จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 893 ฉันอยากท้าประลองคุณ
ผู้ตัดสินแซ่กู่ตบน่องตัวเองด้วยความตื่นเต้นและหัวเราะออกมา:”อัจฉริยะ สุดยอดอัจฉริยะจริงๆ!”
“ปล่อยเปลวไฟผ่านอากาศ ฉันพูดแล้วว่าเขาต้องเป็นอัจฉริยะของโลกกลั่นยาในอนาคตอย่างแน่นอน!”
“น่าตื่นเต้นมากๆ การมาดูการแข่งขันในครั้งนี้ มาไม่เสียเที่ยวจริงๆ!”
“ใช่จริงๆ สามารถเห็นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมดกับปล่อยเปลวไฟผ่านอากาศ และพลังสองอย่างที่แตกต่างกันนี้กลับปรากฏในตัวชายหนุ่มเพียงคนเดียว ความสำเร็จของเขาในอนาคต ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน!”
ผู้ตัดสินหลายๆคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย สายตาที่พวกเขามองไปที่หลินหยุนเต็มไปด้วยความร้อนแรง
ผู้ตัดสินแซ่กู่หัวเราะออกมา:”คนคนนี้ ฉันต้องเอามาเป็นลูกศิษย์ให้ได้!”
“ไอ้กู่ คนคนนี้เกรงว่าคุณจะเอาไปเป็นลูกศิษย์ไม่ได้ ด้วยความอัจฉริยะของเขา พวกเราไม่แย่งไม่ได้?”ชายชราอีกคนพูดด้วยรอยยิ้ม
ผู้ตัดสินแซ่กู่ชี้ไปที่คนคนนั้น และด่าออกมาทันที:”หึ ถ้าเป็นป่ายหลี่เถ่ ฉันอาจจะต้องเกรงใจบ้าง แต่ชายชราอย่างพวกคุณคิดจะมาแย่งลูกศิษย์กับฉันเหรอ พวกคุณฝันไปเถอะ!”
“เพื่อเด็กหนุ่มคนนี้ ถึงแม้ฉันต้องหมดเนื้อหมดตัว ฉันก็ต้องทำให้เขามาเป็นลูกศิษย์ของฉันให้ได้!”
ความตื่นตกใจของทุกคน แต่สำหรับคนที่เข้าแข่งขันบนเวทีเก้าคนนั้น กลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกงงมากๆ เพราะป่ายหลี่เถ่ยกธงแดงมาสักพักแล้ว และเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนธงด้วย
ทำให้เปลวไฟของเตาสัมฤทธิ์ทั้งสิบใบลุกโชนอยู่ตลอดเวลา การลุกโชนของเปลวไฟอย่างนี้ มันสูญเสียพลังมากๆ ไม่มีใครทนไหว!
โม่จือมิ่งรู้สึกประหลาดใจ เขาแอบดูหลินหยุนครั้งหนึ่ง การดูครั้งนี้ ทำให้โม่จือมิ่งตื่นตระหนกตกใจทันที
“ปล่อยเปลวไฟผ่านอากาศ!”
“โอ้พระเจ้า ปรมาจารย์หลินสุดยอดมากๆ เขาทำได้ทุกอย่างได้จริงๆ!”
โม่จือมิ่งนับถือหลินหยุนมากๆจากใจจริง
“อะแฮม!”
มีคนเตือนป่ายหลี่เถ่ด้วยเสียงไอ ทำให้ป่ายหลี่เถ่ได้สติคืนมาทันที และพึ่งรู้ว่าตัวเองกระทำเรื่องที่เสียมารยาทมากๆ
อย่างไรก็ตาม ป่ายหลี่เถ่เป็นคนฉลาด เขายิ้มเบาๆและพูด:”ทุกคนมีความอดทนที่ดีเยี่ยม หลังจากนี้ฉันจะลดเวลาลง”
คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขา ปกปิดการกระทำเสียมารยาทของตัวเองทันที และทำให้นักกลั่นยาที่เข้าแข่งขันเกิดความประทับใจในตัวเขาทันที
หลังจากนั้น ความสนใจทั้งหมดของป่ายหลี่เถ่ก็คือหลินหยุนเพียงคนเดียว
แน่นอนว่าหลินหยุนก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นไฟบุ๋นหรือว่าไฟบู๊ เขาก็สามารถควบคุมเปลวไฟได้ดีกว่านักกลั่นยาที่เหลืออีกเก้าคนหลายๆเท่า
ผ่านไปไม่นาน การแข่งขันด่านที่สามก็สิ้นสุดลง
ผู้ตัดสินหลายๆคนปรึกษากันและกำลังจะประกาศคะแนน
ไม่ต้องสงสัยเลย หลินหยุนได้อันดับหนึ่งอยู่แล้ว
การแข่งขันทั้งสามด่าน เขาสามารถเอาชนะได้อย่างเหนือชั้น
โม่จือมิ่งก็ผ่านการแข่งขันทั้งสามด่าน แต่คะแนนของเขาอยู่ระดับกลางๆเท่านั้น
เนื่องจากเขาต้องการซ่อนพลังที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ มิฉะนั้นด้วยความสามารถของโม่จือมิ่ง ถึงแม้เขาไม่สามารถเอาชนะหลินหยุนได้ แต่นักกลั่นยาคนอื่นๆที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้เหมือนกัน
เพราะโม่จือมิ่งเป็นอัจฉริยะของหุบเขาเทพยามาโดยตลอด
ผู้ตัดสินหลายๆคนปรึกษากันเสร็จแล้ว จากนั้นป่ายหลี่เถ่ก็หันหลังและเดินไปที่ขอบเวทีอีกครั้ง
เมื่อมองเห็นผู้คนที่มีความคาดหวังอยู่ด้านล่าง ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมาและประกาศเสียงดังทันที:”ครั้งนี้นักกลั่นยาที่สามารถผ่านการแข่งขันทั้งสามด่านได้ มากกว่าครั้งที่แล้วสามเท่า!”
