จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 909 หลินโร่สุ่ยที่งดงาม
ที่อูซูตระกูลหลิน
ช่วงหัวค่ำ หลินหยุนที่กำลังบำเพ็ญฝึกฝนอยู่ในห้อง ก็พลันลืมตาขึ้น
เสียงฝีเท้าที่ดังห่างออกไปหลายสิบเมตร เขาก็ฟังออกได้ว่า นั่นคือของเสียงฝีเท้าของหลินโร่สุ่ย
คิดถึงภาพที่ร่าเริงมีชีวิตชีวาของหลินโร่สุ่ยแล้ว หลินหยุนก็มีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“ชาติที่แล้ว ไม่ว่าคนตระกูลหลินจะดูหมิ่นฉันอย่างไร แต่น้องโร่สุ่ยก็ยังปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็น
ญาติพี่น้องเสมอมา ในชาตินี้ ฉันควรจะต้องพยายามทำให้เธอมีความสุขมากที่สุด! ”
ไม่นาน เสียงของหลินโร่สุ่ย ก็ดังขึ้นที่หน้าประตูแล้ว
“พี่หลินหยุน คุณอยู่ไหม? ”
“เข้ามาสิ! ” หลินหยุนพูดขึ้น
ประตูห้องเปิดออก หลินโร่สุ่ยที่แต่งตัวสวยใส ในทรงผมหางม้ายาว ก็ได้เดินย่องเข้ามาด้านใน
หลินหยุนยิ้มและพูดว่า: “เป็นอะไร? ทำอย่างกับเป็นโจรไปได้! ”
หลินโร่สุ่ยรีบทำท่าทางไม่ให้พูดออกเสียงกับหลินหยุน: “เบา ๆ ลงหน่อย อย่าได้ให้คุณลุงทราบ
เด็ดขาด เพราะเขาไม่ให้ฉันมารบกวนคุณ”
หลินหยุนแอบยิ้มมุมปาก ดูเหมือนว่า หลินตงถิงจะปฏิบัติกับเขาในแบบแขกผู้มีเกียรติระดับสูง
จริง ๆ ด้วย ถึงขนาดห้ามไม่ให้หลินโร่สุ่ยเข้ามารบกวน
มิน่าล่ะที่นานขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่มีใครมาหาฉัน
“มาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ? ” หลินหยุนถามขึ้น
หลินโร่สุ่ยนั่งลง จากนั้นก็รินน้ำชา ดื่มคำหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นอย่างเกินจริงว่า: “ฮึ พี่หลินหยุน คุณไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้หากต้องการที่จะพบคุณสักครั้งนั้นมันยากขนาดไหน! ”
“พวกคุณลุงนั้น ก่อนหน้านี้ไม่เห็นว่าจะใส่ใจมากขนาดนี้เลย” !
หลินโร่สุ่ยพูดบ่นขึ้นด้วยความไม่พอใจ
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย: “พอได้แล้ว เข้าเรื่องกันเถอะ! มาหาฉันมีธุระอะไร? ”
หลินโร่สุ่ยพูดขึ้นว่า: “พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนนักเรียนของฉัน จะจัดงานเลี้ยงปาร์ตี้ขึ้น และก็ได้
เชิญฉันไปร่วมงานด้วย คุณไปร่วมงานกับฉันด้วยนะ”
“คุณได้เคยสัญญาเอาไว้แล้ว ห้ามผิดคำพูดเด็ดขาด! ”
หลินหยุนจำเรื่องนี้ได้ เกิดขึ้นตอนก่อนที่เขาจะพานายท่านไปที่สำนักพยัคฆ์
หลินโร่สุ่ยแกล้งทำท่าทางที่น่าสงสาร เหมือนกับกระต่ายน้อยสีขาวที่กังวลว่าจะถูกหมาป่าใหญ่กิน
พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “คุณดูสิ ผู้หญิงที่สวยและน่ารักแบบฉันนี้ คงจะต้องเป็นที่ต้องตาต้องใจของ
ผู้ชายจำนวนมากอย่างแน่นอน หากคุณไม่ไปด้วยกับฉัน ฉันคงจะหวาดกลัวเป็นแน่! ”
หลินหยุนอดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะเขาเองก็จำได้ว่า หลินโร่สุ่ยเคยได้เรียนเทควันโดมาบ้างแล้ว อีกทั้งเป็นระดับที่ไม่ต่ำด้วย
โดยทั่วไปแล้วผู้ชายจำนวนสองสามคน คงจะไม่มีทางเอาชนะเธอได้แน่นอน
แต่ว่า เขาเองก็เป็นห่วงหลินโร่สุ่ยจริง ๆ เพราะว่าสถานที่จัดงานปาร์ตี้นั้น มักจะเกิดเรื่องขึ้นได้ง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกวัยรุ่นผู้ชายผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงดื้อรั้น หากปล่อยให้หลินโร่สุ่ยไปเพียง
