จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 897 ท้าประลองป่ายหลี่เถ่
ผลที่ได้รับดีกว่าที่หลินหยุนคาดการณ์เอาไว้
ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนั้น ไม่สามารถแบกรับความพ่ายแพ้อย่างนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น หลินหยุนตั้งใจที่จะโจมตีจิตใจของเขาด้วย ทำให้ป่ายหลี่หลงเซิ่งเกือบจะเสียสติไปเลย
ป่ายหลี่เถ่เป็นคนแรกที่สัมผัสได้ว่าลูกชายตัวเองผิดปกติ เขาใช้พลังชี่ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา:”พอได้แล้ว!”
สายตาของป่ายหลี่หลงเซิ่งเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ผ่านไปสักพัก เขาก็ค่อยๆได้สติคืนมา
“คุณพ่อ ฉันพ่ายแพ้แล้วใช่ไหม?”ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ
ป่ายหลี่เถ่อยากจะด่าเขามากๆ แต่ในเวลานี้ เขารู้ตัวดี ป่ายหลี่หลงเซิ่งไม่สามารถทนต่อรับคำด่าได้อีก
ป่ายหลี่เถ่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน:”ไม่เป็นไร ความพ่ายแพ้นั้นเป็นเรื่องปกติ โลกกลั่นยามีคนที่มีความสามารถมากมายซ่อนอยู่ แม้แต่ฉันก็ไม่กล้าพูดว่าสามารถเอาชนะได้ทุกคน คุณแพ้ก็เป็นเรื่องปกติ”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดพึมพำ:”ใช่จริงๆเหรอ? แต่ตอนนั้นฉันใกล้จะเอาชนะได้แล้ว! ทำไมถึงพ่ายแพ้ได้ละ?”
“เขาโกง เขาต้องโกงแน่นอน!”ป่ายหลี่หลงเซิ่งชี้หน้าหลินหยุนและตะโกนด้วยความโกรธ
ป่ายหลี่เถ่พูดอย่างเย็นชา:”พอได้แล้ว แพ้ก็คือแพ้ คนของสำนักยาตัน มีใครไม่เคยแพ้บ้าง!”
“จากนี้ไปกลับไปฝึกฝนให้เยอะๆ ถ้าเรียนสำเร็จค่อยไปเอาชนะเขา อย่าตะโกนแบบนี้อีก!”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งโดนป่ายหลี่เถ่ด่า ทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก เขามองหน้าหลินหยุนด้วยสายตาที่โกรธ และเดินลงจากเวทีด้วยความไม่เต็มใจ
หลินหยุนมองป่ายหลี่เถ่ที่มีสีหน้าที่เย็นชาและไม่พอใจ เขาเป็นเจ้าสำนักสำนักยาตัน เป็นชื่อเสียงมากๆในโลกกลั่นยา เป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา และทำให้หุบเขาเทพยาตกอับถึงขนาดนี้ คนอย่างป่ายหลี่เถ่ไม่ธรรมดาจริงๆ
หุบเขาเทพยาพ่ายแพ้ ก็เป็นเรื่องปกติ
ป่ายหลี่เถ่มองไปที่หลินหยุน สีหน้าของเขามีแต่ความเย็นชา แต่ดูไม่ออกว่าในใจของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่
“คุณเก่งมากๆ!”
“มีความเก่งกาจด้านวิชาการกลั่นยา และมีกลอุบายที่เป็นเลิศ เกือบจะทำลายชีวิตของลูกชายฉัน!”
“จิตใจของคุณอำมหิตมากๆ!”
หลินหยุนรู้ตัวดีว่าป่ายหลี่เถ่มองออกว่าเขาต้องการทำลายชีวิตของป่ายหลี่หลงเซิ่ง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ตั้งใจปกปิดอยู่แล้ว
หลินหยุนพูดเบาๆ:”เขาเป็นคนแส่หาเรื่องเอง”
“ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณต้องรับคำท้าประลองแล้ว”หลินหยุนมองไปที่ป่ายหลี่เถ่ ค่อยๆกดดันทีละก้าวๆ
ป่ายหลี่เถ่หัวเราะอย่างเย็นชา:”คุณวางใจได้ ฉันรับคำท้าประลองอยู่แล้ว”
เมื่อพูดจบ ป่ายหลี่เถ่ก็หั่นหลังและเดินกลับไปที่โต๊ะผู้ตัดสินทันที
ป่ายหลี่เถ่มองหน้าผู้ตัดสินหลายๆคน และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:”หลังจากนี้ ฉันจะประลองกับหลินหยุน ใครจะมาเป็นผู้ตัดสิน?”
