จักรพรรดิเซียนหวนคืน - ตอนที่ 51
บทที่ 51 ร้อยพนันร้อยกำไร![รีไรท์]
ฉู่ชวิ๋นตอบกลับอย่างง่าย ๆ “ก็แค่โชคดี”
“โชคก็เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ” นักพนันหนุ่มหยักไหล่แม้จะถูกหน้ากากปกปิดใบหน้าไว้ แต่ทุกคนก็สามารถรับรู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มอยู่
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของเขา
“พูดได้ดี ๆ โชคก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เทพธิดาแห่งโชคลาภจะดูแลเอาใจใส่คนเพียงคนเดียวตลอดไป” ผู้คุมเหลยตะโกนออกมาและหันไปมองฉู่ชวิ๋น
“ยังอยากเล่นต่ออยู่ไหม?” ผู้คุมเหลยถามฉู่ชวิ๋น
“แน่นอน” ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าและพูดอย่างมั่นใจ “ฉันเดิมพัน 540 ล้าน”
“นับว่าเป็นลูกผู้ชาย ฉันชอบ” นักเล่นพนันหนุ่มหัวเราะเสียงดังจากนั้นก็ดีดนิ้วเรียกพนักงานมาและยื่นเช็คธนาคารส่งให้ “ช่วยฉันแลกเงินหน่อยเอามา 200 ล้าน”
“รอก่อน” นักพนันหญิงเรียกพนักงานให้หยุดและส่งเช็คธนาคารให้อีกคน
“ฉันแลกเงิน 200 ล้านเหมือนกัน”
“ยัยบ้านี้ ยังจะตามมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรอยู่อีก” นักพนันหนุ่มพูดพึมพำเสียงเบา
ฉู่ชวิ๋นมองก็รู้สึกว่าสองคนนี้รู้จักกันไม่นาน พนักงานก็ถือชิปเงิน 400 ล้านกลับมา
“โครม!” นักพนันหนุ่มนำชิป 200 ล้านดันเข้าไปอย่างเคร่งขรึมและพูดเสียงดังออกมาว่า “เล่นเจ้ามือ 200 ล้าน”
“โครม!” เสียงชนกันของชิปดังขึ้น เป็นชิป 200 ล้านของนักพนันหญิง
“เล่นเจ้ามือ 200 ล้าน”
ฉู่ชวิ๋นอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ไม่ลงรอยกัน ต่อต้านกันในทุกเรื่อง ตอนนี้สีหน้าของผู้คุมเหลยนั้น ดำมืดยิ่งกว่าหน้ากากจางเฟยของฉู่ชวิ๋นซะอีก ผู้คุมเหลยคิด ‘ข่มเหงรังแกกันเกินไปแล้ว’
“เริ่มกันเถอะ” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นมา
สายตาของผู้คุมเหลยเปล่งประกายขึ้นมาวูบหนึ่ง เขาเคาะโต๊ะอย่างรวดเร็ว ถ้วยลูกเต๋าถูกดีดอย่างรวดเร็ว ถ้วยลูกเต๋าพลิกบนล่างจนได้ยินเสียงกระทบกันของลูกเต๋าไม่มีหยุด
ผู้คุมเหลยสีหน้าเคร่งขรึม ครั้งนี้เขย่า 1 นาทีเต็ม ๆ ถึงจะวางมือลง ถ้วยลูกเต๋าตั้งอยู่บนโต๊ะ ผู้คุมเหลยอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าพอใจออกมาครั้งนี้ เขาไม่ยั้งมือหรอกนะ
“เปิดเถอะ” นักพนันหนุ่มพูดขึ้นนิ้วมือเคาะบนโต๊ะตามอำเภอใจ เมื่อนักพนันหนุ่มเคาะมือบนโต๊ะ ปลายนิ้วเปล่งคลื่นพลังจนลูกเต๋าในถ้วยสั่นไหว
ทันใดนั้นก็มี กำลังปะทะส่งมาอีกครั้งหนึ่งมาจากด้านซ้ายของฉู่ชวิ๋น เป็นนักพนันหญิง นักพนันหนุ่มหันหน้าจ้องเขม็งที่นักพนันหญิง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความยั่วยุปรากฏออกมา แต่ทว่าฉู่ชวิ๋นไม่สนใจแล้วรอผู้คุมเหลยเปิดถ้วยอย่างเงียบ ๆ
