จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 221-225
บทที่ 221 : ข้ายอมตามใจเพียงนางเท่านั้น (5)
ต่อมา…
ครั้นเห็นความแข็งแกร่งของไป๋หยานนางก็ยิ่งตกใจกลัวมากขึ้น
ระดับจุนเจี่ย(ระดับจอมราชา) ! ความแข็งแกร่งระดับนั้นคืออะไร ? แม้แต่ผู้ที่ทรงอำนาจสูงที่สุดในอาณาจักรหลิวฮั่วก็อยู่เพียงระดับหวังเจี่ย (ระดับราชา) ! ทว่ายังห่างไกลจากระดับจุนเจี่ย (ระดับจอมราชา) มากนัก
หากแต่หลานสาวของนางก้าวมาถึงระดับจุนเจี่ย(ระดับจอมราชา) ภายในเวลาไม่กี่ปีกระนั้นรึ ?
จะไม่ให้นางหวาดกลัวได้อย่างไร?
ผู้ใดจะรู้ว่าในขณะที่ความกลัวครั้งนี้ยังไม่จางหาย ความน่ากลัวจากกลิ่นอายมืดมนของอ๋องคังก็ตามมาอีก
เช่นนั้นจนถึงตอนนี้หญิงชราที่กลัวแล้วกลัวเล่ากลัวซ้ำซากกระทั่งแข้งขาอ่อนแรง จึงอยากจะให้หลานสาวช่วยยกเท้าของนางพานางก้าวเดินด้วย
“ข้าจะต้องออกนอกเมืองสักสองสามวัน”ตี้คังกล่าวด้วยเสียงต่ำ ๆ เขาไม่สนใจคนตระกูลหลานที่ทยอยเดินจากไป “หากเจ้ามีเรื่องใด ก็ให้คนส่งข่าวถึงข้า”
ไป๋หยานนิ่งงันแต่แล้วนางก็เผลอเอ่ยถามออกมาโดยไม่รู้ตัว “แล้วเมื่อไรถึงจะกลับ ?”
หลังจากกล่าวออกไปแล้วนางก็นึกเสียใจ นางอยากจะกลืนถ้อยคำเหล่านั้นกลับมาเสียเหลือเกิน
นี่นางถามอะไรออกไป? ทำราวกับว่านางอยากให้เขารีบกลับมางั้นแหละ
ครั้นเห็นสีหน้าเขินอายของไป๋หยานตี้คังก็ยิ้ม เขาเอ่ยว่า “ข้าต้องไปตามหาใครบางคน หากข้าไม่พบนาง และยังปล่อยนางไว้ภายนอก เชื่อแน่ว่านางจะต้องก่อเรื่องวุ่นวายให้ผู้คนจำนวนมาก”
ไป๋หยานเม้มปากจากนั้นก็ไม่กล่าวคำใดอีก
”ไม่ถามหน่อยหรือว่าข้ากำลังตามหาผู้ใด ? เสียงของตี้คังขรึมขึ้นเล็กน้อย
ไป๋หยานเบือนหน้าหนี”มันเกี่ยวอันใดกับข้ากระนั้นรึ ?”
ดูเหมือนว่าตี้คังจะไม่ได้ยินที่นางพูดเขากล่าวต่อว่า “ข้าจะไปตามหาอาหญิงของเฉินเอ๋อ
อาหญิงของเฉินเอ๋อ
ก็คือน้องสาวของอ๋องคังใช่หรือไม่?
ไป๋หยานตกตะลึงนางหันกลับไปมองตี้คัง “ท่านต้องการให้ข้าช่วยรึไม่ ?”
”ไม่”บางทีอาจเป็นเพราะถ้อยคำนี้ของไป๋หยาน ที่ทำให้อารมณ์ของตี้คังดีขึ้นมาก ใบหน้าของเขาผ่อนคลายลง “ข้ามีวิธีตามหานาง”
ครั้นได้ยินบทสนทนาเหล่านั้นไป๋เสี่ยวเฉินก็วิ่งมายืนข้างๆ พลางกระพริบนัยน์ตากลมโตของเขา “เฉินเอ๋อมีอาหญิงด้วยเหรอ ? แล้วอาหญิงจะชอบเฉินเอ๋อมั้ย ?”