“และการแข่งขันงานประลองกลั่นยาในครั้งนี้ ก็ปรากฏอัจฉริยะด้วยหนึ่งคน!”
“ฉันเชื่อว่า ฉันไม่ต้องพูด ทุกคนก็น่าจะเดาออกว่าอัจฉริยะคนนั้นเป็นใคร!”
“อัจฉริยะคนนั้นก็คือนักกลั่นยาหลินหยุน และฉันจะบอกเรื่องหนึ่งให้ทุกคนได้รับรู้ นักกลั่นยาหลินหยุนคนนี้ อายุน้อยมากๆ!”
“อนาคตข้างหน้าของเขา ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน!”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่าง ต่างมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าอิจฉา
มีชายชราคนหนึ่งถอนหายใจ:”คนที่ได้คำชมจากเจ้าสำนักสำนักยาตัน หลายปีที่ผ่านมา มีเพียงเด็กหนุ่มคนนี้คนเดียวเท่านั้น!”
“ใช่จริงๆด้วย เขาเก่งมากๆจริงๆ ถ้าเขาเกิดในยุครุ่งเรืองของโลกกลั่นยา เขาก็ยังคู่ควรกับคำว่าอัจฉริยะ!”
“ใช่ แต่อัจฉริยะอย่างนี้ สุดท้ายก็คงเข้าสำนักสำนักยาตันอย่างแน่นอน!”
“ฐานะในอนาคตของสำนักยาตันในโลกกลั่นยา ก็คงไม่มีใครเทียบได้อีกอย่างแน่นอน”
“สำนักหนึ่งเป็นใหญ่อยู่คนเดียว มันไม่ใช่เรื่องดีนัก! ถ้าเป็นอย่างนี้ มันจะไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาของโลกกลั่นยา”
“จะทำยังไงได้? ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าไปท้าประลองสำนักยาตัน? และในโลกกลั่นยาก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะป่ายหลี่เถ่ได้?”
ชายชราหลายๆคนรู้สึกกังวลใจมากๆ พวกเขามองป่ายหลี่เถ่ที่พูดอยู่บนเวทีด้วยแววตาที่หมดหนทางและไม่รู้จะทำยังไง
ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่อยู่ข้างๆเข้าใจคำพูดที่ป่ายหลี่เถ่ต้องการสื่อออกมา เขาพูดด้วยความประหลาดใจ:”มันจริงๆเหรอ คุณพ่อต้องการให้เด็กหนุ่มคนนั้นเข้าสำนักสำนักยาตันจริงๆเหรอ?”
ซูม่านม่านมองคุณชายป่ายหลี่ที่พึ่งจะเข้าใจสถานการณ์ เธอถอนหายใจและพูด:”ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น และเจ้าสำนักก็ให้ความสำคัญกับเขามากๆ และผู้ตัดสินทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างก็อยากได้เขามาเป็นลูกศิษย์”
ในที่สุดป่ายหลี่หลงเซิ่งก็เริ่มกังวลใจขึ้นมา:”ต้องทำยังไงดี เด็กหนุ่มคนนี้อาจจะเป็นคนของหุบเขาเทพยา เขาเป็นศัตรูของพวกเรานะ!”
“ไม่ได้ ฉันต้องรีบเดินไปบอกคุณพ่อเรื่องนี้!”
ซูม่านม่านยื่นมือออกไปและดึงเขาไว้
ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดด้วยความโกรธ:”เธอดึงฉันไว้ทำไม?”
