จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 571-575
บทที่ 571 : นางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (3)
บทสนทนาดังกล่าวพาดพิงถึงจุนหรู่ชิงทว่าแท้จริงแล้วกลับต้องการบอกให้เหล่าผู้อาวุโสรู้ว่า
ครานั้นจุนหรู่ชิงปลอมตัวเป็นนางกำนัลแสร้งทำทีเป็นกวาดพื้นอยู่นอกตำหนักไป๋เยว่เช่นนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่รู้จักมารดาของเขา
”ท่าน…ท่านพูดจาไร้สาระ !” จุนหรู่ชิงตัวสั่น มีร่องรอยตื่นตระหนกในแววตาที่งดงามของนาง “ข้ามิได้แสร้งเป็นนางกำนัล ท่านใส่ร้ายข้า”
ไป๋เสี่ยวเฉินอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจเขาเอียงศีรษะเล็กน้อยทีท่างง ๆ “ไม่ใช่ท่านตาผู้อาวุโสส่งเจ้ามาทำความสะอาดพระตำหนักหรอกรึ ? งั้นเจ้าก็ปลอมตัวมาเองล่ะสิ เช่นนี้ เฉินเอ๋อก็ผิดแล้วที่ต่อว่าท่านตาผู้อาวุโส”
ไป๋เสี่ยวเฉินคำนับผู้อาวุโสใหญ่อย่างจริงใจปากสีชมพูเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ
”เมื่อครู่นี้เป็นเฉินเอ๋อเลินเล่อมากเกินไป ต้องขอโทษท่านตาผู้อาวุโสด้วย เพราะเฉินเอ๋อเห็นนางมาทำความสะอาดวัพระตำหนัก เฉินเอ๋อจึงคิดว่านางได้รับมอบหมายมาจากท่านตา”
นัยน์ตาของผู้อาวุโสใหญ่รื้นองค์ชายน้อยช่างอ่อนหวานน่ารักถึงเพียงนี้ ผู้ใดบ้างจะไม่หลงรัก
”องค์ชายน้อยพระองค์ไม่จำเป็นต้องขอโทษกระหม่อมเลย เพราะพระองค์ไม่ได้ตั้งพระทัยที่จะต่อว่ากระหม่อม” ผู้อาวุโสใหญ่หันหน้าอย่างช้า ๆ นัยน์ตาที่เฉียบคมของเขาหยุดอยู่ที่ใบหน้าซีดเผือดของจุนหรู่ชิง “จุนหรู่ชิง ไหนเจ้าบอกข้าทีสิว่า มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ? ”
”หือ…นางคือจุนหรู่ชิงงั้นรึ?” ไป๋เสี่ยวเฉินอุทาน ใบหน้าเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เดิมทีจุนหรู่ชิงก็ตัวสั่นด้วยเสียงคำรามของผู้อาวุโสใหญ่อยู่แล้วทว่าทันทีที่นางได้ยินเด็กน่ารังเกียจผู้นี้กล่าวสำทับขึ้นอีก นางก็ทรุดกายลงคุกเข่าด้วยความหวาดกลัว
ผู้อาวุโสใหญ่มองจุนหรู่ชิงผู้ซึ่งคุกเข่าลงกับพื้นพลางหันกลับไปมองไป๋เสี่ยวเฉินด้วยแววตาอ่อนโยน “องค์ชาย ทรงรู้จักบุตรสาวบุญธรรมของกระหม่อมด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินทำท่าสับสนเพียงครู่”หวงเสี่ยวหยิง มาหาหม่ามี้ของข้าเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา โชคดีที่ท่านอาหญิงของข้าอยู่ที่นั่นด้วย ทำให้นางไม่สามารถทำอะไรหม่ามี้ได้ แต่ท่านอาหญิงข่มขู่หวงเสี่ยวหยิงจนนางยอมเล่าให้ฟังว่า จุนหรู่ชิงใส่ความหม่ามี้ข้าว่า หม่ามี้ของข้ามีความสัมพันธ์กับบุรุษมากหน้าหลายตา ซ้ำยังมาล่อลวงป๊ะป๋า นางรู้ข่าวนี้จึงรีบมาหาพวกเราโดยไม่ได้ไตร่ตรองใด ๆ … ”
เพื่อเห็นแก่หน้าเผ่าพยัคฆ์ไป๋เสี่ยวเฉินจึงไม่ได้พูดจาให้ร้ายหวงเสี่ยวหยิง เพียงผลักทุกอย่างไปที่ตี้เสี่ยวอวิ๋น
อย่างไรเสียอาหญิงของเขาก็เป็นถึงองค์หญิงแห่งแดนอสูรเช่นนั้นย่อมจะไม่มีผู้ใดสงสัยถ้อยคำของเขาเป็นแน่
”จุนหรู่ชิง!” ผู้อาวุโสใหญ่ตวาดลั่นด้วยความโกรธ “เจ้ากล้าใส่ร้ายราชินีได้อย่างไร ? เจ้าเห็นองค์ราชาของเราพระเนตรบอดงั้นรึ ? พระอุปนิสัยราชินีเป็นเยี่ยงไร ? เหตุใดองค์ราชาจึงจะไม่ทรงทราบ ?”