คนเดียว หลินหยุนเองก็คงไม่วางใจ
“ตกลง จะไปกันเมื่อไหร่? ” หลินหยุนตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
หลินโร่สุ่ยลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้ทันที และพูดขึ้นอย่างดีใจว่า: “คุณตกลงแล้วจริง ๆ นะ! ”
“ดีมากเลย! ”
หลินหยุนเบะปากพูดว่า: “ถึงกับต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ? ”
หลินโร่สุ่ยพูดเสียงดังขึ้นว่า: “ตื่นเต้นแน่นอน คุณคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้คุณมีสถานะที่สูงศักดิ์
มากขนาดไหน! ”
“เมื่อคิดถึงว่าปรมาจารย์หลินได้ไปร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเพื่อนนักเรียนด้วยกันกับฉัน เพียงแค่นี้ก็สามารถโอ้อวดต่อหน้าพวกพี่สาวได้นานเป็นปีแล้ว! ”
“ไม่ โอ้อวดได้สามปี โอ้อวดไปตลอดชีวิตเลย! ”
หลินหยุนเกือบลืมไปแล้วว่า ตอนนี้สถานะของเขาในตระกูลหลินนั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
จากหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว
หลินหยุนในตอนนี้ ก็เหมือนกับดาราดัง ซึ่งหญิงสาวอายุน้อยอย่างหลินโร่สุ่ยนี้ ถ้าหากพบเจอกับ
ดาราดัง ก็คงจะตื่นเต้นดีใจมากอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ดาราดังคนนี้ยังเป็นผู้ที่เธอชื่นชมเลื่อมใสอย่างที่สุด และยังมีความใกล้ชิดสนิทสนม
กับเธออย่างมากด้วย
“พอได้แล้ว บอกมาเถอะว่าจะออกเดินทางกันเมื่อไร? ” หลินหยุนถามขึ้นด้วยความยิ้มแย้ม
หลินโร่สุ่ยพูดว่า: “พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็ออกเดินทางกัน สถานที่ก็คือโรงแรมหนันเชียง เมืองหนันเชียง
ที่อยู่ใกล้กับอูซู! ”
“อืม” หลินหยุนพยักหน้า
ในคืนวันเดียวกันนั้น หลินหยุนก็ได้บอกกำหนดการเดินทางให้กับนายท่านหลินซื่อเฉิงทราบ
การบำเพ็ญฝึกฝนของหลินซื่อเฉิงก็ถือว่าเสถียรอย่างมาก ซึ่งเขาก็คงไม่ไปก้าวก่ายว่าหลินหยุนจะ
ไปไหนมาไหน
ช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น หลินโร่สุ่ยในชุดเดรสสีขาว ราวกับเจ้าหญิง ได้มาหาหลินหยุน
เห็นหลินโร่สุ่ยแต่งตัวเช่นนี้ แม้แต่หลินหยุนเองก็อดไม่ได้ที่จะดวงตาเป็นประกาย
โดยปกติเห็นหลินโร่สุ่ยในลักษณะท่าทางที่องอาจห้าวหาญ ทันใดนั้นเห็นหลินโร่สุ่ยสวมใส่
ชุดกระโปรงสีขาวที่แสดงออกถึงความเป็นผู้หญิง จึงเกิดความรู้สึกน่าทึ่ง
โดนหลินหยุนจ้องมอง ใบหน้าที่สวยงามของหลินโร่สุ่ย ก็แดงก่ำขึ้นในทันที
“พี่หลินหยุน วันนี้ฉันแต่งตัวสวยไหม? ”
หลินหยุนพยักหน้า: “สวยงามมาก เกรงว่าเธอจะแย่งความโดดเด่นของเพื่อนนักเรียนไปจนหมด”
หลินโร่สุ่ยป้องปิดปากและหัวเราะขึ้น: “คิดไม่ถึงว่าพี่หลินหยุนจะพูดชมกันขนาดนี้”
“พอได้แล้ว คนขับรถกำลังรอพวกเราอยู่ด้านนอกแล้ว พวกเราไปกันเถอะ! ”
“ตกลง”
หลินหยุนกับหลินโร่สุ่ยทั้งสองคน มีคนขับรถของตระกูลหลินมารับ แล้วส่งไปที่โรงแรมหนันเชียง
ซึ่งเป็นโรงแรมหรูห้าดาวของเมืองหนันเชียง
วันนี้ โรงแรมหนันเชียงคึกคักเป็นพิเศษ
ด้านหน้าประตู ล้วนแต่เป็นรถยนต์หรูหรา ขั้นต่ำก็ประมาณห้าล้าน
เมื่อหลินหยุนกับหลินโร่สุ่ยลงจากรถ ชายสองคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูกระจกหมุนของโรงแรมนั้น ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นทันที
