จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 676-680
นางต้องการสังหารหญิงผู้นี้ นางก็ไม่ควรรีบร้อน
มู่เหลงรู้ความสำคัญของสภาอาวุโสดีนางพยักหน้าเล็กน้อย “เอาละ วันนี้ข้าจะไม่ถือสานาง เหอซุ่ยซุ่ย เจ้าไปกับข้า”
เหอซุ่ยซุ่ยยันกายลุกขึ้นจากพื้นนางกำลังจะหันหลังกลับ และเดินไปกับมู่เหลง ทว่าชั่วขณะนั้นน้ำเสียงที่ไม่ต่างจากเสียงปีศาจก็ดังมาอีกครั้ง
”ข้าอนุญาตให้เจ้าไปแล้วงั้นรึ?”
ร่างของเหอซุ่ยซุ่ยแข็งค้างนางกุมฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าของนางซีดเซียวขณะกล่าวว่า “เจ้าคิดจะทำอะไร ?”
แววตาของไป๋หยานเต็มไปด้วยรอยยิ้มนางก้าวช้าๆ เข้าไปหาเหอซุ่ยซุ่ย มือของนางคว้าสาบเสื้อของเหอซุ่ยซุ่ย จากนั้นก็เหวี่ยงเหอซุ่ยซุ่ยออกนอกประตูโรงเตี๊ยมอย่างแรง
”ข้าเพียงอยากจะให้บทเรียนกับเจ้าข้าหวังว่าต่อไปอย่าได้คิดไม่ดีกับจิ้งจอกน้อยของข้าอีก” ไป๋หยานปัดมือพร้อมกับยิ้มเยาะเย้ย หลังจากจัดการเหอซุ่ยซุ่ยเรียบร้อยแล้ว นางก็หันไปมองจิ้งจอกน้อย “อาหารกลางวันของวันนี้ถูกทำลายสิ้นแล้ว เช่นนั้นเราก็กลับบ้านไปทำอาหารกินกันเองจะดีหรือไม่ ?”
นัยน์ตาของจิ้งจอกน้อยสดใสเบิกบานเขาพยักหน้าอย่างแรง ลิ้นสีชมพูของเขาเลียใบหน้าไป๋หยานอย่างเอาใจ
”ไปกัน…”
ไป๋หยานทำให้ผู้คนในโรงเตี๊ยมถึงกับยืนตะลึง นางเดินออกจากโรงเตี๊ยม โดยไม่รู้ว่านางเหยียบเหอซุ่ยซุ่ยหรือไม่ ?
เหอซุ่ยซุ่ยผู้ซึ่งกำลังนอนมึนงงอยู่พลันถูกไป๋หยานเหยียบย่ำลงบนตัวนางกระอักเลือดออกไปไกลถึงสามจ้าง ทั้งก็เกือบจะหมดสติไปวูบหนึ่ง
เมื่อเทียบกับเหอซุ่ยซุ่ยแล้วมู่เหลงกลับโกรธมากกว่าที่ถูกไป๋หยานเพิกเฉย
สีหน้าของมู่เหลงยังคงนิ่งทว่ามือทั้งสองข้างของนางกุมกันอย่างเงียบ ๆ เจตนาสังหารปะทุขึ้นในหัวใจของนาง “หญิงผู้นี้ต้องตาย !”
ข้าไม่มีวันละเว้นชีวิตเจ้าแน่!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วมู่เหลงก็หลับตาลง พลางเดินช้า ๆ ไปหยุดหน้าเหอซุ่ยซุ่ย เอ่ยกล่าวว่า “หากเจ้ายังสามารถลุกขึ้นมาได้ก็ไปกับข้า ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
***จบบทไม่อาจละเว้นชีวิตเจ้า (2)***
บทที่ 680 : ไม่อาจละเว้นชีวิตเจ้า (3)
เหอซุ่ยซุ่ยวิงเวียนศีรษะนางต้องการให้มู่เหลงช่วยพยุง หากแต่มู่เหลงก็เดินจากไปแล้ว นางทำได้เพียงฝืนกายลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ไล่ติดตามสตรีเบื้องหน้าไปอย่างรวดเร็ว
*****
ภายในห้องส่วนตัวบ้านสกุลมู่มู่เหลงจ้องมองสตรีที่ยืนอยู่เบื้องหน้านางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าลืมสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าก่อนหน้านี้แล้วกระนั้นหรือ ?”
”ข้า… ” เหอซุ่ยซุ่ยก้มหัว พลางกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก “ข้าหิวมาหลายวันแล้ว และข้าก็อดไม่ไหว … ”
ปัง…
มู่เหลงทุบมือลงบนโต๊ะพลางกล่าวด้วยแววตานิ่งสงบ “เจ้ายังต้องการจะมีชีวิต และได้เป็นผู้มีคุณของหวนหยินอีกหรือไม่ ? ทั้งเจ้ายังต้องการกดหัวสตรีที่แกล้งเจ้าในวันนี้ไว้ใต้ฝ่าเท้าของเจ้าด้วยหรือไม่ ?”
ในหัวของเหอซุ่ยซุ่ยหน้าตาท่าทางอันเย่อหยิ่งยโสโอหังของไป๋หยานพลันปรากฏขึ้น ทำให้ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ข้าต้องการ…!”