“นางจะกล้าไม่ชอบเจ้าได้ยังไง?” ตี้คังหัวเราะ “หากนางไม่ชอบเจ้า ข้าจะจับนางโยงแล้วตี !”
ณสถานที่ไม่ห่างไกลกันนัก ภายในหุบเขา เด็กสาวจามออกมาทันที นางถูจมูก นางรู้สึกว่าต้องมีใครนินทานางเป็นแน่
“เป็นเพราะราชครูนั่นแหละที่ไม่ยอมบอกว่าเสด็จพี่ของข้าอยู่ที่ใดทำให้ข้าต้องลำบากตามหา” หญิงสาวเอ่ยกล่าวพร้อมกับทำหน้ามุ่ย ๆ แลดูรันทด “ไม่รู้ว่าเสด็จพี่ของข้าจัดการพี่สะใภ้อย่างไร ?”
นางอยากเห็นหลานชายที่น่ารักของนางหากราชครูยอมบอกนางว่า หลานตัวน้อยของนางอยู่ที่ใด ตอนนี้นางอาจจะพบเขาแล้วก็เป็นได้
ยิ่งคิดนางก็ยิ่งโกรธ นางใช้ไม้ง่ามแทงปลาในน้ำ พลางจินตนาการว่าปลานั้นเป็นท่านราชครู
ณบ้านสกุลหลาน
ตี้คังโอบเอวของไป๋หยานก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของนาง หากแตกต่างจากการจูบแบบกดขี่เช่นครั้งก่อน ๆ จูบนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวล
”แล้วข้าจะรีบกลับมา”
จากนั้นตี้คังก็ปล่อยไป๋หยานออกจากอ้อมแขนของตนเขาลูบศีรษะของไป๋เสี่ยวเฉิน ก่อนจะหันหลังกลับเดินไปที่ประตูบ้านสกุลหลานอย่างช้า ๆ
”หม่ามี้หม่ามี้คิดจะพาเฉินเอ๋อหนีจริง ๆ หรือ ?” ไป๋เสี่ยวเฉินมองตามหลังบิดาของเขา
ไป๋หยานยังคงปิดปากแน่นนางถอนหายใจ “กับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เช่นนี้ อ๋องคังยังไร้เดียงสามาก เขาไม่สามารถห้ามไม่ให้สาว ๆ มาชอบเขาได้ เช่นนั้นแม่จึงไม่อาจตำหนิเขาได้เช่นกัน … ”
”แล้วเหตุใดหม่ามี้ถึงพูดเช่นนั้นล่ะ?” ไป๋เสี่ยวเฉินกัดนิ้วขณะเอ่ยถาม
”แท้จริงแม่เพียงแค่อยากเห็นท่าทีของเขา … ”
”แล้วท่าทีของป๊ะป๋าวายร้ายนั่นเป็นยังไงบ้าง?”
นัยน์ตากลมโตสว่างไสวไร้เดียงสาของไป๋เสี่ยวเฉินมองมาที่ไป๋หยานไม่กระพริบ
ไป๋หยานยิ้มพร้อมกับเชิดริมฝีปาก”ก็ไม่เลว … ”
บทที่ 222 : แล้วในวันหน้าจะชอบเขาหรือไม่ ?
ก็ไม่เลว…
ไป๋เสี่ยวเฉินเอียงศีรษะด้วยความสงสัยนัยน์ตาของเขาสดใสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรี
”หม่ามี้ยอมรับป๊ะป๋าวายร้ายแล้วเหรอ ?”
ไป๋หยานนิ่งอึ้งนางรีบส่ายหัว “เปล่า…”
”แล้วหลังจากนี้หม่ามี้จะชอบป๊ะป๋าได้เปล่า?”
