จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 947 หงเหวินหาว
คนกลุ่มหนึ่งได้ตรงไปยังห้องโถงของตระกูลอี
ในห้องโถง หงซานเหอได้พาลูกน้องสองคนเข้ามา ยืนอยู่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อีหยุ่นเคยเจอกับหงซานเหอมาก่อน และเขารู้ฐานะของหงซานเหอเป็นอย่างดี
แต่ว่า เขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าคนที่มาบุกรุกบ้านตระกูลอีจะเป็นจอมพลหง!
“ท่านหง ท่านมาได้ยังไงครับ?” อีหยุ่นรีบโค้งคำนับให้
หงซานเหอโบกปัดมือ แล้วเอ่ย : “เจ้าบ้านอีไม่ต้องมากพิธีรีตองหรอก!”
“ฉันมาหาเขา!” สายตาของหงซานเหอมองไปที่หลินหยุน
เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด!
ดูท่าทาง หลินหยุนคาดเดาถึงเรื่องบางเรื่องได้แล้ว
อีหยุ่นเอ่ย : “เราไปคุยกันด้านในเถอะครับ!”
“ดี!”
ทุกคนกลับเข้าไปในห้องของอีหยุ่นอีกครั้ง
อีหยุ่นเอ่ย : “เชิญนั่งครับท่านหง!”
หงซานเหอนั่งลงอย่างไม่เกรงใจ แล้วกวาดตามองทุกคน
สุดท้าย สายตาของเขาได้หยุดลงที่หลินหยุน
“ฉันก็เพิ่งได้รู้ข่าว คิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายตระกูลหงจะกลับมากะทันหัน แล้วสร้างเรื่องวุ่นวายอย่างนี้!”
คนที่รับผิดชอบเฝ้าประตูบ้านตระกูลหง คือสมาชิกสำรองของหน่วยมังกร
เมื่อเห็นว่าปรมาจารย์หลินมาช่วยคน เขาคงแจ้งข่าวให้กับนายท่านหงโดยเร็วที่สุด
แสดงว่าคนที่มีฐานะเป็นนายท่านหงคนนั้น คงรู้ถึงความสัมพันธ์ของหลินหยุนกับหงซานเหอ
ดังนั้น การที่หงซานเหอมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ ก็สามารถอธิบายได้ทุกอย่างแล้ว
หลินหยุนสีหน้านิ่งเฉย มองไปที่หงซานเหอแล้วเอ่ยพูด : “คุณจะเข้ามายุ่งเรื่องนี้เหรอ?”
หงซานเหอเอ่ยพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม : “ผมไม่ยุ่งไม่ได้ครับ”
“เรื่องนี้ จะว่าเล็กก็เล็ก จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ หากไม่ระวัง อาจกลายเป็นหายนะได้นะ!”
หลินหยุนมองเขา แล้วเอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ : “แล้วคุณคิดจะทำยังไง?”
หงซานเหอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยพูดว่า : “ผมจะให้ตระกูลหง แสดงความรับผิดชอบต่อคุณอีหลิง!”
“จะขอโทษอีกงั้นเหรอ?” หลินหยุนสีหน้าดูเย็นชาขึ้นมา : “ไม่จำเป็นแล้ว”
“ผมจะให้มันได้ชดใช้ให้กับอีหลิง”
หงซานเหอขมวดคิ้ว เอ่ยพูดอย่างเคร่งขรึม : “คุณก็รู้ว่านายท่านแห่งตระกูลหงคนนั้น เป็นถึงผู้อาวุโสห้าแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ภายใต้สี่มหาตระกูลใหญ่!”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร
อีหยุ่นสีหน้าเคร่งขรึม ดูท่าทาง อำนาจของตระกูลหง จะยิ่งใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
หงซานเหอพูดต่อไปว่า : “คุณต้องรู้ ว่าในมือของนายท่านหง ได้คุมกองทัพตะวันออกเฉียงใต้ไว้”
“คุณรู้หรือเปล่า นายท่านหงเป็นอาจารย์ทางการทหารของเจียงร่อโจ๋!”
“แล้วคุณรู้หรือเปล่า ว่าตระกูลหงมีทายาทที่เป็นผู้ชายเพียงคนนั้นคนเดียว ถ้าหากคุณฆ่าเขา เท่ากับขุดรากถอนโคนตระกูลหง!”
“ถ้าหากเรื่องเหล่านี้ ไม่สามารถหยุดความคิดที่จะฆ่าของคุณได้ งั้นผมจะบอกคุณไว้อีกว่า ตระกูลหง เป็นลูกน้องของตระกูลจ้าวที่เป็นถึงสี่มหาตระกูลใหญ่!”
