จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 68
บทที่ 68 : เตะเขำ !
“แต่ว่า …” ไป๋เสี่ยวเฉินเอียงคอ ด้วยท่าทางไร้เดียงสา
“หญิงชั่วผู้นั้นยังคว้าบุรุษมาทาลูกได้ ก็แล้วไยหม่ามี้ถึงทา
ไม่ได้ล่ะ ? หวังเสี่ยวผางที่อยู่ข้างบ้านก็มีน้องสาว เฉินเอ๋อก็อ
ยากมีน้องสาวบ้าง”
“หวังเสี่ยวผางคือผู้ใด ?” ไป๋หยานเลิกคิ้วพร้อมกับเอ่ยถาม
“เขาอาศัยอยู่บ้านถัดจากเรา เป็นเพื่อนใหม่ของเฉินเอ๋อ
ครอบครัวของเขาร่ารวยมาก หวังเสี่ยวผางเลยกินจนอ้วนฉุ”
ไป๋หยานขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิดเล็กน้อย และแล้วนางก็เข้าใจ
เด็กข้างบ้านผู้นี้มิได้มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทว่าเป็นเพื่อน
ใหม่ของไป๋เสี่ยวเฉินที่อาศัยอยู่บ้านข้าง ๆ ถัดจากบ้านของ
นางในเมืองหลิวฮั่วนี้
แม้ว่าสติปัญญา และบุคลิกของเฉินเอ๋อจะสูงกว่าระดับปกติ
หากแต่เขาก็ยังเป็นเพียงเด็ก เด็กก็ย่อมต้องการเล่นกับเพื่อน
ในวัยเดียวกัน
“ลูกรัก” ไป๋หยานอุ้มบุตรชายของตนขึ้นมา พลางใช้นิ้วคีบ
จมูกเล็ก ๆ ของเขา “น้องสาวน่ะใช่ว่าอยากจะมีก็มีได้นะ มัน
ต้องแล้วแต่โชคชะตา ตอนนี้เจ้ายังเด็กไว้เจ้าโต เจ้าก็จะเข้าใจ
เอง ”
ไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้ารับราวกับว่าเข้าใจ
เขาอิจฉาหวังเสี่ยวผางเพื่อนของเขายิ่งนัก หวังเสี่ยวผางมี
น้องสาวที่น่ารัก เช่นนั้นเขาจึงรั้นไม่ฟังคามารดา
“หม่ามี้ งั้นเราไปตามหาป๊ะป๋ากันเลยดีมั้ย ? หากป๊ะป๋า
ต้องการพาเฉินเอ๋อไปกับป๊ะป๋า หม่ามี้ก็ไปพร้อมกับพวกเรา
ด้วยดีมั้ย ?”
ก็ถ้าหาป๊ะป๋าเจอ ข้าก็จะมีน้องสาวไง
“แล้วถ้าป๊ะป๋าต้องการแต่เจ้า แล้วไม่ต้องการหม่ามี้ของเจ้าล่ะ
?”
เฉินเอ๋อมิได้เกิดจากความรัก และความพึงพอใจของทั้งสอง
ฝ่าย ทว่าเกิดจากนางโดนยาปลุกกาหนัด จึงต้องการคนช่วย
ระบายพิษยาต่างหาก
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เช่นนั้นเขาจึงตกตะลึง
กับคาถาม
เด็กน้อยได้แต่นิ่งเงียบ
หลังจากนิ่งคิดเพียงครู่ ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ของไป๋เสี่ยวเฉิน
พลันฉายประกาย …
“หม่ามี้แสนดีขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ป๊ะป๋าจะไม่ต้องการท่าน !
แต่หากเขาไม่ต้องการหม่ามี้จริง ๆ … เฉินเอ๋อก็ไม่ต้องเขา
เช่นกัน”
ร่างเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินซุกเข้าไปในอ้อมแขนของมารดา
มือของเขาจับแขนเสื้อของนางแน่น
ในโลกนี้ เขายอมสูญเสียทุกสิ่ง ขอเพียงมีหม่ามี้คนเดียวก็
พอแล้ว !
ไป๋หยานกอดร่างเล็ก ๆ นุ่ม ๆ ไว้ในอ้อมแขน ริมฝีปากเผย
รอยยิ้มพึงใจ
ตลอดชีวิต นางไม่เคยนึกเสียใจที่ให้กาเนิดไป๋เสี่ยวเฉินลูกคน
นี้เลย
ทันใดนั้นเอง สายลมยามค่าก็พัดหวีดหวิว พลันกลิ่นจาง ๆ ที่
นางคุ้นเคยก็ลอยมาแตะจมูก นั่นทาให้นางรู้สึกหวาดกลัวจน
หน้าซีด ไป๋หยานผลุนผลันลุกขึ้นจากเก้าอี้ นางรีบหยิบยาเม็ด
หนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
“ยานี้สามารถปกปิดกลิ่นอายของเจ้าได้ รีบกินยานี้เร็ว
จากนั้นก็ไปซ่อนใต้เตียง จาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามเจ้า
ออกมา !”
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เขาถูกมารดาบังคับให้กลืนยา
จากนั้นมารดาก็รีบยัดตัวเขาลงใต้เตียง
ชั่วอึดใจถัดมา ร่างที่เปล่งประกายแพรวพราวก็โผล่เข้ามา
เส้นผมสีเงินยวงของเขาช่างมีเสน่ห์หาใดเทียบ
เย่อหยิ่ง ชั่วร้าย เย้ายวนใจ ไม่มีถ้อยคาใดสามารถอธิบาย
บุรุษผู้นี้ได้เลย
ในอาภรณ์สีม่วง ยิ่งขับให้เขาแลดูสง่างามโดดเด่นในยาม
ราตรี นัยน์ตาหงส์ของเขาเปล่งประกายแลดูมืดมน ทว่าก็
งดงามแวววาว
ไป๋หยานถึงกับหายใจติดขัด คนอะไรจะหล่อเหลาปานนี้ ! ไม่
น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดหญิงสาวในอาณาจักรนี้ต่างก็อยาก
เป็นชายาของอ๋องคัง !
น่าเศร้าที่ว่า ….
สิ่งใดสวยงามมาก ก็มักจะอันตรายมาก !
บุรุษผู้นี้ก็เหมือนบุปผาที่อยู่ปลายยอดผา หากไม่ระวัง ยาม
เอื้อมมือเด็ด อาจตกลงสู่หุบเหวลึก ที่สุดย่อมพบจุดจบที่
แหลกลาญไม่ต่างจากความหลงเพ้อที่พวกนางเรียกว่าความ
รัก
“เจ้ากาลังคิดสิ่งใด ?”
ในขณะที่ไป๋หยานกาลังนิ่งงันอยู่นั้น บุรุษผู้นั้นก็มายืนอยู่เบื้อง
หน้านางแล้ว ลมหายใจร้อน ๆ ปะทะใบหน้านางบางเบา
ปลุกให้ไป๋หยานรู้สึกตัว
ครั้นนางเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นยื่นเข้ามาใกล้ นางก็ไม่
ลังเลที่จะเหยียดเท้าออกไปหมายจะเตะเขา