ซูม่านม่านพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:”ถึงแม้คุณสามารถหยุดเจ้าสำนักได้ แต่คุณสามารถหยุดผู้ตัดสินเหล่านั้นได้เหรอ?”
“คนพวกนั้นหวังมาตลอดให้สำนักยาตันโดนล้มล้าง พวกเขาจะมีโอกาสแทนที่สำนักยาตันของพวกเรา”
“ถ้าตอนนี้คุณไปพูดเรื่องนี้กับเจ้าสำนัก คุณก็จะทำให้อัจฉริยะคนนี้ ไปอยู่กับสำนักอื่นๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ มันจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อสำนักยาตัน”
“อีกอย่าง ถ้าตอนนี้คุณขึ้นไปพูดฐานะที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้นให้เจ้าสำนักทราบ เจ้าสำนักก็คงไม่สนใจคุณหรอก คนที่จะขายขี้หน้าคือคุณต่างหาก”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งถามด้วยความสงสัย:”ทำไมถึงไม่สนใจฉัน? เขาเป็นพ่อของฉันนะ!”
ซูม่านม่านรู้สึกมึนงงทันที ป่ายหลี่เถ่ที่เป็นคนฉลาดขนาดนั้น ทำไมถึงมีลูกชายที่โง่ขนาดนี้ได้!
หรือว่านี่คือกรรมตามสนองที่พ่อของเขาเคยทำไว้
ซูม่านม่านทำได้เพียงพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ:”คุณชายป่ายหลี่ คุณลองคิดดู ถ้าคุณจะพูดฐานะที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้นออกมาแล้ว เจ้าสำนักควรทำยังไง?”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูด:”ก็ต้องไล่เขาออกไป!”
ซูม่านม่านพูดอย่างเย็นชา:”ถ้าไล่เขาออกไป ก็เท่ากับว่าพวกเราส่งเขาไปให้สำนักอื่นๆด้วยน้ำมือตัวเอง”
“คุณคิดว่าเจ้าสำนักจะทำอย่างนั้นไหม?”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งส่ายหัว:”ไม่ทำแน่นอน คุณพ่อไม่ได้โง่ขนาดนั้น!”
อืม คุณยังรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ!
ซูม่านม่านพูดอีกว่า:”เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะพูดฐานะที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้นออกมา เจ้าสำนักก็ต้องพยายามให้เขาเข้าสำนักของพวกเรา จากนั้นค่อยหาวิธีกำจัดเขาทิ้ง”
“ถ้าทำอย่างนี้ อัจฉริยะคนนั้นก็จะไม่ตกไปอยู่ที่สำนักอื่นๆ”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งเข้าใจทันที:”อ้อ ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าตอนนี้ฉันไปบอกฐานะที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้นให้คุณพ่อรับรู้ คุณพ่อก็คงไม่สนใจฉันอย่างแน่นอน!”
ซูม่านม่านพยักหน้าและคิดในใจว่าคนโง่คนนี้ฉลาดขึ้นมาแล้ว
บนเวที ป่ายหลี่เถ่พูดอีกครั้ง:”ครั้งนี้มีทั้งหมดสิบเจ็ดคนที่สามารถผ่านทั้งสามด่านได้”
“จำนวนคนของครั้งนี้ มากกว่าครั้งที่แล้วมากๆ”
“ตอนนี้พวกคุณทั้งสิบเจ็ดคนจะเป็นเสาหลักของโลกกลั่นยาในอนาคต พวกคุณสามารถเลือกได้ว่าจะท้าประลองกับใครก็ได้”
“ถ้าพวกคุณสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ พวกคุณจะได้รับเกียรติยศและรางวัลด้วย!”
หลินหยุนมองไปที่โม่จือมิ่งที่อยู่ข้างๆและถาม:”ตอนนี้สามารถท้าประลองกับเขาได้หรือยัง?”
โม่จือมิ่งพยักหน้าและมองไปที่ป่ายหลี่เถ่ สายตาของเขามีแต่ความแค้น:”ได้แล้ว”
“แต่คุณยังไม่ต้องรีบร้อน ฉันจะไปต่อกรกับเขาก่อน คุณใช้โอกาสนี้ดูความแข็งแกร่งของเขา!”
หลินหยุนพูดเบาๆว่า:”ไม่จำเป็น”
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินไปข้างหน้าทันที
หลินหยุนยืนอยู่ด้านหน้าของป่ายหลี่เถ่ เขามองป่ายหลี่เถ่และพูดเบาๆ:”ฉันอยากท้าประลองคุณ”
ป่ายหลี่เถ่อึ้งไปชั่วครู่ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หยุดชะงักทันที