นัยน์ตาจุนหรู่ชิงยิ่งแลดูสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ “พ่อบุญธรรม หวงเสี่ยวหยิงใส่ร้ายข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย”
“โอ้…สตรีที่ไร้สมองเช่นหวงเสี่ยวหยิงก็มีความสามารถพอที่จะวางแผนใส่ร้ายคนด้วยงั้นรึ?” ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มประชด “เจ้าคิดว่า ข้าโง่มาก หรือนางฉลาดเกินไปกันแน่ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินจับมือไป๋หยานนิ่งเงียบ
เขารู้สึกว่าหากหวงเสี่ยวหยิงรู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่กล่าวถึงนางเช่นนี้ นางคงจะเศร้ามากอย่างแน่นอน …
”พ่อบุญธรรมข้าผิดไปแล้ว ข้ารู้ตัวว่าผิดแล้ว โปรดอย่ากราบทูลองค์ราชาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” จุนหรู่ชิงดึงชายผ้าของผู้อาวุโสด้วยความตื่นตระหนก น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาของนาง
หากเป็นอดีตได้เห็นจุนหรู่ชิงมีท่าทางที่น่าสงสารเช่นนี้ ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็คงจะใจอ่อน ทว่าตอนนี้พวกเขากระจ่างแจ้งแล้วว่า หญิงผู้นี้ได้กระทำสิ่งใดลงไปบ้าง พวกเขาจึงเพียงยืนมองนางอย่างเงียบ ๆ
เด็กสาวดีๆ อย่างจุนหรู่ชิง เด็กสาวที่พวกเขาเห็นมาตั้งแต่เยาว์วัย
เหตุใดเด็กหญิงที่แสนฉลาดเฉลียวในอดีตถึงได้เติบใหญ่เป็นหญิงต่ำทรามเช่นนี้ได้ ?
”ผู้อาวุโสรองผู้อาวุโสสาม” ครั้นจุนหรู่ชิงเห็นว่าเหล่าผู้อาวุโสมีทีท่าไม่แยแส นางก็รีบหันกลับมาอย่างรวดเร็ว พลางโขกศีรษะเสียงดังลั่นให้บรรดาผู้อาวุโสคนอื่น ๆ “พวกท่านเคยเมตตาข้ามาก โปรดขอร้องท่านพ่อบุญธรรมอย่านำเรื่องเหล่านี้ขึ้นกราบทูลองค์ราชาเลย”
***จบบทนางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (3)***
บทที่ 572 : นางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (4)
หาไม่แล้วบุรุษผู้นั้น … จะต้องฆ่านางอย่างแน่นอน !
ครั้นคิดถึงผลที่จะตามมาสีหน้าของจุนหรู่ชิงก็ซีดยิ่งกว่าเดิม ร่างของนางสั่นสะท้านท่ามกลางสายลมบางเบา
หากแม้ว่าจะโขกจนศีรษะแตกบรรดาผู้อาวุโสก็ยังคงนิ่งเงียบไร้ถ้อยคำ ทั้งในแววตายิ่งแสดงความผิดหวังมากกว่าเดิม
“ราชินี”ผู้อาวุโสใหญ่ป้องกำปั้นให้ไป๋หยาน พลางถอนหายใจ “กระหม่อมหย่อนการอบรมไม่ได้เคี่ยวกรำฝึกฝนเรื่องระเบียบวินัยให้แก่นางมากพอที่จะปรับเปลี่ยนหัวใจที่บิดเบี้ยวของนางได้ เรื่องนี้กระหม่อมจะนำขึ้นกราบทูลองค์ราชา ให้พระองค์เป็นผู้ตัดสินพระทัยในเรื่องนี้เอง ไม่ทราบว่าทรงคิดเห็นเป็นเช่นไร ?”
