จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 73
บทที่ 73 : ไทเฮำมีรับสั่งให้เข้ำเฝ้ำ (1)
วันรุ่งขึ้น
แสงตะวันยามเช้าทอลอดผ่านหน้าต่าง
เสียงกึกก้องจากด้านนอกดังทาลายความเงียบสงบภายใน.
ห้อง
ไป๋หยานย่นหน้าผาก ก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ มือของนางควาน
หาร่างเด็กชายที่เคยนอนอยู่ในอ้อมแขน ทว่าตอนนี้กลับ
หายไปแล้ว
ที่นอนยังอุ่น ๆ อยู่ ชี้ชัดว่าเมื่อครู่ เขายังนอนอยู่ตรงนี้
“พี่ไป๋หยาน”
ปัง !
เสียงเรียกดังมาจากด้านนอก พลันประตูก็เปิดออก หลาน
เสี่ยวหยุนวิ่งผลุนผลันเข้ามา ใบหน้าที่น่ารักของนางเปี่ยมไป
ด้วยความสุข
“เกิดอะไรขึ้น”
ครั้นเห็นหลานเสี่ยวหยุนมีทีท่าเช่นนั้น ไป๋หยานก็เดาได้ว่า
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ในขณะที่นางหลับ
“พี่ไป๋หยาน พี่จาได้หรือไม่ว่าเมื่อคืน ก่อนที่พี่จะออกจากงาน
เลี้ยงพี่ขอให้ท่านพ่อไปพบน้องชายพี่ที่บ้านสกุลไป๋ ?” หลาน
เสี่ยวหยุนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เมื่อคืนนี้ท่านพ่อของข้าได้พบ
กับไป๋เฉิงเซียง คนสารเลวนั่นพยายามยับยั้งไม่ให้เขาได้พบ
กับไป๋เซียว ทว่าสุดท้ายแล้วท่านพ่อของข้าก็ฝ่าเข้าไปข้างใน
จนได้”
“โอ้ ?”
ไป๋หยานเลิกคิ้ว “แล้วเรื่องนี้ดียังไง ?”
“แน่ล่ะ ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก ทว่าเป็นเรื่องที่ข้ากาลังจะเล่าต่อ
จากนี้ต่างหาก” หลานเสี่ยวหยุนกล่าว ขณะที่ดวงตาของนาง
วาวแววเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “ครั้นท่านพ่อของข้า และ
ผู้ติดตามบุกเข้าบ้านสกุลไป๋ได้ เขาก็เห็นหยูหรงกาลังเป็นบ้า !
ราวกับว่านางถูกบางสิ่งบางอย่างครอบงา นางเกามือตนเอง
ตลอดเวลา และที่สาคัญที่สุดก็คือนางเริ่มถอดเสื้อผ้าต่อหน้า
ธารกานัล ! ”
นัยน์ตาของไป๋หยานดูเหมือนครุ่นคิด นางเดาได้เลยว่าเรื่องที่
เกิดขึ้นต้องเป็นฝีมือของไป๋เสี่ยวเฉินบุตรชายของนางเป็นแน่
ซึ่งนางต้องยอมรับว่าเขาทาได้ดีมาก !
“พี่ไป๋หยาน พี่ไม่มีความสุขหรือ ที่มีคนตั้งหลายคนเห็นร่าง
เปลือยของหยูหรง ?” ใบหน้าของหลานเสี่ยวหยุนเปลี่ยนเป็น
สีแดง แววตาของนางเปล่งประกายสดใส เต็มไปด้วยความ
ตื่นเต้นอย่างมิอาจซ่อนเร้นได้ “หากข้ารู้มาก่อนว่าหยูหรงจะ
แก้ผ้า ข้าจะให้ท่านพ่อยกพวกไปที่บ้านสกุลไป๋มากกว่านี้อีก”
เมื่อคิดถึงสิ่งที่หยูหรงได้รับแล้ว ไป๋หยานก็ยกยิ้ม
“ความเจ็บปวดที่นางเคยมอบให้ข้าเมื่อหลายปีก่อน ข้าจะ
ค่อย ๆ ทวงคืน ด้วยมือของข้าเอง !”
หลานเสี่ยวหยุนเอียงคอ พลางกระพริบตาอย่างสับสน …
เหตุใดดูเหมือนพี่ไป๋หยานจะรู้ว่าเป็นฝีมือผู้ใด ?
จิ้งจอกล่ะ ?
ทันใดนั้นเองเด็กสาวก็นึกขึ้นมาได้ เมื่อเช้านี้บิดาของนางได้
เล่าให้นางฟังว่า เมื่อคืนบ้านสกุลไป๋สาละวนกับการค้นหา
สุนัขจิ้งจอกทั่วบ้าน ซึ่งลักษณะของสุนัขจิ้งจอกตัวนั้น
ใกล้เคียงกับสุนัขจิ้งจอกที่พวกนางพบบนถนนเมื่อวานนี้ …
ชั่วขณะนั้นเองแววตาของนางก็ฉายประกายเท่าทัน “จิ้งจอก
พี่ไป๋หยาน หรือว่าพี่…. ? ”
ไป๋หยานเหยียดแขนของตน ราวกับคนเพิ่งตื่นนอน เพื่อ
ขัดจังหวะการซักถามของหญิงสาว “ข้ากาลังจะล้างหน้าล้าง
ตา เจ้าออกไปข้างนอกก่อนจะดีหรือไม่ ?”
“ไม่ !” หลานเสี่ยวหยุนตีหน้าเศร้า “ข้ายังพูดไม่จบเลย พี่ก็จะ
ไล่ข้าออกไปแล้วหรือ”
“ยังมีอะไรอีกหรือ ?”
“คือท่านปู่สั่งให้ข้ามาบอกพี่ว่า ไทเฮามีรับสั่งให้พี่เข้าเฝ้า
พระองค์มีพระประสงค์จะพบพี่ แต่เป็นเพราะพี่ยังหลับอยู่
ท่านปู่เลยไม่ยอมให้ข้าเข้ามารบกวนพี่”
ไทเฮากระนั้นรึ ?
ไป๋หยานนิ่งเงียบเมื่อได้รับฟัง
ความประทับใจของนางที่มีต่อไทเฮานั้นไม่ลึกซึ้งเท่าใดนัก
หากแต่นางก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างมารดาของนางกับ
ไทเฮานั้นดีมาก มากเสียกระทั่งไทเฮาทรงมีพระประสงค์ให้
หลานเยี่ยอภิเษกเข้าวัง อย่างไรก็ตามเนื่องจากมารดาของ
นางปฏิเสธ ไทเฮาจึงรับมารดาของนางเป็นบุตรบุญธรรมแทน
ด้วยเหตุนี้ เมื่อครั้งไป๋หยานคนเดิมยังเยาว์ นางจึงมักติดตาม
มารดาเข้าวังหลวงเพื่อเฝ้าไทเฮา ทว่านับแต่หลานเยี่ยจาก
โลกนี้ไป เด็กสาวกาพร้าก็ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านสกุลไป๋ นั่น
เป็นเหตุที่ความสัมพันธ์อันดีในอดีตของพวกนางเปลี่ยนเป็น
เหินห่างไป
“เจ้าไปเรียนท่านตาทีเถิดว่า ข้าขอเตรียมตัวก่อน จากนั้นจึง
จะเข้าวัง”
ในเมื่อตอนนี้นางกลับมายังเมืองหลวงแล้ว เช่นนั้นย่อม
เป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงไม่เข้าวังหลวง