จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1196-1200
บทที่ 1196 : การสมคบคิดระหว่างหนิงหยวนกับบุตรสาว (5)
ใบหน้าของหนิงเยี่ยแข็งกระด้างนางหลับตาลง พลันภาพของไป๋หนิงก็ปรากฏขึ้นในใจของนาง จากนั้นเพียงไม่นานนางก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
“ท่านพ่อกล่าวถูกแม้ว่าคนพวกนี้จะกระทำผิดร้ายแรง ท่านอาหนิงก็ให้อภัยพวกเขาเสมอ หาไม่เหตุใดหลายปีที่ผ่านมา นางจึงยังคงคิดถึงนังหมาป่าตาขาว (เด็กอกตัญญู) คนนั้นอยู่อีก เช่นนั้นข้าต้องทำให้ท่านอาหนิงผิดหวังในตัวหญิงผู้นั้นให้จงได้ !”
”เด็กดี”หนิงหยวนยิ้ม นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเมตตา “ต่อไปเจ้าต้องช่วยพ่อทำอะไรบางอย่าง… ”
”อะไร?”
หนิงเยี่ยหันไปมองหนิงหยวน
ขอเพียงทำให้ท่านอาหนิงผิดหวังในตัวบุตรสาวที่นางให้กำเนิดข้าก็เต็มใจที่จะทำทุกอย่าง
”ข้ามียาพิษเพียงเจ้าใส่ยาพิษนี้ให้หญิงผู้นั้น นางจะต้องตายอย่างแน่นอน !”
ยาพิษรึ?
หนิงเยี่ยผงะไปชั่วขณะนางมองยาเม็ดสีเขียวที่หนิงหยวนยื่นมาตรงหน้าด้วยแววตาตื่นตระหนก
”ท่านพ่อท่านให้ข้าทำเช่นนี้ หากท่านอาหนิงรู้เรื่อง นางก็ต้องไม่ชอบข้าอีกแน่ นับแต่ข้ายังเด็ก ข้าถือว่าท่านอาหนิงเปรียบเสมือนมารดาผู้ให้กำเนิดข้ามาโดยตลอด ข้าไม่อยากให้นางเกลียดข้า”
นางเพียงอยากจัดการกับไป๋หยานและไป๋เสี่ยวเฉิน แค่ต้องการทำให้ไป๋หนิงเข้าใจผิดแล้วไล่พวกเขาไป หากไป๋หยานถูกวางยา และหากท่านอาหนิงรู้ว่าเป็นฝีมือของนาง วันหน้านางจะอยู่เคียงข้างท่านอาหนิงได้อย่างไร ?
หนิงเยี่ยกัดริมฝีปากของตนเองแน่นนางลังเลอยู่ครุู่หนึ่ง “ท่านพ่อ ข้าจะคิดหาวิธีล่อพวกเขาออกมา จากนั้นท่านก็สังหารพวกเขาซะ ด้วยพละกำลังของท่าน หญิงผู้นั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่านเป็นแน่”
ใบหน้าของหนิงหยวนแข็งค้าง
ด้วยความแข็งแกร่งแล้วหญิงผู้นั้นมิอาจสู้เขาได้เป็นแน่ หากแต่รอบตัวนางกลับเปี่ยมด้วยคนที่มากด้วยความสามารถ อีกทั้งการบาดเจ็บของเขาในครั้งนี้ก็เกิดจากคนเหล่านั้นเสียด้วย
ให้เขาจัดการกับไป๋หยานอีกเขาจะกล้าเสี่ยงได้เยี่ยงไร ?
