จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 90 ฉันรับประกันได้
บทที่ 90 ฉันรับประกันได้
ได้ยินคำตอบของหลินหยุน แววตาของจงเฟยหยู่แสดงออกถึงอาการตะลึงเล็กน้อย
แต่เพียงแวบเดียว อาการตกตะลึงก็แปรเปลี่ยนเป็นอาการดูหมิ่นเหยียดหยาม
“ใครพูดโอ้อวดไม่เป็น? อย่างแกน่ะเหรอ มีสิทธิ์อะไรที่จะมาดูหมิ่นคนอื่นได้? ”
“มีความสามารถแล้วหยิ่งผยอง เรียกว่าเจตนาเสแสร้ง! ไม่มีความสามารถแล้วหยิ่งผยอง เรียกว่าโง่เขลาเบาปัญญา! ”
หลินหยุนมองไปที่จงเฟยหยู่ที่มีท่าทางหยิ่งผยอง แล้วพูดว่า“เธอต้องการที่จะบอกกับฉันว่า เธอเองคือคนโง่เขลาเบาปัญญาใช่ไหม? ”
“แก……” จงเฟยหยู่โมโหจนสีหน้าแดงก่ำ ใบหน้าที่สวยงามเย็นชาไปหมด
นักศึกษารอบข้างที่ได้ยินหลินหยุนพูด แต่ละคนเบิกตาโพลงแทบไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันได้ยินไม่ผิดไปใช่ไหม เขากล้าที่จะด่าว่าจงเฟยหยู่โง่……” คำพูดสุดท้ายนั้น นักศึกษาคนนี้ไม่กล้าที่จะพูดออกมาจริง ๆ
“นี่คือคนแรกที่กล้าด่าว่าจงเฟยหยู่! ”
“เขาไม่กลัวว่าเสิ่นจงซูจะมา หาเรื่องเอาความเขาเหรอ? ”
“คนหนุ่มที่ไม่รู้จักความตาย ถ้าหากว่าไอ้หนุ่มน้อยคนนี้รับทราบถึงเชื้อสายวงศ์ตระกูลของเสิ่นจงซูกับจงเฟยหยู่แล้ว ต่อให้เขามีความกล้าสักแค่ไหนเขาก็คงไม่กล้าที่จะดุด่าจงเฟยหยู่อย่างนี้เป็นแน่”
จงเฟยหยู่จ้องไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าที่เย็นชา กัดฟันแน่น“ตอนนี้ฉันกลับที่จะคาดหวังอย่างมากที่จะให้แกสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ จะดูสิว่าแกจะมีความสามารถเท่าไหร่กันแน่ถึงได้กล้าหลงระเริงเช่นนี้! ”
หลินหยุนพูดว่า“วางใจได้ คุณจะได้เห็นอย่างแน่นอน”
เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็เดินไปที่ด้านข้างของโจวชิงเหอกับโม่หัวถิงทั้งสองคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่
นักศึกษาทุกคนต่างจับตามองในทุกกระทำของหลินหยุน เห็นว่าหลินหยุนเดินไปหาสองคนนั้น ขณะนั้น นักศึกษาทุกคนต่างก็หยุดหายใจชั่วขณะ รอคอยดูว่าหลินหยุนจะทำอะไรต่อจากนี้
โม่หัวถิงก็ยังคงไม่ยอมที่จะให้หลินหยุนลงแข่งขันในระดับอาจารย์ แต่ทว่า ท่าทางของโจวชิงเหอก็ยังคงแข็งข้อ ทั้งสองคนยังคงไม่มีใครยอมใคร
หลินหยุนเดินเข้าไปหา แล้วหยุดอยู่กับที่ มองไปยังโม่หัวถิง พูดว่า“ทำอย่างไรท่านถึงจะยอมตกลงให้ฉันเข้าร่วมลงแข่งระดับอาจารย์? ”
โม่หัวถิงกับโจวชิงเหอยุติการทะเลาะกัน หันไปมองที่หลินหยุน เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
โม่หัวถิงมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาที่โมโห เขากับโจวชิงเหอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ตอนนี้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก็เป็นเพราะหลินหยุน
