จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 541-545
บทที่ 541 : งานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (6)
นับตั้งแต่วันที่ไป๋หยานได้พบกับญาติที่แท้จริงของนางผู้ที่พอใจที่สุดเห็นจะเป็นบรรดาผู้อาวุโส ผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่ได้กระทำการใด นอกจากวัน ๆ เอาแต่ห้อมล้อมไป๋หยาน และไถ่ถามนางเกี่ยวกับทักษะการปรุงยา
วันแรกวันที่สอง ต่อมาก็กลายเป็นหลายวัน แม้ไป๋หยานจะไม่กล่าวคำใด หากแต่ไป๋ฉางเฟิ่งโกรธกระทั่งแทบจะกระโดด จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้มารบกวนไป๋หยานอีก
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเขาไม่ได้อยู่กับหลานสาวของเขาเลย หลายวันที่ผ่านมานี้ ผู้คนเหล่านั้นเอาแต่วุ่นวายกับหลานของเขา ทั้งที่เขาอยากจะใช้เวลาทั้งหมดของเขา เพื่อสนทนากับหลานของเขาเท่านั้น
ทว่าสำหรับไป๋หยานแล้วหลายวันที่ผ่านมานี้นางได้ยินแต่เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมของท่านแม่ของนาง …
ผู้คนเหล่านี้เอาแต่พูดว่ามารดาของนางเป็นสตรีที่งดงาม และมากความสามารถ ทว่าโชคร้ายที่หายตัวไปนานกว่า 20 ปี และไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย หากไป๋ฉางเฟิ่ง และบุตรชายของเขาไม่ยืนกรานหนักแน่นว่าไป๋หนิงยังคงมีชีวิตอยู่ บางทีคราครั้งนั้นสำนักเวชโอสถอาจตั้งหลุมศพให้นางแล้วก็เป็นได้ …
ในเวลานี้มีร่างๆ หนึ่งยืนลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่นอกลานบ้าน ร่างนั้นเลียบมองเข้ามาข้างในหลายต่อหลายครั้ง
หลายครั้งที่เขาต้องการเรียกความกล้าหาญเพื่อจะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์นั่น ทว่าที่สุดแล้วเขาก็ไม่กล้าสักที
”ซูฮงเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?”
ทันทีที่อาวุโสหวงโผว่เข้ามาถึงลานบ้านเขาก็เห็นชายชรายืนอย่างเขินอายอยู่ด้านนอก หลังจากเห็นท่าทีชายผู้นั้น เขาก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
”ข้า… ” ใบหน้าของซูฮงแดงก่ำ เขาลูบกำปั้นอย่างไม่หยุดหย่อน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
”เจ้ามาที่นี่เพื่อพบคุณหนูใหญ่งั้นรึ?” คิ้วของเทียนซวนขมวดแน่นขึ้น “เจ้าสำนักกำชับไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดรบกวนนาง”
ไป๋หนิงไม่ได้อยู่ในสำนักเวชโอสถแล้วบัดนี้คุณหนูใหญ่ที่ชายชราเอ่ยถึงย่อมต้องเป็น ‘ไป๋หยาน’
”ข้าไม่ได้ต้องการรบกวนนางข้าเพียงอยากพบนาง อยากขออภัยในความผิดพลาดที่ข้าได้กระทำไว้ก่อนหน้านี้” ซูฮงกล่าว
”เหอๆ” เทียนซวนหัวเราะเยาะ “เจ้ามันสุนัขรับใช้ของเย่หยิง เจ้าวางแผนให้ร้ายคุณหนูใหญ่ เจ้ายังคิดว่าคุณหนูใหญ่จะยกโทษให้เจ้างั้นรึ?”