หนิงหยวนไอแห้งๆ พลางกระแอมในลำคอ “เยี่ยเอ๋อ…อย่ากลัวไปเลย ท่านอาหนิงของเจ้าจะไม่ชอบเจ้าได้อย่างไร ? ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร เจ้าก็เป็นคนที่นางชื่นชอบและเอ็นดูตลอดมา หลังจากหญิงผู้นั้นตาย นางก็จะกลับมาเป็นเช่นเดิมเอง”
หนิงเยี่ยมองยาพิษที่หนิงหยวนส่งมาให้นางตัวสั่นขณะยื่นมือออกไปรับยาเม็ดสีเขียวที่อยู่ในมือเขา พลางกัดริมฝีปากเอ่ยกล่าวว่า “ท่านพ่อข้าทราบแล้ว ข้าจะทำตามที่ท่านบอก ”
”เด็กดี”รอยยิ้มของหนิงหยวนเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแสงสดใส “หลังจากนั้น หนิงเอ๋อก็จะกลายเป็นมารดาของเจ้า เจ้าก็จะกลายเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของนาง ทั้งจะไม่มีผู้ใดแย่งนางไปได้อีก”
หนิงเยี่ยคว้ายาเม็ดมาไว้ในมือแล้วกำแน่นนางสูดลมหายใจเข้าลึก ที่สุดก็เหลือบมองหนิงหยวน ก่อนจะก้าวไปที่โรงเตี๊ยม
บางทีอาจเป็นเพราะความหวาดกลัวในใจที่ทำให้นางเดินเซเล็กน้อยนางใช้เวลานานมาก กว่าจะเดินไปถึงประตูโรงเตี๊ยมทั้งที่ระยะทางนั้นใกล้มาก
นางจ้องมองโรงเตี๊ยมที่งดงามเบื้องหน้าที่สุดนางก็ก้าวเท้าเข้าไป …
“เยี่ยเอ๋อ”
จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกมาจากชั้นบน หนิงเยี่ยสั่นไปทั้งตัว นางเงยหน้าขึ้นมองหญิงที่ยืนอยู่ชั้นบนด้วยความหวาดกลัว
ไป๋หนิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่ผันผวนในแววตาของหนิงเยี่ยนางขมวดคิ้วเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ…เยี่ยเอ๋อ ?”
”ไม่มีอะไร…”
นางหน้าซีดเล็กน้อยมีเหงื่อเย็นๆ ผุดบนหน้าผาก นางกัดริมฝีปากพลางตอบคำ “ข้าเพียงตกใจนิดหน่อย หาใช่ปัญหาใหญ่ใดไม่”
***จบบทการสมคบคิดระหว่างหนิงหยวนกับบุตรสาว (5)***
บทที่ 1197 : การสมคบคิดระหว่างหนิงหยวนกับบุตรสาว (6)
”งั้นรึ?”
ไป๋หนิงมองหนิงเยี่ยอย่างสงสัยแต่ครั้นเห็นหนิงเยี่ยไม่ต้องการเอ่ยกล่าวมากกว่านี้ นางก็ไม่ได้ถามสิ่งใดอีก
”เยี่ยเอ๋อแม้ว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสได้เป็นบุตรสาวแท้ ๆ ของข้า ทว่า … ที่ผ่านมาข้าก็ปฏิบัติต่อเจ้าเช่นหลานสาว หากมีเรื่องใดเจ้าไม่จำเป็นต้องปิดบัง เจ้าสามารถบอกข้าได้”
หนิงเยี่ยส่ายหน้าอย่างร้อนรน”ท่านอาหนิงไม่ต้องกังวล เยี่ยเอ๋อสบายดี”
“เช่นนั้นข้าก็สบายใจ”
ไป๋หนิงกวาดตามองทั่วใบหน้าของหนิงเยี่ยอีกครั้งนางขมวดคิ้ว ทว่าก็ไม่ได้เอ่ยถามต่อ
ไม่รู้ว่านั่นเป็นเพียงภาพลวงตาของนางหรือไม่หากแต่นางมักจะรู้สึกว่าเด็กที่นางเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก จู่ ๆ กลับกลายเป็นคนที่นางไม่อาจเข้าใจได้แล้ว …
อย่างไรก็ตามหลังจากกล่าวประโยคนี้จบ ไป๋หนิงก็เดินไปที่ห้องของนาง
ครั้นมองตามทิศทางที่ไป๋หนิงกำลังจะผละจากไปหนิงเยี่ยก็พบว่าฝ่ามือข้างที่ถือยาเม็ดนั้นปกคลุมไปด้วยหยาดเหงื่อเย็น นางไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มือของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
นางเงยหน้าขึ้นมองไปทางห้องไป๋หยานทว่าสุดท้ายนางก็ไม่ได้ไปหาไป๋หยาน หากแต่กลับไปที่ห้องพักของตนแทน
ยาเม็ดในมือของนางยังคงถูกซุกซ่อนไว้ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
ครั้นประตูปิดลงหนิงเยี่ยก็เดินไปหย่อนกายลงนั่งที่โต๊ะ มือของนางวางลงบนโต๊ะเบา ๆ นัยน์ตาของนางพลันสว่างวาบ
”ที่ท่านพ่อขอให้ข้าทำนั้นมันอันตรายอีกทั้งโจ่งแจ้งจนเกินไป แม้ว่าท่านอาหนิงจะเอ็นดูข้า ทว่าเพราะเด็กน้อยนั่น นางก็เคยโกรธข้ามาแล้ว นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า … คนพวกนั้นมีน้ำหนักมากในหัวใจของนาง หากนางรู้ว่าข้าเป็นคนทำร้ายหญิงผู้นั้น นางย่อมไม่ปล่อยข้าอย่างแน่นอน !”