”แม่… แม่ก็ไม่รู้”
ไป๋หยานเงียบไปนานที่สุดนางก็ค่อย ๆ เงยใบหน้างดงามหาใดเทียบของนาง ขึ้นจ้องมองท้องฟ้าสีครามอย่างช้า ๆ พลางยกยิ้ม “ใครเล่าจะสามารถทำนายอนาคตได้ เฉินเอ๋อ เรากลับบ้านกันเถอะ”
”อืม”
ไป๋เสี่ยวเฉินเดินไปยืนข้างไป๋หยานพร้อมกับยื่นมือออกมา
ทั้งคู่เดินออกจากบ้านสกุลหลานมาได้ไม่ไกลไป๋เสี่ยวเฉินก็นึกขึ้นมาได้ว่า เขามาที่นี่เพื่อพาน้าสาวไปเลือกจิ้งจอก หากแต่เขากลับลืมเสียสนิท
ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินยุ่งเหยิงหน้าเล็ก ๆ น่าเอ็นดูของเด็กน้อยยู่ยี่ “หม่ามี้ ข้าอยากกลับไปที่บ้านสกุลหลานอีกครั้ง”
จากนั้นไป๋เสี่ยวเฉินก็ปล่อยมือไป๋หยาน เขาหันหลังกลับไปที่บ้านสกุลหลาน
ไป๋หยานไม่ได้ห้ามบุตรชายทว่าภายหลังที่ไป๋เสี่ยวเฉินแยกจากไป นางก็หันหลังเดินกลับไปที่บ้านสกุลหลานด้วย
หุบเขาเพลงพิณเคยมีชื่อเสียงเทียบเท่าหอบุปผา หรือบางทีอาจจะมีชื่อเสียงมากกว่าหอบุปผาด้วยซ้ำ
หากแต่เพียงชั่วข้ามคืนข่าวการล่มสลายของหุบเขาเพลงพิณก็แพร่กระจายราวกับพายุฝน ทำเอาไป๋รั่วที่กำลังรอข่าวดีลมแทบจับ
”เกิดขึ้นได้อย่างไร?” นางผลุนผลันลุกขึ้นจากเตียง ทำให้บาดแผลบริเวณหลังของนางฉีกขาดอีกครั้ง นางถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บ “หลิวเยว่ ข่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่ ?”
นางกำนัลหลิวเยว่เอ่ยตอบอย่างนอบน้อมว่า “พระชายาเรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่วอาณาจักรหลิวฮั่วแล้ว แม้แต่เจ้าหุบเขาเพลงพิณก็ยังถูกส่งตัวไปขายที่หอบุปผา ตอนนี้บรรดาผู้ชายต่างก็เร่งรีบไปที่หอบุปผา เพื่อพบเจ้าหุบเขาเพลงพิณ”
ใบหน้าของไป๋รั่วซีดขาวนางกำมือแน่น พร้อมกับปิดตาลง หลังจากนั้นไม่นานนางก็ลืมตาขึ้น “ข้าเข้าใจแล้ว หลิวเยว่ เจ้าออกไปก่อน”
”เพคะพระชายา”
หลิวเยว่ย่อกายลง
ภายหลังหลิวเยว่จากไปไป๋รั่วผู้ซึ่งอยู่เพียงลำพังคนเดียวในห้อง ก็ตกอยู่ในอาการงงงวย บางทีอาจเป็นเพราะข่าวที่น่าตกใจนั่น มันน่าตกใจมาก มากเสียกระทั่งนางไม่อยากจะเชื่อเลย
เหตุใดไป๋หยานถึงกล้าทำเช่นนั้น? นางไม่กลัวอ๋องคังจะตำหนิเลยกระนั้นหรือ ? หรือนางคิดว่าการที่อ๋องคังหลงใหลนาง จะทำให้นางสามารถทำทุกอย่างได้ตามแต่ใจต้องการ ?
ไป๋รั่ววนเวียนคิดเรื่องนี้อยู่เป็นเวลานานจากนั้นนางก็ยันร่างลุกขึ้น ใบหน้าอ่อนโยนของนางระบายด้วยรอยยิ้ม
”พวกเจ้าเตรียมเกี้ยวให้ข้า ข้าจะออกจากวังหลวง !”
นางอยากออกไปตรวจสอบข่าวนี้ด้วยตนเอง!
