จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 898 ฉันตกลง
มีนักกลั่นยาคนหนึ่งเคยกลั่นยาระดับห้าสำเร็จ แต่ก็ปรากฏอยู่ในตำนานเท่านั้น และไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
นักกลั่นยานั้นมีอยู่จริงหรือเปล่า ไม่สามารถยืนยันได้
ก่อนที่จะมาที่นี่ โม่จือมิ่งเคยอธิบายเรื่องราวต่างๆของโลกกลั่นยาให้เขาฟัง
ดังนั้นหลินหยุนรู้ว่าโอสถระดับห้านั้นเป็นยาอะไร ถ้าเอาโอสถระดับห้าไปเทียบกับโอสถของโลกบำเพ็ญเซียน โอสถตัวนี้ก็คือยาชั้นเลิศมากๆ และมันก็เหนือกว่ายาทุกระดับที่เคยมีมา
ดังนั้น หลินหยุนกล้าพูดอย่างเต็มปากว่าถึงแม้ป่ายหลี่เถ่จะเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา เขาก็ไม่สามารถกลั่นยาระดับห้าได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นจึงคาดเดาได้ไม่ยาก การที่ป่ายหลี่เถ่พูดว่าจะประลองกลั่นยาระดับห้า จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร
แต่หลินหยุนยังประเมินป่ายหลี่เถ่ต่ำเกินไป เขาพูดว่าจะประลองกลั่นยาระดับห้า ทำให้หลินหยุนลำบากใจ ทำให้เขาไม่มีวันพ่ายแพ้ นั่นเป็นเหตุผลแรก
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ ป่ายหลี่เถ่มีโอกาสที่จะกลั่นยาตั้งจิตสำเร็จด้วย
เหตุผลที่ป่ายหลี่เถ่จากคนที่ไร้ชื่อเสียง จนโดดเด่นขึ้นมา และกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยานั้น
อันที่จริงเพราะป่ายหลี่เถ่เคยเจอได้ตำราวิเศษมาเล่มหนึ่ง
เขาได้วิชาการกลั่นยาของบุคคลลึกลับคนหนึ่ง ถึงแม้ตำราเล่มนั้นจะไม่ได้สมบูรณ์ทั้งหมด ในตำรามีเนื้อหามากมายที่เขาก็อ่านไม่เข้าใจ
แต่จากเนื้อหาที่เขาอ่านแล้วเข้าใจ ก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จมากๆ และกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา
หนึ่งในเนื้อหาที่เขาเข้าใจนั้น เป็นวิธีการกลั่นยาชนิดหนึ่งที่คล้ายๆกับยาตั้งจิต
ป่ายหลี่เถ่เป็นคนที่ฉลาดมากๆ เขาอ่านเนื้อหาการกลั่นยาชนิดนี้เข้าใจแล้ว และรวมกับการฝึกฝนของโลกบู๊ในขณะนี้ ทำให้เขาคิดค้นวิธีการกลั่นยาตั้งจิตออกมาได้
เรื่องนี้ทำให้ป่ายหลี่เถ่ใช้เวลาถึงสิบปี และสองสามวันที่ผ่านมา เขาพึ่งจะคิดค้นมันออกมาจนสำเร็จ
สำหรับวิชาการกลั่นยาที่ไม่สมบูรณ์เล่นนี้ที่ป่ายหลี่เถ่ได้มาครอบครองนั้น เป็นตำราของผู้บำเพ็ญเซียนคนหนึ่งทิ้งเอาไว้
เนื้อหาที่ป่ายหลี่เถ่เข้าใจนั้น เป็นเพียงแค่พื้นฐานของตำราเล่มนั้นเท่านั้น
ตำราวิชาการกลั่นยาเล่มนั้น เมื่อเทียบกับตำราวิชาการกลั่นยาที่หลินหยุนเคยอ่านจากโลกบำเพ็ญเซียนนั้น มันก็เป็นแค่ตำราขยะเท่านั้น
เนื่องจากผู้บำเพ็ญเซียนเหล่านั้น ก็คงเหลือตำราเล็กน้อยไว้ที่โลกมนุษย์ ถ้าเทียบกับหลินหยุนเคยศึกษาตำราต่างๆในโลกบำเพ็ญเซียน มันเทียบกันไม่ติดจริงๆ
แต่ตำราเล่มนั้นกับทำให้ป่ายหลี่เถ่กลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา
ความลับของป่ายหลี่เถ่ไม่มีใครรู้ แม้แต่ป่ายหลี่หลงเซิ่งที่เป็นลูกชาย ก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน
นี่คือความลับสูงสุดของเขา เพราะเขาไม่เคยเชื่อใจใครเลย แม้แต่ลูกชายและภรรยาของตัวเอง
ดังนั้นตอนที่ป่ายหลี่หลงเซิ่งได้ยินว่าพ่อของตัวเองจะกลั่นยาตั้งจิต ป่ายหลี่หลงเซิ่งก็ตกตะลึงและอึ้งไปเหมือนกัน