ถึงแม้ว่าหนิงเยี่ยอยากจะฆ่าหญิงผู้นั้นเพียงไรหากแต่นางก็ไม่มีความกล้าที่จะลงมือ เอาเถิดหากต้องการขับไล่หญิงผู้นั้น นางก็ยังมีวิธีอื่นอีก !
หนิงเยี่ยหรี่ตาลงเล็กน้อยประกายแสงน่ากลัวสว่างวาบไปทั่วนัยน์ตาของนาง ชั่วขณะนั้นนางก็ยิ้มเยาะ รอยยิ้มเยาะของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา
”ไป๋หยานท่านอาหนิงเป็นของข้า หากเจ้ากล้าช่วงชิงนางไปจากข้า ข้าจะไม่มีวันยกโทษให้เจ้า !”
นางตบฝ่ามือลงบนโต๊ะอย่างแรงนัยน์ตาของนางเย็นชา จากนั้นไม่นานนางก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ พลางเดินช้า ๆ ไปที่ประตู
เพียงพริบตานางก็หายไปจากโรงเตี๊ยม…
วันถัดมา..
แสงยามเช้าสาดส่องเข้ามุมพอดี
แสงแดดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่างและกระทบลงบนใบหน้าที่งดงาม
ไป๋หยานสวมกอดหนูน้อยทั้งสองซ้ายคนขวาคนหนูน้อยทั้งสองถูกนางกอดราวกับลูกแมว ภายใต้แสงอรุณยามเช้าแลดูกลมกลืนและอบอุ่น
ไป๋หยานยิ้มนางกอดไป๋เสี่ยวเฉินกับเสี่ยวหลงเอ๋อเบา ๆ ปล่อยให้พวกเขาเอนตัวซุกกายเข้าหานาง
”หม่ามี้…”
การเคลื่อนไหวของนางทำให้ไป๋เสี่ยวเฉินตกใจตื่น เขาขยี้ตางัวเงีย จากนั้นก็เบิกตากลมโตจ้องมองสตรีที่อยู่ข้างกายตาไม่กระพริบ
”หลงเอ๋อกับเฉินเอ๋อเบียดหม่ามี้จนอึดอัดรึเปล่า? พวกเรานอนทับน้องสาวหรือไม่ ? หากนางเจ็บ เฉินเอ๋อคงจะรู้สึกทุกข์ใจมากเลย”
ไป๋หยานลูบไป๋เสี่ยวเฉินที่แสนอ่อนไหวเอ่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ลูกของแม่ไม่ใช่เด็กอ่อนแอไม่ต้องกังวลหรอก นอกจากนี้นางคงจะมีความสุขมากเมื่อได้นอนกับพี่ชายของนาง”
”จริงหรือ?” นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินสดใสและมีชีวิตชีวา “น้องสาวชอบเฉินเอ๋อจริง ๆ หรือ ?”