ไป๋รั่วเป็นพระชายาตำแหน่งของนางสูงศักดิ์เช่นนั้นเมื่อผู้คนบนท้องถนนเห็นเกี้ยวนางกำลังมา พวกเขาต่างก็หลบหลีกเปิดทางให้ทั้งสองข้างถนน
เพียงครู่เกี้ยวของไป๋รั่วก็มาหยุดอยู่ด้านหน้าหอบุปผา
ไป๋รั่วลงจากเกี้ยวด้วยความช่วยเหลือของนางกำนัลก่อนจะก้าวหนัก ๆ เข้าไปในหอบุปผา
ยามนี้แขกเหรื่อของหอบุปผารวมตัวกันอยู่นับไม่ถ้วนใบหน้าของชายเหล่านั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น บางคนก็ส่งเสียงโห่ร้องอย่างคึกคะนอง
ครั้นมองตามสายตาของคนเหล่านั้นไป๋รั่วก็เห็นหญิงสาวแสนสวยถูกมัดติดกับเสาได้อย่างรวดเร็ว
สตรีผู้นี้ไม่เหลือความภาคภูมิใจดังเทพธิดาเช่นในคราแรกนัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความเสียใจ และเจ็บปวดล้ำลึก เรือนร่างที่บอบบางของนางสั่นสะท้าน
เพียงเห็นเช่นนั้นไป๋รั่วก็แทบทรุด
”พระชายา”
ครั้นเห็นร่างที่สั่นเทาของไป๋รั่วนางกำนัลก็รีบเข้ามาประคองนาง
”ไป๋หยานช่างกล้านัก! ทว่าเรื่องราวอื้อฉาวถึงเพียงนี้ เหตุใดอ๋องคังถึงยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีก ?”
บทที่ 223 : ความริษยาของไป๋รั่ว
มือของไป๋รั่วที่วางบนข้อมือของนางกำนัลสั่นนอกจากนี้เสียงของนางก็ยังสั่นด้วย
และแล้วเสียงของแขกผู้ชายที่กำลังสนทนากันก็แก้ข้อสงสัยของนางได้
”เจ้าหุบเขาเพลงพิณแลดูสูงส่งมากจู่ ๆ ก็กลายเป็นนางคณิกาได้ แต่เพื่อความงามของนางแล้ว ข้ายอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเปิดบริสุทธิ์นาง”
”โอ้? ว่าแต่เหตุใดนางถึงต้องมาเป็นเช่นนี้ล่ะ ?”
”เจ้าไม่รู้หรอกหรือมู่ชิงเกอหลงใหลใฝ่ฝันในตัวอ๋องคัง ทว่าหัวใจของอ๋องคังมีเจ้าของแล้ว เขาย่อมไม่สามารถรักนางได้ เช่นนั้นนางจึงไปสร้างปัญหาให้กับไป๋หยานถึงบ้านสกุลหลาน ! และนั่นทำให้อ๋องคังหงุดหงิด เขาเป็นคนสั่งให้โยนมู่ชิงเกอมาที่หอบุปผาด้วยตนเองเลย”
ชายผู้นั้นหยุดพูดครู่หนึ่งเขายิ้ม “บังเอิญวันนั้น ข้าเองก็อยู่ในที่นั้นด้วย ข้าเห็นองครักษ์ของอ๋องคังพามู่ชิงเกอมาที่นี่ แม้แต่เรื่องการทำลายหุบเขาเพลงพิณ อ๋องคังก็เป็นผู้สั่ง”
”ดูเหมือนว่าอ๋องคังจะรักมั่นในตัวไป๋หยานมากแม้แต่เจ้าหุบเขาเพลงพิณก็ยังถูกปฏิเสธ”
”เชอะ! ข้าว่าไม่หรอกนะ แม้ว่าเจ้าหุบเขาเพลงพิณจะสวยเพียงใด แต่หากเทียบกับไป๋หยานแล้วก็ยังเรียกได้ว่าห่างกันไกล หากข้าเป็นอ๋องคัง ข้าก็เลือกไป๋หยาน แต่คงจะดีกว่าหากได้เจ้าหุบเขาเป็นพระสนม … ”
ร่างของไป๋รั่วแทบทรุดอีกครั้งโชคดีที่นางกำนัลด้านหลังช่วยพยุงนางไว้อย่างมั่นคง
”พระชายา…” เสียงของนางกำนัลฟังดูเป็นกังวล
”ข้าไม่เป็นไรกลับตำหนักกันเถอะ”
ไป๋รั่วหลับตาลงเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ นางยกมือขึ้นผลักมือของนางกำนัลออก จากนั้นก็เดินออกไปนอกหอบุปผาช้า ๆ
อย่างไรก็ตามยามนี้แข้งขาของนางสั่นเทา ใบหน้าของนางซีดขาวไร้สีเลือด แลดูโปร่งใสราวกระดาษ
ขนาดองค์รัชทายาทผู้ซึ่งรักนางมากก็ยังมีพระสนม
ยิ่งไปกว่านั้นชายทุกคนมักจะหลงใหลชื่นชมสาวงาม
ทว่าเหตุใดอ๋องคังจึงปฏิเสธสิ่งล่อตาล่อใจเพื่อไป๋หยาน?
