จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 935 การวิงวอนของสวี่เหม่ยเย้น
คนที่หลินตงถิงส่งไป ยังไม่ทันถึงตระกูลกู่ พวกหลินหยุนกลับมาถึงตระกูลหลิน
เมื่อได้ยินว่าหลินหยุนกับหลินซื่อเฉิงกลับมาแล้ว สวี่เหม่ยเย้น แม่ของหลินโร่หลัน รีบวิ่งทุลักทุเลไปที่ห้องโถง
“เจ้าบ้าน คุณต้องช่วยโร่หลันนะ!”
สวี่เหม่ยเย้นเริ่มร้องห่มร้องไห้
หลินซื่อเฉิงพูดปลอบใจ “ไม่ต้องกังวล ฉันฟังที่ตงถิงบอกแล้ว ในเมื่อสำนักโม่เหมินออกหน้า ตระกูลเซินน่าจะไม่ทำร้ายโร่หลันชั่วคราว”
สวี่เหม่ยเย้นยังไม่วางใจ จึงถามว่า “งั้นเจ้าบ้านจะไปช่วยโร่หลันตอนไหน”
“โร่หลันอยู่ในมือคนพวกนั้นนานเพียงหนึ่งนาที ก็อันตรายเพิ่มอีก คนพวกนั้นเป็นปีศาจโหดเหี้ยม!”
หลินตงถิงกลอกตาใส่เธอ แล้วพูดว่า “ถ้าตอนนี้เธอไม่รั้งไว้ เจ้าบ้านเตรียมจะออกเดินทางแล้ว”
“หา!”
สวี่เหม่ยเย้นอึ้งไป และรีบหลีกทาง “เจ้าบ้าน ช่วยโร่หลันกลับมาให้ได้นะ ฉันขอร้องล่ะ ฉันมีลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว!”
หลินโร่สุ่ยที่อยู่อีกด้าน สีหน้าอึมครึม “เป็นอย่างที่ฉันคิด ในใจของพวกเขามีเพียงพี่สาวคนเดียว ฉันเป็นแค่ส่วนเกิน”
ขณะที่หลินโร่สุ่ยเจ็บปวดใจเงียบๆ มืออันอบอุ่นข้างหนึ่ง กดลงบนบ่าของเธอ
หลินโร่สุ่ยเงยหน้า เห็นหลินหยุนพยักหน้าให้เธอ
หลินโร่สุ่ยรู้สึกอบอุ่นใจ ไล่ความขุ่นมัวในใจ และยิ้มให้หลินหยุน
หลินซื่อเฉิงเห็นภาพตรงหน้า จึงขมวดคิ้วเบาๆ และไม่พอใจสวี่เหม่ยเย้น
พูดคำที่ทำร้ายจิตใจ ต่อหน้าลูกสาวตัวเอง สวี่เหม่ยเย้นไม่เห็นโร่สุ่ยอยู่ในสายตาสักนิด
“เหม่ยเย้น เธออ้อนวอนฉันก็เปล่าประโยชน์ ฉันเอาชนะเจ้าบ้านเซินไม่ได้ อยากช่วยโร่หลัน เธอต้องไปอ้อนวอนหลินหยุน”
หลินซื่อเฉิงพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม นี่เขาจงใจสร้างความลำบากใจให้สวี่เหม่ยเย้น
“หา! นี่……” สวี่เหม่ยเย้นอึ้งไป มองหลินหยุนอย่างขี้ขลาด
ก่อนหน้านี้ เธอต่อต้านครอบครัวหลินหยุน เธอพยายามโจมตีครอบครัวหลินหยุนมาตลอด
ตอนนี้ให้เธอขอร้องหลินหยุน เธอรู้สึกเสียหน้า
แต่หน้าของสวี่เหม่ยเย้น ไม่ได้ด้านธรรมดาๆ
ตอนที่หลินหยุนฆ่าเยนหนานเทียนตอนนั้น เพื่อจะได้อยู่ในตระกูลหลิน สวี่เหม่ยเย้นกับหลินตงเย่ว ผู้เป็นสามี คุกเข่าอ้อนวอนหลินหยุน
ตอนนี้เพื่อช่วยหลินโร่หลัน สวี่เหม่ยเย้นยอมเสียหน้าอยู่แล้ว
“หลินหยุน เมื่อก่อนฉันผิดเอง ล่วงเกินมากมาย นายจะด่าจะตีก็ได้ แต่นายช่วยโร่หลันด้วยนะ!”
