จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 975 ผลไม้รวมทิพย์
เมื่อเห็นอาการช็อกของคาร์นอตวิลเลียมแล้ว จอร์จก็หัวเราะแล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน หมาป่าเพลิงอยู่แค่ลำดับสาม ฉันยังได้ข่าวมาอีกว่า ยอดฝีมือที่มาจากกาฬโลกยังมีที่เก่งกาจกว่านี้อีก”
คาร์นอตวิลเลียมอ้าปากค้าง “ยังร้ายกาจกว่าหมาป่าเพลิงอีก ให้ตายเถอะ คงไม่ใช่เพ้าดำที่อยู่ในลำดับสองก็มาด้วยนะ?”
จอดมองดูคาร์นอตวิลเลียมด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร
สีหน้าท่าทางแตกตื่นของคาร์นอตวิลเลียม ค่อยๆจางหายไป หลังจากนั้นก็แสดงความเคร่งเครียดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
“คงไม่ใช่ว่า ทั้งเทพฟ้าร้องก็มาด้วย?”
เทพฟ้าร้อง ราชาแห่งกาฬโลก สุดยอดฝีมือลำดับหนึ่ง ได้ชื่อว่าเป็นเทพนิยายในปัจจุบันของโลกตะวันตก
ยอร์จพยักหน้า “ถูกต้อง เทพฟ้าร้องก็มาด้วย”
“อีกอย่าง นอกจากยอดฝีมือสามอันดับแรกของกาฬโลกแล้ว องค์กรเทพมรณะที่มีพลังอำนาจสูงสุดในกาฬโลก ก็ได้ส่งนักฆ่าเหนือระดับSมาด้วย”
“นักฆ่าเหนือระดับs ถึงแม้ชื่อเสียงสู้ยอดฝีมือสามอันดับแรกของประกาศมืดไม่ได้ก็จริง แต่ว่าพละกำลังไม่ได้ด้อยไปกว่าทั้งสามคนนั้นเลย”
สำหรับองค์กรเทพมรณะที่มีอำนาจอิทธิพลสูงสุดในกาฬโลกนั้น คาร์นอตวิลเลียมก็รู้ซึ้งถึงความร้ายกาจของนักฆ่าเหนือระดับSพวกนั้นดี
คาร์นอตวิลเลียมมองไปยังหลินหยุนด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “ดูท่าทีแล้ว คราวนี้พวกเราจะต้องพบกับสงครามที่เลวร้ายแล้ว!”
นึกฉูเหอพูดเยาะเย้ยว่า “สุดยอดฝีมือของกาฬโลกอะไรกัน นั่นก็เป็นเพียงแค่พวกที่ชอบสร้างเรื่องโกหกหลอกลวงชาวบ้านไปวันๆเท่านั้นแหละ!”
“เจ้าเด็กน้อย ถ้าคุณกลัวละก็ สามารถเดินย้อนกลับไปตามทางเดิมได้นะ พวกเราจะเดินไปข้างหน้าต่อไปเพื่อตามหาน้ำศักดิ์สิทธิ์”
จอร์จหยิบซิการ์มาหนึ่งมวน แล้วจุดให้กับตัวเอง มองดูฉูเหออย่างเหยียดหยาม “สาวน้อยจากโลกตะวันออก อาจไม่แน่คุณจะเป็นคนหนึ่งที่เป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ในปากของชาวตะวันออกก็ได้ แต่ว่าฉันขอเตือนคุณว่า อย่าได้ดูถูกยอดฝีมือของกาฬโลกเด็ดขาด”
“ในสงครามเทพตอนนั้น ยอดฝีมือปรมาจารย์ที่ระดับสูงสุดของชาวจีนพวกคุณพ่ายแพ้ให้กับสุดยอดฝีมือของกาฬโลกไป แม้แต่กระบวนท่าเดียวก็ยังไม่สามารถต้านไว้ได้เลย”
จอร์จกวาดสายตาไปยังพวกหลินหยุนทั้งสามคนอย่างเหยียดหยาม “ลำพังพวกคุณเจ้าเด็กน้อยทั้งสามคน อย่าว่าแต่เทพฟ้าร้องเลย แม้แต่หมาป่าเพลิงก็ยังสามารถบีบพวกคุณให้ตายคามือได้อย่างง่ายดายเลย!”