ผู้คุมเหลยเปิดถ้วยลูกเต๋าออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนเหมือนถูกสายฟ้าฟาดหยุดนิ่งอยู่กับที่
“ตอง 5 พวกเราชนะแล้ว!” เฉินฮั่นหลงตะโกนเสียงดังออกมาอย่างดีใจ
แต่ทว่านักพนันหนุ่มและนักพนันหญิงกลับไม่มีความดีใจเลยสักนิดในขณะเดียวกันก็จ้องพวกเขาก็มองไปยังฉู่ชวิ๋น
“ท่านทั้งสอง ฉันโชคดีอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเทพธิดาแห่งโชคลาภจะไม่ได้จากฉันไปไหน” ฉู่ชวิ๋นยิ้มและพูดขึ้น
นักพนันหนุ่มและนักพนันหญิงรู้สึกสงสัย พวกเขาไม่รู้สึกถึงลมปราณจากฉู่ชวิ๋น เขาเป็นคนโชคดีคนหนึ่งจริง ๆ เหรอ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า….รวยแล้ว ๆ น้องชายนี้โชคดีมากจริง ๆ”
นักพนันหนุ่มเผยเสียงหัวเราะออกมา แต่ดวงตาของเขาเมื่อมองไปยังชิปมากมายตรงหน้ากลับไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อยนี่ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่นักพนันควรมี
ถ้าไม่มีความโลภแล้วจะมาเล่นพนันทำไม? สายตาของผู้คุมเหลยเลื่อนลอย โศกเศร้าเสียใจเหมือนสูญเสียทุกอย่าง นักพนันหญิงเคาะบนโต๊ะและพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจ
“จบแล้วเหรอ หมดตัวแล้วสินะ”
ครั้งนี้ฉู่ชวิ๋นเก็บเงินลงไปรอบนี้เขาได้มา 2500 ล้านและนักพนันชายหญิง ได้ไปคนละ 1000 ล้านรวมแล้วบ่อนจะต้องจ่ายรวมทั้งหมด 4500 ล้าน! นับว่าเป็นจำนวนเงินที่มากมายจนฆ่าคนตายได้เลย
ผู้คุมเหลยตะลึงอย่างถึงที่สุด จำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ ครั้งนี้เขาไม่สามารถจ่ายได้
……
ขณะเดียวกัน ภายในห้องที่ตกแต่งอย่างประณีตอย่างดีห้องหนึ่ง ในนั้นมีชาย 2 คนและผู้หญิง 1 คน ต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม พวกเขามองไปยังจอโปรเจคเตอร์ที่แขวนอยู่บนผนัง บนหน้าจอโปรเจคเตอร์นั้นแสดงเหตุการณ์ที่โต๊ะของฉู่ชวิ๋นอย่างชัดเจน “ไอ้คนไร้ประโยชน์”
ในบรรดา 3 คนนั้นหนึ่งในนั้นเป็นชายร่างเหมือนหมี ภายนอกหยาบกระด้างในมือกุมแก้วเหล้าที่แตกกระจายอยู่
“มีคนที่โชคดีเล่นพนันร้อยครั้งชนะร้อยครั้งอยู่จริง ๆ เหรอ?”
ในบรรดา 3 คนนั้น ฝ่ายหญิงเป็นผู้เริ่มปริปากพูดขึ้นมาก่อน เสียงของเธอ ไพเราะ ดวงตาที่กลมโต คิ้วที่โค้งได้รูป ผิวขาวเหมือนกับหิมะ รูปโฉมงามงดงามและพราวเสน่ห์ สวมใส่ชุดกี่เพ้าด้วยรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ แค่มองก็รู้สึกเลือดลมสูบฉีด
ถ้าหากว่าฉู่ชวิ๋นและเฉินฮั่นหลงเห็นผู้หญิงคนนี้ จะต้องจำได้ทันทีเพราะเธอคือเจ้าของร้านค้าโบราณ นามว่า หงหลิง
“ฉันไม่สนว่ามันจะมีโชคดีแค่ไหน แต่เงินเยอะขนาดนี้ให้มันไปได้ง่าย ๆ ได้ยังไง!”