ครั้นได้ยินประโยคดังกล่าวซูฮงก็ตัวแข็งทื่อความอับอายขายหน้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชรา เขาก้มศีรษะลง อยากจะมุดหัวลงดิน
”เมื่อเจ้ารู้ก็ดีแล้วเช่นนั้นก็ควรไปซะ” เทียนซวนถอนหายใจเบา ๆ “เจ้าควรรีบไปเสียจากที่นี่ เพราะหากท่านเจ้าสำนักรู้เรื่องนี้ ข้าเกรงว่าแม้แต่ชีวิตเจ้าก็จะมิอาจรักษาไว้ได้”
หลังจากส่ายศีรษะและถอนหายใจออกมาแล้ว เทียนซวนก็กำลังจะเดินจากไป ทว่าทันใดนั้นเอง จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเอ่ยต่อว่า “นอกจากนี้ บทลงโทษสำหรับเรื่องที่เจ้ากระทำในงานชุมนุมหมอปรุงยานั้นใกล้จะถูกตัดสินแล้ว ห้องลงทัณฑ์จะเป็นผู้สะสางเรื่องนี้ ช่วงนี้เจ้าก็อย่าได้ก่อเรื่องเพิ่มอีกจะดีกว่า หาไม่แล้วคงเป็นการยากที่เจ้าจะสามารถรักษาชีวิตน้อย ๆ ของเจ้าไว้ได้”
ครั้นกล่าวจบเทียนซวนก็จากไป
ส่วนหวงโผว่ก็เหาะหายไปท่ามกลางสายตาของซูฮง
ชั่วขณะนี้ถ้อยคำของเทียนซวนทำให้หัวใจของซูฮงพลันเคร่งเครียดขึ้น เขายกมือขึ้นเกาะกุมหน้าอกแน่น ยามนี้เขาเต็มไปด้วยความสำนึกผิด
เสียใจ…
เขารู้สึกเสียใจจริงๆ !
หากรู้ว่าไป๋หยานเป็นบุตรสาวของไป๋หนิงเขาจะไม่ยอมติดตามเย่หยิงเป็นเด็ดขาด
ความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้วเสียใจไปก็ไร้ประโยชน์ ท่านเจ้าสำนักคงไม่มีวันอภัยให้เขา …
ในที่สุดซูฮงก็มองลานอันเงียบสงบ ก่อนจะตัดใจหันหลังเดินกลับไปตามทางที่เขามา
เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้นซูฮงก็ดูราวกับแก่ลงไปอีกหลายสิบปี เขาแลดูไม่เหลือความกระชุ่มกระชวยเช่นในอดีตอีกต่อไป …
*****
ภายในศาลา
ใบไม้กำลังร่วงหล่น
ไป๋หยานพิงกายกับเสาของศาลามือของนางวางไว้หลังศีรษะ อาภรณ์สีแดงที่นางสวมใส่สดใสยิ่งกว่าเปลวเพลิง และร้อนแรงยิ่งกว่าแสงตะวันที่ฉาดฉายปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า
***จบบทงานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (6)***
บทที่ 542 งานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (7)
ทันใดนั้นไป๋หยานก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันคุ้นเคยบนริมฝีปากของนาง จากบนลงล่าง ราวกับว่าเขาอยากจะจูบทุก ๆ ตารางนิ้วของผิวเนื้อนาง
ไป๋หยานลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ คิ้วของนางขมวด นางกำลังจะโกรธ ทว่ายามนี้ลมหายใจของนางกลับควบแน่น หัวใจของนางกลับเต้นตึ้กตั้ก
แสงอุษายามเย็นส่องสะท้อนให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของชายผู้นั้นที่ต่อให้รวมความงดงามของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ยังยากที่จะบรรยายความหล่อเหลาของเขาในยามนี้
ทันทีที่เรือนผมสีเงินยวงที่ทรงเสน่ห์ถูกสายลมพัดพลิ้วหัวใจของไป๋หยานพลันรู้สึกสงบนิ่งไม่ต่างกับสายน้ำ
ราวกับเพิ่งเคยเห็นเช่นนี้เป็นครั้งแรกช่างงดงามน่าอัศจรรย์ใจ
นัยน์ตาของไป๋หยานหรี่ลงเล็กน้อยความรู้สึกเช่นนี้อันตรายเกินไป หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่านางอาจจะควบคุมไม่ได้
”เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” เสียงของชายหนุ่มทุ่มต่ำเปี่ยมเสน่ห์ เขายื่นมือออกมารั้งหญิงสาวที่เอนกายพิงเสาให้เข้าสู่อ้อมแขนของตน
นิ้วเรียวยาวของเขาแตะเรือนผมเรียบลื่นราวกับเส้นไหมของนางเบาๆ มุมปากของเขาโค้งขึ้นอย่างมีเสน่ห์
”ข้ากำลังคิด… ” ไป๋หยานหยุดยิ้ม “ในแดนอสูรของท่านจะมีอสูรสาวสักกี่นางกันนะที่พร้อมจะกระโดดขึ้นของเตียงท่านทันทีที่ท่านกระดิกนิ้วเรียก ?”