“คุณกล้าดูถูกนักบู๊ชาวจีนพวกเรา รนหาที่ตายซะแล้ว!” อารมณ์ร้อนอย่างฉูเหอ ก็อารวาดขึ้นมาทันที
ตางอู่ก็รีบดึงเธอไว้ “อย่าเพิ่งวู่วาม เถ้าแก่เขาก็แค่หวังดีเท่านั้นเอง”
“นักบู๊ชาวจีนกับยอดฝีมือของกาฬโลกทางโลกตะวันตก ใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน อาศัยแค่ปากพูดอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องสู้กันก่อนถึงจะรู้”
“ตอนนี้ พวกเรารีบไปตามหาน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่อกันดีกว่า! อย่าให้คนอื่นเขาไปถึงก่อนเรา”
หลินหยุนพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “ไป”
จอร์จมองดูเงาร่างของหลินหยุน สายตาแสดงออกถึงความน่าสนใจออกมา “นักบู๊ชาวจีนมหัศจรรย์จริงๆ ไอ้หนุ่มน้อยคนนี้อายุเพียงแค่นี้ ได้ยินชื่อของเพ้าดำแล้วถึงกับไม่ตื่นเต้นอะไรเลย”
“อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เพียงแค่เฉพาะสภาพจิตใจอารมณ์เช่นนี้ ก็ถือได้ว่ามีคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งของยอดฝีมือแล้ว”
คาร์นอตวิลเลียมทำตาถลนใส่ฉูเหอ จากนั้นก็รีบเดินตามหลังหลินหยุนไป
ฉูเหอมองดูจอร์จอย่างดุร้าย พูดอย่างไม่พอใจว่า “รอให้ฉันเอาชนะเทพฟ้าร้องก่อน ดูซิว่าแกยังกล้าดูถูกนักบู๊ชาวจีนเราอีกไหม!”
จอร์จดูดซิการ์ไปหนึ่งที แล้วหัวเราะแฮะๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่แยแสอะไรเลย
“ไปกันเถอะ หลินหยุนไปกันแล้ว!” ตางอู่พูดเตือน
ทั้งสี่คนก็เดินต่อไปตามทางในแผนที่ เพื่อหาตำแหน่งของน้ำศักดิ์สิทธิ์
แต่ว่า เป้าหมายตำแหน่งของน้ำศักดิ์สิทธิ์เล็กเกินไป รอบๆบริเวณไม่มีสิ่งโดดเด่นอะไรที่ใช้อ้างอิงได้เลย ดังนั้นจะหาได้ยากลำบากมาก
ยังดีที่หลินหยุนเป็นถึงผู้บำเพ็ญเซียน มีสัญชาตญาณไวต่อเทือกเขาทิพย์มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป
ดังนั้น ภายใต้สัญชาตญาณหยั่งรู้ราวกับเรดาร์ของหลินหยุน พวกเขาก็ได้พบหุบเขาที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายนั้นได้อย่างรวดเร็ว
ทางเข้าหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนั้น มีเศษผ้าที่ขาดเป็นชิ้นจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีคราบเลือดติดมาด้วย
“นี่น่าจะเป็นของที่นักผจญภัยพวกนั้นทิ้งไว้ ดูจากสถานการณ์ พวกเขาน่าจะเจอกับพวกสัตว์ป่าเข้าแล้ว” ตางอู่พูดวิเคราะห์
คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างดีใจว่า “พูดอย่างนี้ แสดงว่าพวกเราหาถูกที่แล้วสิ!”