หลินหยุนคร้านจะมองเธอ และหลับตาพักสายตา
สวี่เหม่ยเย้นจนปัญญา จึงหันไปหาหลินโร่สุ่ย
“โร่สุ่ย แกมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินหยุน แกขอร้องให้เขาช่วยพี่สาวแกสิ!”
หลินโร่สุ่ยมองสวีเหม่ยเย้น และยิ้มขมขื่น อย่างจนปัญญา
“แม่ ยังรู้ว่าหนูเป็นลูกแม่เหรอ!”
สวี่เหม่ยเย้นกระอักกระอ่วน ยิ้มจอมปลอม “เมื่อกี้แม่ร้อนใจ ไม่ได้ละเลยแก แกอย่าถือสาสิ!”
“แกกับโร่หลันเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของฉัน ฉันปฏิบัตกับแกสองพี่น้อง อย่างเท่าเทียมมาตลอด”
เมื่อพูดออกมา สวี่เหม่ยเย้นรู้สึกถึงแววตาหัวเราะเยาะ ที่มองมาจากรอบๆ
ขนาดคนในตระกูลหลินคนอื่นๆ ที่อยู่อีกด้าน ยังทนฟังไม่ได้
“นี่เป็นคำพูดจอมปลอมที่สุด ที่ฉันเคยได้ยินในปีนี้” มีคนแสยะยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น
สวี่เหม่ยเย้นหงุดหงิดจนหน้าแดง แต่เป้าหมายเธอยังไม่สำเร็จ จึงทำได้เพียงวิงวอนหลินโร่สุ่ย ด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“โร่สุ่ย เมื่อก่อนแม่อาจดูแลแกไม่ทั่วถึง แต่ไม่ว่ายังไง โร่หลันก็เป็นพี่สาวแท้ๆ ของแก แกขอร้องหลินหยุน ให้เขาช่วยโร่หลันสิ!”
“ถือว่าแม่ขอร้องแกได้หรือเปล่า” พูดพลาง สวี่เหม่ยเย้นร้องไห้น้ำตานองหน้า
หลินโร่สุ่ยพูดปลอบใจ “แม่วางใจเถอะ พี่หลินหยุนกับเจ้าบ้าน เตรียมจะไปช่วยพี่สาว ถ้าแม่ไม่ออกมา ไม่แน่ตอนนี้เราอาจถึงที่หมายแล้ว”
“จริงเหรอ!” สวี่เหม่ยเย้นดีใจมาก เธอคิดไม่ถึงว่าหลินหยุนจะใจกว้างแบบนี้
ตอนนั้นหลินโร่หลัน กดขี่และทำให้หลินหยุนอับอาย มากที่สุดในตระกูลหลิน
หลินหยุนไม่ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่า ยอมช่วยเธอ ทำให้สวี่เหม่ยเย้นคิดไม่ถึงจริงๆ
“ขอบใจ ขอบใจนะหลินหยุน!” สวี่เหม่ยเย้นพูดอย่างตื้นตัน “เมื่อก่อน ฉันผิดไปแล้ว ฉันดูถูกคน……”
หลินหยุนไม่ได้สนใจสวี่เหม่ยเย้นที่สำนึกผิดอยู่ข้างๆ เขาหันไปมองหลินซื่อเฉิง “ไปกันเถอะ!”
“ได้!”