เหตุใดชายผู้นี้ถึงเลือกไป๋หยาน ?
หัวใจของไป๋รั่วสั่นระรัวไม่หยุดนางหายใจแรง พยายามระงับความเจ็บปวด รวมถึงความริษยาในหัวใจลง
ขณะเดินทางกลับวังนางพยายามผ่อนคลายอารมณ์ให้สงบ เช่นนั้นแทนที่จะนั่งเกี้ยว นางก็ใช้วิธีเดินเล่นไปตามท้องถนน
ครั้นนางเดินใจลอยนางก็ไม่ทันมองคนที่อยู่ข้างหน้า นางถูกเด็กสาวผู้หนึ่งที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเดินมาชน
”โครม!”
ทว่าเด็กสาวผู้นั้นมีพลังแข็งแกร่งมาก การปะทะในครั้งนี้ จึงทำให้ไป๋รั่วเซถอยหลังสองสามก้าว ก่อนจะล้มลงกับพื้น
บาดแผลบนแผ่นหลังฉีกขาดและปริออกทันที เลือดไหลซึมออกมาเป็นจำนวนมาก ความเจ็บปวดนั่นทำให้ไป๋รั่วถึงกับขมวดคิ้ว
”พระชายา!”
นางกำนัลตกใจรีบวิ่งมาข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงพระชายาของตน
องค์รักษ์หลายคนในที่นั้นต่างก็พุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็วพวกเขาตีวงโอบล้อมหญิงสาวที่เดินอย่างไม่รู้จักระมัดระวังคนนั้นทันที
”เจ้ากล้าดียังไงวิ่งมาชนพระชายา ! เจ้าอยากตายหรือไร !”
ครั้นตี้เสี่ยวอวิ๋นเห็นว่าตนเองบังเอิญวิ่งชนคน นางเองก็ต้องการจะเอ่ยปากขอโทษ หากแต่เมื่อถูกบรรดาองค์รักษ์ตวาดใส่ นางก็อารมณ์ขึ้นด้วยเช่นกัน นางเชิดคางของนางขึ้นอย่างทระนงพร้อมกับพึมพำว่า
”จะโทษข้าได้อย่างไรในเมื่อนางเองก็เดินไม่ดูทางเหมือนกัน ?”
”โอหัง!”
ใบหน้าขององครักษ์เคร่งเครียดในขณะที่เขากำลังจะพูดต่อนั้น เสียงของไป๋รั่วก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
”รอประเดี๋ยว”ไป๋รั่วลุกขึ้นจากพื้นช้า ๆ นัยน์ตาที่สวยงามของนางจ้องป้ายที่ผูกติดเอวของหญิงสาว พลันนัยน์ตาของนางก็เปล่งประกาย “ป้ายนี้สวยมาก ขอข้าดูหน่อยจะได้หรือไม่ ?”
“จะดูด้วยเหตุใด?” ตี้เสี่ยวอวิ๋นปกป้องป้ายทันที นางแสดงท่าทีไม่ต่างกับแม่ไก่ที่ปกป้องลูก
บทที่ 224 : พี่ชายของข้าอยู่ที่ใด ?
ไป๋รั่วยกยิ้ม”ข้าเคยเห็นป้ายแบบเดียวกันนี้มาก่อน แม่นางอย่าได้คิดมากเลย”
นางเคยเห็นป้ายแบบนี้มาก่อน
แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่ผู้หญิงจะไม่หลงเสน่ห์บุรุษที่หล่อเหลาที่สุดในโลกเช่นอ๋องคังถึงแม้ว่าหญิงผู้นั้นจะแต่งงานแล้วก็ตาม
เช่นนั้นในช่วงสองสามปีแรกที่อ๋องคังมาถึงอาณาจักรหลิวฮั่วไป๋รั่วจึงมักพยายามออกไปปรากฏกายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อ๋องคังผ่าน ด้วยเหตุนี้นางจึงเคยเห็นเขาหยิบป้ายที่มีอักษรแกะสลักเฉกเดียวกันนี้มอบให้กับสัตว์อสูร
ไม่คาดคิดเลยว่าป้ายลักษณะเดียวกันนี้จะตกอยู่ในมือของหญิงสาวผู้นี้ และนี่จึงทำให้นางจำป้ายนี้ได้ในทันทีที่เห็น
หญิงผู้นั้นทั้งตกใจทั้งตื่นเต้น”เจ้าเคยเห็นป้ายลักษณะเดียวกันนี้มาก่อนกระนั้นหรือ ? เช่นนั้นเจ้าของป้ายนั่นอยู่ที่ใด ? เขาอยู่ที่ใด ?”