“ถ้าหากคุณแตะต้องตระกูลหง เท่ากับแตะต้องตระกูลจ้าวด้วย เมื่อคุณแตะต้องตระกูลจ้าว ก็เท่ากับเปิดศึกกับสี่มหาตระกูลใหญ่!”
น้ำเสียงของหงซานเหอ ฟังดูรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายแทบจะกลายเป็นตะคอกออกมา
อีหยุ่นหน้าซีดเซียว ทุกประโยคที่หงซานเหอพูดออกมา ทำให้สีหน้าของเขาดูแย่ลงเรื่อย ๆ จนสุดท้าย อีหยุ่นแทบจะทรุดไปทั้งตัว
เขารู้เพียงว่าตระกูลหงประสบความสำเร็จอย่างมากในโลกการเมือง ยิ่งใหญ่มาก แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตระกูลหงจะเป็นตระกูลที่ตระกูลจ้าวฟูมฟักขึ้นมา
นายท่านหง ยังเป็นหนึ่งในอาจารย์ของเทพสงครามเจียงร่อโจ๋อีกด้วย!
แล้วจะเอายังไงต่อไปล่ะ?
ไพ่ตายเหล่านี้ที่ตระกูลหงมี ไม่ว่าใบไหน ตระกูลอีก็แตะต้องไม่ได้ทั้งนั้น
ต่อให้เป็นหลินหยุน ก็คงไม่สามารถเปิดศึกกับสี่มหาตระกูลใหญ่ได้หรอก!
มิน่าล่ะ พวกหลินหยุนเพิ่งนำตัวอีหลิงกลับมาได้ จอมพลหงก็รีบตามมาทันที
ดูท่าทาง เขาคงกังวลว่าถ้ามาช้ากว่านี้ หากหลินหยุนฆ่าคุณชายตระกูลหงคนนั้นขึ้นมา เรื่องนี้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่
อีหลิงที่นิ่งเงียบมาตลอด ในที่สุดก็ได้เงยหน้าขึ้น แล้วมองไปทางหลินหยุน จากนั้นพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า : “พี่หลินหยุน ในเมื่อฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เรื่องนี้ก็ปล่อยให้มันจบลงเถอะค่ะ!”
อีหลิงไม่อยากให้หลินหยุนต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งและมีอำนาจอย่างนี้
หลินหยุนมองไปที่อีหลิง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน : “วางใจเถอะ พี่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ!”
จากนั้น หลินหยุนได้หันไปมองหงซานเหอ สีหน้าเขาดูสงบนิ่งมาก จนไม่เห็นความรู้สึกใด ๆ เลย สงบนิ่งจนดูน่ากลัว
“แล้วจะยังไงล่ะ?”
“ต่อให้ต้องเปิดศึกกับโลกใบนี้ แล้วจะทำไม?”
“กล้าแตะต้องเพื่อนของฉัน ก็ต้องรับผลที่ตามมา”
“ผลที่ต้องได้รับนี้ มีเพียงฉันเป็นผู้ตัดสิน”
หงซานเหอสีหน้าดูแย่มาก คิดไม่ถึงเลยว่าเขาพูดทุกสิ่งที่เกี่ยวกับตระกูลหงออกมาแล้ว หลินหยุนยังคงไม่เปลี่ยนความคิด
“เจ้าหนุ่ม นายไม่สนใจสถานการณ์โดยรวมเลยนะ!”
“นายอย่าลืมสิ ว่าตอนนี้นายเป็นคนของรัฐบาลจีน!”
“นายควรจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่เอาความรู้สึกส่วนตัวมานำความคิดนาย!”
หลินหยุนเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉย : “ถ้าแม้แต่ผลประโยชน์ของน้องสาวตัวเอง ฉันยังรักษาไว้ไม่ได้ คงยิ่งไม่ต้องพูดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ”
“นาย…” หงซานเหอโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แต่กลับพูดอะไรไม่ออก
ระหว่างที่บรรยากาศกระอักกระอ่วนขึ้นมา ประตูได้ถูกเคาะขึ้นอีกครั้ง
“ผู้นำตระกูลครับ มีหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของคุณหนูอีหลิง มาขอเข้าพบท่านครับ” คนที่อยู่ด้านนอกประตูเอ่ยพูดด้วยความระมัดระวัง
ฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างโมโหขึ้นมาทันที : “ดีจริง ๆ พวกเรายังไม่ทันได้ไปหามัน มันก็มาหาถึงที่เลย!”