“ถ้าหากนายรับประกันว่าจะสามารถเอาชนะได้ ฉันจะตกลงให้นายเป็นตัวแทนของผู้อำนวยการโจวเข้าร่วมแข่งขันระดับอาจารย์! ”
ที่โม่หัวถิงพูดแบบนี้ เพราะตั้งใจจะทำให้หลินหยุนลำบากใจ ต้องการให้หลินหยุนถอนตัว
ทุกคนรอบข้างต่างก็เข้าใจถึงเจตนาของโม่หัวถิง และพากันมองไปที่หลินหยุนอย่างจดจ่อ พวกเขาคิดว่า ครั้งนี้หลินหยุนคงน่าจะยอมตายใจแล้ว
โจงชิงเหอทนดูไม่ไหว พูดโต้ตอบไปว่า“ศาสตราจารย์โม่ ท่านจงใจกลั่นแกล้งกันแบบนี้! ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะเอาชนะได้? ตัวท่านเองเอาชนะได้หรือเปล่า? ”
โม่หัวถิงก็แดงหน้าก่ำ แต่เพื่อต้องการให้หลินหยุนยอมถอนตัวล้มเลิกความตั้งใจ เขาจำต้องยอมที่จะเสียหน้าเพื่อทำเช่นนี้
“ในเมื่อไม่รับประกันว่าจะเอาชนะได้ แล้วเขาจะมาร่วมแข่งขันหรือไม่ร่วมแข่งขันในระดับอาจารย์ มันมีความแตกต่างกันที่ตรงไหน? ”
โจวชิงเหอพูดอย่างโมโหว่า“โม่หัวถิง ท่านทำแบบนี้เป็นการสับเปลี่ยนแนวความคิด โต้แย้งอย่างไม่มีเหตุมีผล! ”
หลินหยุนพูดขึ้นกะทันหันว่า“ผู้อำนวยการโจว ฉันสามารถรับประกันได้”
โจวชิงเหอตกตะลึงอย่างรุนแรง แล้วมองไปที่หลินหยุน“หมอเทพหลิน ฉันทราบว่าวิชาการแพทย์ของคุณสูงส่งยิ่งนัก แต่ว่าฉินโจวเป็นถิ่นกำเนิดของหมอเซียน วิชาการแพทย์ของพวกเขาสูงส่งกว่าพวกเราหลินโจวเป็นไหน ๆ แล้วจะสามารถรับประกันว่าจะเอาชนะได้อย่างไรกันล่ะ? ”
“โม่หัวถิงไอ้แก่ผู้นี้ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าจงใจกลั่นแกล้งคุณอยู่ ! แต่ก็ต้องโทษที่ฉันพิจารณาไม่รอบคอบ หากทราบล่วงหน้าว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันคงไม่ทำให้คุณต้องมาตกที่นั่งลำบากแบบนี้แน่! ”
หลินหยุนยิ้ม พูดอย่างมั่นใจว่า“ผู้อำนวยการโจววางใจได้ ในเมื่อฉันตอบตกลง ฉันก็ต้องมีความมั่นใจอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องการให้ท่านช่วยค้ำประกันให้กับตัวฉันด้วย”
โจวชิงเหอมองไปที่หลินหยุน เหมือนกับว่าถูกโน้มน้าวจากความมั่นใจในตัวของเขา จึงสอบถามย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า“คุณจะตอบตกลงกับเงื่อนไขที่มันไม่ยุติธรรมแบบนี้จริง ๆ เหรอ? ”
หลินหยุนพยักหน้า“ตามนี้จริง ๆ ”
โจวชิงเหอสูดลมหายใจลึก แสดงท่าทางยอมจำนนทุกอย่างเพื่อตามใจฝ่ายตรงข้าม“ตกลง ในเมื่อหมอเทพหลินมีความมั่นใจขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยินดีที่จะเป็นผู้ค้ำประกันให้กับหมอเทพหลิน! ”
โจวชิงเหอเหลียวมองไปที่โม่หัวถิง พูดอย่างเย็นชาว่า“โม่หัวถิง ท่านได้ยินแล้วใช่ไหม หมอเทพหลินตกลงยอมรับในเงื่อนไขของท่าน ฉันเป็นผู้ค้ำประกันให้ ถ้าหากเขาไม่สามารถเอาชนะในการแข่งขันครั้งนี้ได้ ผลที่เกิดขึ้นทุกอย่างฉันจะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด! ”
