จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 899 ใครบอกว่าฉันยอมแพ้
ทุกคนพูดไม่ออกเลย
เขาตอบตกลงแล้วเหรอ?
ทำไมเขาถึงเป็นคนพูดง่ายอย่างนี้ละ
เขาคงไม่รู้แผนการอันสกปรกของป่ายหลี่เถ่หรือเปล่า!
เฮ้อ เด็กหนุ่มคนนี้ อายุน้อยและไม่ทันโลกจริงๆ!
ป่ายหลี่เถ่เป็นจิ้งจอกแก่และเจ้าเล่ห์มากๆ
เมื่อได้ยินหลินหยุนตอบตกลง ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมา เขาแสดงสีหน้าว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขาทั้งหมด
ผู้ตัดสินแซ่กู่มองหน้าหลินหยุนครั้งหนึ่ง และเขาก็รู้สึกว่าหลินหยุนอ่อนต่อโลกมากเกินไป เขาก็เลยประเมินหลินหยุนต่ำลง
การประลองที่ไม่ยุติธรรมขนาดนี้ แต่เขากลับตอบตกลง เขารู้สึกว่าหลินหยุนโง่มากๆ เหมือนผู้ชายร่างใหญ่แต่ไร้สมอง
“ในเมื่อคุณตอบตกลงแล้ว งั้นฉันจะประกาศทันที ตอนนี้เริ่มการประลองครั้งนี้ได้!”
ป่ายหลี่เถ่บอกผู้ตัดสินแซ่กู่ว่าต้องการสมุนไพรอะไรบ้างจากสูตรการกลั่นยาตั้งจิต จากนั้นผู้ตัดสินยืนยันแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาก็ให้คนไปเตรียมสมุนไพรทันที
ผ่านไปไม่นาน มีสมุนไพรจำนวนมากถูกนำขึ้นมาบนเวที
สมุนไพรทั้งหมดมีสิบกว่าชนิด และสมุนไพรเหล่านี้ก็เป็นสมุนไพรที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยหนัก นักกลั่นยาทั่วไปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสมุนไพรเหล่านี้คืออะไร
มีเพียงนักกลั่นยาที่มีความรู้และความชำนาญด้านสมุนไพร ถึงจะสามารถแยกแยะสมุนไพรเหล่านี้ได้
มีนักกลั่นยาทั่วไปคนหนึ่งถอนหายใจและพูด:”โอ้พระเจ้า สมุนไพรเหล่านี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย มันจะเอามากลั่นยาได้เหรอ!”
“พวกเขากลั่นยาตั้งจิตไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องใช้สมุนไพรตั้งหลายสิบชนิดด้วย?”
“ยาตั้งจิตต้องใช้สมุนไพรสิบกว่าชนิดหลอมรวมกันถึงจะกลั่นยาสำเร็จเหรอ?”
มันไม่ใช่อยู่แล้ว นี่คือแผนการที่ป่ายหลี่เถ่จงใจกลั่นแกล้งหลินหยุน
ในสูตรยาของเขามีเขียนสมุนไพรไว้หลายสิบชนิด อันที่จริงสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นยาตั้งจิตใช้สมุนไพรหลักๆแค่ไม่กี่ชนิด
ส่วนสมุนไพรที่เหลือใช้เพียงแค่เล็กน้อย เอาไว้หลอมรวมสมุนไพรหลักๆเท่านั้น
เนื่องจากสูตรยาตัวนี้ ป่ายหลี่เถ่พึ่งคิดค้นได้ไม่นาน และมันก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เขาหาวิธีที่ดีในการจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงใช้สมุนไพรสิบกว่าชนิดมาหลอมรวมตัวสมุนไพรหลักๆ
แต่ถ้าให้นักกลั่นยาที่ไม่รู้สูตรยาเลย ใช้สมุนไพรสิบกว่าชนิดมากลั่นยาตั้งจิต มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ดังนั้นป่ายหลี่เถ่ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด เขารู้สึกว่าหลินหยุนต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!
โม่จือมิ่งมองเห็นสมุนไพรเยอะขนาดนี้ เขาโกรธจนหน้าดำหน้าแดงทันที
“เลวทรามต่ำช้า ไร้ยางอายมากๆ ไอ้จิ้งจอกแก่อย่างป่ายหลี่เถ่เป็นคนที่เลวทรามและไร้ยางอายมากๆ!”
แต่เขาก็ทำได้แค่ด่าออกมาเท่านั้น ในเมื่อหลินหยุนตกตกลงแล้วว่าจะประลองกับป่ายหลี่เถ่ ตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้
โม่จือมิ่งด่าไปสองสามประโยค หลังจากได้ระบายความโกรธแล้ว เขาก็รู้สึกสิ้นหวังทันที
“ดูเหมือนครั้งนี้คงเอาบันทึกเตากลั่นยากลับมาไม่ได้แล้ว”
“คิดไม่ถึงจริงๆว่าปรมาจารย์หลินจะตกหลุมพรางของป่ายหลี่เถ่!”