ไป๋รั่วยิ้มพลางเอ่ยว่า”เขากับข้าต่างก็เป็นสหาย แม่นางเล่ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับเขากระนั้นหรือ ?”
”สหายเหรอ? ไม่มีทาง พี่ชายของข้าเกลียดสตรีเป็นที่สุด”
แน่นอนว่าต้องยกเว้นพี่สะใภ้ของนาง
แต่ครั้นนึกได้ว่าหากพบพี่ชาย ก็จะพบพี่สะใภ้ และหลานชายของนางด้วย หัวใจของตี้เสี่ยวอวิ๋นก็มีความสุขมาก นัยน์ตาของนางทอประกาย
ไป๋รั่วมองใบหน้าเล็กๆ ที่สวยงามของตี้เสี่ยวอวิ๋น พร้อมกับเชิดริมฝีปากสูงขึ้น “ถึงจะมีบุรุษที่เกลียดอิสตรีก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อยกเว้นเลยนี่ใช่หรือไม่ ?”
ตี้เสี่ยวอวิ๋นมองไป๋รั่วพร้อมกับส่ายศีรษะ”ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ มีสตรีหลายคนต้องการที่จะเป็นพี่สะใภ้ของข้า หากแต่เมื่อพวกนางเข้าใกล้พี่ชาย พี่ชายของข้าก็มักจะโกรธมาก อย่าว่าแต่เป็นสหายเลย”
ระดับความรักสะอาดของพี่ชายนางมากมายเพียงใด?
เขาไม่อนุญาตให้ผู้ใดยืนใกล้ในระยะ100 ก้าว เขาบอกว่ากลิ่นอายของสัตว์อสูรน่ารังเกียจมาก หากผู้ใดไม่เชื่อฟังเขา เขาจะฉุนเฉียวอย่างไม่อาจควบคุม
นับแต่นั้นมาก็ไม่มีสตรีใดในโลกปีศาจหาญกล้าปรากฏตัวใกล้เขาในระยะ 100 ก้าว
”สิ่งที่ข้าพูดมาเป็นเรื่องจริง”ใบหน้าของไป๋รั่วขรึมลงชั่วครู่หนึ่ง นางสงบอารมณ์ เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลต่อไป “นอกจากนี้ข้ายังสามารถพาเจ้าไปพบเขาได้ด้วยนะ … ”
ตี้เสี่ยวอวิ๋นกัดนิ้ว”ทว่าตอนที่ข้าออกมาจากบ้าน ท่านราชครูบอกข้าอย่าได้ไว้ใจผู้ใด หรือไปกับใคร เช่นนั้นอย่างนี้แล้วกันข้าจะให้ที่อยู่เจ้าไว้ จากนั้นเจ้าก็ค่อยบอกพี่ชายให้มาหาข้า”
หากนางไปกับหญิงผู้นี้ท่านราชครูจะต้องโกรธนางเป็นแน่
ครั้นเห็นเด็กสาวไม่ยอมทำตามข้อเสนอของนางใบหน้าไป๋รั่วก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด หากมิใช่เพราะเห็นว่าเด็กนี่เป็นน้องสาวของอ๋องคังแล้วล่ะก็ นางก็คงตบเด็กสาวไปแล้ว
ทันใดนั้นเองนัยน์ตาของไป๋รั่วก็สว่างไสว นางมองไปยังเงาร่างที่คุ้นเคย ก่อนจะรีบตะโกนขึ้นว่า “ไป๋จื่อ”
หญิงสาวผู้นั้นอยู่ไม่ไกลกันนักครั้นได้ยินเสียงเรียกก็สะดุ้ง และเมื่อหันไปตามเสียง นางก็เห็นไป๋รั่วอยู่ข้างหน้านาง
เพียงครู่น้ำตาของไป๋จื่อก็ร่วงพรู”พี่ไป๋รั่ว !”