ไป๋หยานมองผู้อาวุโสใหญ่พลางพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
”ดี”
ไป๋หยานจับมือของไป๋เสี่ยวเฉินกำลังจะหันหลังกลับ
ทว่าขณะนั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ไป๋หยานต้องหยุดฝีเท้ากึก
”ราชินีหม่อมฉันทำผิดพลาดด้วยเพราะหึงหวง แต่ถึงกระนั้น หม่อมฉันก็ไม่อาจทนดูดายเห็นพระองค์สิ้นพระชนม์ไปต่อหน้าต่อตาได้ !” จุนหรู่ชิงพยายามปกปิดความโหดร้ายในแววตา นางแสร้งใช้แววตาเศร้าสร้อยอำพราง “หม่อมฉันกราบทูลพระองค์แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างวิหคอัคคีกับองค์ราชานั้นไม่ธรรมดา หากพระองค์ยังยืนกรานที่จะขึ้นไปบนภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์อีก พระองค์อาจจะสิ้นพระชนม์ได้นะเพคะ !”
ไป๋หยานเบือนหน้าเล็กน้อยกลับมามองจุนหรู่ชิงใบหน้าที่งดงามของนางเผยรอยยิ้มจาง ๆ “เจ้าห่วงตนเองก่อนเถอะ ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาเป็นกังวลเรื่องของข้า”
จุนหรู่ชิงตัวแข็งทื่อนางเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ พลางจ้องใบหน้าที่เฉยเมยนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ข้าพูดถึงเพียงนี้แล้วหญิงผู้นี้ยังคงเฉยได้เยี่ยงไร ? หรือว่า … นางไม่สนใจจริง ๆ ว่าองค์ราชาจะมีสายสัมพันธ์กับหญิงอื่นด้วย ?
เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ไม่มีสตรีใดที่ยอมให้สามีรับภรรยาสามนางบำเรอสี่
”ราชินีพระองค์อาจไม่สนพระทัย ว่าองค์ราชาจะมีพระสนมกี่นาง ทว่า … ท่านวิหคอัคคีจะต้องสนใจเรื่องการปรากฏตัวของพระองค์อย่างแน่นอน” จุนหรู่ชิงกัดริมฝีปากแน่น “อีกอย่างพวกเขาทั้งสองก็รู้จักกันมานานแล้ว พระองค์ก็แค่คนมาทีหลัง”
ความหมายก็คือวิหคอัคคีเป็นอันดับหนึ่งในใจขององค์ราชา ขณะที่ไป๋หยาน เป็นเพียงมือที่สามที่เข้ามาวุ่นวายกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
”จุนหรู่ชิงเจ้ารนหาที่ตาย !” ผู้อาวุโสใหญ่โกรธมาก เขากระแทกฝ่ามือใส่หน้าอกของจุนหรู่ชิงทันที
ด้วยหมัดๆ นี้ส่งผลให้จุนหรู่ชิงลอยละลิ่วไกล เลือดพุ่งออกมาจากปาก ทว่ามุมปากของนางยังคงโค้งยกยิ้มประหลาด
แม้ว่านางจะตายนางก็ไม่มีวันยอมให้หญิงผู้นี้มีความสุข ! หากเจ้าต้องการเป็นราชินี ข้าเกรงว่าวิหคอัคคีจะไม่มีวันยอมให้เจ้าอยู่สุขสบายนัก …
“ราชินีอย่าได้ฟังเรื่องไร้สาระของนางเลย”ผู้อาวุโสใหญ่รีบหันหน้ากลับมาด้วยความเป็นกังวล “ท่านวิหคอัคคีไม่สามารถมีความสัมพันธ์เช่นนั้นกับองค์ราชาได้อย่างแน่นอน !”
ความหึงหวงของสตรีนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งผู้อาวุโสใหญ่รู้อยู่เต็มอกว่าถ้อยคำเหล่านี้อาจไม่เป็นประโยชน์นัก หากราชินีเข้าพระทัยผิดจริง ๆ จะนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในแดนอสูร
อย่างไรก็ตามดูเหมือนผู้อาวุโสใหญ่จะกังวลมากเกินไป
เพราะเมื่อได้ยินถ้อยคำของจุนหรู่ชิงแล้วสีหน้าของไป๋หยานกลับไม่เปลี่ยนแปลงเลย ริมฝีปากของนางขยับขึ้นเล็กน้อย
”สิ่งที่เจ้าต้องการบอกข้ามีเพียงแค่นี้หรือ ?”
”…..”
จุนหรู่ชิงตกใจเป็นอย่างมากแววตาของนางราวกับจะไม่เชื่อ
เรื่องนี้… ยังไม่ใหญ่พองั้นหรือ ?
ที่สุดไป๋หยานก็มองจุนหรู่ชิงอย่างเต็มตา”หากไม่มีเรื่องใหญ่โตจริง ๆ แล้ว อย่าเรียกข้าอีก ส่วนเจ้า … ข้าเชื่อว่าท่านผู้อาวุโสจะสามารถชำระบัญชีทุกอย่างแทนข้าได้”
ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกถึงเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผากของตน เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ราชินีทรงปราชญ์เปรื่องยิ่ง ไม่แปลกใจเลยที่องค์ราชาจะหลงใหลพระองค์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาองค์ราชาไม่เคยรับพระสนมไม่ว่าผู้ใด นั่นก็เพียงเพราะทรงรอพระองค์”
”โอ้!” จุนหรู่ชิงเยาะ
ท่านพ่อบุญธรรมนี่ก็ช่างโง่เขลาเสียจริงไป๋หยานจะเชื่อเรื่องนี้ได้อย่างไร ?
ตำหนักในว่างเปล่ามาหลายร้อยปีทว่าหลายร้อยปีก่อนนั้น … ราชินีก็ยังไม่เกิดสักหน่อย
***จบบทนางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (4)***
บทที่ 573 : นางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (5)
”โอ้! …เรื่องนั้นข้ารู้แล้ว”
น้ำเสียงที่ไม่แยแสของไป๋หยานดังผ่านเข้าหูอย่างช้าๆ ทำให้ปากของจุนหรู่ชิงที่กำลังแย้มยิ้มเปลี่ยนเป็นแข็งค้าง นางหน้าซีดด้วยไม่อยากจะเชื่อ พลันนางก็จ้องมองใบหน้างดงามอย่างหาที่ใดเปรียบมิได้
ราชินีผู้นี้ช่างโง่งมเสียเหลือเกินขนาดบิดาบุญธรรมของนางกล่าวคำหลอกลวงอย่างชัดเจน นางก็ยังเชื่ออีก ?
ผู้อาวุโสคนอื่นต่างหันมองหน้ากันพวกเขาไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสใหญ่จะกล่าวสิ่งไร้ยางอายเช่นนี้ได้
และไม่คาดคิดว่าราชินีจะเชื่อเอาจริงๆ ?
”จุนหรู่ชิง”ผู้อาวุโสใหญ่หันหน้าไปมอง สายตาที่แหลมคมของเขาพุ่งไปที่ร่างของจุนหรู่ชิงราวกับคมดาบ “ข้าตามใจเจ้ามานานหลายปี จนทำให้เจ้าลืมกำพืดตนเอง ! ราชินีเป็นถึงนายหญิงแห่งแดนอสูร เจ้ายังกล้าใส่ร้ายพระองค์ ?”
จุนหรู่ชิงตัวสั่นนางก้มศีรษะลง ตัวตนแท้จริงของนางเป็นอุปสรรคที่นางไม่สามารถข้ามพ้นได้
จุนหรู่ชิงหวังว่าจะเป็นเช่นหวงเสี่ยวหยิงบ้างต่อให้หวงเสี่ยวหยิงสร้างเรื่องหายนะมากเพียงใด บิดาของนางก็พร้อมจะตามกวาดเก็บให้จนหมดสิ้น
แต่สำหรับนางแล้วกลับทำไม่ได้!
นางเป็นเพียงบุตรสาวของนายทหารที่ผู้อาวุโสใหญ่รับเป็นลูกบุญธรรมโดยบังเอิญ
อย่างไรก็ตาม…
ไม่ว่านางจะฉลาดเฉลียวสักเพียงใดนางก็ไม่สามารถหนีพ้นจากความแตกต่างของสถานะได้ !
”ฮ่าฮ่า … ”
ทันใดนั้นเองจุนหรู่ชิงก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นยะเยือกใบหน้าซีดขาวของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด นางปรายตามองไป๋หยาน
”เจ้าเป็นผู้ใดควรแล้วหรือที่จะรับตำแหน่งนี้ ?”
นางชี้ไปที่ไป๋หยานด้วยความโกรธนัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความริษยา
ครั้นเห็นสภาพจุนหรู่ชิงไม่ต่างจากขวดที่แตกกระจายใบหน้าของผู้อาวุโสใหญ่ก็ยิ่งย่ำแย่
”เจ้า… ” เขาตวาดออกมาด้วยความโกรธ ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงร้องแทรกผ่านอากาศ ผ่านหุบเขา ทั้งดังก้องไปรอบ ๆ อยู่เนิ่นนาน
ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้จุนหรู่ชิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ นางหัวเราะแล้วก็ยิ้ม พลันน้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลผ่านใบหน้าอันบริสุทธิ์ของนาง นัยน์ตาที่สวยงามแสดงให้เห็นถึงความดุร้าย
”เจ้ารบกวนท่านวิหคอัคคี! นางไม่ยอมให้ผู้ใดเข้ามาฉกฉวยสมบัติในภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ง่าย ๆ หรอก ! สมุนไพรในมือของเจ้านับได้ว่าเป็นหลักฐานชั้นดี !” นางเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า “นอกจากนี้ หญิงผู้นี้ยังล่อลวงองค์ราชาด้วย ท่านวิหคอัคคีย่อมไม่มีทางปล่อยนางไป … ”
ท่านวิหคอัคคีมักจะสังหารสตรีที่คอยล่อลวงองค์ราชานางไม่มีวันปล่อยหญิงผู้นี้ไปเป็นแน่ !
ภายในอากาศว่างเปล่าเสียงที่ดังกึกก้องเขย่าหัวใจของทุกผู้คน
”ผู้ใด? ผู้ใดขวัญกล้าขึ้นมาสร้างปัญหาบนภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ของข้า ? รนหาที่ตายใช่หรือไม่ ?”
ที่สุดนางก็พบราชินี และกลุ่มคนที่มารบกวนนางอีกครั้ง ! คนพวกนี้สมควรตายจริง ๆ !
แค่…
วิหคอัคคีกวาดตามองจึงเห็นไป๋หยานยืนอยู่ด้านล่างนัยน์ตาที่งดงามของนางพลันตกตะลึง นางจ้องมองด้วยความสงสัย
คนพวกนี้ไม่รู้จักราชินีหรอกหรือ? เช่นนี้ หากนางเป็นผู้ลงมือ ก็คงจะไม่ดีเท่าใดนัก…
”ท่านวิหคอัคคี!” ครั้นจุนหรู่ชิงเห็นใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสเปลี่ยนไป นัยน์ตาคู่สวยของนางก็เปี่ยมไปด้วยความสุข “ที่สุด ท่านก็ปรากฏตัวแล้ว หญิงผู้นี้ไม่เพียงแต่บุกรุกเข้ามาขโมยของในภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ ทว่า … นางยังอยากจะเป็นนายหญิงของแดนอสูร ขอท่านวิหคอัคคีได้โปรดลงทัณฑ์นางด้วยเถิด ! ”
วิหคอัคคีตกตะลึงพลางจ้องมองไป๋หยานด้วยความประหลาดใจ
ว่าไงนะ?
ราชินีก็ต้องเป็นนายหญิงของแดนอสูรอยู่แล้วนี่แล้วหญิงผู้นี้มาละเมอเพ้อพกอะไรกัน ?
ขนาดวิหคอัคคีที่มีชีวิตอยู่มานานหลายพันปีก็ยังตกใจกับคำกล่าวของจุนหรู่ชิง
สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่เคร่งขรึมลงมุมปากของเขายกขึ้นเย้ยหยัน “จุนหรู่ชิง หากเจ้ากลับไปกับข้าอย่างเชื่อฟังแต่โดยดี บางทีจุดจบอาจจะไม่เจ็บปวดจนเกินไปนักอย่างมากก็แค่ตาย ทว่าตอนนี้เจ้าสร้างความเสื่อมเสียให้องค์ราชินี ต่อให้เจ้าร้องหาความตาย ก็ใช่จะได้มาโดยง่าย”
“ท่านพ่อบุญธรรมข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงสิ่งใด ?” แววตาของจุนหรู่ชิงสับสนนางกัดริมฝีปากแน่น “ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าท่านวิหคอัคคีรักองค์ราชาแต่เพียงผู้เดียว ทว่าตอนนี้ ใครบางคนกำลังมาครอบครองบัลลังก์ราชินี นี่ไม่เท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับท่านวิหคอัคคีหรอกรึ ? ”
***จบบทนางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (5)***
บทที่ 574 : นางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (6)
ต่อให้นางหนีไม่พ้นความตายนางก็ไม่มีวันยอมให้ไป๋หยานได้มีชีวิตสุขสบายเป็นแน่ !
ครั้นนึกถึงสิ่งนี้แล้วแววตาของจุนหรู่ชิงก็ยิ่งชั่วร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
ถึงเวลานี้วิหคอัคคีก็ยิ่งสับสน นางไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์ใดขึ้น
“เด็กบ้านี่กำลังพูดถึงเรื่องใด ?”
นางร่อนลงมาจากอากาศด้วยความโกรธพร้อมกันนั้นนางก็กระแทกเท้าลงบนพื้นอย่างแรง “ข้าไปชอบองค์ราชาเมื่อไหร่กัน ?”
ไยนางถึงไม่รู้ตัวเลย?
จุนหรู่ชิงยิ้มราวกับไม่เห็นด้วยกับถ้อยคำดังกล่าวที่นี่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก วิหคอัคคีก็เลยไม่ยอมรับหัวใจตนเอง
ทว่าไม่สำคัญหรอกขอเพียงวิหคอัคคีรู้ว่าราชินีกำลังมาแย่งองค์ราชาไปก็น่าที่จะเพียงพอแล้ว จากนี้ไปชีวิตของราชินีในแดนอสูรก็คงจะไม่สวยงามเป็นแน่
อย่างไรก็ตาม…
ไม่นานหลังจากที่วิหคอัคคีกล่าวจบนางก็กระฟัดกระเฟียดเดินไปยืนข้าง กายไป๋หยาน
”ราชินีพระองค์ต้องเชื่อหม่อมฉัน ผู้ที่หม่อมฉันชอบก็คือพระองค์ หม่อมฉันจะไปชอบบุรุษหน้าเหม็นผู้นั้นได้อย่างไร”
วิหคอัคคีมองไป๋หยานด้วยทีท่าน่าสงสารราวกับเป็นภรรยาตัวเล็ก ๆ ที่พยายามอธิบาย ด้วยเกรงว่าสามีจะเข้าใจผิด
นัยน์ตาของไป๋หยานสั่นไหวนางยกมือขึ้นลูบแขนของตนเอง “เจ้าดูถูกตี้คังเช่นนี้ หากเขารู้จะเกิดอะไรขึ้น ?”
ยามนี้ใบหน้าของวิหคอัคคีเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
นางรังเกียจผู้ชายโดยธรรมชาตินางหลุดปากกล่าวถ้อยคำเหล่านี้โดยไม่ตั้งใจ
หากแต่นางลืมไปว่าผู้ที่นางตำหนิก็คือราชาแห่งแดนอสูรทั้งยังเป็นสวามีขององค์ราชินี
”พี่วิหคอัคคีพี่ตำหนิป๊ะป๋าวายร้ายต่อหน้าหม่ามี้ เขาจะต้องถอนขนของพี่จนหมดตัวอย่างแน่นอน” ไป๋เสี่ยวเฉินยืนยิ้มอยู่อีกข้างขณะกล่าวเสริม
ใบหน้าของวิหคอัคคีแข็งทื่อนัยน์ตาที่งดงามของนางสั่นไหวด้วยความตกใจ
แม้ว่าตอนนี้องค์ราชาจะสูญเสียความทรงจำทว่าเขายังมีความรู้สึกเดิมค้างคาอยู่ หาไม่แล้วทันทีที่เขาเห็นพระพักตร์ราชินี เขาคงจะไม่หลงใหลนางกระทั่งยับยั้งใจไม่ได้เช่นนี้หรอก
ทว่านางกลับดูถูกเขาต่อหน้าราชินีบุรุษผู้นั้นจะต้องถลกหนังนางอย่างแน่นอน
”รา…ราชินีพระองค์ต้องช่วยหม่อมฉันนะเพคะ” วิหคอัคคีจับมือของไป๋หยานอย่างน่าสังเวช พลางร้องไห้ออกมา “องค์ราชาเชื่อรับสั่งของพระองค์เสมอ หากพระองค์ไม่ช่วยหม่อมฉัน หม่อมฉันต้องตายแน่ ๆ !”
”อย่าร้องไห้น่า”
ครั้นเห็นใบหน้าเล็กๆ ที่น่าสงสารของวิหคอัคคี ไป๋หยานก็มองไปที่บรรดาผู้อาวุโสที่อยู่โดยรอบ พลางยิ้มละไม “จะไม่มีผู้ใดบอกเขาว่าเจ้าพูดอะไร เนอะ”
ตราบใดที่นางไม่พูดผู้อาวุโสเหล่านี้มีหรือจะกล้า
”ดีจัง”
วิหคอัคคีถอนหายใจด้วยความโล่งอกนัยน์ตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย ขณะหันวูบไปทางจุนหรู่ชิง
ใบหน้าของจุนหรู่ชิงซีดเผือดไร้สีเลือดร่างที่บอบบางของนางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ยามนี้นางตื่นตระหนกไปทั้งหัวใจ
ไม่… เป็นไปไม่ได้ ? เห็นได้ชัดว่าวิหคอัคคีมีใจให้องค์ราชา เช่นนั้นเหตุใดนางจึงไม่อยากทำร้ายสตรีที่ล่อลวงองค์ราชาเล่า ?