ผู้ตัดสินเหล่านั้นที่อยู่บนโต๊ะ พวกเขาก็เข้าใจจุดประสงค์ของป่ายหลี่เถ่ และด่าป่ายหลี่เถ่เป็นคนเจ้าเล่ห์อยู่ในใจ
ผู้คนที่อยู่ด้านล่าง หลังจากหายสงสัยแล้ว คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจถึงแผนการของป่ายหลี่เถ่ทันที
พวกเขารู้สึกตกใจกับแผนการของป่ายหลี่เถ่ ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกสงสารหลินหยุนด้วย
มีสมุนไพรหลายสิบอย่างรวมกัน ยังไม่มีสูตรยาด้วย อย่าว่าแต่กลั่นยาระดับห้าที่อยู่ในตำนานเลย ถ้าให้กลั่นยาระดับหนึ่งก็มีโอกาสสำเร็จยากมาก
เนื่องจากสูตรยาหนึ่งชนิด เคยผ่านการทดสอบมานับครั้งไม่ถ้วน และผ่านการปรับปรุงให้มันดีขึ้น มันเป็นข้อมูลที่ละเอียดมากๆ
มันก็เหมือนกับหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง ถ้าใช้มากไปก็ไม่ได้ ใช้น้อยไปก็ไม่ได้ ถ้าใช้มากไปหรือน้อยไปก็จะทำให้กลั่นยาล้มเหลวได้
“ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนั้นคงต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”
ทุกคนรู้สึกว่าการประลองครั้งนี้หลินหยุนต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ในสถานการณ์แบบนี้ ทำให้ซูม่านม่านโล่งใจทันที
ป่ายหลี่เถ่เป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เป็นคนเจ้าเล่ห์มากๆ และวางหลุมพรางให้หลินหยุนถึงสามชั้น
หลุมพรางอันแรกคือโอสถระดับห้าที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น หลุมพรางอันที่สองคือไม่ให้สูตรยากับเขา หลุมพรางอันที่สามคือใช้สมุนไพรหลายสิบชนิดมาหลอกลวงเขา
ถ้าขนาดนี้แล้วหลินหยุนยังสามารถกลั่นยาได้สำเร็จ แสดงว่าหลินหยุนไม่ใช่คนแล้ว แต่เป็นเทพต่างหาก
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะพ่ายแพ้อีกแล้ว”
ป่ายหลี่เถ่มองไปที่หลินหยุนและหัวเราะเบาๆ พูดด้วยสีหน้าเมตตา:”ฉันจะเริ่มแล้ว ถ้าคุณอยากได้บันทึกเตากลั่นยาคืน ก็เอาชนะฉันให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูดกัน”
หลินหยุนมีสีหน้าที่ปกติ เขาพูดออกมาเพียงคำเดียว:”ได้”
ป่ายหลี่เถ่ยิ้มด้วยความดูถูก เขาหันศีรษะและเริ่มกลั่นยาทันที
หลินหยุนยืนอยู่ที่เดิมและไม่ได้ขยับตัว
ยาตั้งจิตไม่ใช่สูตรยาที่โม่จือมิ่งรู้และบอกให้เขาทราบได้ ดังนั้นหลินหยุนก็เลยไม่รู้ว่ายาตั้งจิตต้องใช้สมุนไพรอะไร และต้องกลั่นยายังไง
ถึงแม้หลินหยุนจะแข็งแกร่งมากๆ และมีวิชาการกลั่นยาที่เหนือกว่านักกลั่นยาบนโลกนักบู๊ แต่เขาไม่มีสูตรยา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องกลั่นยายังไง
แต่หลินหยุนไม่ได้รีบร้อน เขายืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ และมองป่ายหลี่เถ่กลั่นยาขั้นตอนที่หนึ่งอยู่
ทันทีที่ป่ายหลี่เถ่เริ่มกลั่นยา เขาก็จะรวบรวมสมาธิมากๆ และไม่สนใจเรื่องภายนอก นี่คือสภาพจิตใจอันแน่วแน่ของนักกลั่นยาระดับสูงที่ต้องมี
ผ่านไปสักพัก ขั้นตอนที่หนึ่งก็ทำสำเร็จ จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนที่สองนั้นก็คือรวมตัวยา
และในเวลานี้ หลินหยุนยังคงไม่ขยับตัว เขายืนอยู่ที่เดิมและมองดูป่ายหลี่เถ่อย่างเงียบๆ
ป่ายหลี่หลงเซิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ:”หึ ครั้งนี้หลินหยุนคงยอมแพ้แล้วมั้ง!”
