จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 116-2 ปราสาทน้ำแข็งบนเขาหิมะ
จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 116-2 ปราสาทน้ำแข็งบนเขาหิมะ
จวบจนกระทั่งเซี่ยงจิ้นหอบแฮกๆ กลับไปถึงวัง จึงทันได้เห็นว่าซย่าโหวฉิงเทียนกำลังพยายามเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับซย่าโหวจวินอวี่ด้วยท่าทางที่งุ่มง่าม
ซึ่งฮ่องเต้ก็ทรงหลับลึกจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ภายใต้แสงเทียน ซย่าโหวฉิงเทียนพยายามเช็ดมือทั้งสองข้างของซย่าโหวจวินอวี่อย่างละเมียดละไมแล้วห่มผ้าให้กับเขา
“ดูแลเขาให้ดี!” ก่อนจะกลับออกไป ซย่าโหวฉิงเทียนยังกำชับเอาไว้อีกด้วย
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เซี่ยงจิ้นตกตะลึงงัน
เมื่อครู่เขาเห็นอะไรกัน ท่านอ๋องปรนนิบัติฝ่าบาท หากกราบทูลเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ ฝ่าบาทคงจะดีพระทัยยิ่งนัก!
โบราณว่า พ่อที่เปี่ยมด้วยเมตตาจะทำให้ลูกชายกตัญญู
ต่อหน้าท่านอ๋อง ฝ่าบาททรงเป็นบิดาที่เปี่ยมด้วยเมตตาและอ่อนโยน มีเพียงแต่ท่านอ๋องเองเท่านั้นที่ติดจะเย็นชามาโดยตลอด
ในตอนนี้ดูแล้ว เห็นทีว่าท่านอ๋องจะทรงเป็นประเภทภายนอกเย็นชาภายในอบอุ่น แท้ที่จริงแล้วในใจของท่านอ๋องก็ใส่ใจฝ่าบาทเช่นกัน!
วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เมื่อซย่าโหวฉิงเทียนตื่นขึ้น เซี่ยงจิ้นสุนัขรับใช้ผู้แสนซื่อสัตย์ได้นำความกราบทูลเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับเจ้านายได้รู้ในทันที
แม้กระทั่งประโยคที่เซี่ยงจิ้นเอาหูแนบกำแพงแอบฟังหนุ่มสาวทั้งสองคนคุยกันว่าต่อไปจะกตัญญูต่อฝ่าบาทให้มาก ก็ถูกเซี่ยงจิ้นนำมาตีแผ่เช่นกัน
โตแล้วจริงๆ! รู้เสียทีว่าควรจะทำอะไร!
ซย่าโหวจวินอวี่ดีใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเรื่องที่ว่าซย่าโหวฉิงเทียนดูแลเขา มันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งหมดนี้ควรจะขอบคุณอวี้เฟยเยียนสินะ!
หากว่าไม่มีนาง ซย่าโหวฉิงเทียนไหนเลยจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองทีละเล็กทีละน้อยเช่นนี้ได้!
คิดได้ดังนั้น ซย่าโหวจวินอวี่จึงมีราชโองการพระราชทานงานแต่งงานให้กับซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนทันที
เมื่อมีราชโองการออกมา ทำเอาประชาชนถึงกับงงงวยไปตามๆ กัน
นี่มันความรักที่ต้องแย่งชิงหรือว่ารักสามเส้ากันแน่
ก็เห็นกันอยู่ว่าใต้เท้าซย่าโหวเป็นของใต้เท้าอวี้หลัวช่านี่นา แล้วไฉนถึงได้ถูกใต้เท้าอวี้แย่งชิงไปได้!
ด้านหนึ่งก็คือใต้เท้าอวี้ผู้ล้มโจวเลี่ย อีกด้านก็คือใต้เท้าอวี้ผู้ขจัดโรคห่าไปได้ บุคคลทั้งสองล้วนแต่เป็นต้นแบบของทุกคนทั้งสิ้น เมื่อพวกนางทั้งสองคนกำลังแย่งชิงผู้ชายคนเดียวกัน แล้วประชาชนควรจะยืนอยู่ฝั่งไหนกันแน่นะ
ในตอนที่ทุกคนกำลังลำบากใจนั่นเอง อวี้เฟยเยียนก็ออกมายอมรับแต่โดยดีว่าอวี้หลัวช่าและอวี้เฟยเยียนคือคนคนเดียวกัน
คราวนี้ทำเอาทุกคนถึงกับตกตะลึงงัน
ใต้เท้าอวี้เท่ากับใต้เท้าอวี้หลัวช่าเท่ากับองค์หญิงหลิงอวี้…
หากมิใช่ชื่อเสียงของสกุลอวี้เป็นไปในทางที่ดีมาโดยตลอด บวกกับความเชื่อมั่นในตัวอวี้หลัวช่า ทุกคนคงกำลังสงสัยว่าปีนี้เป็นปีแห่งการโกหกไปแล้วเป็นแน่
จวบจนกระทั่งฮ่องเต้ทรงมีราชโองการออกมาจึงยิ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ฉับพลันทำเอาเมืองหลวงก็ร้อนระอุราวกับตลาดแตกก็ไม่ปาน
เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถูกนำมาปะติดปะต่อรวมกัน ทำให้ทุกคนเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที เรื่องนี่เป็นความจริงแท้แน่นอน! อวี้เฟยเยียนคืออวี้หลัวช่า!
เมื่อขึ้นว่าราชการเช้าแล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงของเหล่าขุนนาง ซย่าโหวจวินอวี่ก็ปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก
ในตอนแรกเขาก็ถูกหลอกเช่นกัน
แต่ในเมื่อขุนนางเหล่านี้ก็ถือเป็นลูกหลานชาวต้าโจว เป็นขุนนางของเขา ฮ่องเต้จึงทรงมีพระดำริอยากจะให้ทุกคนได้รับรู้แบ่งปันในความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกัน! ถึงจะเรียกว่าฮ่องเต้คู่กับขุนนางอย่างไรเล่า!
ฮ่องเต้ทรงว่าราชการเช้าด้วยความปลื้มปีติ ส่วนซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนในเวลานั้น พวกเขากำลังอยู่ด้วยกันที่เรือนอ้ายเหลียน
ภายใต้การดูแลรักษาของอวี้เฟยเยียน ร่างกายของตี้อู่เฮ่ออีฟื้นฟูขึ้นได้ดีทีเดียว
ถึงแม้ว่าตี้อู่เฮ่ออีจะเสียเลือดไปมาก แต่เนื่องจากภายหลังได้บำรุงรักษาร่างกายบวกกับได้รับความรักจากเชียนเยี่ยเสวี่ย ในด้านของสภาพจิตใจตี้อู่เฮ่ออีจึงกลับมาแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว
คราวนี้ถือว่ายังมีความโชคดีในความโชคร้าย
ไม่เพียงแต่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเชียนเยี่ยเสวี่ย กระทั่งในด้านของความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พัฒนาขึ้นไปมากเช่นกัน
ตี้อู่เฮ่ออีติดจะขี้อายไปบ้าง ไม่เก่งเรื่องการแสดงความรู้สึก ตรงกันข้ามเป็นเชียนเยี่ยเสวี่ยต่างหากที่เป็นดั่งดวงไฟที่เร่าร้อนและอบอุ่น คอยจุดประกายให้กับเขา
ถึงแม้ว่าในทุกวันเป็นเชียนเยี่ยเสวี่ยจะคอยแต่หยอกเย้าตี้อู่เฮ่ออีจนเขาใบหน้าแดงซ่าน แต่ทว่าในใจของเขากลับหวานปานน้ำผึ้ง
เขาชอบผู้หญิงคนนี้!
เขาชอบความดุเด็ดเผ็ดร้อนของนาง ชอบในความเป็นหญิงแกร่งแสนเย่อหยิ่งของนาง และยังชอบแววตาเจ้าเล่ห์เหลือร้ายของนางยามที่พูดจาสองแง่สองง่ามหยอกเย้าเขาอีกด้วย
สรุปก็คือ เขาชอบทุกอย่างที่เป็นนาง!