โม่หัวถิงถอนหายใจ พูดว่า“ก็ตกลงตามนี้ ในเมื่อพูดกันถึงขั้นนี้แล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรที่จะพูดเพิ่มเติมอีกแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้หมอเทพหลินผู้นี้เป็นตัวแทนของผู้อำนวยการโจว เข้าร่วมแข่งขันในระดับอาจารย์แล้วกัน! ”
ซูชิงเหยียนและพวกนักศึกษา แม้ว่าจะไม่เห็นด้วย แต่ในเมื่อหลินหยุนรับประกันว่าจะเอาชนะได้แล้ว พวกเขาจึงไม่มีทางที่จะพูดอะไรได้อีก
“ฮืม คำโอ้อวดใครพูดไม่เป็นกันเล่า เดี๋ยวถ้าหากเขาพ่ายแพ้ ดูแล้วกันว่าต่อไปเขายังจะมีหน้ามีที่ยืนอยู่ในวงการแพทย์ของหลินโจวได้อย่างไรกัน! ”
“คาดว่าครั้งนี้ผู้อำนวยการโจวคงจะถูกเขาเล่นงานเข้าให้แล้ว”
พวกนักศึกษาต่างก็ไม่คาดหวังในตัวของหลินหยุน คิดว่าหลินหยุนจะต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
จงเฟยหยู่ชายตามองไปที่หลินหยุนอย่างเย็นชา หัวเราะในใจว่า“คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าไอ้หนุ่มน้อยผู้นี้ชอบที่จะอวดดีขนาดนี้! ถ้าหากเขาถอนตัวในตอนนี้ อย่างมากก็แค่ถูกคนหัวเราะเยาะเย้ย แต่ถ้าหากว่าครั้งนี้เขาพ่ายแพ้ ต่อไปเขาก็จะกลายเป็นคนผิดแห่งวงการแพทย์ของหลินโจว ตลอดชีวิตนี้คงไม่มีทางที่จะกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติได้อีกต่อไป! ”
โม่หัวถิงมองไปที่ซูชิงเหยียน พูดว่า“อธิการบดีซู ประกาศรายชื่อผู้คัดเลือกเข้าแข่งขันได้แล้ว! ”
ซูชิงเหยียนพยักหน้า พูดต่อหน้าทุกคนว่า“ฉันขอประกาศอย่างเป็นทางการ รายชื่อผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันการเสวนาในครั้งนี้ ระดับอาจารย์ ได้แก่ศาสตราจารย์โม่กับฉัน และหมอเทพหลิน ส่วนระดับนักศึกษา ได้แก่เสิ่นซูจง จงเฟยหยู่ และจางเหยียน! ”
“จางเหยียน ยินดีด้วย! ” นักศึกษาส่วนใหญ่ต่างพากันยิ้มยินดีกับจางเหยียน จงเฟยหยู่ที่เป็นธิดาจากสวรรค์พวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ เสิ่นจงซูก็ไม่อยู่ ดังนั้นจางเหยียนจึงกลายเป็นผู้ที่ทุกคนให้การชื่นชมยินดี
สามารถที่จะเป็นตัวแทนลงแข่งในระดับนักศึกษา ซึ่งน่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง จางเหยียนเดิมทีนั้นดีใจอย่างมาก แต่เมื่อคิดถึงว่าหลินหยุนได้ร่วมลงแข่งในระดับอาจารย์ จิตใจของเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม
“ไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว คาดไม่ถึงว่าจะกล้าเข้าร่วมแข่งขันระดับอาจารย์ ฉันจะรอดูแล้วกันว่าแกจะอับอายขายขี้หน้าอย่างไร! ”
ช่วงเช้าเวลาเก้าโมงห้าสิบนาที คนจากสมาคมแพทย์ฉินโจวก็มาถึง
ศาสตราจารย์โม่และอีกหลายคนได้เชิญให้สมาชิกสมาคมแพทย์ฉินโจวพักผ่อนสักครู่ แต่กลับถูกปฏิเสธ คนของสมาคมแพทย์ฉินโจวมีท่าทางที่หยิ่งยโสเป็นอย่างมาก อ้างว่าจะต้องรีบทำเวลา ให้ตัวแทนของสมาคมแพทย์หลินโจวรีบออกมาลงแข่งขันได้แล้ว