ทว่าเหตุใด… นางจึงทำตัวราวกับเป็นภรรยาขององค์ราชินีแทนล่ะ ?
”เจ้าชื่อจุนหรู่ชิงใช่หรือไม่?” ริมฝีปากของวิหคอัคคีเผยอน้อย ๆ ชั่วขณะนั้นประกายกระหายเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาสีแดงฉานของนาง “ไยเจ้าจึงสร้างปัญหาให้กับแขกคนสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ของข้า”
ดวงตาของจุนหรู่ชิงเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว นางตัวสั่น กระทั่งล้มลงกับพื้น
”ข้า… ข้ามิกล้า ?”
”เจ้ามิกล้างั้นหรือ?” วิหคอัคคีเย้ยหยัน พลันเจตนาสังหารแผ่กระจายไปทั่วภูเขา “เจ้ามิได้กล่าวว่าราชินีมาขโมยของบนภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ของข้าหรอกหรือ บัดนี้พระนางเป็นแขกของข้า สมบัติในภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าพระนางจะต้องการสักเท่าไหร่ ข้าก็พร้อมจะทูลเกล้าถวาย ! เจ้ากล้าออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้งั้นรึ ?”
ความสยดสยองปรากฏบนใบหน้าของจุนหรู่ชิงวิหคอัคคีสามารถมอบสมบัติทุกสิ่งในภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์นี้ให้ได้ตราบที่ไป๋หยานต้องการงั้นหรือ?
เหตุใดวิหคอัคคีจึงปฏิบัติกับมนุษย์หญิงผู้นี้แตกต่างจากคนอื่นเช่นนี้เล่า?
”พี่วิหคอัคคีนางชอบป๊ะป่าวายร้ายของข้าเลยพยายามใส่ความหม่ามี้ของข้าว่าไปพัวพันกับบุรุษมากหน้าหลายตา” ไป๋เสี่ยวเฉินหันหน้าไปมองใบหน้าที่งดงามของวิหคอัคคี “ไยจึงมีแต่คนอยากแย่งป๊ะป๋าของข้าตลอดเวลาเลยล่ะ ?”
***จบบทนางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (6)***
บทที่ 575 : นางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (7)
”กระนั้นหรือ?” วิหคอัคคีเอ่ยปากพลางยิ้ม “เจ้าต้องการยืมมือข้ากำจัดศัตรูหัวใจของเจ้า เช่นนั้นจึงไม่ลังเลที่จะใส่ร้ายข้าว่าชอบองค์ราชา”
จุนหรู่ชิงกำมือแน่นนางก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ทว่าด้านหลังนางมีต้นไม้ขวาง ทำให้นางไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้
”น่าเสียดาย… ” วิหคอัคคีก้าวเข้าไปหาจุนหรู่ชิงอีกสองสามก้าว พลางยิ้มอย่างเศร้า ๆ “ข้า…วิหคอัคคี เกลียดการถูกผู้อื่นหลอกใช้เป็นที่สุด !”
บูม!
วิหคอัคคียกมือขึ้นพลันเปลวเพลิงอันร้อนแรงก็กระแทกเข้าที่หน้าอกของจุนหรู่ชิง
”อา!”
จุนหรู่ชิงเปล่งเสียงร้องดังร่างของนางสั่นเทา ใบหน้าของนางซีดเซียว เนื่องจากความเจ็บปวดและสิ้นหวัง
”พวกเจ้าไปได้!” วิหคอัคคีกวาดตาไปมองเหล่าผู้อาวุโส “กราบทูลองค์ราชาด้วยว่า ราชินีจะพำนักอยู่ในภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์สักพัก”
หลังจากกล่าวเช่นนี้แล้วนางก็เพิ่มคำอธิบายต่อว่า “อ้อ !”..อย่าลืมทูลด้วยว่า ราชินีทรงให้สัญญาแล้วว่าจะพำนักที่นี่”
ประเดี๋ยวบุรุษผู้นั้นจะคิดว่านางกักตัว และขโมยคนของเขามาอยู่กับนาง …
ผู้อาวุโสยิ้มเจื่อนๆ “รับทราบ ข้าจะกราบทูลองค์ราชาตามคำของท่าน ส่วนท่านจะจัดการกับจุนหรู่ชิงเช่นใดนั้น สุดแท้แต่ท่าน ข้าไม่ขอออกความเห็นใด ๆ ”
”โอ้!” วิหคอัคคีหัวเราะเยาะ “เช่นนั้นไยจึงมัวร่ำไรอยู่อีก ! ไสหัวไปได้แล้ว !”