“ฉันไม่เชื่อหรอก ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เขายังจะสามารถเอาชนะได้อีก”
ซูม่านม่านหัวเราะและพูดว่า:”คุณชายป่ายหลี่ เจ้าสำนักเป็นคนที่ฉลาดและแข็งแกร่งมากๆ ครั้งนี้เจ้าสำนักได้วางหลุมพรางให้เด็กหนุ่มคนนั้นไว้หลายชั้น เขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”
“ความแค้นของคุณ เจ้าสำนักได้ช่วยล้างแค้นให้แล้ว”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา:”ไม่ใช่ ความแค้นของฉันยังไม่ได้ล้างแค้น รอให้งานประลองกลั่นยาเสร็จสิ้นแล้ว ฉันจะทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นตายทั้งเป็น!”
“กล้าล่วงเกินคนอย่างฉัน ฉันจะให้เขาตายอยู่ที่นี่ อีกอย่างเขาเป็นคนของหุบเขาเทพยาด้วย ถ้าให้เขาหนีไปได้ เขาจะกลายเป็นศัตรูคนสำคัญของสำนักยาตันในอนาคตอย่างแน่นอน!”
ซูม่านม่านมองป่ายหลี่หลงเซิ่งด้วยความประหลาดใจ จู่ๆผู้ชายคนนี้ก็ฉลาดขึ้นแล้วเหรอ
ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ด้านล่าง ก็คิดเหมือนกับป่ายหลี่หลงเซิ่ง พวกเขานึกว่าหลินหยุนยอมแพ้แล้ว
ครั้งนี้ถ้ายังไม่ยอมแพ้ แต่หลินหยุนก็คงจะเอาชนะไม่ได้ เนื่องจากป่ายหลี่เถ่ร้ายกาจมากๆและวางหลุมพรางไว้ให้เขามากมาย
แม้แต่โม่จือมิ่งที่เชื่อมั่นในความสามารถของหลินหยุนมากๆ ก็รู้สึกว่าหลินหยุนได้ยอมแพ้แล้ว
ผ่านไปไม่นาน ขั้นตอนที่สองก็เสร็จสิ้น ป่ายหลี่เถ่เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย นั้นก็คือกลั่นยาสำเร็จ
ในเวลานี้ จู่ๆหลินหยุนก็ขยับตัวทันที
“คุณคิดว่าแค่นี้ก็จะสามารถเอาชนะฉันได้เหรอ?”
“คุณไร้เดียงสามากเกินไปแล้ว”
“ตอนนี้ ฉันจะทำให้คุณได้เห็น ว่าพวกเราห่างกันมากแค่ไหน ความสามารถของพวกเรามันต่างกันราวฟ้ากับเหว”
เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็ยื่นนิ้วมือข้างหนึ่งออกมา มีสมุนไพรสี่อย่างคอยๆลอยขึ้นกลางอากาศ
มีเปลวไฟพุ่งออกมาและห่อหุ้มสมุนไพรทั้งสี่เอาไว้ ผ่านไปแวบเดียว ก็มีโอสถสีแดงเม็ดหนึ่ง ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทิศ และโอสถเม็ดนั้นก็หมุนตัวอยู่กลางอากาศ
สนามแข่งขันเงียบสงัดทันที
ทุกคนตกใจมากๆจนอ้าปากค้าง!
พวกเขาได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์นี้!
ยังดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ครั้งนี้พวกเขาอึ้งไปเพียงแค่ชั่วครู่ ก็ได้สติเร็วกว่าครั้งแรกหลายเท่า
ผู้ตัดสินแซ่กู่อยู่ใกล้หลินหยุนมากที่สุด ทำให้เขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
และเขาก็คือคนแรกที่ได้สติคืนมาจากความตกตะลึง
“นิ้วเดียวกลั่นยาสำเร็จ!”
“มัน มันเป็นไปได้ยังไง!”
ผู้ตัดสินแซ่กู่ตกตะลึงจนเหงื่อเย็นไหลออกมา เหตุการณ์ที่เขาเห็นในวันนี้ มันมหัศจรรย์กว่าทุกเรื่องที่เขาเคยเห็นมาตลอดชีวิต
ผู้ตัดสินคนอื่นๆก็ตกตะลึงมากๆจนลูกตาแทบจะกระเด็นออกมา
ทุกคนสีหน้าตกตะลึงด้วยความหวาดกลัว:”นิ้วเดียวกลั่นยาสำเร็จ!”
“เขาทำได้ยังไง!”
“มหัศจรรย์ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากๆ!”