“อึม!” ตางอู่พยักหน้า
“งั้นจะรออะไรอีกล่ะ เข้าไปดูซิว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่หรือเปล่า!” คาร์นอตวิลเลียมก็หายไปจากที่เดิมราวกับสายลมทันที
“ปากยังไม่มีหนวดขึ้น ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ!” ฉูเหอพูดด้วยสีหน้าดูถูก “เจ้าเด็กน้อยก็คือเจ้าเด็กน้อย ไม่มีความสุขุมเยือกเย็นเลย”
จู่ๆตางอู่ก็ลูบคางที่เกลี้ยงเกลาของตัวเอง ในใจก็แอบคิดไตร่ตรองว่าต่อไปควรจะไว้หนวดดีหรือไม่
ทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปในหุบเขาท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลนนั้น สายน้ำพุค่อยๆไหลมาจากยอดเขาแล้วรวมกันเป็นธารน้ำเล็กๆ แล้วค่อยๆไหลมารวมกันในหลุมลึกที่ห่างออกไปหลายเมตร จนกลายเป็นบ่อน้ำขึ้นมา
“น้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จริงด้วย!” คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างตื่นเต้น
“มีแต่น้ำศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น จึงจะไม่กลายเป็นน้ำแข็งภายใต้อุณหภูมิที่ติดลบหลายสิบองศาเช่นนี้”
ตางอู่ก็เปลี่ยนจากปกติที่มักสุขุมเสมอ แล้วพูดอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จริงๆด้วย ฉันสามารถสัมผัสได้ว่าน้ำในนี่แฝงไปด้วยชี่ทิพย์ฟ้าดิน!”
ฉูเหอกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วบ่นพึมพำว่า “น้ำศักดิ์สิทธิ์นี่ดูไปแล้วก็ไม่มากเท่าไหร่นะ ต่อให้นำกลับไปได้ ก็ไม่พอที่จะให้คนเพียงไม่กี่คนใช้เลย”
สายตาของหลินหยุนไม่ได้ไปมองที่น้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับมองไปยังพื้นที่แหล่งกำเนิดของน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้น ที่นั่นมีต้นไม้เล็กๆสีขาวทั้งต้นขึ้นอยู่หนึ่งต้น
ต้นไม้เล็กๆนั้นสูงแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น ไม่มีใบไม้อะไรเลย มีเพียงแค่กิ่งก้านสามกิ่งเท่านั้น บนยอดกิ่งก้านที่อยู่สูงสุดนั้น มีผลไม้ขนาดเท่าไข่ไก่ สีขาวใสสะอาดราวกับคริสทัลที่โปร่งใสไร้สิ่งเจือปนแขวงอยู่บนยอดกิ่งไม้นั้น
หลินหยุนระงับความตื่นดีใจไว้ “คิดไม่ถึงจริงๆว่า บนโลกที่มีชี่ทิพย์เพียงน้อยนิดเช่นนี้ถึงกับมีผลไม้รวมทิพย์เกิดขึ้นได้!”
“แม้แต่ในดาวเคราะห์ที่มีชี่ทิพย์อุดมสมบูรณ์ที่ผู้บำเพ็ญเซียนพวกอยู่นั้น ก็ยังพบเห็นยาวิเศษชั้นสูงเช่นนี้น้อยมากเลย”
ผลไม้รวมทิพย์ ตามปกติแล้วจะเกิดขึ้นตามเทือกเขาบนพื้นโลก หรืออาจจะเรียกว่าผลไม้เทือกเขาทิพย์ก็ได้
ยาวิเศษพวกนี้ สามารถเจริญเติบโตได้เฉพาะในพื้นที่ที่มีชี่ทิพย์อุดมสมบูรณ์เท่านั้น จึงอาจจินตนาการได้ว่า ผลไม้รวมทิพย์นี้จะต้องอุดมสมบูรณ์ไปด้วยชี่ทิพย์ฟ้าดินมากมายเพียงใด
“ถ้ามีผลไม้รวมทิพย์นี้แล้ว ฉันก็มีความหวังที่เข้าถึงแดนยาทองภายในหนึ่งปีได้แล้ว!”