นางกลัวตี้คังทว่าเคารพไป๋หยาน
นอกจากคนทั้งสองแล้วนางก็ไม่เคยเห็นหัวผู้ใดทั้งสิ้น …
ครั้นเหล่าผู้อาวุโสได้ยินคำกล่าวของวิหคอัคคีพวกเขาก็ถอยกลับลงจากภูเขาทันที ไม่มีใครเหลียวมองจุนหรู่ชิงผู้ซึ่งถูกทิ้งไว้บนเขาเลย
”ราชินี”วิหคอัคคีลูบคาง “จะจัดการหญิงผู้นี้เยี่ยงไรดี ?”
ไป๋หยานมองจุนหรู่ชิงอย่างเฉยเมย”เจ้าอยากทำอะไรก็ทำเลย ข้าเพียงอยากปรุงยา ไม่มีเวลาสนใจนางหรอก”
”ได้เลย”วิหคอัคคีเอ่ยพลางยิ้ม “เช่นนั้น…หม่อมฉันจะทำให้นาง … ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต !”
นัยน์ตาของจุนหรู่ชิงเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวเสียงคร่ำครวญของนางน่ารันทด “ไม่ ! ข้ายังไม่อยากตาย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ … ”
หลังจากอ้อนวอนแล้วนางก็หัวเราะอย่างดุเดือด
”ราชินี…เจ้าจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ! เจ้าคิดหรือว่าองค์ราชาจะรักเจ้าจริง ๆ ? หากมิใช่เพราะเจ้าให้กำเนิดโอรสของเขาอย่างไร้ยางอาย หากไม่มีเด็กคนนี้องค์ราชาย่อมไม่มีทางยอมรับเจ้า !”
”หุบปากนะ!” สีหน้าของวิหคอัคคีเย็นชา นางกระแทกฝ่ามือพลันเปลวเพลิงก็ลุกโชนขึ้นจากพื้นดินแผดเผาร่างของจุนหรู่ชิงอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของจุนหรู่ชิงบิดเบี้ยวเนื่องจากความเจ็บปวดทว่าริมฝีปากของนางกลับกระตุกยิ้มโล่งอก
วิหคอัคคีดูเหมือนจะคิดอะไรออกนางตะโกนออกว่า “เจ้าต้องการยั่วยุให้ข้าโกรธ หวังให้ข้าสังหารเจ้าให้ตายทันทีกระนั้นหรือ ? โชคไม่ดีนะ ที่ข้าไม่มีวันทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ เพลิงวิหคอัคคีของข้าจะลุกไหม้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ให้เจ้าได้เพลิดเพลินอีกนานนับเดือน ฮ่า ๆ ๆ !”
เพลิงวิหคอัคคีลุกไหม้ทั้งภายใต้เปลวเพลิงนี้วิญญาณของนางจะบอบช้ำอย่างยิ่ง
เช่นนั้นการที่จุนหรู่ชิงต้องการความตายย่อมมิใช่เรื่องง่าย! นางต้องเจ็บปวดทรมานชนิดที่เรียกว่าตายเสียดีกว่าอยู่ !
”อา!”
ภายใต้เปลวเพลิงเสียงของจุนหรู่ชิงกรีดร้องโหยหวนกระทั่งแหบแห้งเสียงของนางดังก้องไปทั่วภูเขาราวหมาป่าร้องครวญ
”เจ้าต้องไม่ตายดีเจ้าต้องไม่ตายดี !”
ไป๋หยาน…เจ้าคิดว่าภายใต้การปกป้องของวิหคอัคคีเจ้าจะปลอดภัยงั้นหรือ ? ในแดนอสูรมีสตรีจำนวนมากที่ต้องการเป็นราชินีอสูร เว้นแต่เจ้าจะซ่อนตัวอยู่ในภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล หาไม่จะต้องมีคนหวังสังหารเจ้าไม่ช้าก็เร็ว !
*****
ไป๋หยานไม่หันกลับมามองนับแต่ต้นจนจบนางจับมือไป๋เสี่ยวเฉินแน่น พลางเดินช้า ๆ ตรงไปสู่ทางเข้าถ้ำ
”หม่ามี้… ” ไป๋เสี่ยวเฉินหันหน้าไปมองไป๋หยาน พลางกล่าวว่า “สำหรับป๊ะป๋าแล้ว เฉินเอ๋อจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ หม่ามี้ต่างหากที่เป็นคนสำคัญที่สุดของเขา”
***จบบทนางเป็นแขกสำคัญของภูเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ (7)***