ความตั้งใจอันดีที่ต้องการให้พักผ่อนแต่กลับถูกมองว่าเป็นการถ่วงเวลา ทำให้คนของหลินโจวโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
ช่วงเช้าเวลาสิบโมง การเสวนาเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ผู้นำของคณะฉินโจวในครั้งนี้คืออธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์ฉินโจว ฉินแสหมิง และมีผู้อาวุโสที่ติดตามมากับเขาด้วยสองคน น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ที่มีชื่อเสียงแห่งฉินโจว
ฉินแสหมิงพานักศึกษาติดตามมาด้วยเพียงห้าคน ในจำนวนนั้นสามคนเป็นผู้เข้าร่วมแข่งขัน ทีมนี้เมื่อเทียบกับทีมจำนวนเกือบร้อยคนของหลิวโจวแล้ว ดูจะซอมซ่อเป็นอย่างมาก
แต่ว่า ในทางความสามารถอันยิ่งใหญ่แล้ว ทีมที่มีจำนวนไม่ถึงสิบคนของฉินโจว กลับไม่พ่ายแพ้ต่อทีมที่มีเกือบร้อยคนของหลินโจว
ทว่า นักศึกษาไม่กี่คนของทางฉินโจวนั้นไม่ใช่ระดับธรรมดา นักศึกษาของหลินโจวต่างก็รู้จักดี
มีนักศึกษาชายที่ใส่แว่นตาคนหนึ่ง มองไปยังทีมของฉินโจว วัยรุ่นที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวคนหนึ่ง พูดเบา ๆ อย่างหวาดผวาว่า“นั่นหลี่ซูแห่งฉินโจวใช่ไหม? ”
“หลี่ซู! อัจฉริยะผู้นั้นที่เคยกล่าวปราศรัยที่มหาวิทยาลัยการแพทย์ของมณฑล! คาดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นตัวแทนของฉินโจวลงแข่งขัน! ” น้ำเสียงของจางเหยียนตะลึงซ้ำแล้วซ้ำอีก แสดงออกอย่างชัดเจนว่านักศึกษาที่ชื่อหลี่ซูผู้นี้น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“ไม่เพียงแค่หลี่ซู เหยียนโล่ตันก็มาด้วย! ” จงเฟยหยู่ที่อยู่ด้านข้าง ใบหน้าอันงดงามของเธอเต็มไปด้วยความกังวล มองไปยังหญิงสาวร่างผอมผู้นั้นในทีมของฉินโจว แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง
“ไม่ ไม่ใช่สิ! ” เหยียนโล่ตันไม่ใช่ว่าใกล้จะจบการศึกษาแล้วไม่ใช่เหรอ? และเธอก็ยังได้สิทธิพิเศษเข้าไปทำงานต่อยังสถาบันการแพทย์ประเทศจีนแล้วด้วย ทำไมถึงยังมาเข้าร่วมการเสวนาระดับเมืองอยู่อีกล่ะ? สีหน้าของจางเหยียนเริ่มซีดเซียว เดิมทีคิดว่าอาศัยจงเฟยหยู่กับเสิ่นจงซู ไม่แน่การแข่งขันครั้งนี้อาจจะมีความหวังที่จะเอาชนะก็เป็นได้
แต่ว่า ทางฉินโจวนั้นก็โหดเหี้ยมจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าจะใช้เหยียนโล่ตันและหลี่ซูซึ่งเป็นสองอาวุธที่ร้ายกาจขนาดนี้ลงแข่งขัน!
สองคนนี้คืออัจฉริยะที่เก่งกาจมากกว่าเสิ่นจงซูกับจงเฟยหยู่หลายเท่าตัวนัก!
จางเหยียนเกิดอยากร้องไห้ขึ้นมา“พวกเขาทำเช่นนี้ก็เหมือนเป็นการรังแกกันชัด ๆ ไม่ใช่เหรอ? ”
ขณะนี้จงเฟยหยู่ก็มีอารมณ์โกรธ พูดอย่างเย็นชาว่า“รังแกเหรอ แกลองมองไปดูทีมระดับอาจารย์ของพวกเขาสิ แกจะได้รู้ว่าแบบไหนกันแน่ที่เรียกกว่ารังแก!”