กระโดดขึ้นเตียงคำนี้ทำให้ตี้คังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย คิ้วของเขาขมวด “ข้าต้องการเพียงเจ้า ส่วนอสูรสาวเหล่านั้นข้ามิได้ต้องการ พวกนางมิอาจเทียบแม้ผมสักเส้นของเจ้าได้เลย”
ไป๋หยานหัวเราะคิกนิ้วมือของนางยกขึ้นเชยคางของตี้คัง นางหรี่ตาลงเล็กน้อย “สุดหล่อ ข้าต้องการครองคู่แบบผัวเดียวเมียเดียว หากท่านมีหญิงอื่น ต่อให้ท่านเป็นบิดาของเฉินเอ๋อ ท่านก็ไม่ต้องมาปรากฏกายให้ข้าเห็นอีก”
ตี้คังจับมือของไป๋หยาน”เจ้าเป็นคนแรก และครั้งแรกของข้า เจ้าไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ได้ ชั่วชีวิตนี้ ข้าไม่มีวันให้โอกาสเจ้าหนีไปจากข้าเป็นแน่”
ตลอดเวลาที่ผ่านมาสายตาของเขามีเพียงแต่นางเท่านั้นนัยน์ตาเรียวคมคู่นี้ที่เคยกดขี่จิตวิญญาณของทุกผู้คน กลับทำให้ไป๋หยานรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
นางบีบฝ่ามือของตนอย่างแรงเพื่อเรียกสติ
บุรุษผู้นี้สมกับเป็นอสูรจริงๆ ! ทุกครั้งที่นางอยู่ใกล้เขา นางลืมตัวทุกที !
ความรู้สึกเช่นนี้อึดอัดเกินไป
”อย่ากลัวไปเลย”
ในขณะที่ไป๋หยานกำลังคิดถึงตี้คังอยู่นั้นน้ำเสียงของชายหนุ่มพลันดังขึ้นในหูของนางอีกครั้ง
นางเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจพร้อมกับเอ่ยถามว่า “ข้าต้องกลัวอะไร ?”
”รอไว้กลับไปยังแดนอสูรก่อนเถิดเจ้าจะเป็นนายหญิงแห่งแดนอสูร ผู้ใดก็ตามที่กล้าข่มขู่คุกคามเจ้า เจ้าก็สามารถสังหารได้ทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยถามข้า” ตี้คังขมวดคิ้ว “หรือเจ้าจะจับมันมาเป็นทาสของเจ้าก็ย่อมได้ เจ้าสามารถเล่นสนุกกับพวกมันได้ตราบเท่าที่เจ้าต้องการ และหากมีเรื่องใดเกิดขึ้น ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่างแทนเจ้าเอง”
หัวใจของไป๋หยานสั่นไหวนับเป็นครั้งแรกที่ชายผู้นี้ … เอ่ยกล่าวว่าจะคอยให้การสนับสนุนนาง
“พรุ่งนี้จะเป็นวันคล้ายวันเกิดท่านตาของข้าเมื่อถึงเวลานั้นตระกูลหลานก็จะมาร่วมงานด้วย ข้าต้องไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อน”
ไป๋หยานผละออกจากอ้อมแขนของตี้คัง
จากนั้นนางก็เขย่งปลายเท้าขึ้นแนบริมฝีปากสีแดงสดของนางทาบทับลงบนริมฝีปากเขา …
บูม!