ไป๋รั่วไม่ได้พบไป๋จื่อนานมากแล้ว นับแต่นางถูกเฆี่ยน เช่นนั้นเมื่อเห็นไป๋จื่ออีกครั้ง นางก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ จึงถลาเข้าสวมกอดกัน
”พี่ไป๋รั่วไป๋หยานน่ารังเกียจมาก นางทำลายวรยุทธท่านพ่อกระทั่งกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังวางแผนกลั่นแกล้งท่านแม่ เพื่อหลอกลวงผู้คน และยามนี้ท่านพ่อเองก็ดูเหมือนจะเชื่อถ้อยคำของนาง ท่านพ่อทุบตีท่านแม่บ่อย ๆ จนข้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว ?”
ยิ่งไปกว่านั้นไม่รู้ว่าไป๋หยานเอายาเสน่ห์อะไรให้อ๋องคังกิน อ๋องคังถึงได้ปกป้องนางมากมายถึงเพียงนี้ !
”กระไรนะ?” สีหน้าของไป๋รั่วเปลี่ยนไป “ท่านพ่อทุบตีท่านแม่ได้อย่างไร ? จากนี้อีกสองวัน ข้าจะกลับบ้านพร้อมองค์รัชทายาท”
ไป๋จื่อเช็ดน้ำตาพลางมองเด็กสาวน่ารักที่ยืนอยู่ข้างหลัง
”พี่ไป๋รั่วหญิงผู้นี้คือใคร ?”
สีหน้าของไป๋รั่วดูดีขึ้น”นางเป็นน้องสาวของอ๋องคัง ข้าให้สัญญาว่าจะพานางไปหาพี่ชาย แต่พอดีตอนนี้ข้ามีเรื่องต้องสะสาง ข้าขอมอบนางให้เจ้าดูแลก็แล้วกัน”
บทที่ 225 : มีคนอ่อยพี่ชายของข้างั้นหรือ ?
เด็กสาวคนนี้ดูจะรับมือยากนางไม่อยากข้องเกี่ยวกับเด็กนี่อีก
ยิ่งไปกว่านั้นจื่อเอ๋อก็ชอบอ๋องคังมากบางทีนี่อาจเป็นโอกาสของนาง
หากนางได้ดูแลน้องสาวของเขาอ๋องคังยังคิดจะปฏิเสธนางอีกกระนั้นหรือ ?
”น้องสาวของอ๋องคังงั้นรึ?” ไป๋จื่อยืนอึ้ง พลันนัยน์ตาของนางก็เปล่งประกาย “พี่ไป๋รั่ว พี่แน่ใจนะ ?”
”แน่ใจ”
สองคำนี้ทำให้หัวใจที่เงียบเหงามานานของไป๋จื่อถูกกระตุ้นให้มีพลังขึ้นอีกครั้งนางยิ้ม และกล่าวอย่างเป็นมิตรว่า
”แม่นางตี้เจ้าเพิ่งมาถึงที่นี่ บางทีเจ้าอาจยังไม่คุ้นเคยกับอาณาจักรนี้นัก ให้ข้าเป็นเจ้าบ้าน พาเจ้าเที่ยวดีหรือไม่ ?”
“ข้าต้องการพบพี่ชายของข้า”ตี้เสี่ยวอวิ๋นกล่าว
ใบหน้าของไป๋จื่อระบายด้วยรอยยิ้มสดใส”เมื่อไม่นานมานี้ พี่ชายของเจ้าเพิ่งออกจากเมืองหลวง หากเขากลับมา ข้าจะแจ้งให้เขาทราบว่าข้าพบเจ้า”
”เอาล่ะข้าหวังว่าเจ้าจะไม่โกหกข้า !” ตี้เสี่ยวอวิ๋นเชิดคางขึ้น “เพราะหากข้ารู้ว่าเจ้ากล้าหลอกข้า ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจไปตลอดชีวิต”
ไป๋รั่วส่งสายตาให้ไป๋จื่อ”ข้ามีบางอย่างที่ต้องกลับไปทำที่วัง ส่วนหญิงสาวผู้นี้ก็ขอมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้า”
กล่าวจบนางก็รีบรุดจากไปโดยไม่คำนึงถึงบาดแผลบนหลังของนางเลย
ตี้เสี่ยวอวิ๋นเองก็ไม่ได้มองตามไป๋รั่วนางหันกลับมาทางไป๋จื่อ “ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับพี่ชายของข้าเป็นเช่นไร ?”