”แน่นอนนางต้องชอบเจ้า”
ไป๋หยานยืนยันไป๋เสี่ยวเฉินจึงโล่งใจขึ้น
“หม่ามี้เฉินเอ๋อก็ชอบน้องสาวเช่นกัน แต่ในความคิดของเฉินเอ๋อ หม่ามี้เป็นที่หนึ่งเสมอ” ไป๋เสี่ยวเฉินเอนศีรษะเล็ก ๆ ของเขาลงบนอกของไป๋หยาน ใบหน้าของเขาเงยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่สดใสและไร้เดียงสา
***จบบทการสมคบคิดระหว่างหนิงหยวนกับบุตรสาว (6)***
บทที่ 1198 : แผนการของหนิงเยี่ย (1)
เสี่ยวหลงเอ๋อกระพริบตาพร้อมกับส่งยิ้มหวานใบหน้าของนางเป็นสีชมพู “ท่านแม่…ข้าอยากดูแลน้องสาวกับเสด็จพี่ด้วย”
”ได้สิหลังจากน้องสาวของพวกเจ้าถือกำเนิด เจ้าทั้งสองก็ช่วยกันดูแลจะดีหรือไม่ ?”
นางโชคดีเพียงใดที่มีบุตรชายที่มีความประพฤติดีและฉลาดเฉลียวเช่นเฉินเอ๋อ อีกทั้งยังมีบุตรสาวบุญธรรมที่น่ารักน่าเอ็นดูอย่างหลงเอ๋อ
เด็กทั้งสองคนนี้ต่างฉลาดเฉลียวทว่าบางครั้งก็อ่อนไหวเสียจน แม้แต่นางเองก็ยังเป็นห่วง …
จู่ๆ บริเวณนอกประตูก็มีการเคลื่อนไหว เดิมที…นางไม่ได้ให้ความสนใจมากมายนัก หากแต่เสียงนั้นกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งทำให้ไป๋หยานขมวดคิ้ว
”หม่ามี้”ไป๋เสี่ยวดึงมือของไป๋หยานไว้ พลางยื่นริมฝีปากสีชมพูอ่อนของเขาออกมา “มีอะไรเกิดขึ้นข้างนอกนั่น ?”
”เฉินเอ๋อ…เจ้ากับหลงเอ๋อรอแม่ที่นี่นะแล้วแม่จะรีบกลับมา”
นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกดไหล่ของไป๋เสี่ยวเฉินเอ่ยกล่าวอย่างจริงจัง
หลังจากที่นางกล่าวจบนางก็หันหลังเดินออกไปนอกประตู …
…
ในเวลาเดียวกันนี้บริเวณชั้นล่างของโรงเตี๊ยม มีสตรีวัยกลางคนกำลังตะโกนโหวกเหวกไม่หยุด ไป๋หนิงยืนอยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคนด้วยความลำบากใจ ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ นางได้แต่ชี้หน้าหญิงผู้นั้นโดยไม่อาจกล่าวคำใดออกมาได้
“ท่านแม่เกิดเรื่องใดหรือ ?”
ไป๋หยานก้าวเข้าไปหาไป๋หนิงช้าๆ แววตาเฉยเมยของนางกวาดไปมองหญิงวัยกลางคนที่เนื้อตัวสกปรกเลอะเทอะ นางขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นนางก็หันไปสบตาไป๋หนิงพลางถาม
ก่อนที่ไป๋หนิงจะเอ่ยกล่าวหญิงวัยกลางคนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เหมือนจะนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ นางรีบก้าวมาข้างหน้า และก่อนที่ไป๋หยานจะทันได้คิด นางก็เอื้อมมือไปคว้าแขนของไป๋หยานไว้
อย่างไรก็ตาม…
”ออกไป!”
เสียงตวาดที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้นราวกับว่ามีพลังแผ่ออกมาจากร่างของไป๋หยาน ส่งผลให้หญิงวัยกลางคนลอยละลิ่วไปไกลหลายจ้าง ก่อนที่ตกลงบนพื้นอย่างน่าอับอาย
หญิงวัยกลางคนตกตะลึงนางรีบปรายตามองหนิงเยี่ย เด็กสาวผู้นี้จ้างนางมา หากแต่กลับไม่ยอมบอกว่าหญิงผู้นี้จะมีอารมณ์ร้ายถึงเพียงนี้
แต่ครั้นรับเงินของคนอื่นมาแล้วนางก็ต้องทำงานให้สำเร็จ นางรีบลุกขึ้นยืน และชี้ไปที่ไป๋หยานด้วยความโกรธเกรี้ยว
แน่นอนว่าหลังจากตกกระแทกพื้นนางก็อยู่ห่างจากไป๋หยานเพียงไม่กี่ก้าว ยามนี้นางก็ไม่กล้าเข้าใกล้ไป๋หยานมากจนเกินไปนัก
”เจ้ามันชั่วช้านักเจ้าเปลี่ยนใบหน้าแล้วคิดว่าข้าจะจำเจ้าไม่ได้งั้นรึ ? อย่าลืมสิว่าข้าเป็นคนหายายี่หรง (ยาเปลี่ยนรูปลักษณ์) มาให้เจ้า พอเจ้าเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเจ้าได้ก็ทำเป็นจำข้าไม่ได้ เจ้ากล้าปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้ได้อย่างไร ?”
ยาเปลี่ยนรูปลักษณ์งั้นรึ?
สายตาเย็นยะเยือกของไป๋หยานเริ่มเปลี่ยนเป็นตกตะลึงนางเปลี่ยนใบหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ? เหตุใดนางจึงไม่รู้ล่ะ ?
”เจ้า…?”
นางอยากจะบอกว่าหญิงผู้นั้นจำคนผิดทว่านางยังไม่ทันที่จะกล่าวจบ หญิงวัยกลางคนก็ทำหน้าบึ้งใส่พร้อมกับตะคอกออกมา
”นังเด็กชั่วข้าเป็นแม่ของเจ้า ไยเจ้าจึงจำแม่ไม่ได้ คนอย่างเจ้านี่ช่างบาปกรรมจริง ๆ ”
ราวกับสายฟ้าฟาดไป๋หยานตกตะลึง นางจ้องมองหญิงวัยกลางคนด้วยความประหลาดใจ นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความงงงวย
นางมีแม่เพิ่มมาอีกคนตั้งแต่เมื่อไหร่?
แต่…
นัยน์ตาของไป๋หยานหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนผู้นี้เหลือบมองไปที่หนิงเยี่ยเป็นครั้งคราว พลันมุมปากของนางก็ยกยิ้ม
”เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นแม่ของข้า เช่นนั้นเจ้ามีหลักฐานใด ?”
หญิงวัยกลางคนจ้องมองไป๋หยานอย่างโกรธๆ “ที่ใบหน้าของเจ้าคล้ายกับนางก็เป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุด ! เจ้าทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด เหตุใดเจ้าถึงคล้ายนางมาก มิใช่ว่าเจ้าต้องการบรรลุเป้าหมายด้วยการปลอมตนหรอกรึ ?”
ฝูงชนเริ่มเข้ามามุงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างก็ได้ยินสิ่งที่หญิงวัยกลางคนพูด ต่างหันไปมองไป๋หยานด้วยสายตาดูถูก
***จบบทแผนการของหนิงเยี่ย (1)***
บทที่ 1199 : แผนการของหนิงเยี่ย (2)
ในสายตาของพวกเขาผู้ที่ไม่รู้จักยอมรับแม่ของตนเอง จะชั่วช้าแค่ไหนกันนะ ?
ครั้นหญิงวัยกลางแลคนเห็นผู้คนเข้ามามุงรอบนางมากขึ้นเรื่อยๆ นางก็ยิ่งกล้า นางกล้าที่จะก้าวเข้าไปหาไป๋หยานอีกสองสามก้าว จากนั้นนางก็เงยหน้าขึ้นเอ่ยกล่าวว่า “เจ้าอยากได้แม่บุญธรรม กระทั่งหลงลืมแม่แท้ ๆ ของตนเอง หากเจ้ายังไม่คิดกลับใจอีก ่ต่อไปเจ้าจะต้องได้รับผลกรรมอย่างแน่นอน ! ”
หลังจากกล่าวจบนางก็หันไปจ้องไป๋หนิงอีกครั้ง เอ่ยกล่าวด้วยความโกรธว่า “ส่วนเจ้า…ข้าไม่รู้ว่าเจ้าตาบอดหรือไร ? ที่คิดว่าหญิงผู้นี้คล้ายกับเจ้ามาก นั่นเป็นเพราะแผนที่ถูกวางไว้ล่วงหน้าแล้ว หากมิใช่ยาวิเศษนั่น นางจะมีหน้าตาเหมือนเจ้าถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไร ?”