“แต่เสียดาย ผลไม้รวมทิพย์นี้ยังไม่สุกเต็มที่เลย ดูท่าทีแล้วยังต้องรออีกราวสามปีถึงจะสุกงอมเต็มที่”
“ฉันไม่มีวันที่จะรออยู่ที่นี่ถึงสามปี ยังดีที่ฉันฝึกร่างภูตป่าสำเร็จแล้ว ฉันสามารถใช้ชี่ภูตป่ามาเร่งให้ผลไม้รวมทิพย์สุกเร็วขึ้น ใช้เวลาแค่สามวันก็พอแล้ว
การกระทำของหลินหยุน ก็เหมือนกับเป็นการเร่งให้ผลไม้สุกเร็วขึ้นในโลกมนุษย์นั่นเอง
เพียงแต่ว่า การเร่งผลไม้เช่นพวกกล้วยให้สุกนั้น จะต้องใช้สารเร่งให้สุกเร็วขึ้น
ส่วนการเร่งให้ผลไม้รวมทิพย์ที่เป็นยาวิเศษระดับสูงเช่นนี้ จำเป็นจะต้องใช้ชี่ภูตป่าที่บริสุทธิ์เป็นตัวเร่งให้สุกเร็วขึ้น
“เอ๊ะ นั่นคืออะไร?” คาร์นอตวิลเลียมก็เห็นผลไม้รวมทิพย์แล้ว กำลังจะเดินเข้าไปสังเกตดู แต่กลับถูกหลินหยุนขวางไว้ก่อน
“อย่าไปแตะต้อง” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเข้ม
สายตาของตางอู่และฉูเหอ ต่างก็ถูกผลไม้รวมทิพย์ดึงดูดไว้แล้วเช่นกัน
ฉูเหอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไมถึงแตะต้องไม่ได้? หรือว่าคุณรู้จักต้นหญ้าต้นนี้!”
ต้นหญ้า……..
หลินหยุนพูดอะไรไม่ออก
ดูท่าทีแล้วจะต้องบอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้ทุกคนรู้แล้ว
“นี่ไม่ใช่ต้นหญ้า แต่เป็นยาวิเศษต้นหนึ่ง ผลไม้ข้างบนนั้นเรียกว่าผลไม้รวมทิพย์ เป็นของวิเศษที่มีน้อยมากในโลกนี้”
“อะไรคือผลไม้รวมทิพย์? ของอย่างนี้ทำไมมาเกิดขึ้นที่นี่ได้?” ฉูเหอถามด้วยสีหน้าสงสัย
ตางอู่ก็ถามอย่างสงสัยว่า “สถานที่มีแต่น้ำแข็งหิมะอย่างนี้ ถึงกับมีต้นไม้งอกขึ้นมาได้!มันก็น่าอัศจรรย์มากแล้ว อีกอย่างต้นไม้ต้นนี้ถึงกับมีสีขาวเหมือนหิมะทั้งต้นเลย น่าแปลกมาก!”
“ต้นไม้เจริญเติบโตข้างๆน้ำศักดิ์สิทธิ์ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย” ฉูเหอพูดอย่างเรียบๆ
“ความจริงแล้ว น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พวกคุณรู้จักนั้น มันคือการรั่วซึมของเทือกเขาทิพย์บนพื้นโลกต่างหาก” หลินหยุนจู่ๆก็พูดขึ้น
ทุกคนต่างมองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ “อะไรคือเทือกเขาทิพย์?”
หลินหยุนก็ได้อธิบายเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของเทือกเขาทิพย์ให้พวกเขาฟัง พวกเขาจึงได้เข้าใจถึงที่มาของน้ำศักดิ์สิทธิ์
“มิน่าล่ะน้ำศักดิ์สิทธิ์มีประสิทธิภาพที่มหัศจรรย์ขนาดนี้ ที่แท้แล้วเกิดจากการแปรสภาพของเทือกเขาทิพย์นี่เอง”
ทุกคนก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว