จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 127-3 สามีภรรยาพิลึกพิลั่นที่ต่อสู้ห้ำหั่นซึ่งกันและกัน
- Home
- จำนนรักชายาตัวร้าย
- ตอนที่ 127-3 สามีภรรยาพิลึกพิลั่นที่ต่อสู้ห้ำหั่นซึ่งกันและกัน
จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 127-3 สามีภรรยาพิลึกพิลั่นที่ต่อสู้ห้ำหั่นซึ่งกันและกัน
ในตอนนั้นเอง ซย่าโหวฉิงเทียนถึงได้ยอมรับในตัวเสิ่นถูเลี่ยอย่างแท้จริง
ไม่สงสัย ไม่ซักถาม เชื่อใจพวกเขาอย่างสิ้นเชิง บุคคลเช่นนี้จึงนับเป็นสหายของเขาอย่างแท้จริง!
เทียบกับเสิ่นถูเลี่ยและอวี้เฟยเยียนที่เหน็ดเหนื่อยจนหมดสภาพแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนกลับมีท่าทีสบายๆ ไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยให้เห็น ราวกับว่าเมื่อครู่เพิ่งจะจิบชาและกินของว่างพร้อมกับพักผ่อนสบายๆมาเท่านั้นเอง!
เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!
เสิ่นถูเลี่ยกำลังดื่มด่ำกับบริการนวดจากอาหูไปพลาง ปากก็กำลังบ่นว่าซย่าโหวฉิงเทียนไปด้วย
“ซย่าโหว ท่านยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
คำพูดท้าทายประโยคนี้ ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนถึงกับหยักยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แล้วพ่นอักษรออกมาไม่กี่คำความว่า ‘เสิ่นถูเลี่ย เจ้าอ่อนหัดเกินไป!’
“พรวด——”
ได้ยินเช่นนั้น ทำเอาเสิ่นถูเลี่ยแทบกระอักเลือด
เขาได้รับฉายาว่าเป็นดาวดวงใหม่แห่งตระกูลเสิ่นถู เป็นลูกหลานตระกูลทั้งแปดที่โดดเด่นมากที่สุด เรียกใครๆก็ต้องขานรับไม่มีใครกล้าปฏิเสธ อีกทั้งมักได้รับคำชื่นชมสรรเสริญมาโดยตลอด วันนี้กลับต้องมาถูกซย่าโหวฉิงเทียนสบประมาทว่า ‘อ่อน…’
ทำเอาเสิ่นถูเลี่ยเกือบจะร้องไห้ออกมาทีเดียว
แต่ทว่า เขาก็ต้องยอมรับว่าซย่าโหวฉิงเทียนแข็งแกร่งกว่าเขามากนัก
และสิ่งที่ทำให้เสิ่นถูเลี่ยยิ่งคาดไม่ถึงนั่นก็คือ ระดับขั้นของอวี้เฟยเยียนคือจอมปราชญ์อาวุโสแท้ๆแต่พลังที่นางแสดงออกมากลับเป็นถึงระดับจักรพรรดิราชาอาวุโสเชียวละ
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เสิ่นถูเลี่ยไม่เคยพบบุคคลเช่นอวี้เฟยเยียนมาก่อนเลย
แม่เจ้า!
สองคนนี้เกิดมาเพื่อโจมตีผู้คนโดยแท้!
คิดได้ดังนั้น หัวใจของเสิ่นถูเลี่ยก็เริ่มแปรเปลี่ยนจากตกตะลึงยามเมื่อค้นพบความจริงเหล่านี้ในตอนแรกกลายเป็นด้านชาขึ้นมาทันที
“พวกเจ้าจะไม่ให้คนอื่นได้ผุดได้เกิดเลยใช่ไหมเนี่ย!” เสิ่นถูเลี่ยบ่นว่าเบาๆ
ในตอนนั้นเอง ความร้อนผ่าวจากตำแหน่งที่ทายาลงไปเริ่มแผ่ซ่านไปทั่ว มันร้อนราวกับมีไฟแผดเผา และยุบยิบราวกับมีกองทัพมดกำลังกัดกินเนื้ออยู่อย่างไรอย่างนั้น
ความรู้สึกนี้ทั้งสบายและสะใจในคราวเดียวกัน ทันใดนั้นเสิ่นถูเลี่ยก็เริ่มยุกยิกไปมาไม่หยุด
คุณชายใหญ่ ท่านเป็นอะไรไปขอรับ? อาหูเห็นดังนั้นก็รีบหยุดมือทันที
“ดี…”
เสิ่นถูเลี่ยเอ่ยยังมิทันจบ ร่างของเขาก็สั่นเทิ้มราวกับกระชอนกลั่นกรองสิ่งของก็ไม่ปาน บิดไปบิดมาไม่หยุด
“คุณชายใหญ่——”
อาหูตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จึงหลงคิดไปว่าอวี้เฟยเยียนวางยาคุณชายใหญ่ของตน ดังนั้นจึงชักดาบออกมาหันไปหาอวี้เฟยเยียน แล้วให้เสิ่นถูเลี่ยไปอยู่ที่ด้านหลังของตนอย่างปกป้อง
แม้ว่าเมื่อเห็นพละกำลังของซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนแล้ว อาหูก็รู้ดีว่า ปรมาจารย์เล็กๆอย่างตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนทั้งสองเลยแม้แต่น้อย
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เขาก็จะขอปกป้องคุณชายใหญ่ด้วยชีวิต จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณชายใหญ่ของเขาได้
“เจ้าทำอะไรกับคุณชายใหญ่ของข้า?” อาหูจ้องมองอวี้เฟยเยียนด้วยสายตาระแวดระวัง ทำให้นางถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ
เป็นบ่าวที่จงรักภักดีคนหนึ่ง!
ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเห็นท่าทีของอาหู ก็ทำให้อวี้เฟยเยียนนึกถึงขันทีผู้มีอารมณ์ขันอย่างเซี่ยงจิ้นขึ้นมาในทันที
ในตอนนั้นที่จวนหลิงเจียงอ๋อง ท่าทางปกป้องนายยิ่งชีวิตของเซี่ยงจิ้นที่เกรงว่านางจะไปทำร้ายซย่าโหวฉิงเทียนเข้าเหมือนกันกับอาหูไม่มีผิดเพี้ยนเพียงแต่ต่างสถานที่กันเท่านั้น มาคราวนี้ทำให้อวี้เฟยเยียนได้พบกับบ่าวผู้จงรักภักดีเฉกเช่นเดียวกัน
น่าสนุกจริงๆเลย!
“ข้าไม่มีเจตนาร้ายกลับเขาหรอก! เจ้าวางใจได้!”
อวี้เฟยเยียนเดินไปหยุดที่เบื้องหน้าของเสิ่นถูเลี่ย ผลักอาหูให้พ้นทาง แล้วสกัดจุดเสิ่นถูเลี่ยสองสามครั้ง
ทันใดนั้น ความเย็นสบายก็แผ่ซ่านไปตามข้อต่อทั้งสี่ของร่างกายของเสิ่นถูเลี่ย ไม่นานกล้ามเนื้อทั่วร่างของเขาก็ค่อยคลายตัว มันเป็นความสบายตัวที่บอกไม่ถูก
ร่างกายที่เดิมทีปวดเมื่อเคล็ดขัดยอก กลับเบาสบายและกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง อีกทั้งเรี่ยวแรงยังเต็มเปี่ยมอีกด้วย
“นี่มันยาอะไรกัน?”
“เสี่ยวอวี้ เจ้าเป็นหมอ?” เสิ่นถูเลี่ยผุดลุกขึ้นนั่ง แล้วเอ่ยถามอวี้เฟยเยียนด้วยความอยากรู้ สาวน้อยผู้นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยปริศนา ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งทำให้คนสนใจในตัวของนางมากยิ่งขึ้น
“อื้ม” อวี้เฟยเยียนพยักหน้า
“ในเมื่อท่านไม่เป็นอะไรแล้วก็รีบลุกขึ้นเสีย พวกเรายังต้องรับเดินทางต่อนะ!”
“ได้!”
จวบจนกระทั่งซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนเดินนำหน้าไปไกล อาหูก็ยังคงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ยังเรียกวิญญาณกลับเข้าร่างไม่ได้!
“คุณชายใหญ่ แม่นางอวี้เป็นหมอ เป็นไปได้อย่างไรกัน…” อาหูกล่าวขึ้นเสียงแผ่ว เสียงของเขาเบาลงเรื่อยๆเพราะเขาขาดความมั่นใจในตัวเอง
เป็นทั้งหมอและนักรบในคนๆเดียว ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
หมอชาวเผ่าตัน ที่ว่าเก่งกาจยิ่งนักแต่วรยุทธ์ของพวกเขากลับตรงกันข้าม!
เพราะยิ่งวิชาแพทย์ของพวกเขาสูงส่งมากเพียงใด วรยุทธ์ของพวกเขาก็ยิ่งย่ำแย่มากขึ้นเท่านั้น!
คนๆหนึ่งจะมีสิ่งที่ทำได้ดีมากที่สุดเพียงสิ่งเดียว นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนทั่วไป
แต่สำหรับอวี้เฟยเยียนแล้ว เห็นทีว่าเรื่องปกติธรรมดาเช่นนี้จะใช้ไม่ได้กับนาง
เพราะนางทำได้ดีหมดทุกอย่างนะสิ!
เสิ่นถูเลี่ยมองตามแผ่นหลังที่อรชรอ้อนแอ้นของอวี้เฟยเยียนที่ไกลออกไป เขาหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด
ฉากก่อนหน้านี้ที่อวี้เฟยเยียนใช้พิษเล่นงานหลิวติงเมื่อครั้งที่อยู่ในตรอกเล็กๆนั่น สิ่นถูเลี่ยยังจดจำได้เป็นอย่างดี แม้ว่าผู้ที่ใช้พิษได้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหมอทุกคน แต่เมื่อครู่จากที่เขาเห็นอวี้เฟยเยียนลงมือด้วยตาของตัวเอง ดังนั้นนางจึงไม่ได้พูดโกหกอย่างแน่นอน
หากเขาคาดการณ์ไม่ผิดละก็ ยานั่นเป็นยาที่นางปรุงขึ้นเอง
สกุลเสิ่นถูก็มีหมอประจำตระกูลโดยเฉพาะเช่นเดียวกัน ดังนั้นเสิ่นถูเลี่ยจึงได้คลุกคลีในเรื่องเกี่ยวกับยาต่างๆมาตั้งแต่เด็ก จึงสามารถแยกแยะยาเหล่านั้นได้บ้าง
หากเขาคาดเดาไม่ผิดละก็ ตัวยาที่อวี้เฟยเยียนใช้นั้นมีความเข้มข้นสูง และยาที่อยู่ในขวดเมื่อครู่นั้นอย่างน้อยที่สุดก็จัดเป็นยาขั้นสูง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวิชาแพทย์ของนางอยู่นะดับไหนกัน
เมื่อในใจเกิดคำถามและยังไม่ได้รับคำตอบจึงก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ดังนั้นเสิ่นถูเลี่ยจึงได้วิ่งเหยาะๆตามพวกเขาไปทันที
“ท่านถามระดับความรู้แพทย์ของข้า?”
อวี้เฟยเยียนก้มหน้าน้อยๆ ราวกับสาวน้อยที่กำลังขวยเขินอย่างน่ารัก
“เมื่อปีก่อนข้าอยู่ในขั้นจักรพรรดิยา แต่สำหรับปีนี้ ยังไม่รู้——”
“หา!”
อาหูได้ยินดังนั้น ก็ถึงกับเผลอกัดลิ้นตัวเองเข้าให้ มันเจ็บปวดเสียจนเขาต้องรีบใช้มือพัดปากเพื่อบรรเทาความเจ็บ
“จักรพรรดิยา?” เสิ่นถูเลี่ยถึงกับตกตะลึง
“เสี่ยวอวี้ ข้าขอถามเจ้าสักหน่อยว่าเจ้าอายุเท่าไหร่กัน?”
“สิบหก”
คราวนี้ถึงคราวเสิ่นถูเลี่ยกัดลิ้นตัวเองบ้าง
เมื่อปีก่อนอวี้เฟยเยียนอายุเพียงสิบห้าปีก็สำเร็จถึงขั้นจักรพรรดิยา ต่อให้เป็นชาวเผ่าตันก็ยังไม่มีพรสวรรค์ถึงเพียงนี้เลย!
“เจ้า…”
ฉับพลันเสิ่นถูเลี่ยถึงกับไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายความรู้สึกของตนเองในตอนนี้ได้ สุดท้ายจึงสบถออกมาคำหนึ่งว่า ‘เจ้ามันไม่ใช่คน!’
“คุณชายกล่าวได้ถูกต้อง!” อาหูที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าสนับสนุน
สมน้ำหน้าหลิวติงสมควรตาย! นี่เขากล้าหาเรื่องจักรพรรดิยา มิเท่ากับรนหาที่ตายหรอกหรือ!
“ฮ่าๆ ขอบคุณที่ชม!” อวี้เฟยเยียนรู้สึกภาคภูมิใจยิ่งนัก
“ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนเช่นกัน ข้าเป็นเทพ!”
อารมณ์ขันของอวี้เฟยเยียนทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนพลอยยิ้มไปด้วย ว่าแล้วซย่าโหวฉิงเทียนก็วาดมืออุ้มอวี้เฟยเยียนขึ้นบนรถม้า
“เสี่ยวเลี่ย ตามมาเร็วเข้า!”