จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 914 สามเสือตระกูลกู่
หลินหยุนแสดงสีหน้าท่าทางที่เข้าใจขึ้นในทันที
มองไปที่นายท่านหลินซื่อเฉิง และถามขึ้นว่า: “หากเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นอิทธิพลอำนาจของ
ตระกูลกู่ก็คงจะยิ่งใหญ่มากใช่ไหม? ”
ครั้งนี้ นายท่านหลินไม่พูดอะไร หลินตงถิงที่เป็นลุงของหลินหยุนเป็นคนตอบ
“ตระกูลกู่ ได้ชื่อว่าตระกูลกู่พันปี ซึ่งนอกจากสี่วงศ์ตระกูลใหญ่แห่งเมืองหลวงแล้ว ตระกูลอื่น ๆ ที่สามารถสืบทอดต่อเนื่องกันมานับเป็นพันปีนั้น แทบจะไม่มีอยู่เลย”
“ทั่วทั้งจีน มีเพียงตระกูลกู่เท่านั้นที่ได้ชื่อว่าตระกูลกู่พันปี! ”
“แม้ว่าอิทธิพลอำนาจของตระกูลกู่จะเทียบเท่าไม่ได้กับสี่วงศ์ตระกูลใหญ่ แต่ ตระกูลกู่ มีประวัติ
ความเป็นมาและรากฐานที่ล้ำลึก ต่อให้ตระกูลหลินของพวกเราตอนที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดนั้น ก็ยัง
ไม่สามารถเทียบเคียงได้! ”
หลินหยุนถามต่ออีกว่า: “ถ้าอย่างนั้นตระกูลฉินกับตระกูลกู่มีความสัมพันธ์อะไรกัน? ”
หลินตงถิงพูดว่า: “ตระกูลฉิน ตระกูลลู๋ และตระกูลเสิ่น คือสามตระกูลที่มีอิทธพลที่อยู่ภายใต้
สังกัดของตระกูลกู่”
“สามตระกูลนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสามเสือตระกูลกู่ อิทธิพลของพวกเขาทั้งสามตระกูลนี้รวมกัน แม้แต่ตระกูลกู่เองก็ยังไม่กล้าที่จะมองข้าม”
“พวกเราตระกูลหลินเมื่อเปรียบเทียบกับสามตระกูลนี้แล้ว ถือว่าด้อยกว่าเป็นอย่างมาก และใน
สามเสือตระกูลกู่นี้ ตระกูลฉินถือว่ามีอิทธิพลอำนาจมากที่สุด”
“ฉินเจียเฉียงที่นายลงมือทำร้ายนั้น น่าจะเป็นลูกชายคนเดียวของฉินเห้าเทียนผู้ซึ่งเป็นเจ้าบ้าน
ตระกูลฉิน”
“ครั้งนี้ ตระกูลฉินคงจะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวลงง่าย ๆ แน่! ”
หลิงตงถิงพูดจบ สีหน้าท่าทางก็เคร่งเครียด
คนตระกูลหลินคนอื่น ก็แสดงสีหน้าถึงความวิตกกังวล
มีเพียงหลินหยุนกับนายท่านหลินซื่อเฉิงเท่านั้น มีสีหน้าท่าทางเฉยเมย
หลินโร่สุ่ยที่หน้าตาเคร่งเครียดอย่างมาก มองไปที่หลินหยุน และกระซิบว่า: “พี่หลินหยุน ขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้าหากรู้ก่อนหน้านี้ฉันคงจะไม่ให้คุณไปกับฉันด้วยแล้ว! ”
“ตอนนี้ ได้สร้างปัญหาความวุ่นวายให้กับคุณอีกแล้ว! ”
หลินหยุนยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วลูบคลำไปที่หน้าผากของหลินโร่สุ่ย: “เจ้าเด็กโง่ เธอควรที่จะดีใจ
ที่ฉันไปกับเธอด้วยต่างหาก ไม่อย่างนั้นเธอคงจะประสบกับอันตรายแล้ว”
เห็นคนตระกูลหลินต่างก็มีท่าทางที่วิตกกังวล หน้าม่อยคอตก นายท่านหลินซื่อเฉิงจึงพูดขึ้นอย่าง