“คุณพ่อบ้าไปแล้วเหรอ? ทำไมพ่อถึงเลือกยาตั้งจิต! ยาตั้งจิตเป็นโอสถที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าวิธีกลั่นยายังไง พ่อจะกลั่นยาสำเร็จได้ยังไง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของป่ายหลี่หลงเซิ่ง ทำให้ซูม่านม่านเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของป่ายหลี่เถ่ทันที
ต้องพูดตามตรง อดีตเทพธิดาของหุบเขาเทพยาคนนี้ เธอเป็นคนที่มีความฉลาดและไอคิวสูงมากๆ
แต่น่าเสียดาย เธอมีอีคิวที่ต่ำและมองคนไม่เป็นเลย
“เจ้าสำนักฉลาดมากๆ ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง พวกเราก็ไม่มีทางพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”
ไม่ใช่แค่ป่ายหลี่หลงเซิ่งเพียงคนเดียวที่คิดเรื่องนี้เท่านั้น แต่ทุกคนที่อยู่ด้านล่างต่างสนทนาเรื่องนี้ ทำไมป่ายหลี่เถ่ต้องเลือกที่จะกลั่นยาที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น
เพราะโอสถตัวนี้เคยมีอยู่จริงหรือเปล่า ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้
บางทีสมุนไพรที่จะนำมากลั่นยาตัวนี้ก็อาจจะไม่ได้เตรียมไว้ก็ได้ นอกจากว่าป่ายหลี่เถ่จะมีสูตรการกลั่นยาตัวนี้อยู่ในมือ
“เจ้าสำนักป่ายหลี่ต้องการทำอะไรกันแน่?”
“ยาตั้งจิตนะ เขาไม่สามารถกลั่นยาตัวนี้สำเร็จได้จริงๆนะ!”
“นี่เป็นโอสถที่สามารถช่วยให้นักบู๊ถึงขั้นแดนเทพได้ ถ้าโอสถตัวนี้สามารถกลั่นได้สำเร็จ อาจจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายในโลกบู๊อย่างแน่นอน!”
แดนเทพปรากฏ บู๊โบราณเผยตัว
เพราะขั้นแดนเทพคือนักบู๊ที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น
ถ้าปรากฏโอสถที่สามารถช่วยให้นักบู๊ถึงขั้นแดนเทพได้ จะต้องถูกนักบู๊ทั้งหลายแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง ถึงแม้ต้องสูญเสียมากมายก็ไม่สน ขอแค่ได้โอสถนั้นมาครอบครอง
ทุกคนไม่เชื่อว่าป่ายหลี่เถ่สามารถกลั่นยาตั้งจิตได้ และก็ไม่เชื่อว่าป่ายหลี่เถ่จะมีสูตรของโอสถระดับห้าที่มีอยู่แค่ในตำนาน
ผู้ตัดสินแซ่กู่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของป่ายหลี่เถ่ เขาก็ไม่ค่อยสนใจยาตั้งจิตอีกเลย
เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น จะไปสนใจทำไมอีก?
“หลินหยุน ป่ายหลี่เถ่ต้องการประลองกลั่นยาระดับห้า คุณจะรับคำท้านั้นไหม?”
“ฉันรับคำท้า”หลินหยุนตอบกลับเบาๆ
เมื่อได้รับคำตอบที่แน่ชัดของหลินหยุน ผู้ตัดสินแซ่กู่ก็ทำตามกฎระเบียบ และถามทั้งสองคนอีกครั้ง
หลังจากนั้น ผู้ตัดสินแซ่กู่ก็มองไปที่ป่ายหลี่เถ่:”จากกฎระเบียบที่ตั้งไว้ ใครที่เป็นคนเลือกประลองกลั่นยาตัวไหน คนคนนั้นต้องเอาสูตรการกลั่นยาตัวนั้นออกมา”
“ป่ายหลี่เถ่ คุณต้องเอาสูตรการกลั่นยาตั้งจิตออกมา”
เมื่อพูดคำนี้จบ สายตาของทุกคนมองไปที่ป่ายหลี่เถ่ทันที
เพราะทุกคนคิดว่าป่ายหลี่เถ่เอาสูตรการกลั่นยาตั้งจิตออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน
แม้แต่ป่ายหลี่หลงเซิ่งก็เอามือปิดหน้าตัวเองไว้:”ตอนนี้ขายขี้หน้าจริงๆ”
แต่ป่ายหลี่เถ่กลับหัวเราะออกมา จู่ๆเขาก็หยิบสูตรยาอันหนึ่งออกมา:”เอาไปเลย นี่คือสูตรการกลั่นยาตั้งจิต”
“แต่สูตรยาตัวนี้ล้ำค่ามากๆ ให้คนอื่นอ่านไม่ได้ ฉันจะบอกสมุนไพรของยาตั้งจิตให้คุณรู้ คุณก็หยิบสมุนไพรต่างๆตามที่ฉันบอก”
ผู้ตัดสินแซ่กู่ลำบากใจมากๆ:”นี่มันผิดกฎระเบียบที่ตั้งไว้!”