ทันทีที่มาถึงเรือนอ้ายเหลียน ซย่าโหวฉิงเทียนทักทายเหลียนจิ่นเล็กน้อย จากนั้นก็ลากตี้อู่เฮ่ออีออกไปทันที
“พวกเขาทำอะไรกัน”
เชียนเยี่ยเสวี่ยมองดูผู้ชายสองคนที่กำลังทำลับๆ ล่อจากระยะไกล แล้วใช้ข้อศอกสะกิดอวี้เฟยเยียน
“คงจะไม่ใช่ว่าผู้ชายของเจ้าเห็นเจ้าทึ่มแล้วนึกชอบเขาขึ้นมาใช่ไหม!”
ได้ยินความคิดของเชียนเยี่ยเสวี่ยนี้แล้ว อวี้เฟยเยียนก็ถึงกับกุมขมับ
นางละเสียใจยิ่งนัก หากรู้ว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยเป็นหญิงแกร่งถึงเพียงนี้ นางคงไม่บอกเล่าความรู้ความคิดใหม่ๆ พวกนี้ให้เชียนเยี่ยเสวี่ยฟังตั้งแต่แรก
“ของที่เจ้าต้องการข้านำมาให้เจ้าแล้วนะ!”
เพื่อจะเบี่ยงเบนความสนใจของเชียนเยี่ยเสวี่ย อวี้เฟยเยียนจึงหยิบเอากล่องหยกหนึ่งใบพร้อมกระดาษหนึ่งแผ่นออกมา
“นวดวนตามเข็มนาฬิกาหนึ่งรอบแล้ววนทวนเข็มนาฬิกาอีกหนึ่งร้อยรอบ วันละสองครั้งเช้าเย็น! วิธีการใช้ข้าเขียนเอาไว้บนกระดาษนี้หมดแล้ว!”
แค่ได้ยินเรื่องของเจ้าสิ่งนี้เข้า เชียนเยี่ยเสวี่ยก็ทิ้งเรื่องของตี้อู่เฮ่ออีเอาไว้ด้านหลังแล้วหันไปหาอวี้เฟยเยียนทันที
“ซาซ่า หากลูบไล้มันทุกวัน มันจะกลายเป็นคัพซีจริงๆ ใช่ไหม”
“ขอเพียงเจ้าหมั่นทำเป็นประจำสักครึ่งปี มันก็จะสำเร็จผลตามที่เจ้าคาดหวัง”
ที่แท้ อวี้เฟยเยียนได้คิดค้นครีมบำรุงหน้าอกให้เต่งตึงซึ่งมีสารสกัดมาจากพืชธรรมชาติล้วนๆ ตามที่เชียนเยี่ยเสวี่ยขอมา
ตั้งแต่ที่คบหาตี้อู่เฮ่ออีในฐานะคนรัก เชียนเย่สวี่ยก็เริ่มไม่พึงพอใจขนาดรอบอกของตนเองขึ้นมา
นางยังเคยแอบหลอกถามตี้อู่เฮ่ออีว่าพอใจในขนาดหน้าอกหน้าใจของนางหรือไม่อีกด้วย
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ตี้อู่เฮ่ออีเคยช่วยชีวิตนางทำแผลให้กับนาง เคยเห็นนางมาทุกสัดส่วน เชียนเยี่ยเสวี่ยจึงอยากจะรู้ว่าตี้อู่เฮ่ออีมีความคิดเห็นประการใด
ผลก็คือ เพียงแค่ได้ยินคำถามแรกของเชียนเยี่ยเสวี่ย ตี้อู่เฮ่ออีก็ตกใจจนแทบจะวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิง
ท่าทีของเขา ทำให้เชียนเยี่ยเสวี่ยคิดไปว่าเขาไม่ชอบที่หน้าอกของนางเล็กเกินไป
ดังนั้น อกสะบึ้มจึงกลายเป็นภารกิจแรกที่เชียนเยี่ยเสวี่ยต้องพิชิตให้ได้ในตอนนี้ มันจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นให้ได้!
“ครึ่งปี”
แม้จะรู้สึกว่าครึ่งปีเป็นระยะเวลาที่ออกจะยาวนานไปบ้าง แต่หากว่าหน้าอกเพิ่มขนาดเท่าที่นางต้องการได้ เชียนเยี่ยเสวี่ยก็รู้สึกพึงพอใจ