ฮึกเหิมว่า: “พอได้แล้ว ทุกคนมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อย! ”
“ก็แค่ตระกูลฉินไม่ใช่เหรอ? เพียงแค่พวกเรามีเหตุผลเพียงพอ ต่อให้ตระกูลกู่มา พวกเราตระกูล
หลินก็ไม่กลัวทั้งนั้น! ”
“หากตระกูลฉินไม่มา เรื่องนี้ก็เป็นอันว่าจบลง ถ้าหากตระกูลฉินกล้าที่จะมา อย่างนั้นฉันก็จะถาม
ฉินเห้าเทียนสักหน่อยว่า ทำไมลูกชายของเขาถึงวางยาให้กับโร่สุ่ยของเรา ขอคำอธิบายชี้แจง
ให้กับพวกเราตระกูลหลินด้วย! ”
ร่างกายของหลินซื่อเฉิง เปล่งประกายความองอาจห้าวหาญออกมา
หลินหยุนตกตะลึงบ้างเล็กน้อย ซึ่งหลังจากที่นายท่านบำเพ็ญเซียนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย
หรือท่วงท่าการทำงาน ล้วนแต่องอาจห้าวหาญขึ้นมาก
บางที นี่อาจจะเป็นลักษณะนิสัยที่แท้จริงของหลินซื่อเฉิงก็เป็นได้!
หลายปีมานี้ที่เป็นเจ้าบ้าน เพื่ออนาคตของทุกคนในตระกูลหลิน เขาอัดอั้นตันใจมาเป็นเวลา
นานแล้ว
หลินโร่สุ่ยราวกับถูกโน้มน้าวด้วยความองอาจห้าวหาญของหลินซื่อเฉิง พยักหน้าไม่หยุดพร้อมกับ
พูดขึ้นว่า: “คุณปู่พูดได้ถูกต้อง พวกเราตระกูลหลินไม่ผิด ทำไมจะต้องไปกลัวพวกเขาด้วย แม้ว่าจะ
เป็นตระกูลกู่ ก็ควรที่จะพูดกันด้วยเหตุผลสิ! ”
เห็นเจ้าบ้านมีท่าทางมั่นอกมั่นใจอย่างที่สุด ทุกคนของตระกูลหลินก็เบาใจลงได้บ้าง แต่ว่า ก็ยังคงแอบเป็นกังวล เพราะว่า อิทธิพลอำนาจของตระกูลกู่นั้น ยิ่งใหญ่มากเหลือเกิน
หลินซื่อเฉิงทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้โบกมือและพูดขึ้นอย่างหมดความอดทนว่า: “พอได้แล้ว แยกย้ายกันไปเถอะ ดูสภาพของพวกนายนั้น ฉันยังไม่ตายสักหน่อย พวกนายจะกลัวอะไรกัน! ”
พวกคนรุ่นใหม่ของตระกูลหลิน ต่างก็แยกย้ายกันไปพร้อมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
พี่คนโตของผู้อาวุโสตระกูลหลินทั้งห้า เดินเข้ามา ยืนอยู่ด้านข้างของหลินซื่อเฉิง และพูดขึ้นอย่าง
จริงจังว่า: “จากลักษณะนิสัยของฉินเห้าเทียน คงจะไม่ยอมทนต่อการถูกรังแกนี้อย่างเด็ดขาด ต่อให้พวกเราจะมีเหตุผล ก็ควรที่จะป้องกันเอาไว้ก่อน”
หลินซื่อเฉิงยิ้มและพูดว่า: “พี่ใหญ่วางใจได้ มีเสี่ยวหยุนอยู่ทั้งคน ต่อให้ตระกูลกู่มา แล้วจะทำ
อย่างไรได้”
พี่ใหญ่ตระกูลหลินมองไปยังหลินหยุนที่องอาจสง่างาม แล้วก็พยักหน้า จิตใจสงบลงไปได้บ้าง
……
ตระกูลฉิน
ในห้องโถง หมอส่วนตัวของตระกูลฉิน ได้ใช้ผ้าพันแผลปิดใบหน้าของฉินเจียเฉียง ซึ่งมองดูแล้ว
เหมือนกับมัมมี่อย่างไรอย่างนั้น
“เจ้าบ้าน ผู้ที่ลงมือนี้ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ หากรุนแรงกว่านี้อีกเล็กน้อย ชีวิตของคุณชายก็คงจะ