ป่ายหลี่เถ่พูด:”ไม่มีทางเลือก ทุกคนก็รู้ดีว่าโอสถระดับห้ามีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น เพื่อสูตรกลั่นยาตัวนี้ ฉันใช้เวลาคิดค้นถึงสิบปี”
“ถ้าสูตรการกลั่นยานี้รั่วไหลออกมา ฉันคงต้องสูญเสียอย่างมหาศาลแน่นอน”
ผู้ตัดสินแซ่กู่ขมวดคิ้ว เขามองไปที่หลินหยุนและถาม:”หลินหยุน คุณคิดว่าไง? ถ้าคุณรับปากเรื่องนี้ ก็สามารถประลองต่อได้เลย”
“แต่คุณมีแค่สมุนไพร แต่ไม่มีสูตรยา ถ้าอยากจะกลั่นยาสำเร็จ มันยากกว่าขึ้นสวรรค์อีก!”
โม่จือมิ่งตะโกนออกมาด้วยความโกรธ:”ต่ำช้าสารเลว ถ้ามีแค่สมุนไพร ไม่รู้สูตรกลั่นยา แล้วจะกลั่นยายังไง!”
“ป่ายหลี่เถ่ คุณตั้งใจกลั่นแกล้งกันชัดๆ! ในเมื่อคุณเป็นคนพูดเองว่าจะประลองกลั่นยาตั้งจิต คุณก็ต้องทำตามกฎระเบียบและเอาสูตรการกลั่นยาออกมา คุณอย่าหาข้ออ้างแก้ตัวอีกเลย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของโม่จือมิ่ง นักกลั่นยาที่อยู่ด้านล่างต่างมองหน้ากัน
พวกเขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม แต่พวกเขาไม่กล้าพูดโต้เถียงต่อหน้าป่ายหลี่เถ่ เพราะอำนาจของตระกูลป่ายหลี่ในโลกกลั่นยานั้นแข็งแกร่งมากๆ
แต่ก็มีคนที่ไม่กลัวอำนาจของตระกูลป่ายหลี่ แต่เกลียดตระกูลป่ายหลี่มากๆอย่างเช่นเจียงย่านหรง
ผู้หญิงคนนี้ตะโกนออกมาทันที:”คุณพูดถูกแล้ว ป่ายหลี่เถ่คุณเป็นเจ้าสำนักยาตันและเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา คุณกลั่นแกล้งคู่ต่อสู้อย่างงี้ได้ยังไง?”
“ชื่อเสียงของสำนักยาตัน โดนเจ้าสำนักอย่างคุณทำเสียชื่อเสียงไปหมดแล้ว!”
ป่ายหลี่เถ่มีสีหน้าที่ปกติ เขาคาดเดาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเขาพูดเรื่องยาตั้งจิตออกมา จะมีผลลัพธ์ที่ไม่ดีแบบนี้
สำหรับเสียงที่คัดค้านนั้น ป่ายหลี่เถ่ไม่ได้สนใจเลย
ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร ขอแค่ฉันเอาชนะได้ สำนักยาตันก็จะเป็นสำนักอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา ฉันก็ยังคงเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา
และป่ายหลี่เถ่ก็จงใจกลั่นแกล้งหลินหยุนเช่นกัน
เลือกหรือไม่เลือกให้หลินหยุนเป็นคนตัดสินใจ
ถ้าหลินหยุนตอบปฏิเสธ เขาก็จะไม่ยอมรับการท้าประลองของหลินหยุนอีก
แต่ถ้าหลินหยุนตอบรับ เขาก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ทุกคนรู้ความคิดของเขา ดังนั้น ตอนนี้สายตาของทุกคนมองไปที่หลินหยุน และรอคำตอบจากหลินหยุนว่าเขาจะเลือกยังไง
หลินหยุนมีสีหน้าที่ปกติ และตอบอย่างเบาๆ:”ฉันยอมรับ เริ่มประลองกันได้แล้ว!”