จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 921 หลาบจำเสียบ้าง
ฉินเห้าเทียนไม่พอใจ ไม่พอใจมาก
ถึงพละกำลังของหลินหยุนไม่ธรรมดา แต่แผนการที่ตัวเองโจมตีตระกูลหลิน ใกล้จะสำเร็จแล้ว ทว่าตอนนี้กลับล้มเหลว เนื่องจากขาดความพยายามครั้งสุดท้าย ไม่ว่าอย่างไร ฉินเห้าเทียนไม่มีทางยอมรับได้
อีกทั้งถ้าฉินเห้าเทียนล่าถอย ต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ จะเอาหน้าของตระกูลฉินไปไว้ไหน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ฉินเห้าเทียนไม่รู้ว่าพละกำลังของหลินหยุน แข็งแกร่งมากแค่ไหน และไม่คิดว่าหลินหยุนจะไร้เทียมทาน
อีกทั้งฉินเห้าเทียนมีไพ่ใบสุดท้าย ไพ่ใบสุดท้ายของเขาคือ ตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิง
“ไอ้หนุ่ม นายทำให้ฉันผิดคาดจริงๆ คิดไม่ถึงว่านายจะเป็นนักบู๊!”
“แต่ถึงนายเป็นนักบู๊ ที่นี่เป็นโลกมนุษย์ นายต้องทำตามกฎเกณฑ์ของโลกมนุษย์!”
“นายทำร้ายลูกชายฉันบาดเจ็บ ตระกูลหลินใส่ร้ายลูกชายฉัน เพื่อช่วยนาย เรื่องพวกนี้ นายต้องชดใช้ให้ตระกูลฉิน!”
หลินหยุนสีหน้าราบเรียบ เข้าก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว อำนาจอันแข็งแกร่ง กดดันให้ฉินเห้าเทียนกับฉินเจียเฉียงคุกเข่าลงตรงนั้น
หน้าผากของฉินเห้าเทียน เต็มไปด้วยเหงื่อ แผ่นหลังเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ คุกเข่าลงบนพื้น ตัวสั่นงันงก
“นี่คือสิ่งที่ฉันชดใช้ให้นาย” เสียงของหลินหยุนราบเรียบ จนน่ากลัว แต่เสียงราบเรียบแบบนี้ กลับดูอวดดี เมื่อเข้าหูคนฟัง
ฉินเห้าเทียนกัดฟันแน่น การที่เป็นคนมีชื่อเสียง เขามีศักดิ์ศรีของตัวเอง
“ไอ้หนุ่ม วันนี้นายอวดดีแบบนี้ กลั่นแกล้งดูหมิ่นตระกูลฉิน ตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิง ไม่ปล่อยนายไว้แน่!”
ตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิง!
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของทุกคนในห้องโถงดูตึงเครียด!
ขนาดนายท่านหลินซื่อเฉิง ยังมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที
ตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิง เป็นฉายาตระกูลพันปี ปูมหลังของตระกูลกู่ ห่างไกลจนตระกูลธรรมดาพวกนี้ ไม่สามารถเทียบชั้นได้
ที่พึ่งพาขนาดใหญ่ของฉินเห้าเทียน ก็คือตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิง
ตระกูลฉินมีฉายาว่าหนึ่งในสามเสือตระกูลกู่ ถ้าตระกูลฉินโดนดูหมิ่น ตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิงไม่นิ่งดูดายอยู่แล้ว
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองหลินซื่อเฉิง แล้วพูดเบาๆ ว่า “อำนาจของตระกูลกู่ยิ่งใหญ่ ตระกูลหลินของเราไม่มีทางล่วงเกินได้”
หลินซื่อเฉิงขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร
คุณท่านหยัน รวมไปถึงเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุ มองตระกูลหลิน ด้วยแววตาเป็นกังวล
ตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิง คนใหญ่คนโตในสังคมชั้นสูงของอูซุอย่างพวกเขา รู้จักอยู่แล้ว
พละกำลังของตระกูลกู่ ถึงคนในที่นี้รวมตัวกันทั้งหมด ก็ไม่น่าจะต้านทานได้
แล้วแค่ตระกูลหลินเพียงตระกูลเดียว อีกทั้งยังเป็นตระกูลหลินที่ตกระกำลำบากด้วย
ถ้าตระกูลหลินดึงดันสู้กับตระกูลกู่ จุดจบของตระกูลหลินต้องอันตรายอย่างยิ่ง ถึงขนาดที่ทั้งอูซุ ต้องพลอยลำบากไปด้วย
ดังนั้นคนพวกนี้จึงเป็นกังวลมาก กังวลว่าตระกูลหลินจะเลือกยังไง
หลินหยุนยังคงมีสีหน้าราบเรียบ ถึงตระกูลกู่แข็งแกร่งอย่างไร สำหรับเขาก็แค่มดตัวเดียวเท่านั้น
ถึงตระกูลกู่สั่งสมมาเป็นพันปี อย่างมากก็แค่มดที่อยู่มานานเท่านั้น
มดยังไงก็คือมด
สำหรับมด หลินหยุนไม่สนใจว่ามันมีชีวิตอยู่พันปีหรือหมื่นปี
แค่เป็นมด เหยียบให้ตายก็จบ!