สีหน้าของอีหลิง ซีดเผือดขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือน รู้สึกกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ขึ้นมา
อีหยุ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้หนุ่มตระกูลหงคนนี้ มาไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลย
หลินหยุนจับมืออีหลิงเอาไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน : “ไม่ต้องกลัว พวกเราไปเจอไอ้คุณชายตระกูลหงกันหน่อย!”
หงซานเหอเอยพูดเสียงขรึม : “หลินหยุน จำฐานะของนายไว้ด้วย อย่าทำให้ฉันและประธานาธิบดีผิดหวัง!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจ เขาจูงมืออีหลิงเดินออกไปจากห้อง
หงซานเหอสีหน้าถมึงทึง แล้วรีบตามออกไป
ณ ห้องโถงตระกูลอี หนุ่มผมดัดลอน สวมเสื้อสเวตเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ได้พาพรรคพวกเข้ามานั่งวางมาดอยู่ที่ห้องโถงตระกูลอี
ท่าทางปล่อยเนื้อปล่อยตัว เหมือนเป็นเจ้าของบ้านที่นี่
ด้านหลังของเขา มีผู้หญิงสวยรูปร่างสูงสง่าสวมชุดกระโปรงสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่
เพียงแต่ว่า ท่าทีของผู้หญิงคนนั้นดูหยิ่งยโสอย่างมาก จนทำให้คนที่เห็นรู้สึกไม่ชอบใจ
เมื่อเห็นอีหลิงที่เดินตามหลินหยุนและคนอื่น ๆ ออกมา สายตาของหนุ่มคนนั้นก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
หนุ่มคนนั้นยื่นนิ้วมือขึ้นมาสองนิ้ว แล้วดีดนิ้วกลางอากาศ พลางร้อง : “เยส!”
“ภรรยาจ๊ะ ทำไมถึงจากไปโดยไม่บอกกล่าวเลยล่ะ? ทำให้ฉันคิดถึงมากเลยรู้ไหม!”
“ไร้ยางอาย!” อีหลิงพูดออกมาด้วยเสียงเย็นชา ไม่รู้เป็นเพราะโกรธหรือเพราะตกใจกลัวกันแน่ ใบหน้าเล็ก ๆ นั่นถึงได้ดูซีดขาว
อีหยุ่นตะเบ่งเสียงต่ำ ๆ ออกมา : “ใช้ไม่ได้ แกเป็นผู้ชายสำมะเลเทเมาบ้านไหนกัน ถึงได้กล้ามาทำตัวอวดดีที่บ้านตระกูลอีของฉัน!”
อีหยุ่นดูเหมือนกำลังตำหนิ ที่จริงกำลังเตือนคนผู้นี้ ว่าให้เขาระมัดระวังท่าทีตัวเองหน่อย
คิดไม่ถึงเลยว่า หงเหวินหาวที่ใช้ชีวิตอยู่สหรัฐอเมริกามาตลอด จะไม่เข้าใจประเพณีวัฒนธรรมของจีนเลยสักนิด จึงไม่เข้าใจความหมายแฝงในคำพูดของอีหยุ่น
“คุณพ่อตา ผมคือหงเหวินหาวไง ตระกูลของเราเคยหมั้นหมายกันไว้นะ!”
“ภรรยาจ๊ะ ไอ้สองคนที่อยู่ข้างเธอ เป็นคนแอบจับตัวเธอไปจากบ้านของฉันใช่ไหม!”
หงเหวินหาวทำเหมือนอีหยุ่นไม่อยู่ตรงนั้น ท่าทางกำเริบเสิบสาน คำก็เรียกภรรยา สองคำก็เรียกภรรยา
หงซานเหอโกรธจนหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วด่าทอเสียงต่ำ ๆ : “ตระกูลหง ทำไมถึงได้ปล่อยไอ้เด็กเวรอย่างแกออกมาก่อกวนข้างนอก!”
ฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียมตะคอกด้วยความโมโห : “ฉันทนไม่ไหวแล้ว ไอ้สวะนี่มันอวดดีเกินไปแล้ว!”
“อีหลิงเธออย่าโมโหไปเลย ฉันจะทำให้มันหุบปากเดี๋ยวนี้แหละ!”
ฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียมพูดจบ ก็หายตัวไปจากที่เดิมอย่างไร้ร่องรอย
ชายชราสวมชุดถังจวงสีแดงเข้มที่อยู่ด้านหลังหงเหวินหาว ได้ก้าวมาข้างหน้ากะทันหัน แล้วขวางหน้าหงเหวินหาวเอาไว้
ตุบ!
ร่างของฝ่าบาทคาร์นอตวิลเลียม ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของหงเหวินหาว หมัดถูกกระแทกเข้าที่หน้าอกของชายชราชุดถังจวงคนนั้น