หัวของตี้คังเหมือนโดนระเบิดอีกครั้งแล้วก็ว่างเปล่า หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาพลันตื่นจากภวังค์ เพื่อพบว่าไป๋หยานกำลังจะจากไปแล้ว ทันใดนั้นเอง มือของเขาก็ตวัดร่างของนางเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
จูบอันเร่าร้อนและคุกคามตามมานัยน์ตาเรียวคมของเขาหรี่ลงเล็กน้อยพลันรอยยิ้มสุนัขจิ้งจอกก็จับที่มุมปากของเขา
”พอได้แล้ว”
ครั้นตี้คังปล่อยมือไป๋หยานก็สบัดแขน พลางจ้องมองเขาอย่างดุเดือด จากนั้นนางก็หันหลังกลับเดินไปที่ลานบ้านไป๋ฉางเฟิ่ง
ตี้คังจิกปากพลางจ้องมองทิศทางที่ไป๋หยานเดินจากไป พลันริมฝีปากของเขาก็โค้งเป็นรอยยิ้มกว้างขึ้น
ยิ่งเมื่อนางหายลับตาไปแล้วแววตาของตี้คังก็ยิ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกรัก นั่นทำให้เขา … ยิ่งคิดถึงนางมากขึ้นไปอีก
***จบบทงานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (7)***
บทที่ 543 : งานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (8)
”ป๊ะป๋าวายร้ายรังแกหม่ามี้อีกแล้วนะ”
เสียงของเจ้าซาลาเปาน้อยกระเง้ากระงอดมาจากด้านหลัง
ตี้คังเงยหน้าขึ้นเขาหันกลับไปมอง พลันเห็นร่างเล็ก ๆ อุ้มแมวสีขาวตัวเล็ก ๆ ไว้ในอ้อมแขนเดินมาจากด้านหลังศาลากำลังจ้องมองเขาด้วยความโกรธ
“ต่อไปเมื่อเจ้ามีภรรยาเจ้าก็จะทำเช่นนี้เหมือนกัน” ตี้คังอารมณ์ดี ไม่ใส่ใจการแอบดูของไป๋เสี่ยวเฉิน
ไป๋เสี่ยวเฉินทำแก้มป่อง”เฉินเอ๋อ ไม่ต้องการภรรยา และแม้ว่าเฉินเอ๋อจะมีภรรยา เฉินเอ๋อก็จะรักนาง ไม่รังแกนางเหมือนป๊ะป๋าวายร้าย”
”หากข้าไม่รังแกแม่ของเจ้าแล้วจะมีเจ้าออกมาได้ยังไง” ตี้คังเลิกคิ้ว “เจ้าไม่ต้องการน้องสาวแล้วหรือ ?”
น้องสาว!
สองคำนี้ทำให้แววตาของไป๋เสี่ยวเฉินเปล่งประกายขึ้นทันทีเขามองตี้คังด้วยความประหลาดใจ
”เฉินเอ๋อกำลังจะมีน้องสาวงั้นเหรอ?”
”อืม”ตี้คังกล่าวอย่างจริงจัง “กำลังจะมีในเร็ว ๆ นี้ … ”
หลังจากกลับแดนอสูรในครั้งนี้เขาจะขอหยานเอ๋อมีน้องสาวตัวน้อยให้เฉินเอ๋อ
”งั้น… ” ไป๋เสี่ยวเฉินกัดริมฝีปากพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขากำลังชั่งน้ำหนักระหว่างน้องสาวกับหม่ามี้ ที่สุดก็พูดขึ้นว่า “ป๊ะป๋าวายร้ายต้องอ่อนโยนกับหม่ามี้นะ…ได้เปล่า ? ป๊ะป๋ากัดหม่ามี้ทุกครั้งเลย หม่ามี้เจ็บ … เฉินเอ๋อต้องการน้องสาวแต่ไม่ต้องการให้หม่ามี้เจ็บ … ”
“เอาไว้เจ้าโตขึ้นแล้วก็จะรู้เองว่าข้าก็ไม่ได้กัดแต่จูบ”
ไป๋เสี่ยวเฉินเบ้ปากป๊ะป๋าวายร้ายเห็นเขาเป็นเด็กสามขวบหรือ ? เขาเห็นป๊ะป๋ากัดหม่ามี้อย่างชัดเจนเต็มสองตา
ครั้นเห็นสายตาตำหนิของเจ้าซาลาเปาน้อยตี้คังก็เริ่มสงสัยขึ้นมาว่าแท้จริงแล้วตัวเขารังแกไป๋หยานหรือไม่ ?
”ป๊ะป๋าวายร้ายเฉินเอ๋อไม่ใช่เด็กอายุสามขวบ อย่าทำเหมือนเฉินเอ๋อเป็นเด็กที่ไม่รู้อะไรเลย !” แก้มป่อง ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ และโกรธ
”เจ้าไม่ใช่เด็กสามขวบจริงๆ เจ้าเป็นเด็กหกขวบ … ”
”…..”
ไป๋เสี่ยวเฉินอ้าปากกว้างและเกือบจะร้องไห้ออกมา เขาจะบอกหม่ามี้ดีมั้ยว่าป๊ะป๋าวายร้ายรังแกเขาอีกแล้ว ?