ไม่เหลือแล้ว”
หมอส่วนตัวพูดขึ้นด้วยความโมโห
โมโห ก็เพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่กล้าลงมือทำร้ายคุณชายตระกูลฉิน
ตกใจ ก็เพราะคนที่ทำร้ายคุณชายฉินคนนี้ สามารถควบคุมกำหนดความแรงของกำลังที่ใช้นั้น
ได้อย่างแม่นยำเป็นอย่างมาก
ฉินเจียเฉียงฟันหักไปกว่าครึ่ง เวลาพูดก็มีลมทะลุออกมา แต่ว่าก็ยังพอที่จะฟังออกว่าเขากำลัง
พูดว่า: “คุณพ่อ ต้องแก้แค้นให้กับฉันด้วย! ”
ใบหน้าที่แก่ชราของฉินเห้าเทียน มืดดำอย่างกับน้ำหมึก
“ไอ้ตระกูลหลินตัวดี คิดไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือทำร้ายลูกชายของฉินเห้าเทียน! ”
“นายยังคิดว่าตระกูลหลิน ยังคงเป็นตระกูลหลินที่โด่งดังรุ่งเรืองไม่มีใครเทียบอย่างเมื่อก่อน
นั้นเหรอ? ”
“เมื่อก่อนตระกูลฉินของฉันอยู่ต่อหน้าตระกูลหลินของนาย จะต้องระมัดระวังเจียมตัวเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ ตระกูลหลินของนายเทียบไม่ได้กับตระกูลฉินของฉันเลยแม้แต่น้อย! ”
พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้าง รีบเดินขึ้นมาด้านหน้า มองสีหน้าท่าทางของฉินเห้าเทียนและถามขึ้นว่า: “นายท่าน จะให้ลงมือจัดการตระกูลหลินเดี๋ยวนี้เลยไหม? ”
ฉินเห้าเทียนส่ายศีรษะ: “ไม่รีบร้อน ในเมื่อคิดจะลงมือแล้ว ก็ต้องแน่ใจว่าจะจัดการให้สำเร็จ
ภายในครั้งเดียว! ”
“แม้ว่าตระกูลหลินในตอนนี้จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อน แต่ว่า พวกเขาก็ยังเป็นตระกูลที่โด่งดังมา
แต่โบราณ ซึ่งยังคงหลงเหลือภูมิหลังประวัติในอดีตอยู่บ้าง”
“ในเมื่อความแค้นนี้ได้ก่อเกิดขึ้นแล้ว อย่างนั้นก็จะต้องกำจัดตระกูลหลินลงให้ได้อย่างราบคาบ! ”
“มิเช่นนั้น จะเป็นการสร้างศัตรูให้กับพวกเราเอง! ”
“คิดที่จะกำจัดตระกูลหลินลงให้ได้ภายในครั้งเดียว พวกเราตระกูลฉินยังคงมีความสามารถที่ไม่
มากพอ ซึ่งจะต้องวางแผนเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า! ”
พ่อบ้านและหมอส่วนตัว รวมถึงฉินเจียเฉียงต่างก็มองไปยังฉินเห้าเทียนด้วยความสงสัย โดยไม่รู้
ว่าเขาคิดที่จะเตรียมการอะไรบ้าง
ฉินเห้าเทียนพูดกับพ่อบ้านว่า: “นายไปเชิญเจ้าบ้านตระกูลเสิ่นและตระกูลลู๋มาที่นี่หน่อย! ”
“ฉันต้องการที่จะรวมพลังของทั้งสามตระกูล เพื่อร่วมมือกันลงมือกำจัดตระกูลหลิน! ”
พ่อบ้านดีอกดีใจ: “สามเสือตระกูลกู่รวมพลังกันจัดการ ไม่เพียงแต่ตระกูลหลินหรอก ต่อให้เป็น
ตระกูลกู่พวกเขาเองก็จะต้องวางแผนรับมืออย่างรอบคอบด้วยเช่นกัน! ”
“ฉันจะไปแจ้งกับเจ้าบ้านตระกูลลู๋และตระกูลเสิ่นให้รับทราบ! ”