นัยน์ตาของไป๋หนิงค่อยๆ เต็มไปด้วยแสงเย็นยะเยือก นางเอ่ยถามเสียงเยาะ “วางแผนไว้กระนั้นรึ ?”
”ใช่แล้วข้าบังเอิญได้ยาเปลี่ยนรูปลักษณ์มา ผู้ใดก็ตามที่กินยาเปลี่ยนรูปลักษณ์ ย่อมสามารถจินตนาการในใจว่านางต้องการให้หน้าตาเป็นเช่นไร ? ไม่ว่าจะต้องการเช่นไร ยาก็สามารถเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ให้ได้ !”
หญิงวัยกลางคนสูดลมหายใจเข้าลึกเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธ ๆ “หลังจากนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ไปรู้จักเจ้ามาจากที่ใด นางรู้ว่าเจ้ามีพลังบางอย่างคอยช่วยเหลืออยู่ข้างหลัง นางจึงจงใจเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนาง เพื่อทำให้เจ้าเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นบุตรสาวของเจ้า !”
ไป๋หนิงไม่กล่าวคำใด
ไป๋หยานเองก็เงียบเช่นกัน
แต่ทว่า…
ยามนี้ไป๋หยานกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวฝ่ามือของนางเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเย็น ๆ
ตลอดชีวิตของนางไม่เคยหวั่นเกรงสิ่งใดหากแต่ในเวลานี้นางรู้สึกหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด
แม้นางจะสามารถพิสูจน์ได้ว่านางไม่ได้ใช้ยาเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่หากไป๋หนิงไม่เชื่อ นางก็คงพบกับความปวดร้าวเกินทานรับไหว …
หนิงเยี่ยกระพริบตานางกัดริมฝีปาก ก่อนจะออกไปยืนกั้นขวางด้านหน้าไป๋หนิง
“อย่าได้พูดเช่นนี้กับท่านอาหนิงนะท่านอาหนิงเป็นคนใจดี ไม่ว่าใครพูดอะไร นางก็มักจะเชื่อเสมอ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนางสักนิด หากเจ้ากล้าตำหนินางอีก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าอย่างแน่นอน !”
น้ำเสียงของหนิงเยี่ยเต็มไปด้วยแรงกดดันช่างสง่าผ่าเผย และทรงอำนาจ นัยน์ตาของนางเป็นประกายเย็นยะเยือกขณะจ้องมองหญิงวัยกลางคนอย่างเย็นชา
หญิงวัยกลางคนเห็นสัญญาณจากสายตาของหนิงเยี่ยนางรีบเปลี่ยนคำพูดทันที น้ำเสียงของนางเบาลงเล็กน้อย “ข้าขอบอกว่าเจ้าช่างโง่เขลาจริง ๆ ที่ทิ้งเด็กดี ๆ แบบนี้ไปชื่นชอบคนที่ทิ้งได้ กระทั่งแม่แท้ ๆ ของตนเอง นางจำแม่ตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วต่อไปนางจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างจริงใจได้เยี่ยงไร”
ผู้สังเกตการณ์ต่างคิดว่าถ้อยคำของหญิงวัยกลางคนนั้นช่างสมเหตุสมผลทำให้พวกเขาต่างก็พยักหน้าคล้อยตาม
”จริงด้วยคนที่ลืมได้แม้แต่มารดาผู้ให้กำเนิด ยอมเปลี่ยนใบหน้าตนเองเพื่อผลประโยชน์ ย่อมเป็นคนน่ารังเกียจ นางต้องไม่ใช่คนจริงใจแน่ ๆ ”