”เจ้ายังมีอะไรอีกหรือไม่?” ตี้คังมองดูเจ้าซาลาเปาน้อยที่ยังยืนนิ่งไม่ยอมไปไหนพลางเอ่ยถาม
ไป๋เสี่ยวเฉินขมวดคิ้วครู่หนึ่งก่อนจะพูดออดๆ เหมือนมอดกัดไม้ว่า “หม่ามี้เคยเล่าเรื่อง ๆ หนึ่งให้เฉินเอ๋อฟัง เรื่องนี้อยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าประเทศจีน … ”
”……”
”หม่ามี้เล่าว่าในสถานที่แห่งนั้นหม่ามี้รู้จักหญิงสาวคนหนึ่ง บิดามารดาของหญิงสาวคนนั้นรักหญิงสาวมาก แต่ท้ายที่สุดตระกูลของมารดาของหญิงสาวคนนั้นตกอยู่ในอันตราย แต่บิดาของนางไม่ยอมหันกลับไปช่วยมารดาของนางเลย เขาทิ้งมารดาของนางไป เพียงเพราะกลัวว่าตนเองจะถูกลากลงไปประสบเรื่องเลวร้ายด้วย มีบางสิ่งที่หม่ามี้พูด ทว่าเฉินเอ๋อไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อฟังเรื่องนี้จบแล้ว เฉินเอ๋อ อยากจะร้องไห้ และมักจะรู้สึกว่า … ผู้หญิงในเรื่องนี้เป็นหม่ามี้ ”
นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอเขามองตี้คังอย่างน่าสงสาร
หลังจากเงียบไปสักพักริมฝีปากสีแดงของตี้คังก็ยิ้มอย่างขมขื่น”นี่คือสาเหตุที่หยานเอ๋อไม่ยอมรับข้าในตอนแรก ?”
“หม่ามี้กลัวว่าจะถูกทอดทิ้งเหมือนมารดาของหญิงคนนั้นและยังคิดด้วยว่าป๊ะป๋าวายร้ายเชื่อถือไม่ได้” ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าว นัยน์ตาของเขาแสนน่าเอ็นดู “ป๊ะป๋าวายร้ายจะทิ้งหม่ามี้ของเฉินเอ๋อมั้ย ?”
ตี้คังเชิดริมฝีปากขึ้นเขากล่าวอย่างแน่วแน่มั่นคง “ไม่ !”
เขายินดีสละโลกทั้งใบแต่จะไม่ยอมทิ้งนาง !
เขาจะไม่มีวันทอดทิ้งนางเฉกเช่นที่บิดาคนนั้นทิ้งมารดาของหญิงสาวในช่วงเวลาวิกฤติ
”เฉินเอ๋อขอมอบหม่ามี้ให้ป๊ะป๋า” ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินแลดูเศร้าเล็กน้อย ท้ายสุดเขาก็เงยหน้าขึ้นเอ่ยกล่าวว่า “หม่ามี้เป็นผู้หญิงที่เฉินเอ๋อรักที่สุด ถ้าป๊ะป๋ารังแกหม่ามี้ เฉินเอ๋อจะพาหม่ามี้ไปหาพ่อบุญธรรม เฉินเอ๋อเชื่อว่าพ่อบุญธรรมจะดูแลหม่ามี้เป็นอย่างดี”
***จบบทงานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (8)***
บทที่ 544 : งานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (9)
ตี้คังลูบศีรษะเล็กๆ ของไป๋เสี่ยวเฉิน “เจ้าอายุแค่นี้เอง เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าสตรีที่เจ้ารักที่สุดคือใคร ยิ่งไปกว่านั้น … ข้าไม่มีวันให้โอกาสฉู่อี้เฟิงเป็นแน่ ! ข้าย่อมต้องรักผู้หญิงของข้าเป็นธรรมดา”
”เรื่องนั้นเฉินเอ๋อรู้แล้ว” ไป๋เสี่ยวเฉินถอนหายใจ “ยังไงหม่ามี้ก็เป็นผู้หญิงที่ เฉินเอ๋อรัก และสำคัญที่สุดในชีวิตของเฉินเอ๋อ หากใครกล้ากลั่นแกล้งรังแกหม่ามี้ เฉินเอ๋อจะเชือดให้เลือดสาดทาแผ่นดิน ! ”
เด็กน้อยแสดงท่าทางข่มขู่ คิ้วของเขาเลิกขึ้นราวกับเง็กเซียนฮ่องเต้ที่มองลงมาบนโลกมนุษย์
”ควรแล้วที่เป็นโอรสของข้า”ตี้คังยิ้มกว้าง “ในวันหน้าเมื่อข้ามอบแดนอสูรให้เจ้าดูแลแล้ว ข้าก็สามารถพามารดาของเจ้าไปเที่ยวเล่นทั่วโลกได้”
ชั่วขณะนั้นใบหน้าเล็กๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินเหี่ยวลงทันที แววตาของเขาราวกับหมดสิ้นความหวัง ขณะเอ่ยถามออกมาอย่างน่าสังเวชว่า
”เฉินเอ๋อทำได้จริงเหรอ?”