แต่หลินหยุนจะไม่คำนึงถึงตระกูลหลินไม่ได้ ดังนั้นถึงฉินเห้าเทียนข่มขู่เขา เขาก็ไม่ฆ่าคนในห้องโถงตระกูลหลิน
หลินซื่อเฉิงมองฉินเห้าเทียนกัดฟันกรอด คุกเข่าอยู่บนพื้น เขาพูดช้าๆ ว่า “เจ้าบ้านฉิน เรื่องนี้ใครผิดใครถูก คุณกับผมรู้ดีอยู่แก่ใจ”
“ถึงครั้งนี้คุณมาหาตระกูลหลิน ด้วยจุดประสงค์ร้าย แต่หลินหยุนทำร้ายลูกชายคุณจริง เรื่องนี้ให้จบเท่านี้ ต่อไปเราต่างคนต่างอยู่ คุณว่ายังไง”
หลินซื่อเฉิงกะจะไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง หันไปมองหลินหยุน แล้วพูดราบเรียบว่า “เสี่ยวหยุน ปล่อยเขา!”
ถึงหลินหยุนไม่เต็มใจ แต่เขาทำตามการตัดสินใจของปู่
อำนาจอันน่ากลัวราวกับภูเขา หายไปในพริบตา ฉินเห้าเทียนถึงกับโล่งอก และก้มหน้าลง
ฉินเจียเฉียงกลับหายใจกระหืดกระหอบ ดวงตาทั้งสองข้างที่โผล่ออกมาข้างนอก มองหลินหยุนอย่างหวาดกลัว
คุณท่านหยันกับเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุ ต่างพากันโล่งอกอย่างเงียบๆ
ตระกูลหลินเลือกประนีประนอม เป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา
ฉินเห้าเทียนยืนขึ้น มองหลินซื่อเฉิง ด้วยสีหน้าอึมครึม
“เจ้าบ้านหลิน ตระกูลหลินปล่อยให้หลินหยุนทำเรื่องโหดร้าย ทำร้ายลูกชายผม ยังใส่ร้ายลูกผมว่าวางยา เพราะต้องการปกปิดความผิด”
“ตอนนี้ยังทำให้ตระกูลฉินอับอาย ต่อหน้าคุณท่านหยันและเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุ”
“พูดแบบนี้ คนอย่างฉินเห้าเทียนจะทนได้อย่างไร”
“ตระกูลหลินมีนักบู๊ ตระกูลฉินล่วงเกินไม่ได้ แต่คุณอย่าลืมสิ ไม่ใช่แค่ตระกูลหลินที่มีนักบู๊ จำนวนนักบู๊ของตระกูลกู่ ก็ไม่น้อยไปกว่าตระกูลหลิน!”
“พวกคุณ รอการแก้แค้นของตระกูลกู่เมืองหยุนเฉิงเถอะ!”
ฉินเห้าเทียนพูดจบ ก็มองเจ้าบ้านลู๋กับเจ้าบ้านเสิ่น แล้วพูดเสียงทุ้ม “น้องทั้งสองท่าน เราไปกันเถอะ!”
หลินซื่อเฉิงมองทั้งสามคน ด้วยสีหน้าจริงจัง “ดูเหมือนเรื่องนี้ จะจบสวยไม่ได้แล้ว!”
คุณท่านหยันและเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุ พากันขมวดคิ้วเบาๆ
“ดูเหมือนครั้งนี้ ต้องสั่นคลอนตระกูลกู่แล้วล่ะ!”
“ถ้าตระกูลกู่ลงมือ หวังว่าจะไม่ทำให้ทั้งอูซุพลอยลำบากไปด้วย!”
เหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุแอบภาวนา
ทำให้แววตาที่พวกเขามองตระกูลหลิน ดูไม่เป็นมิตรเท่าไร
เรื่องนี้ตระกูลหลินเป็นคนก่อขึ้น ถ้าพวกเขาพลอยลำบากเพราะเรื่องนี้ งั้นตระกูลหลินก็คือผู้ร้าย
ดังนั้นพวกเขาจึงพลอยโมโหตระกูลหลินไปด้วย
คุณท่านหยันมองหลินซื่อเฉิง แล้วพูดค่อนข้างเย็นชา “เจ้าบ้านหลิน ตระกูลฉินเป็นหนึ่งในสามเสือตระกูลกู่ เรื่องนี้ต้องไม่จบแน่นอน”
“ตระกูลหลินของคุณ ต้องรับความโกรธของตระกูลกู่แน่นอน ไม่แน่ทั้งอูซุต้องพลอยลำบาก เพราะความไม่เห็นหัวใครของตระกูลหลิน!”
ผู้มีชื่อเสียงของอูซุอีกคนหนึ่งส่งเสียงหึอย่างเย็นชา “ใช่ เรื่องที่ตระกูลหลินทำ เมื่อถึงตอนนั้นอาจพลอยทำให้ทั้งอูซุลำบากไปด้วย!”
“หึ ตระกูลหลินเห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น!”
“เห็นแก่ตัว!”
เมื่อได้ยินทุกคนต่อว่าตระกูลหลิน พวกฉินเห้าเทียนชะงักฝีเท้า
ใบหน้าของทั้งสามคน มีรอยยิ้มแห่งความสะใจ
หลินซื่อเฉิงกวาดตามองทุกคน พูดกับคุณท่านหยันว่า “พวกคุณวางใจเถอะ ตระกูลหลินทำเองรับเอง ไม่มีทางทำให้พวกคุณพลอยลำบากไปด้วยแน่นอน!”
ทุกคนจึงหยุดแค่นี้ แต่แววตาที่มองคนตระกูลหลิน ยังคงเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร
ฉินเห้าเทียนพูดว่า “ไปกันเถอะ ตระกูลหลินโดนฝูงชนต่อต้าน ญาติมิตรหลีกหนี ขอแค่ตระกูลกู่ลงมือ ทำให้ตระกูลหลินอับอาย ตระกูลหลินไม่มีวันโงหัวในอูซุได้อีกตลอดไป!”
เจ้าบ้านลู๋กับเจ้าบ้านเสิ่น ยิ้มอย่างได้ใจ
คุณท่านหยันประสานมือทำความเคารพหลินซื่อเฉิง แล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นผมไม่รบกวนแล้ว ลาก่อน!”
“ลาก่อน!”
ผู้มีชื่อเสียงของอูซุ ก็ทำความเคารพหลินซื่อเฉิง และเดินตามคุณท่านหยันออกไป
ขณะที่พวกฉินเห้าเทียนเดินมาถึงหน้าประตูตระกูลหลิน ทันใดนั้นมีเสียงราบเรียบดังขึ้น
“ฉันให้พวกนายไปแล้วเหรอ”
สายลมพัดผ่านใบหน้าของทุกคน ทันใดนั้นร่างของหลินหยุน ปรากฏตรงหน้าประตู ขวางพวกฉินเห้าเทียนเอาไว้
พวกฉินเห้าเทียนถึงกับตกใจ เจ้าบ้านลู๋พูดอย่างโมโห “ไอ้หนุ่ม นายจะทำอะไร!”
ข้างหลังมีคุณท่านหยัน และพวกผู้มีชื่อเสียงของอูซุเดินตามมา ต่างพากันชะงักฝีเท้าลงเช่นกัน มองหลินหยุนด้วยใบหน้าตกตะลึง ไม่รู้เขาคิดจะทำอะไร
หลินซื่อเฉิงขมวดคิ้วเบาๆ รีบเดินออกมา เขากังวลว่าหลินหยุนจะลงมือฆ่า
คนอื่นๆ ในตระกูลหลิน ก็รีบออกจากห้องโถงมาในลานบ้าน
หลินหยุนมองฉินเห้าเทียนเงียบๆ พูดอย่างราบเรียบว่า “พวกนายอยากมาก็มา อยากไปก็ไป คิดว่าตระกูลหลินเป็นอะไร”
ฉินเห้าเทียนพูดเสียงทุ้ม “งั้นนายจะเอายังไง”
หลินหยุนพูดอย่างราบเรียบ “จะไปก็ได้นะ แต่จะทำให้นายหลาบจำ”