ผู้ชายอีกคนพูดอย่างเยือกเย็น บนใบหน้าของเขามีรอยมีดบาดลึกจากหางตาไปจนถึงขอบปาก ยามเมื่อเขาพูด รอยแผลของเขาก็จะขยับเหมือนตะขาบชนิดหนึ่ง ดูดุร้ายและน่าสะอิดสะเอียน
“อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า” หงหลิงพูดห้ามและพูดต่อ “ทุกคนก็รู้ว่าชายหญิงที่อยู่ข้างเขาไม่ใช่คนธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าที่อยู่ที่นี่รู้จักพวกเราถ้าหากว่าเราไปทำอะไรเขา ต่อจากนี้จะมีใครกล้ามาเล่นที่นี่อีก” หงหลิงพูดอย่างมีเหตุผล
“ที่นี่คือแหล่งหาเงินที่ดี ถ้าหากว่าเกิดเรื่องขึ้นก็น่าเสียดายแย่” ผู้ชายที่ภายนอกดูหยาบกระด้างพูด คำพูดของเขาดูไม่ธรรมดาผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกของเขา
“ตอนนี้จำเป็นต้องขอให้ผู้อาวุโสโม่ลงมือแล้ว” หงหลิงคิดแล้วพูดออกมา
“ดูเหมือนว่าจะต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ” ผู้ชายร่างยักษ์พูดคล้อยตาม
ครั้งนี้ผู้ชายหน้าบากกลับไม่พูดอะไร เขาพยักหน้าตอบกลับ เพราะว่าความร้ายกาจของผู้อาวุโสโม่ พวกเขาทั้งหมดเคยเห็นด้วยตาของตัวเอง ไม่ใช่แค่ความสามารถด้านการพนัน แต่วรยุทธ์ยังล้ำลึก จนพวกเขาทำได้แค่อ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อเห็น
……
ทั้ง 3 คนไปหน้าห้องหนึ่ง เป็นหงหลิงที่เป็นผู้เคาะประตูตรงหน้า แต่ด้านในกลับไม่มีคนตอบรับและดูเหมือนว่าจะไม่มีคนมาเปิดประตูออกมา
หงหลิงยังคงเคาะประตูอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ข้างในกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างจนปัญญา และชายหน้าบากก็เป็นคนผลักประตูเข้าไป ทำให้รู้ว่าประตูไม่ได้ล็อกจากข้างใน สามารถเปิดออกได้ ทั้ง 3 คนเลยเดินเข้าไป ภายในห้องมีกลิ่นฉุนของเหล้า ตลบอบอวลไปทั่วทุกสารทิศ
การตกแต่งห้องนับว่าไม่เลว ทว่ามีเศษขยะเล็ก ๆ เรี่ยราดเต็มไปหมดและยังมีชายชราคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ข้างกายเต็มไปด้วยขวดเหล้า
ชายหน้าบาก ผลักชายชราแล้วพูดเสียงต่ำ “ผู้อาวุโสโม่ ตื่น ตื่นเถอะ…”
ชายชราพลิกตัวหนึ่งทีแล้วเปลี่ยนท่าก่อนจะนอนหลับต่อ ไม่มีท่าทีจะตื่นเลยสักนิดชายหน้าบาก หันกลับไปมองพวกของตนด้วยสีหน้าจนปัญญา หากเป็นคนอื่น เขาคงถีบให้ตื่นไปนานแล้ว แต่กับชายชราผู้นี้ เขาไม่กล้า เพราะหากกระตุ้นความโกรธของชายชรา เขาคงถูกตบตายในฝ่ามือเดียว!
ผู้ชายร่างยักษ์ แบมือออกบอกใบ้ว่า ตัวเองก็จนปัญญาเหมือนกัน
สุดท้ายชายทั้งสองก็มองไปที่หญิงสาวเพียงคนเดียวในห้อง นั่นคือ หงหลิง พวกเขารู้ว่า หงหลิงจะต้องมีวิธีดี ๆ แน่ หงหลิง ยิ้ม ก่อนจะเดินผ่านไปเอาไหเหล้าจากในตู้ที่ไม่รู้ว่าเป็นไหเหล้าจากปี พ.ศ. ไหน เธอยกขึ้นแล้วทิ้งลงกับพื้น
ทันใดนั้นเอง ชายชราที่กำลังนอนหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาทันที ร่างกายหายไปราวกับเงา ไหเหล้าที่เกือบจะตกถึงพื้นถูกชายชราคว้าเอามากอดอย่างแน่นหนา
“สาวน้อย ไหนี้คือไหสุดท้ายแล้ว ถ้าเธอโยนมันทิ้งชายชราคนนี้จะใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง”
ชายชราส่งเสียงร้องโวยวายอย่างเจ็บปวด หัวยุ่งเหยิงไปหมด มือยื่นออกมาถูขี้ตา หงหลิงยิ้มเบา ๆ แล้วพูดขึ้น “ถ้าไม่ทำแบบนี้ท่านผู้เฒ่าจะยอมตื่นขึ้นมาได้ยังไง”
ชายชรานำไหเหล้ากลับไปวางไว้ที่เดิมอย่างระมัดระวังและถามออกมา
“พวกเธอทั้ง 3 คนมาหาฉันพร้อมกัน มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?”