ตามที่อยู่ที่เซินถูให้ไว้ หลินซื่อเฉิงกับหลินหยุน เจอสถานที่ของตระกูลเซินบนโลกมนุษย์ อย่างรวดเร็ว
ที่นี่เป็นคฤหาสน์หลังหนึ่ง ในโลกมนุษย์ คฤหาสน์หลังนี้คือ คฤหาสน์ตระกูลเซินอันมีชื่อเสียง
เป็นหมู่คฤหาสน์ระดับสูงสุด ที่บริษัท เซินซื่อ กรุ๊ปสร้างขึ้น
“มิน่าล่ะ บริษัท เซินซื่อ กรุ๊ปโผล่พรวดพราดขึ้นมาใหม่ ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่ปี ก็มีฐานธุรกิจขนาดใหญ่ ที่แท้ เบื้องหลังของบริษัท เซินซื่อ กรุ๊ป คือตระกูลเซินของโลกบู๊โบราณ!” หลินซื่อเฉิงพูดอย่างทอดถอนใจ
เพราะในโลกมนุษย์ ตระกูลหรือธุรกิจหนึ่ง อยากเป็นใหญ่ อยากแข็งแกร่ง จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์และโอกาส รวมถึงพละกำลังด้วย
ตระกูลหลินมาถึงขั้นนี้ แลกมาด้วยชีวิตของบรรพบุรุษตระกูลหลินในปีนั้น
ส่วนนักบู๊พวกนี้ กลับสร้างอาณาจักรธุรกิจบนโลกมนุษย์ ได้อย่างง่ายดาย
คำโบราณกล่าวไว้ว่า จะไม่เกิดอันตรายใดๆ หากปราศจากการเปรียบเทียบ ตอนนี้หลินซื่อเฉิง นำประวัติศาสตร์การสร้างตระกูล มาเทียบกับตระกูลเซิน ทำให้เขาหดหู่จริงๆ
“โลกใบนี้ เดิมทีไม่มีความยุติธรรมให้พูด ผู้เข้มแข็งที่สุดจึงจะอยู่รอด นี่เป็นหลักการทั้งจักรวาล”
น้ำเสียงราบเรียบของหลินหยุน ดังขึ้นข้างหลินซื่อเฉิง
หลินซื่อเฉิงพยักหน้า ความแน่วแน่ปรากฏขึ้นในแววตาเขา “นายพูดไม่ผิด มีเพียงผู้แข็งแกร่ง ที่มีคุณสมบัติแสวงหาความยุติธรรม”
“เราเข้าไปกันเถอะ!”
“อืม”
ทั้งสองมาถึงประตูคฤหาสน์ หน้าประตู มีป้อมยามอยู่หลังหนึ่ง
มีชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่ในป้อมยาม ล้วนเป็นนักบู๊
“ไม่เสียแรงที่ตระกูลเซิน เป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่ ของโลกบู๊โบราณ ขนาดยามเฝ้าประตู ยังเป็นนักบู๊” หลินซื่อเฉิงยิ้มอย่างปลงๆ
ต้องรู้ว่านักบู๊คนหนึ่ง ในโลกมนุษย์ ล้วนล้ำค่าและหายาก
แต่ในโลกบู๊โบราณ นักบู๊ที่พละกำลังต่ำต้อย เป็นได้เพียงคนเฝ้าประตูเท่านั้น
“มาทำอะไร ที่นี่เป็นคฤหาสน์ส่วนตัว คนนอกห้ามเข้า!”
ชายหนุ่มไว้ผมสั้นในป้อมยามคนหนึ่ง แผดเสียงใส่พวกหลินหยุน
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “ไปบอกเจ้าบ้านเซิน เจ้าบ้านหลินแห่งอูซุ มาด้วยคำเชิญ!”
ชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสี “คุณเป็นคนของตระกูลหลิน!”
“รอเดี๋ยว!”
พูดจบ ชายหนุ่มคนนั้นก็โทรศัพท์
หลังวางสาย ชายหนุ่มมองหลินซื่อเฉิง แล้วพูดว่า “เจ้าบ้านรอพวกคุณที่ห้องโถงกลาง!”
“รบกวนด้วย” หลินซื่อเฉิงพูดอย่างสุภาพ และพาหลินหยุนเข้าไปข้างใน
คฤหาสน์ตระกูลเซินมีสไตล์มาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ ออกแบบตามพระราชวังฤดูร้อน ขนาดหินปูพื้นทั้งหมด ถูกส่งมาจากเทือกเขาแคสเปอร์สกีทางตะวันตก ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ควอตซ์สีแดง
ต้องรู้ว่ามูลค่าของแร่ควอตซ์สีแดงพวกนั้น เทียบได้กับทองคำ
นั่นหมายความว่า พื้นในคฤหาสน์ตระกูลเซิน เกือบจะส่วนใหญ่ ที่ปูขึ้นด้วยทองคำ
“การมาวันนี้ เพิ่งรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าหรูหรา!”
หลินซื่อเฉิงอดส่ายหน้าเอ่ยชมไม่ได้ คนเป็นเจ้าบ้านตระกูลหลินแห่งอูซุ สิ่งยิ่งใหญ่อะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ แต่เมื่อเห็นคฤหาสน์ตระกูลเซิน ที่โด่งดังเรื่องความหรูหราไปทั่วโลก ก็อดช็อกไม่ได้