”หญิงผู้นี้มีเจตนาไม่ดีจริงๆ นางดูงดงามมาก แต่…โอ้…ไม่สิ ใบหน้านี้ไม่ใช่ของนาง นี่เป็นเพียงใบหน้าปลอม ๆ ที่นางสร้างขึ้นเพื่อให้แม่บุญธรรมรับนางเป็นลูกเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น”
“ข้าคิดว่าแม่นางอีกคนเป็นคนดีมากนางพยายามปกป้องญาติของนาง นางต้องเป็นลูกสาวที่ดีแน่ ๆ ”
หนิงเยี่ยก้มหน้าลงมุมปากของนางยกโค้งอย่างน่ากลัว หลังจากนั้นไม่นานส่วนโค้งนั้นก็จางหายไป ใบหน้าที่งดงามของนางเปลี่ยนกลับมาเป็นแลดูน่าสงสาร
“ลูกสาวย่อมต้องปกป้องแม่ท่านอาหนิงอาจไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดข้า หากแต่ข้าก็นับถือนางไม่ต่างกับแม่แท้ ๆ นับแต่ข้ายังเด็ก ๆ ความรู้สึกของข้าที่มีต่อนางไม่ได้เจือปนสิ่งใดเช่นคนอื่น เพียงเพื่อผลประโยชน์เล็กน้อย นางกล้าหลอกลวงทำร้ายความรู้สึกของท่านอาหนิงได้ !”
นัยน์ตาสีแดงของนางหันไปจับจ้องมองไป๋หยานความเกลียดชังในดวงตาคู่นั้นไม่จำเป็นต้องปกปิดอีกต่อไป ยามนี้ใบหน้าของนางแลดูโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
***จบบทแผนการของหนิงเยี่ย (2)***
บทที่ 1200 : แผนการของหนิงเยี่ย (3)
ไป๋หยานหันไปมองไป๋หนิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง
หลังจากเห็นแววตาเคร่งเครียดของไป๋หนิงหัวใจของนางก็เหมือนตกลงไปในห้องน้ำแข็งใต้ดินในทันที
นาง… ไม่เชื่อข้างั้นหรือ ?
รอยยิ้มที่ขมขื่นพลันปรากฏบนใบหน้าของไป๋หยานบางที การที่นางไม่บอกเรื่องของหนิงหยวนอาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็ได้ เมื่อเทียบกับวันเวลาที่พวกเขาสนิทสนมกันมาเนิ่นนานแล้ว นางก็เป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับไป๋หนิงเท่านั้น
ทว่าจู่ๆ มือหนึ่งก็วางลงบนไหล่ของไป๋หยานอย่างแผ่วเบา
ร่างของไป๋หยานแข็งทื่อขึ้นอย่างฉับพลัน
ความขุ่นเคืองบนใบหน้าของหนิงเยี่ยหายไปทันทีมันกลับแทนที่ด้วยสีหน้าตกตะลึง นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของนางหันกลับไปมองใบหน้ายิ้ม ๆ ของไป๋หนิง ด้วยสีหน้าหมองคล้ำ
”เจ้าคิดว่าข้าชอบหญิงผู้นี้เพียงเพราะนางคล้ายข้าจริง ๆ งั้นหรือ ?” ไป๋หนิงเอ่ยปากอย่างแผ่วเบา พลันรอยยิ้มของนางก็ปรากฏ “หญิงผู้นี้ทำให้ข้าสบายใจมาก ราวกับว่าเราคุ้นเคยกันมานาน คนอย่างไป๋หนิงไม่ใช่คนที่จะชอบใครสักคนเพราะใบหน้า”
หนิงเยี่ยใจสั่นนางเม้มปากแน่น “ท่านอาหนิง แต่แม่ผู้ให้กำเนิดนางมาที่นี่แล้ว และข้าเกรงว่าท่านจะถูกนางหลอก … ”
”แม่แท้ๆ กระนั้นรึ ?” ไป๋หนิงยิ้มเยาะ “เจ้าบอกว่า เจ้าเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดนาง เช่นนั้นเจ้าสามารถหาหลักฐานมายืนยันได้หรือไม่ ? หรือจะพิสูจน์ด้วยเลือด ? หากไม่มีหลักฐานเป็นเพียงแค่ลมปาก ข้าจะเชื่อได้อย่างไร ?”