”จริงสิ!”
แววตาของไป๋เสี่ยวเฉินสว่างไสวขึ้นเขารู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยความหวัง
”หลังจากที่มารดาของเจ้าให้กำเนิดน้องสาวและให้กำเนิดน้องชายคนใหม่อีกคน เมื่อถึงวันนั้นข้าจะส่งมอบแดนอสูรให้แก่เจ้า หากเจ้าไม่ต้องการครอบครอง เจ้าก็สามารถส่งต่อให้น้องชายของเจ้าได้
”ทำไมไม่มอบให้น้องสาวก่อนล่ะ”ไป๋เสี่ยวเฉินทำปากจู๋ เอ่ยถามอย่างไม่พอใจ
ตี้คังเลิกคิ้วขึ้น”ก็การเป็นราชาแห่งแดนอสูรมันเหนื่อยมากนี่”
”…..”
ไป๋เสี่ยวเฉินรู้สึกริษยาขึ้นมาทันที
กับลูกชายล่ะชอบกลั่นแกล้งแต่ครั้นพอเป็นลูกสาวกลับรักใคร่เอ็นดู อย่างนี้ก็ได้ด้วยหรือ ?
ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ …
ตี้คังจ้องมองเจ้าซาลาเปาน้อยเบื้องหน้า”นี่…เจ้าต้องการให้น้องสาวของเจ้าทำงานหนักงั้นหรือ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินกัดนิ้วของเขาครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ข้าย่อมไม่เต็มใจอยู่แล้ว แต่หากหม่ามี้ให้กำเนิดน้องชาย แล้วท่านแกล้งข้า ข้าก็จะแกล้งน้องชายแทน”
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของเจ้าซาลาเปาน้อยตี้คังที่พยายามหุบยิ้มที่มุมปากหลายต่อหลายครั้ง ก็ไม่สามารถหุบลงได้เลย
”ป๊ะป๋าวายร้ายท่านไม่ต้องมาทำเป็นเกลี้ยกล่อมเฉินเอ๋อ นี่คงต้องการให้เฉินเอ๋อไปล่อลวงหม่ามี้ให้มีลูกใหม่กับท่านงั้นสิ ?” ในที่สุดไป๋เสี่ยวเฉินก็พบสิ่งผิดปกติ เขาเอ่ยถามตี้คังด้วยความสงสัย
ทันใดนั้นปากของตี้คังก็หุบลง”ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าแล้วไง ? ต่อให้เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่ อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องรับภาระหนักในแดนอสูรอยู่ดี”
”เฉินเอ๋อ… ” ไหล่ของไป๋เสี่ยวเฉินลู่ลงเล็กน้อย เขาร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา “ให้หม่ามี้มีน้องชายอีกคนก็ได้”
ช่างสมบูรณ์แบบ
ป๊ะป๋าไปลั้นลากับหม่ามี้ปล่อยภาระตกไว้ที่เขา … เขาต้องดูแลน้องสาวน้องชาย เร่ร่อนตามหาบิดามารดา ! ที่ไม่สนใจไยดีทิ้งพวกเขาไป ! นิยายน้ำเน่าชัด ๆ
”เอาล่ะ”ตี้คังยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยบิดาเกลี้ยกล่อมมารดาของเจ้าให้นางมีลูกกับบิดาโดยเร็วที่สุด”
เมื่อมีลูกเพิ่มขึ้นเขาก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าหยานเอ๋อจะทิ้งเขา ! แต่หากนางกล้าหนีเขาไปจริงๆ …
เขาจะพาลูกไปขวางนางไว้! ดูสิว่านางจะมีกะใจทิ้งพวกเขาพ่อลูกได้หรือไม่ ?
”……”
นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินแลดูตกตะลึงนี่ … ยังคิดจะขอให้เขาช่วยอีกหรือ ? ไหนว่าต่อให้เขาไม่ช่วยก็ช่างไง ?
ยิ่งไปกว่านั้นเหตุใดเขามักรู้สึกว่าป๊ะป๋าวายร้ายกำลังหลอกใช้เขาเสมอนะ
”ป๊ะป๋าวายร้าย”ไป๋เสี่ยวเฉินยื่นริมฝีปากสีชมพูของเขา “เมื่อไหร่เราจะไปแดนอสูรกันเสียที ?”
