงมากๆ!”
ฉินหลันถามทันที:”ท่านประธาน การที่เขามาในครั้งนี้ เพื่อต้องการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ทำให้ทุกคนในมณฑลจงโจวรู้ว่าพวกเราเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้”
“ฉันคิดว่าเขาน่าจะมาคุยเรื่องซื้อธุรกิจของพวกเรา”
หวางซูเฟินเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา:”พวกเราไปรอเขาที่ล็อบบี้กันเถอะ!”
เมื่อพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นมาทันที และเดินไปล็อบบี้ของบริษัทตงหวางกรุ๊ปพร้อมกับฉินหลัน
เมื่อหวางเซิ่งเฉียนและคนอื่นๆเดินมาถึงล็อบบี้ของบริษัทตงหวางกรุ๊ป หวางซูเฟินและฉินหลันได้รอพวกเขาอยู่ในชั้นล็อบบี้นานแล้ว
เมื่อเห็นหวางซูเฟิน หวางเซิ่งเฉียนก็หัวเราะเบาๆ พูดด้วยความภาคภูมิใจว่า:”ท่านประธานหวางลงมารับฉันด้วยตัวเองเลยเหรอ?”
“อันที่จริงถึงแม้บริษัทตงหวางกรุ๊ปจะเปลี่ยนเจ้าของ คุณก็ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ ยังไงซะคุณก็เป็นญาติผู้ใหญ่สำหรับฉัน”
ถึงแม้หวางเซิ่งเฉียนจะพูดว่าตัวเองเป็นคนรุ่นหลัง แต่กิริยาท่าทางที่เขาแสดงออกมานั้นหยาบคายมากๆ ไม่มีความเป็นเคารพของคนรุ่นหลังเจอญาติผู้ใหญ่เลย
หวางซูเฟินก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่พูดอย่างเย็นชา:”พาคนของคุณ มาจากไหน ก็ไสหัวกลับไปที่นั่น!”
“ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ!”
มีลูกน้องคนหนึ่งของตระกูลหวางอยากจะประจบหวางเซิ่งเฉียน เขาตะโกนใส่หวางซูเฟินอย่างเย็นชา:”หวางซูเฟิน คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง! คุณชายพูดว่าคุณเป็นญาติผู้ใหญ่ นั่นเป็นการยกย่องคุณ ทำไมต้องพูดจาไม่ดีด้วย!”
“ยังไงซะ คุณก็เป็นแค่ผู้นำที่พ่ายแพ้สงครามด้านธุรกิจเท่านั้น!”
“ถ้าทำให้คุณชายใหญ่ไม่พอใจ บริษัทตงหวางกรุ๊ปของคุณก็จะขายไม่ได้แม้แต่บาทเดียว!”
หวางซูเฟินจ้องเขม็งไปที่เขาและพูดอย่างเย็นชา:”จางหลินเยว่ อันที่จริงฉันควรเรียกคุณว่าคุณลุง ผู้ชายคนนี้เป็นคนรุ่นหลานของคุณ แต่คุณกลับพูดประจบประแจงเขา คุณยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ?”
จางหลินเยว่หน้าแดงด้วยความอับอาย เขาอ้ำๆอึ้งๆอยู่นานแต่ก็พูดอะไรไม่ออก
หวางเซิ่งเฉียนยิ้มที่มุมปากและพูด:”ท่านประธานหวาง คุณไม่จำเป็นต้องพูดจาบีบคั้นคนขนาดนี้ก็ได้ ฉันมาที่นี่ในวันนี้ เพราะเห็นว่าพวกเรายังเป็นญาติกันอยู่ และให้โอกาสคุณอีกหนึ่งครั้ง!”
“ฉันอยากจะซื้อธุรกิจทั้งหมดของบริษัทตงหวางกรุ๊ป คุณต้องการเท่าไหร่ก็พูดมาได้เลย!”
หวางซูเฟินพูดอย่างเย็นชา:”ไม่จำเป็น ฉันไม่ได้จะขายธุรกิจของบริษัทตงหวางกรุ๊ป!”
จางหลินเยว่พูดอย่างเย็นชา:”หวางซูเฟิน ถึงเวลานี้แล้ว คุณยังไม่ยอมขายธุรกิจของบริษัทตงหวางกรุ๊ปอีก คุณอยากเก็บไว้ในมือจนมันไร้ค่าเหรอ?”
หวางซูเฟินจ้องไปที่เขาและพูด:”ถึงแม้มันจะไม่มีค่าแม้แต่บาทเดียว ฉันก็ไม่ยอมขายให้พวกคุณอย่างแน่นอน!”
จางหลินเยว่หัวเราะเสียงดังออกมาทันที:”หวางซูเฟิน คุณลองคิดดูดีๆ ในเวลานี้นอกจากพวกเรา ไม่มีใครกล้าซื้อบริษัทตงหวางกรุ๊ปแน่นอน!”
“คุณสามารถขายให้พวกเราเท่านั้น มิฉะนั้นธุรกิจของคุณก็จะไม่มีค่าแม้แต่บาทเดียว!”
หวางเซิ่งเฉียนพยักหน้าและจับจมูกของตัวเอง พูดอย่างภาคภูมิใจ:”เขาพูดถูก นอกจากฉันแล้ว ไม่มีใครกล้าซื้อบริษัทตงหวางกรุ๊ปแน่นอน”
“คุณขายให้ฉันได้เพียงคนเดียวเท่านั้น”