“โร่สุ่ย เธอมาแล้ว! ”
ผู้ชายผมสั้นคนหนึ่งในนั้น ตะโกนเสียงดังขึ้นอย่างตกใจ แล้วก็วิ่งมาทางพวกหลินหยุนทั้งสองคน
ส่วนผู้ชายอีกคนนั้น ก็ตามมาด้วย แต่ว่ากลับไม่ได้รีบร้อนอะไร เชื่องช้ากว่าชายผมสั้นคนนั้น และดูมีท่าทางสงบเสงี่ยม
“จางจื่อยี่ ฉินเจียเฉียง! ”
“พวกคุณมาถึงกันเร็วจริง ๆ เลย! ”
“พวกเพื่อนนักเรียนมาถึงกันแล้วหรือยัง? ”
หลินโร่สุ่ยพูดคุยกับเพื่อนสองคนไปพลาง ก็หันมองบริเวณโดยรอบไปพลาง เพื่อดูว่ายังมีเพื่อน
นักเรียนที่รู้จักอีกบ้างไหม
ชายผมสั้นหัวเราะเหอะเหอะ: “มากันไม่น้อยแล้ว ต่างก็เข้าไปข้างในกันหมดแล้ว ซึ่งฉันกับ
คุณชายฉินทำหน้าที่ต้อนรับอยู่ที่นี่”
หลินหยุนยืนอยู่ด้านหลังของหลินโร่สุ่ย และแอบสังเกตทั้งสองคนอย่างเงียบ ๆ
เขาพบว่า ชายผมสั้นที่กำลังพูดอยู่ ที่ชื่อว่าจางจื่อยี่นี้ สายตาของเขาที่มองไปยังหลินโร่สุ่ยนั้น เต็มไปด้วยความเร่าร้อน
ชัดเจนว่า ชายผู้นี้ไม่มีแผนการร้ายอะไร ในใจคิดอย่างไร ก็แสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมา
แต่ว่า คนผู้นี้ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าหากปล่อยให้เขามีโอกาสอยู่กับหลินโร่สุ่ยตามลำพังแล้ว คนผู้นี้
คงจะแสดงความเดรัจฉานออกมาเป็นแน่
ชายอีกคนหนึ่งที่ไว้ทรงผมแสกข้าง ดูสงบเสงี่ยมกว่าเขามากพอสมควร
แม้ว่าเขาจะแกล้งแสดงท่าทางที่สงบเสงี่ยม แต่ว่า หลินหยุนก็สามารถมองเห็นถึงความเร่าร้อน จากสายตาของเขาได้
ชัดเจนว่า ไอ้หนุ่มนี้เป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก เป็นคนประเภทที่รับมือได้ยาก ซึ่งไม่สอดคล้อง กับอายุของเขาที่มีเพียงแค่สิบเจ็ดสิบแปดปี
ต่างพูดกันว่าคบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ชัดเจนว่า คนรอบข้าง
ของไอ้หนุ่มนี้ ต่างก็เป็นคนประเภทน้ำนิ่งไหลลึก
มิเช่นนั้น เขาที่อายุยังน้อย คงจะไม่มีทางเป็นคนที่น้ำนิ่งไหลลึกเช่นนี้แน่นอน
“นายกับคุณชายฉินทำหน้าที่ต้อนรับ! เหอะเหอะ นี่ใช้คนไม่เหมาะสมกับงานเลยจริง ๆ ? ” หลินโร่สุ่ยมองไปที่คุณชายฉินด้วยความตกใจ ชัดเจนว่า วงศ์ตระกูลของคุณชายฉินผู้นี้ คงจะไม่
ธรรมดาเป็นแน่
ฉินเจียเฉียงยิ้มเล็กน้อย และพูดขึ้นด้วยท่าทางสุภาพว่า: “ต่างก็เป็นเพื่อนนักเรียน เพื่อนโร่สุ่ย
พูดแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ? ”
“ใช่แล้ว ยังไม่ได้แนะนำเลยว่าผู้ที่อยู่ด้านข้างของคุณคือใคร? ” สายตาของฉินเจียเฉียง มองไปยัง
หลินหยุนที่อยู่ด้านหลังของหลินโร่สุ่ย
หลินโร่สุ่ยแนะนำอย่างเป็นกันเองว่า: “นี่คือพี่ชายของฉัน ชื่อว่าหลินหยุน”
ใบหน้าของจางจื่อยี่แสดงออกถึงความสงสัย และถามขึ้นว่า: “โร่สุ่ย ก่อนหน้านี้รู้เพียงแค่ว่าคุณมี
พี่สาวที่ยอดเยี่ยม ไม่เคยได้ยินว่าคุณยังมีพี่ชายด้วย! ”
หลินโร่สุ่ยพูดว่า: “นี่คือพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน”
“โอ้ เป็นเช่นนี้นี่เอง! ”
ฉินเจียเฉียงยื่นมือออกมาทักทายหลินหยุน: “สวัสดี! ”
หลินหยุนมองไปที่เขาเล็กน้อย สำหรับชายที่น้ำนิ่งไหลลึกผู้นี้ หลินหยุนรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไร
“ขอโทษด้วย ฉันไม่คุ้นเคยที่จะจับมือทักทายกับคนอื่น” หลินหยุนพูดขึ้น