”หากเจ้าต้องการเช่นนั้นข้ามียาเม็ดนี่ กินซะ” น้ำเสียงของมู่เหลงอ่อนลง เล็กน้อย นางหยิบยาออกมาจากสาบเสื้อ ส่งมอบให้กับเหอซุ่ยซุ่ย
เหอซุ่ยซุ่ยตกใจพลางจ้องมองมู่เหลงอย่างหวาดกลัว “ข้าทำอะไรผิดไปงั้นหรือ ?
เมื่อเหอซุ่ยซุ่ยกล่าวเช่นนี้สีหน้าของมู่เหลงพลันเคร่งเครียดลงเล็กน้อย
”นี่คือยาอี้เฉิน”
”ยาอี้เฉิน?”
นัยน์ตาของเหอซุ่ยซุ่ยเต็มไปด้วยความสงสัย นางไม่เข้าใจความหมายของมู่เหลง
”ใช่แล้วยาอี้หรงนั้นใช้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของบุคคล ทว่ายาอี้เฉินสามารถเปลี่ยนรูปร่างของคนได้ หากเจ้าใช้ยาอี้เฉิน แล้วคิดถึงรูปร่างที่เจ้าต้องการเปลี่ยน รูปร่างของเจ้าก็จะเปลี่ยนไปตามที่เจ้าคิด” มู่เหลงกล่าวต่อหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “ส่วนรูปร่างที่เจ้าคิดจะเปลี่ยนนั้น ข้าคิดว่าสตรีที่เจ้าเจอในวันนี้ก็ไม่เลวนัก เจ้าควรเปลี่ยนรูปร่างของเจ้าให้เหมือนนาง”
เหอซุ่ยซุ่ยไม่สงสัยใดๆ เลย นางรีบรับยาอี้เฉินมาอย่างมีความสุข
หากกินยาเม็ดนี้แล้วนางก็ไม่ต้องทนทรมานอดอาหารอย่างหนักอีกแล้ว
”แม่นางมู่เหลงเหตุใดเจ้าไม่ให้ยาอี้หลงนี่กับข้าด้วยล่ะ ?
ทันทีที่เหอซุ่ยซุ่ยนึกถึงรูปลักษณ์ที่สวยงามของหญิงสาวผู้นั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง
หากนางมีรูปร่างหน้าตาเช่นนั้นจะมีบุรุษหล่อเหลามากมายเพียงใดมาเกี้ยวพาหนอ ? แม้แต่เจ้าตำหนักน้อยรองก็ต้องหลงใหลนางอย่างง่ายดายเป็นแน่
”ก็ข้าไม่มียาอี้หลง!” ครั้นมู่เหลงเห็นเหอซุ่ยซุ่ยเริ่มคิดไปไกล นางก็ไม่พอใจนัก
ต่อให้นางมีนางก็ไม่มอบให้เหอซุ่ยซุ่ยหรอก
“โอ้!”
เหอซุ่ยซุ่ยรู้สึกผิดหวังนางมองยาอี้เฉินในมือ พลางส่งมันเข้าปาก จากนั้น ก็กลืนมันลงคอ
ชั่วขณะนั้นนางก็หลับตาแล้วนึกถึงเรือนร่างของไป๋หยาน
หลังจากนั้นเพียงเสี้ยวนาทีนางก็ลืมตาขึ้นมองร่างของตน นางพบว่าน้ำหนักตัวของนางลดลงอย่างมาก ยามนี้ปรากฏส่วนเว้าส่วนโค้งไม่ต่างจากไป๋หยานเลย
”ยาเม็ดอี้เฉินนี้จะส่งผลชั่วระยะเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้นหลังจากผ่านไปสามเดือน เจ้าจะต้องกลับมากินยาเม็ดอี้เฉินอีกครั้งเพื่อรักษารูปร่างนี้ไว้” มู่เหลงกล่าว “นอกจากนี้ ข้าขอบอกเจ้าก่อนว่า ผลข้างเคียงของยาเม็ดอี้เฉินก็คือภายหลังจากกินยานี้แล้ว เจ้าจะไม่อาจมีทายาทได้อีกต่อไป”
ว่าไงนะ?
เหอซุ่ยซุ่ยเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดกลัวใบหน้าของนางซีดเซียว “เจ้าไม่ทำร้ายข้าเช่นนั้นหรอกใช่หรือไม่ แม่นางมู่เหลง ? ในฐานะสตรี ข้านึกไม่ออกเลยว่าหลังจากนี้ ข้าจะแต่งงานได้อย่างไร ?”
”อย่าเพิ่งกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่าลืมสิว่าข้าเป็นหมอปรุงยาที่เก่งที่สุดในตำหนักเซียนพยับหมอก เมื่อข้าสามารถก้าวเข้าสู่หมอปรุงยาขั้นที่เจ็ด ข้าก็สามารถปรุงยาเพื่อรักษาเจ้าได้”
ทว่าในใจของมู่เหลงไม่ได้คิดที่จะช่วยปรุงยาเพื่อรักษาเหอซุ่ยซุ่ยเลยแม้ว่าตอนนี้นางจะเป็นหมอปรุงยาระดับสี่ หากแต่ตอนนี้นางก็ยังเยาว์วัย อย่างไรเสียนางก็ต้องถึงระดับเจ็ดแน่ไม่ช้าก็เร็วคงไม่กี่สิบปีหรอกน่า
***จบบทไม่อาจละเว้นชีวิตเจ้า (3)***