เห็นได้ชัดว่าหญิงคนก่อนนี้มีสามีแล้ว เช่นนั้นนางจึงไม่ถามอะไรมาก หากแต่กับหญิงผู้นี้นางจำเป็นต้องถาม
ไป๋จื่อก้มศีรษะลงเล็กน้อยด้วยท่าทีเอียงอายนางใช้นิ้วบิดเสื้อผ้า “ข้า ข้ากับเขา เอ่อ จะพูดอย่างไรดี ?”
ไป๋จื่อยังไม่ทันกล่าวจบตี้เสี่ยวอวิ๋น ก็เดินเข้ามาหยุดด้านหน้าใกล้ตัวนาง จากนั้นก็ทำจมูกฟุดฟิด
ตี้เสี่ยวอวิ๋นเงยหน้าขึ้นพลางแตะจมูก”ข้าได้กลิ่นติดสัดจากตัวเจ้า”
ใบหน้าของไป๋จื่อประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวซีดสลับกัน
ผู้หญิงบ้าคนนี้กล้าเปรียบนางกับสัตว์? หาว่านางอยากผสมพันธุ์ได้อย่างไร ?
หากมิใช่น้องสาวของอ๋องคังนางคงจะฆ่าหญิงผู้นี้ตายเพราะประโยคนี้แล้ว !
”แม่นางตี้เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องใด ? ข้าจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ?” นางยิ้มอย่างอึดอัดขณะอธิบาย
ตี้เสี่ยวอวิ๋นเท้าสะเอวพลางเชิดหน้า “เช่นนั้นบอกข้าทีสิว่า ที่นี่มีผู้หญิงที่คิดจะอ่อยพี่ชายของข้าอยู่ใช่หรือไม่ ?”
เดิมทีไป๋จื่อไม่อยากจะตอบคำถามนี้หากแต่ทันใดนั้นเองใบหน้าหนึ่งก็แวบเข้ามาในใจนาง
”แน่นอน! ก็พี่สาวของข้าไป๋หยานไง นางไม่เพียงแต่ล่อลวงอ๋องคัง ทว่ายังแอบอ้างลูกของคนอื่นให้อ๋องคังเข้าใจผิดคิดว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา ! เพื่อให้อ๋องคังรับผิดชอบเด็กคนนั้น แล้วอ๋องคังก็ยอมรับหญิงสารเลวคนนั้นด้วย”
รอยยิ้มภูมิใจปรากฏที่มุมปากของไป๋จื่อนางใส่ไฟให้กับน้องสาวของอ๋องคังเรียบร้อยแล้ว ครานี้ดูสิว่าไป๋หยานจะแต่งงานกับเขาได้อย่างไร ?
หากแต่รออยู่เป็นเวลานานตี้เสี่ยวอวิ๋นก็ยังคงไร้การตอบสนอง นางจึงเงยหน้าขึ้นมอง นางเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
นัยน์ตาของตี้เสี่ยวอวิ๋นกำลังตกตะลึง”เจ้าบอกว่า พี่ชายของข้าถูกหลอกให้รับเด็กเป็นลูกเหรอ ?”
เรื่องนี้… ไม่มีทางอย่างแน่นอน
พวกเขาแยกแยะกลิ่นกายของคนอื่นๆ ได้ ด้วยสัมผัสรับกลิ่นที่ดีเช่นนี้ พี่ชายนางจะไม่รู้จักลูกของตนได้อย่างไร ?
ไป๋จื่อยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นนั้นนางจึงพยักหน้า “ไป๋หยาน เป็นคนวางแผนเก่งอย่างมาก หาไม่แล้ว อ๋องคังคงจะไม่ผิดพลาดกับเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ เขาคงไม่ยอมรับว่าเด็กไม่มีพ่อนั่นเป็นลูกของเขาหรอก … ”
หลังจากกล่าวจบนางก็เห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่เบื้องหน้านาง
เป็นธรรมดาที่ร่างเล็ก ๆ ย่อมไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่ายท่ามกลางฝูงชน หากแต่ใบหน้าที่น่าเอ็นดู และรูปลักษณ์ที่น่ากอดทำให้ง่ายต่อการดึงดูดความสนใจของผู้อื่น