“ฉลาดมากผู้อาวุโสโม่…” ยังไม่ทันที่ชายร่างยักษ์จะพูดจบ ก็ถูกชายชราพูดขัดอย่างรำคาญใจ “อย่าประจบประแจง มีเรื่องอะไรก็รีบ ๆ พูดมา”
สีหน้าของชายร่างยักษ์อึดอัดไปชั่วขณะหนึ่งแล้วพูดว่า “มีคนโชคดีคนหนึ่งแม้แต่ผู้คุมเหลยก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา พวกเราอยากขอให้ท่านช่วยลงมือ”
ชายชราสีหน้าตกใจปรากฏออกมาแวบหนึ่ง ผู้คุมเหลยคือลูกศิษย์ของเขา เป็นคนที่เขาตั้งใจสั่งสอน รักราวกับลูกในไส้ คิดไม่ถึงว่าจะแพ้อีกฝ่าย? น่าสนใจมาก ชายชราท่าทางสนอกสนใจขึ้นมา
“ไปดูกันเถอะ ได้เวลาที่ฉันจะพาร่างกายแก่ ๆ ออกไปเคลื่อนไหวแล้ว” สีหน้าทั้ง 3 คนเต็มไปด้วยความสุขจากนั้นจึงเร่งรีบนำทางไป
……
นิ้วมือของฉู่ชวิ๋นเคาะอยู่กับหัวเข่า ท่าทางนิ่งสงบ ตอนนี้เงินของเขามีอยู่ 3500 ล้าน แต่ชิปที่แพงที่สุดของที่นี่คือ 10 ล้านต่อ 1 ชิป ทำให้ตรงหน้าเขามีแต่ชิป 10 ล้านกองกันจนเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ฉู่ชวิ๋นเอาชิปทั้งหมดดันไปตรงหน้า เดิมพันทั้งหมด 3500 ล้าน! ฉู่ชวิ๋นมองผู้คุมเหลยแล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
“เล่นต่อแทงทั้งหมด 3500 ล้าน” นักพนันหนุ่มนำชิปในมือมาโยนเล่นและพูดเตือนฉู่ชวิ๋น
“ไม่เล่นแล้ว ชนะมากไปก็ไม่รู้จะเอากลับไปได้ไหม ฉันจะไม่เล่นแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ฉันกลัวถ้าชนะมากไปจะไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้” คำพูดพวกนี้ก็คือคำเตือนให้ฉู่ชวิ๋นหยุด เขารู้ว่า ฉู่ชวิ๋นไม่มีลมปราณ เป็นไปได้ว่าฉู่ชวิ๋นแค่โชคดีจริง ๆ แต่ว่าบ่อนจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ งั้นเหรอ?
“ฉันก็ไม่เล่นแล้ว ชนะพอแล้ว ชนะต่อไปอีก ฉันกลัวจะตายกลางทาง” ความหมายคำพูดของนักพนันหญิงเป็นคำเตือนที่สื่อไปถึงฉู่ชวิ๋น แต่ดูเหมือนว่าฉู่ชวิ๋นจะไม่ฟังคำเตือนของทั้งสองคนและยิ้มขึ้นมา
“น่าเสียดายจริง ๆ ที่ทั้งสองไม่เล่นแล้ว วันนี้โชคฉันไม่เลวเลย ไม่แน่ว่าจะชนะบ่อน*เลยก็ได้” นักพนันหนุ่มและนักพนันหญิงตกใจมาก ชนะบ่อน เป็นความคิดที่บ้าบิ่นมาก (หมายถึงเล่นชนะจนบ่อนขาดทุนไม่มีจ่าย)
สายตาของผู้คุมเหลยเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาคิดจะฆ่าฉู่ชวิ๋นทิ้งที่นี่ เงินมากขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ฉู่ชวิ๋นเอากลับ เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ผู้คุมเหลยจิตใจก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย ผู้คุมเหลยไม่สนแล้วว่าฉู่ชวิ๋นจะชนะเท่าไหร่ สุดท้ายฉู่ชวิ๋นก็เอากลับไปไม่ได้แล้วจะนับว่าบ่อนเสียได้ยังไง?