”หลังจากวันเกิดของท่านตาเราจะกลับไปที่นั่นกัน”
ท่านตา…คำเรียกขานที่ตี้คังใช้นี้ทำให้ไป๋เสี่ยวเฉินเบิกตากว้าง
นั่นมันท่านตาของหม่ามี้เขาเป็นท่านตาของป๊ะป๋าวายร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
“ป๊ะป๋าวายร้าย”ไป๋เสี่ยวเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “เฉินเอ๋อรู้แล้วล่ะว่า ท่านคิดจะให้เฉินเอ๋อช่วยท่านปีนเตียงหม่ามี้ หากท่านไม่สามารถใช้เฉินเอ๋อได้ ท่านก็จะเตะเฉินเอ๋อออกไป”
ตี้คังขมวดคิ้วน้อยๆ เขาดูเหมือนคนที่ชอบหลอกใช้เด็กงั้นหรือ ?
***จบบทงานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (9)***
บทที่ 545 : งานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (10)
แล้ว…
”ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้าต้องการปีนเตียงของหยานเอ๋อ ?”
”ท่านอาหญิง”
ไป๋เสี่ยวเฉินกะพริบนัยน์ตากลมโตของเขาเขาไม่รู้เลยว่าถ้อยคำของเขาจะนำความหายนะไปสู่ตี้เสี่ยวอวิ๋น
แววตาของตี้คังส่องประกายเย็นยะเยือก”ดี…ดีมาก ! ตี้เสี่ยวอวิ๋น ข้าจะจดจำเรื่องที่เจ้าทำในครานี้ไว้ !”
ครั้นเห็นรอยยิ้มของตี้คังไป๋เสี่ยวเฉินก็รู้สึกราวกับลมหนาวพัดผ่านมา เขารู้สึกหนาวสั่น ทั้งยังมักจะรู้สึกเสมอว่า หากเรื่องไหนที่ป๊ะป๋าบอกว่าจะจดจำมักจะไม่ใช่เรื่องดีนัก …
*****
”ฮัดเช่ย!”
กลางตลาดสำนักเวชโอสถจู่ ๆ ตี้เสี่ยวอวิ๋นก็จามออกมา นางขยี้จมูก นัยน์ตากลมโตอันงดงามของนางเต็มไปด้วยความสงสัย “แปลกจัง เหตุใดจู่ ๆ ข้าก็จามออกมาได้ล่ะ ? ”
”อาจเป็นได้ว่าพี่ชายของเจ้าน่าที่จะกำลังคิดถึงเจ้าอยู่” ฉู่อีอี้พูดแซะอยู่ข้าง ๆ
ครั้นได้ยินถ้อยคำดังกล่าวมุมปากของตี้เสี่ยวอวิ๋นพลันกระตุกหลายต่อหลายครั้ง “เช่นนั้นข้าก็หวังเหลือเกินว่าจะไม่มีผู้ใดคิดถึงข้า”
พี่ชายคิดถึงข้า…
ตี้เสี่ยวอวิ๋นคิดในใจครู่หนึ่งนางไม่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เป็นเรืองที่น่ากลัวเสียเหลือเกิน
”เสี่ยวหยุน”
ฉู่อีอี้มองกลุ่มคนจากตระกูลหลานที่กำลังเดินมานางรีบใช้ข้อศอกสะกิดหลานเสี่ยวหยุน “ดูนั่นสิ ตระกูลหลานของเจ้าก็มาที่นี่ด้วย !”
แววตาของหลานเสี่ยวหยุนสว่างไสวขึ้นทันทีนางเห็นท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานเดินนำกลุ่มคนมา ความรู้สึกดีใจปรากฏชัดบนใบหน้าอันบอบบางของนาง
”ท่านปู่ท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่รอง … ”
นางโบกมือให้คนกลุ่มนั้นอย่างตื่นเต้นพร้อมทั้งรีบเรียกพวกเขา
คนตระกูลหลานหันมองตามเสียงเรียกพวกเขาเห็นหลานเสี่ยวหยุนโบกมืออยู่ท่ามกลางฝูงชน หลังจากนั้นเพียงไม่นานพวกเขาก็เดินเข้าไปหานาง
”ในที่สุดพวกท่านก็มาถึงแล้ว” หลานเสี่ยวหยุนเผยรอยยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดู “พี่ไป๋หยานรอพวกท่านนานแล้ว”
เจ้าบ้านหลานไอแห้งๆ “ไปกันเถอะ ปู่อยากจะพบหยานเอ๋อแล้ว ระหว่างทางเจ้าก็เล่าให้ปู่ฟังสิว่าเกิดเรื่องใดขึ้นบ้าง”
”ได้เลย… ”
*****
ครั้นเห็นหลานเสี่ยวหยุนจากไปพร้อมคนตระกูลหลานแล้วตี้เสี่ยวอวิ๋นก็หันหน้าไปมองฉู่อีอี้ นางเชิดริมฝีปากเยาะเย้ย “ข้าได้ยินมาว่าในดินแดนใหญ่แห่งนี้มีกลุ่มอำนาจใหญ่พอ ๆ กับสำนักเวชโอสถเช่นกัน แล้วนี่งานวันเกิดของท่านเจ้าสำนักเวชโอสถ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าจะส่งคนมาบ้างหรือไม่นะ ?
