จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 75
บทที่ 75 : ไทเฮำมีรับสั่งให้เข้ำเฝ้ำ (3)
“เสด็จแม่” ไป๋รั่วรีบเอ่ยปาก “เมื่อคืน องค์รัชทายาทเสด็จไป
ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับพี่สาวของหม่อมฉัน จึงได้ทราบว่าท่านผู้
เฒ่าเจ้าบ้านหลานอาการดีขึ้นมากแล้ว หากสวามีของหม่อม
ฉันรับพี่สาวของหม่อมฉันมาเป็นพระสนม สวามีของหม่อม
ฉันก็จะได้รับการสนับสนุนจากบ้านสกุลหลาน ซึ่งจะเป็น
ประโยชน์อย่างมากสาหรับเขาในกาลข้างหน้า”
“แต่ว่า …”
ไป๋หยานเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว หากองค์รัชทายาทรับนาง
เป็นพระสนม จะไม่เท่ากับทาให้ราชวงศ์แปดเปื้อนกระนั้นรึ ?
ดูเหมือนไป๋รั่วจะตระหนักถึงความกังวลของฮองเฮา นางจึง
ยิ้มหวานประจบ “เสด็จแม่ เรื่องนี้เราก็ประกาศต่อ
สาธารณชน เพียงว่าพี่สาวของหม่อมฉันเข้าตาหนักองค์รัช
ทายาท เพื่อติดตามหม่อมฉัน ทว่าแท้จริงแล้ว ฐานะของนาง
ก็คือพระสนมคนหนึ่งขององค์รัชทายาท ด้วยวิธีนี้ราชวงศ์
ของเราก็จะปราศจากมลทิน”
หนิงไต้หันมาทอดพระเนตร นางรู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวกล่าวมานั้น
เป็นความจริง แม้ว่าพระนัดดาของนางจะมีวาสนาบารมีที่ไม่
ธรรมดา หากแต่ก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าบัลลังก์จะตกอยู่
ในมือพวกเขา ยามนี้ราษฎรต่างจับตามององค์รัชทายาท
เช่นนั้นหากพวกเขาสามารถรวมอานาจของบ้านสกุลหลาน
เข้ามาได้ ก็จะเป็นการช่วยประกันความมั่นคงขององค์รัช
ทายาทอีกระดับหนึ่ง
แน่นอนว่า หนิงไต้ย่อมไม่เปิดเผยความคิดในใจของนาง
ออกมา นางมองหน้าไป๋รั่วที่ยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเห็นใจ ก่อน
จะกล่าวขึ้นว่า “รั่วเอ๋อ หากเราทาเช่นนั้น จะกลายเป็นเรื่อง
ยากสาหรับเจ้านะ”
การยอมให้มีสตรีอีกคนร่วมเตียง นางจะหลับอย่างมีความสุข
ได้เยี่ยงไร ?
จะมีสตรีสักกี่คนที่ยอมเสียสละหาคู่นอนให้สามีของตนเอง ?
การที่ไป๋รั่วตัดสินใจทาเรื่องที่ยากลาบากเช่นนี้ได้ ย่อมพิสูจน์
ได้อย่างชัดเจนว่า นางเป็นสตรีที่มีคุณธรรมสูงส่ง อีกทั้งยังมี
จิตใจดีงามยิ่ง
“เสด็จแม่ หม่อมฉันไม่เสียใจเพคะ” ไป๋รั่วส่ายศีรษะ “ตราบใด
สิ่งที่หม่อมฉันทาเป็นเรื่องดีสาหรับพระสวามีแล้ว หม่อมฉันก็
ยอมแม้ต้องสละตาแหน่งพระชายาเอกให้นางก็ตาม !”
แววตาของหนิงไต้ยิ่งชื่นชมพระสุณิสาคนนี้ของนางมากขึ้น
เรื่อย ๆ ขณะที่ทัศนคติที่มีต่อไป๋หยานก็แย่ลงเรื่อย ๆ เช่นกัน
ไป๋หยาน เจ้าคิดว่าพระสวามีของข้าจะชายพระเนตรแลมอง
เจ้ากระนั้นหรือ ? ไม่มีทาง องค์รัชทายาทไม่มีวันแตะต้อง
สตรีไม่บริสุทธิ์เช่นเจ้า !
ข้าเพียงอยากให้เจ้ามาอยู่ใต้ฝ่าเท้าของข้า เพื่อที่ข้าจะได้
เหยียบย่าเจ้าให้สาแก่ใจ !
“พวกเจ้าเข้ามานี่สิ !” หนิงไต้พยักหน้าเห็นด้วย พระนาง
ทอดพระเนตรไป๋รั่วอย่างปลอบประโลมพลางกล่าวว่า “ส่งคน
ไปรอนอกพระตาหนักอันหนิง ทันทีที่ไป๋หยานปรากฏตัว เจ้า
ก็เชิญนางมาพบข้าที่นี่ !”
“เพคะ ฮองเฮา”
นางกานัลค่อย ๆ วางถาดผลไม้ลง จากนั้นนางก็ย่อเข่าถวาย
บังคม ก่อนจะก้าวถอยหลังออกไป
*****
เมื่อไป๋หยานเข้ามาถึงในวังตามรับสั่งขององค์ไทเฮา นางก็
ตรงไปยังพระตาหนักอันหนิง ซึ่งยามนี้ไทเฮากาลังประทับรอ
นางอยู่
เสียงขันทีประกาศว่าไป๋หยานมาถึงพระตาหนักแล้ว ประตู
พลันเปิดออก ม่านชั้นในถูกดึงขึ้น
ไป๋หยานเงยหน้าขึ้นมอง นางเห็นหญิงชราหน้าตาใจดีเดินเข้า
มาโดยมีเด็กสาวผู้หนึ่งช่วยประคอง หญิงชรามองไป๋หยาน
พร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“เจ้าคือไป๋หยานใช่หรือไม่ ? ข้าไม่ได้พบเห็นเจ้านานหลายปี
ดูสิเจ้าโตขึ้นมากทีเดียว”
ไทเฮาทรงสัมผัสมือของไป๋หยาน พร้อมกับลูบเบา ๆ นางถอน
พระทัยอย่างโศกเศร้า “หลานสาว…อย่าตาหนิข้าที่มิได้
ปกป้องเจ้า ในครานั้นฮ่องเต้ทรงยืนกรานให้ยกเลิกการ
อภิเษกสมรส แม้ว่าข้าจะเชื่อมั่นในตัวเจ้า ว่าเจ้าหาใช่คน
เช่นนั้นไม่ หากแต่ข้าก็มิอาจเปลี่ยนพระทัยฮ่องเต้ได้”
แม้จะเป็นที่รู้กันว่าฮ่องเต้เป็นบุตรที่แสนกตัญญูเพียงใด
หากแต่เพราะความห่วงใยในชื่อเสียงของราชวงศ์ พระองค์จึง
ไม่มีทางที่จะมีพระราชานุญาตให้สตรีที่ไม่บริสุทธิ์อย่างไป๋ห
ยานเข้าร่วมราชวงศ์ได้
“พวกเจ้ามัวยืนรออะไรกันอยู่ ?” ไทเฮาทอดพระเนตรนาง
กานัลที่รายล้อมรอบ ๆ พระวรกาย พร้อมกับมีรับสั่งเสียงดัง
ลั่น “เหตุใดยังไม่รีบไปหาที่นั่งให้ไป๋หยานอีกเล่า”
“เพคะ ไทเฮา”
นางกานัลย่อเข่ารับพระดารัสอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบถอย
ออกไป เพียงชั่วอึดใจ เก้าอี้ก็ถูกนามาวางด้านหน้าไป๋หยาน
“ไทเฮา พระองค์ทรงรู้สึกไม่สบายพระวรกายที่ใดบ้างหรือไม่
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ?” หลังจากไป๋หยานมองพระพักตร์
ที่แลดูหมองเล็กน้อยขององค์ไทเฮา สีหน้าของไป๋หยานพลัน
แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง
ไทเฮานิ่งอึ้งชั่วครู่ จากนั้นพระนางก็ทรงพระสรวล “เจ้าช่างใส่
ใจห่วงใยข้าไม่ต่างกับมารดาของเจ้า ใช่แล้ว แท้จริง เมื่อไม่
นานมานี้ข้าเพิ่งป่วย แต่ก็เพียงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าข้าคงจะ
โหมงานหนักเกินไป คงไม่เป็นไรหรอก”
“หม่อมฉันเกรงว่า จะไม่เล็กน้อย เช่นที่เข้าพระทัย … ”