ครั้นเห็นสายตาของไป๋หนิงหญิงวัยกลางคนนั้นก็พลันตื่นตระหนก หนิงเยี่ยขอให้นางแอบอ้างเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดไป๋หยาน หากแต่ไม่ได้บอกวิธีพิสูจน์ด้วยสิ
ยิ่งไปกว่านั้นหากใช้วิธีการหยดเลือดพิสูจน์จริง แผนการทุกอย่างก็ต้องถูกเปิดเผยหมดสิ ?
แววตาของหญิงวัยกลางคนเป็นประกายนางกัดฟันเอ่ยกล่าวว่า “หยดเลือดไม่สามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ของเรา เพราะยาเปลี่ยนรูปลักษณ์ไม่เพียงแต่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของนางเท่านั้น ด้วยการผสมผสานของยาเข้ากับร่างของนางย่อมสามารถทำให้เลือดของนางแปรเปลี่ยนไปได้ นอกจากนี้ หากนางไม่มีความสัมพันธ์ใดกับข้า ทั้งข้าก็ไม่เคยผิดใจกับนาง เหตุใดข้าจึงต้องมาใส่ร้ายนาง ข้าจะใส่ร้ายนางเพื่ออะไร ?”
ผู้มุงเหล่านั้นต่างพยักหน้าเห็นพ้องเมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงวัยกลางคนกล่าว
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของเลือดที่เกิดจากเม็ดยานั้นยากนักที่จะปรากฏ เรียกได้ว่ามีแค่ 1 ใน 10 ล้านเม็ด ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวก็เคยได้รับการบันทึกไว้ในตำราประวัติศาสตร์มาแล้วจริง ๆ เช่นนั้นสิ่งที่นางพูดมาก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นไปไม่ได้
ไป๋หนิงเลื่อนมือออกจากไหล่ของไป๋หยานเปลี่ยนมาจับมือของนางไว้แน่นแทน
ความอบอุ่นจากฝ่ามือนั้นค่อย ๆ ทำให้อุณหภูมิในหัวใจของไป๋หยานที่เคยเย็นเยียบกลับมาอบอุ่น
ใบหน้าที่สวยงามปรากฏรอยยิ้ม”ท่านแม่ ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง ในเมื่อท่านเชื่อข้า ข้าก็จะมอบคำตอบที่น่าพอใจให้แก่ท่าน”
ความไว้วางใจของแม่ทำให้หัวใจของไป๋หยานเต็มไปด้วยความอบอุ่น เพื่อไป๋หนิงแล้ว นางจะจัดการเรื่องนี้เอง
“เจ้าบอกว่าข้าอยากได้พลังที่คอยสนับสนุนเบื้องหลังของท่านแม่ข้าใช่หรือไม่ ?”
หญิงวัยกลางคนผงะจากนั้นก็พยักหน้า เอ่ยกล่าวว่า “ใช่..เจ้าสนใจพลังสนับสนุนของนางจริง ๆ”
”โอ้! ถ้าเช่นนั้น บอกข้าหน่อยเถิดว่าพลังที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังของนางคืออะไร ข้าอยากรู้ อยากรู้จริง ๆ ”
ไป๋หยานมองหญิงวัยกลางคนเบื้องหน้าพร้อมรอยยิ้ม
นางกอดอกใบหน้าที่สวยงามปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มของนางสดใสเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา นางกำลังรอคำตอบของหญิงวัยกลางคนอย่างเงียบ ๆ
ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนเปลี่ยนไปโชคดีที่หนิงเยี่ยเคยบอกนางไว้แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางกระแอมไอสองครั้ง ก่อนจะกล่าวว่า “เบื้องหลังของหญิงผู้นี้มีสัตว์อสูรคอยให้ความช่วยเหลือ สัตว์อสูรนั่นยังมีความแข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง เจ้าต้องการได้สัตว์อสูรตัวนั้นเช่นนั้น … เจ้าจึงพยายามเข้าใกล้หญิงผู้นี้”
***จบบทแผนการของหนิงเยี่ย (3)***