“พี่ชายของข้าไม่เคยมาล่วงหน้าหรอกเขาจะมาก็ต่อเมื่อพรุ่งนี้เป็นงานวันเกิดแล้วเท่านั้น” ฉู่อีอี้เหยียดแขนขึ้ฟ้า “นี่ก็เริ่มค่ำแล้ว เราควรรีบกลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ บางทีป่านนี้พี่ชายของเจ้าคงจะตามหาเจ้าไปทั่วแล้วกระมัง ”
ตี้เสี่ยวอวิ๋นที่กำลังจะยกเท้าก้าวพลันหยุดชะงักทันทีทันใดนั้นเองนัยน์ตาของนางก็เปลี่ยนเป็นโศกเศร้า “เจ้าต้องการให้ข้ากลับจริง ๆ หรือ ? ทั้งที่เจ้าเพิ่งพูดขู่ข้าถึงเพียงนั้นน่ะนะ”
”ผู้ใดใช้ให้เจ้าได้เป็นน้องสะใภ้ไป๋หยานล่ะนั่นทำให้ข้าเสียใจมากเลยนะ ข้าต่างหากที่ควรจะได้เป็นน้องสะใภ้ของนาง หากมิใช่เป็นเพราะพี่ใหญ่ของข้าเฉื่อยชา บางทีข้า … ” ฉู่อีอี้จ้องมองตี้เสี่ยวอวิ๋นอย่างคับแค้น “เจ้าเข้าใจความรู้สึกของข้าหรือไม่ ? ข้าชอบไป๋หยานมาก แต่เจ้ากลับกลายเป็นน้องสะใภ้นางน่ะ”
เช่นนั้นแค่ขู่ให้เจ้ากลัวจะเป็นไรไป? หากข้าไม่แกล้งให้เจ้ากลัวซะบ้างจะสามารถบรรเทาความโกรธของข้าได้อย่างไร ?
ตี้เสี่ยวอวิ๋นยิ้มพลางกล่าวว่า “เพื่อเห็นแก่อารมณ์ที่ไม่ดีของเจ้า ข้าจะไม่ใส่ใจคำพูดเจ้าอีก”
ฉู่อีอี้ทำเสียงฮึ่มฮั่มนางเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ครั้นเห็นตี้เสี่ยวอวิ๋นไม่ได้ตามนางมา นางก็หันกลับไปมอง “นั่นเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ รีบไปไว ๆ เลยบางทีพี่ชายของเจ้าอาจกำลังตามหาเจ้าจริง ๆ ก็เป็นได้ หากเขาไม่พบเจ้าอาจจะยิ่งแย่กว่าเดิมนะ”
หลังจากได้ยินถ้อยคำดังกล่าวตี้เสี่ยวอวิ๋นก็ตัวสั่นอีกครั้ง นางคิดอยู่เพียงครู่ จากนั้นก็รีบสาวเท้าก้าวตามเพื่อนสาวไป …
……
วันเกิดของไป๋ฉางเฟิ่งอันเป็นความคาดหวังของทุกคนที่สุดก็มาถึงแล้ว !
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผู้คนในตระกูลหลานต่างก็ได้รับการดูแลอย่างดีมากเมื่ออยู่ในสำนักเวชโอสถ แม้กระทั่งบ่าวรับใช้เล็ก ๆ ที่เจ้าบ้านหลานนำมาด้วยก็ยังได้รับการดูแลอย่างดีจากศิษย์ของสำนักเวชโอสถ
***จบบทงานวันเกิดไป๋ฉางเฟิ่ง (10)***