เมื่อผู้คุมเหลยเตรียมตัวที่จะเล่นต่อ เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“รอก่อน!” ทุกคนมองไปตามเสียง ก็เห็นชาย 2 หญิง 1 คนและชายชราเดินเข้ามา
“ท่านอาจารย์ ทำไมถึงออกมาได้?” สีหน้าของผู้คุมเหลยเปลี่ยนไป รีบเร่งเข้าไปถามสารทุกข์สุกดิบกับชายชรา
“ถ้าหากว่าฉันไม่มา เธอวางแผนที่จะทำให้บ่อนแพ้สินะ?” ชายชรามองซ้ายขวาแล้วพูดเบา ๆ
ผู้คุมเหลยเหมือนถูกฟาดด้วยสายฟ้า รู้สึกอับอายจนต้องก้มหน้าลงพูดเบา ๆ “ลูกศิษย์ทักษะยังไม่ชำนาญ ทำให้อาจารย์ต้องเสียหน้าแล้ว ขอโปรดอาจารย์อภัยด้วย”
“เสียหน้ากะผีสิ เล่นแบบนี้ร้อยครั้งก็แพ้ร้อยครั้ง แกต้องฝึกอีกเยอะ” ผู้คุมเหลยถอยไปอยู่ข้างหลังชายชราอย่างวางตัวไม่ถูก
ชั่วพริบตานั้น นักพนันหนุ่มและนักพนันหญิงก็มองเห็นชายชราทำให้ ร่างกายพวกเขาเริ่มสั่นไหวอย่างหวาดกลัว ฉู่ชวิ๋นเองก็ไตร่ตรองเล็กน้อย ภายในร่างของชายชรามีกลิ่นอายน่ากลัวซ่อนอยู่
นี่คือบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยพบในโลกนี้ ไม่แปลกใจเลยที่นักพนันชายและหญิงจะหวาดกลัว นอกจากนี้ ฉู่ชวิ๋นยังเห็นคนคุ้นหน้าอย่าง หงหลิง พอฉู่ชวิ๋นกวาดตามองฉู่ชวิ๋นก็เห็นชายหน้าบาก จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ก็คือชายคนนี้!
ชายชราหาวออกมาแล้วเดินมาข้างหน้า ชายชรามองฉู่ชวิ๋นแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ยินมาว่าหลานชายมีเทพธิดาแห่งโชคลาภคอยดูแล สามารถแสดงให้คนแก่คนนี้ได้เห็นเป็นบุญตาได้หรือไม่”
ฉู่ชวิ๋นวางชิปอย่างน่าเกรงขามแล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “เริ่มเลยเถอะ”
ชายชรามึนงง ไม่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะตอบกลับอย่างง่าย ๆ ไม่เสแสร้งแต่ทำตัวเหนือโลกโดยแท้ ชายชรายื่นมือออกมาจับถ้วยลูกเต๋าที่อยู่บนโต๊ะ คลื่นพลังกระทบกับลูกเต๋าที่อยู่ภายในถ้วย
“แกร๊ก แกร๊ก….” เสียงกระแทกของลูกเต๋า
ลูกเต๋าหมุนอย่างรวดเร็ว รอคอยมือชายชราออกจากถ้วยลูกเต๋า ไม่นานลูกเต๋าที่อยู่ข้างในก็หยุดลงและไม่ส่งเสียงออกมาอีก
“ให้เปิดเลยไหม?” ชายชราถามอย่างใจเย็น มือหนึ่งลูบเคราที่มีลักษณะคล้ายหญ้า เขาพยายามแสดงลักษณะแบบโคตรเซียนพนัน แต่ไม่ดีเท่าที่ชายชราจินตนาการเอาไว้ ลักษณะของคนเก่งที่แท้จริงต้องไม่แสดงออกง่าย ๆ
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เปิดเถอะ” ชายชราเปิดถ้วยลูกเต๋าออกแล้วนับแต้มลูกเต๋า ‘ตอง 6’
คนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างหายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งหมดยืนแข็งอยู่กับที่ มือสั่นเทาของชายชรานำหนวดเคราที่คล้ายวัชพืชบางตาดึงออกมา 2-3 เส้น