ผู้ตัดสินเหล่านั้นมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา
การเป็นผู้ตัดสินเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
เพราะไม่มีใครอย่าล่วงเกินผิดใจกับสำนักยาตัน
ในเวลานี้ ผู้ตัดสินแซ่กู่ยืนขึ้น และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:”ฉันเป็นผู้ตัดสินเอง!”
ป่ายหลี่เถ่มองหน้าเขาอย่างจริงจัง เขาพยักหน้าและพูด:”ได้”
จากนั้นป่ายหลี่เถ่ก็หันหลัง และเดินไปด้านหน้าของหลินหยุนและห่างจากหลินหยุนเพียงสามเมตร
เขามองหน้าหลินหยุนและเผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา:”เด็กหนุ่ม คุณแสดงได้ดีมากๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าวิชาการกลั่นยาที่แท้จริง วิชาของคุณมันก็ไร้ประโยชน์!”
“ฉันยอมรับคำท้าประลองของคุณ!”
“ฉันจะทำให้คุณรู้ อะไรคือวิชาการกลั่นยาที่แท้จริง!”
หลินหยุนพูดเบาๆ:”ฉันรออยู่”
ผู้ตัดสินแซ่กู่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:”ป่ายหลี่เถ่ ตอนนี้คุณคือคนที่โดนท้าประลอง ตามกฎระเบียบ คุณต้องยืนอยู่ข้างๆคนที่ท้าประลองคุณ!”
ป่ายหลี่เถ่ไม่ได้พูดอะไร เขาเดินลงไปทันที และยืนอยู่ข้างๆหลินหยุน
ผู้ตัดสินแซ่กู่พูดอีกครั้ง:”ตามกฎระเบียบ ผู้ท้าประลองมีสิทธิ์เลือกก่อน”
ผู้ตัดสินแซ่กู่มองไปที่หลินหยุน:”คุณสามารถเลือกได้ว่าจะประลองกลั่นยาตัวไหน?”
หลินหยุนพูดเบาๆ:”ไม่จำเป็น ให้เขาเป็นคนเลือก ไม่ว่าเขาจะเลือกโอสถตัวไหน ฉันก็โอเค”
ผู้ตัดสินแซ่กู่ขมวดคิ้วทันที
บนโต๊ะผู้ตัดสินที่อยู่ด้านบน ผู้ตัดสินหลายๆคนก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน
“เด็กหนุ่มคนนี้ อวดดีมากเกินไปแล้ว!”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน
“เด็กหนุ่มคนนี้อวดดีมากเกินไปแล้ว ครั้งนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าสำนักยาตันนะ เขาคือบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา!”
“เขานึกว่าตัวเองสามารถเอาชนะเจ้าสำนักยาตันได้ง่ายๆเหมือนกับป่ายหลี่หลงเซิ่งเหรอ?”
เจียงย่านหรงรู้สึกกังวลมากๆ:”คนโง่ คนโง่ ไม่รู้จักประมาณตน อวดดีมากเกินไปแล้ว!”
“ป่ายหลี่เถ่นั้นแข็งแกร่งมากๆ แต่เขากลับไม่ยอมคว้าโอกาสนั้นไว้ เขาอวดดีมากเกินไปแล้ว!”
โม่จือมิ่งอยากจะเตือนหลินหยุน แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าที่ปกติและไม่สะทกสะท้านของหลินหยุน คำพูดที่โม่จือมิ่งอยากจะพูดออกมา แต่เขาก็ไม่รู้จะเอ่ยปากพูดยังไง
ในสายตาของโม่จือมิ่ง ตอนนี้หลินหยุนเป็นบุคคลที่สามารถทำได้ทุกอย่าง
สีหน้าของป่ายหลี่หลงเซิ่งมีแต่ความเกลียดชัง:”ไอ้เด็กหนุ่มคนนี้ มันช่างอวดดีมากเกินไปแล้ว ฉันจะดูว่าเขาจะอวดดีได้อีกนานแค่ไหน! อยากจะมาท้าประลองกับคุณพ่อของฉัน คุณสมบัติของเขายังไม่คู่ควรพอ!”
“ฉันจะรอดูว่าเขาจะยอมแพ้ยังไง สิ่งที่เขาทำไว้กับฉัน พ่อของฉันจะต้องช่วยฉันเอาคืนหลายเท่าอย่างแน่นอน!”
สีหน้าของซูม่านม่านเคร่งขรึมมากๆ ถึงแม้เธอจะมีความมั่นใจในความสามารถของป่ายหลี่เถ่ แต่หลินหยุนกลับทำให้เธอรู้สึกน่ากลัวมากๆเช่นกัน
“เขาเป็นใครกันแน่? ความสามารถทั้งหมดของหุบเขาเทพยา ฉันรู้ดีมากกว่าคนอื่นๆ ความสามารถของเขาทั้งหมด ไม่ใช่หุบเขาเทพยาสามารถสอนได้อย่างแน่นอน!”
“ยิ่งไปกว่านั้น เธอรู้สึกว่าเขาเหมือนภูเขาสูงใหญ่ที่ไม่มีวันข้ามไปได้ ดูเหมือนในร่างกายของเขายังมีสัตว์ร้ายโบราณซ่อนอยู่”
“เขาเหมือนทำได้ทุกๆอย่าง และเป็นคนที่ไม่สามารถเอาชนะได้”
บางครั้งเซนส์ของผู้หญิงนั้นช่างน่ากลัวมากๆ
ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมา:”เด็กหนุ่ม ดูเหมือนคุณจะมั่นใจในตัวเองมากๆ!”
“แต่หวังว่าคุณจะไม่เสียใจภายหลัง!”
ผู้ตัดสินแซ่กู่ส่ายหัว จากความคิดของเขา หลินหยุนอวดดีมากเกินไปแล้ว และเสียโอกาสที่สำคัญในครั้งนี้ไป
เมื่อเป็นอย่างนี้ เขาก็ต้องสูญเสียโอกาสที่จะเอาชนะไปสามสิบเปอร์เซ็นต์
แต่เขาในฐานะผู้ตัดสิน เขาไม่ควรพูดเรื่องพวกนี้ออกมา
ผู้ตัดสินแซ่กู่มองไปที่ป่ายหลี่เถ่และพูดอย่างเคร่งขรึม:”ตามกฎระเบียบ เมื่อผู้ท้าประลองไม่ยอมเลือก คุณสามารถเลือกได้ว่าจะประลองกลั่นยาตัวไหนก็ได้”
ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมา รอยยิ้มของเขาดูเจ้าเล่ห์มากๆ:”ฉันเลือกยาตั้งจิต!”
เมื่อคำว่ายาตั้งจิตถูกพูดออกมา คำพูดนี้มันเหมือนกับระเบิดที่ทิ้งลงไปในแม่น้ำอันสงบนิ่ง และเกิดคลื่นยักษ์ทันที
“ยาตั้งจิต! มันเป็นไปได้ยังไง!”
“มันคือโอสถระดับห้าที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น!”
“มันเป็นโอสถที่ช่วยทำให้ปรมาจารย์บู๊เข้าสู่ขั้นแดนเทพได้ และเป็นโอสถที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น!”
“ไม่มีใครบนโลกนี้สามารถกลั่นยาตัวนี้ได้ไม่ใช่เหรอ? เจ้าสำนักยาตันสามารถกลั่นยาตัวนี้ได้แล้วเหรอ?”
ผู้คนที่อยู่ด้านล่าง ต่างสนทนากันด้วยความตกตะลึง
ยาตั้งจิตนี้ ทำให้ทุกคนตกใจมากๆเหมือนกัน
แม้แต่ผู้ตัดสินแซ่กู่คนนั้นและผู้ตัดสินคนอื่นๆที่อยู่บนโต๊ะ ต่างก็ตกตะลึงและมองไปที่ป่ายหลี่เถ่ทันที
แต่ผู้ตัดสินแซ่กู่ขมวดคิ้วทันที ดูเหมือนเขาจะเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของป่ายหลี่เถ่แล้ว
“ถึงแม้วิชาการกลั่นยาของป่ายหลี่เถ่จะสูงกว่าฉัน แต่สามารถกลั่นยาระดับสี่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแล้ว”
“ตอนนี้เขากลับใช้โอกาสนี้พูดว่าจะประลองกลั่นยาระดับห้า”
“ดูเหมือนเขาไม่มั่นใจว่าตัวเองสามารถเอาชนะเด็กหนุ่มคนนั้นได้!”
“เขาเลือกที่จะพูดว่าต้องการกลั่นยาระดับห้า มันเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง จุดประสงค์หลักของเขาคือทำให้ทั้งสองคนไม่สามารถกลั่นยาได้สำเร็จ ถ้าเป็นแบบนี้ ป่ายหลี่เถ่ก็ไม่พ่ายแพ้อย่างแน่นอน”
“ฮ่าๆๆๆ ป่ายหลี่เถ่ คุณเป็นคนเจ้าเล่ห์จริงๆที่สามารถคิดแผนอย่างนี้ออกมาได้!”
หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ก็เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาทันที ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าความสามารถด้านการกลั่นยาของป่ายหลี่เถ่อยู่ในระดับไหน แต่โอสถระดับห้าในโลกบู๊นั้น มันเป็นโอสถที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น
ไม่ต้องพูดถึงป่ายหลี่เถ่ แม้แต่ในประวัติศาสตร์ของโลกกลั่นยา ก็ไม่เคยมีใครกลั่นยาระดับห้าสำเร็จ