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ผู้ที่อยู่ภายใต้ตระกูลกู่ ซึ่งก็คือเจ้าบ้านทั้งสามตระกูล ที่ได้ชื่อว่าสามเสือตระกูล
กู่นั้น ได้มารวมตัว และพูดคุยแผนการลับกันที่ตระกูลฉิน
สามเสือตระกูลกู่ มีตระกูลฉินเป็นผู้นำ โดยคำพูดของฉินเห้าเทียนนั้น ถือว่ามีอำนาจมากที่สุดใน
ทั้งสามตระกูล
ได้ยินว่าคุณชายตระกูลฉินประสบกับอันตราย เจ้าบ้านอีกสองตระกูลก็โมโหขึ้นในทันที
ลู๋จื่อหาวเจ้าบ้านตระกูลลู๋พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “เด็กรุ่นใหม่ของตระกูลหลินนี้ช่างกำเริบ
เสิบสานกันจริง กล้าที่จะลงมือทำร้ายลูกชายคนเดียวของตระกูลฉินจนอาการหนักขนาดนี้! ”
“ความแค้นนี้ จะต้องแก้แค้นเอาคืนกลับอย่างแน่นอน! ”
เจ้าบ้านเสิ่นสีหน้าหม่นหมอง และพูดขึ้นว่า: “ตระกูลฉินตระกูลลู๋ตระกูลเสิ่นทั้งสามตระกูล
ได้รับสมญานามว่าสามเสือตระกูลกู่ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตระกูลหนึ่งถูกเหยียดหยามเกิดความ
อับอาย อีกสองตระกูลที่เหลือก็อับอายด้วยกัน ความแค้นนี้ จะต้องแก้แค้นกลับคืนอย่างแน่นอน! ”
“อีกทั้ง ครั้งนี้จะต้องกำจัดความกำเริบเสิบสานของตระกูลหลินให้หมดไปอย่างที่สุด! โดยจัดการ
ตระกูลหลินให้ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้ ต้องลงมือกันถึงขั้นนี้ไปเลย! ”
ฉินเห้าเทียนพยักหน้า พูดขึ้นด้วยท่าทางชื่นชม: “น้องเสิ่นพูดได้ดีมาก ฉันเองก็คิดแบบนี้เช่นกัน”
“แต่ว่า ถึงอย่างไรตระกูลหลินก็คือตระกูลที่โด่งดังมาแต่โบราณ มีประวัติภูมิหลังที่ลึกซึ้ง หากคิด
ที่จะจัดการให้เข็ดหลาบนั้น มันไม่ง่าย ซึ่งพวกเราทั้งสามตระกูลจะต้องร่วมกันเตรียมการวางแผน
ให้ดีที่สุด! ”
เจ้าบ้านเสิ่นหัวเราะเหอะเหอะ สายตาแสดงถึงความเจ้าเล่ห์ขึ้นแวบหนึ่งและพูดว่า: “พี่ฉิน ฉันมีแผนการอยู่อย่างหนึ่ง”
ฉินเห้าเทียนดีอกดีใจ: “พูดมาให้ฟังหน่อย! ”
เจ้าบ้านเสิ่นพูดว่า: “ถ้าหากพวกเราสามตระกูลไปพูดคุยกับตระกูลหลิน ถึงแม้ตระกูลหลินจะยอม
อ่อนข้อให้ อย่างมากที่สุดก็แค่เสียหน้าชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อตระกูลหลิน
ในอนาคต”
“แต่ว่า หากพวกเราเชิญบุคคลผู้ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงระดับสูงทางสังคมในอูซูทั้งหมด แล้วบอกให้
ตระกูลหลินกล่าวขอโทษหลานเจียเฉียงต่อหน้าทุกคน คุณคิดว่าต่อไปตระกูลหลินยังจะมีศักดิ์ศรี
ในอูซูอยู่อีกหรือไม่? ”
ฉินเห้าเทียนดวงตาเป็นประกาย แล้วยกนิ้วโป้งให้กับเจ้าบ้านเสิ่น: “น้องเสิ่น เยี่ยมยอด! ”
เจ้าบ้านลู๋เองก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ: “พี่เสิ่น เยี่ยมยอด เยี่ยมยอด! ”