จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1271 -1275
บทที่ 1271 : จิ้งจอกฟ้า (1)
“อืม…ทุกอย่างแล้วแต่หม่ามี้“
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่มีความเห็น อย่างไรเสียเขาก็สนใจเพียงชื่อน้องสาวของเขาเท่านั้น
มือเล็ก ๆ ของเขาสัมผัสหลิงเอ๋อน้อยเบา ๆ น้ำเสียงอ่อนเยาว์ของเขายามนี้ค่อนข้างอ่อนโยน
“น้องสาว…เจ้าต้องจำไว้ว่าพี่ชายคนนี้ของเจ้าเป็นผู้ตั้งชื่อให้เจ้า”
รอยยิ้มแผ่กระจายบนใบหน้าสีชมพูของตี้หลิงเอ๋อ รอยยิ้มนี้ราวกับน้ำพุร้อนที่รินรดลงบนหัวใจของไป๋เสี่ยวเฉิน ส่งผลให้หัวใจของไป๋เสี่ยวเฉินละลาย
“หม่ามี้ น้องสาว…ยิ้มให้เฉินเอ๋อ ยิ้มให้เฉินเอ๋อด้วย !” ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้นนัยน์ตากลมโตของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส “หม่ามี้เห็นมั้ย ? น้องสาวต้องชอบเฉินเอ๋อมากแน่ ๆ นางเลยยิ้มให้เฉินเอ๋อ … “
“เฉินเอ๋อส่งกรรไกรมาให้แม่ก่อน“
ไป๋หยานลุกขึ้นจากพื้น นั่งเอาหลังพิงต้นไม้ใหญ่ด้านหลังพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน
“อืม“
หลังจากที่ไป๋เสี่ยวเฉินใช้เปลวไฟเผาฆ่าเชื้อบนกรรไกรแล้ว เขาก็เดินเข้าไปหาไป๋หยาน เขามองไป๋หยานที่กำลังนั่งพิงต้นไม้พร้อมกับเอ่ยถามอย่างสงสัยว่า “หม่ามี้จะทำอะไร ?”
“ส่งมาเถิด … ”
ขณะที่ไป๋หยานบอกให้ส่งกรรไกรมานั้น จู่ ๆ ก็ปรากฏกลิ่นอายพุ่งเข้ามาหาอย่างรุนแรง ส่งผลให้สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นตกใจทันที
“เฉินเอ๋อ…ปกป้องน้อง ๆ ของเจ้าด้วย” ไป๋หยานคว้ากรรไกรในมือของไป๋เสี่ยวเฉินมาตัดสายสะดือ ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอีกครั้ง นางมองไปเบื้องหน้าด้วยความระมัดระวัง
“ได้“
เนื่องจากถูกตัดสายสะดือแล้ว หนูน้อยทั้งสองจึงเป็นอิสระ ไป๋เสี่ยวเฉินอุ้มทารกทั้งคู่ไว้ในอ้อมแขน พลางก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว เขาจ้องมองไปตามทิศทางที่กลิ่นอายโชยมาด้านหน้าด้วยดวงตาที่สดใสของเขา
ฉัวะ !
จากระยะไกล ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เสียงนั้นดังขึ้นเบื้องหน้านางอย่างรวดเร็ว ไป๋หยานกวาดตามองอย่างดุดัน ภาพของนางจิ้งจอกสีขาวราวกับหิมะย่างกรายเข้ามาให้เห็นในคลองสายตา …
ขนของสุนัขจิ้งจอกเป็นสีขาว แลดูกลมกลืนท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน กระทั่งแทบจะมองไม่เห็น เพราะแยกแยะยาก
อย่างไรก็ตาม…
รูปร่างของมันไม่ต่างกับสายฟ้า ทั้งกลิ่นอายที่แข็งแกร่งของมันก็ทำให้ไม่สามารถเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวของมันได้ !
ชั่วขณะนั้นเอง สุนัขจิ้งจอกสีขาวก็พุ่งเข้าหาไป๋หยาน พร้อมกันนั้นกรงเล็บของมันก็ตวัดลงมาราวกับสายฟ้าฟาด
แม้ว่าไป๋หยานจะหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว ทว่าจิ้งจอกฟ้าก็ยังฝังรอยกรงเล็บลงบนไหล่ของนางได้ เลือดสีแดงสดไหลออกมาเลอะเสื้อผ้าของนาง …
“หม่ามี้ !“
ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินเปลี่ยนเป็นซีดขาว เขาจ้องมองจิ้งจอกฟ้าด้วยความเดือดดาล พลางตะโกนเสียงดังลั่น “หยุดนะ !“
เสียงตะโกนที่โกรธเกรี้ยวสั่นสะเทือนก้องฟ้า ส่งผลให้จิ้งจอกฟ้าที่จับจ้องมองไป๋หยานชะงักงัน มันเหลียวหันกลับมามองใบหน้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธของไป๋เสี่ยวเฉินแทน นัยน์ตากลมโตที่สวยงามของมันฉายแววงุนงง
ไป๋หยานก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ครั้นนางเห็นว่าจิ้งจอกฟ้าหยุดการโจมตี นางก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
หรือว่าแรงกดดันจากพลังโลหิตของไป๋เสี่ยวเฉินจะส่งผลบางอย่างต่อ จิ้งจอกฟ้า ? อย่างไรเสียเฉินเอ๋อก็เป็นถึงราชาอสูร อีกทั้งยังเป็นสุนัขจิ้งจอกด้วย เช่นนั้นจึงมีเหตุผลเพียงพอที่จิ้งจอกฟ้าซึ่งเป็นสุนัขจิ้งจอกด้วยกันจะรู้สึกถึงแรงกดดัน
“ระวัง !“
ชั่วขณะนั้นไป๋หยานก็ได้ยินเสียงหวีดหวิวดังมาจากท้องฟ้า พร้อมกันนั้นลูกศรก็พุ่งทะลุอากาศว่างเปล่าลงมา
ลูกศรนี้ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงจาง ๆ ราวกับสายฟ้าฟาด ยามที่ลูกศรพุ่งข้ามท้องฟ้า แม้แต่ท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะขาดออกจากกัน …
อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่ลูกศรเล็งมานั้นไม่ใช่ไป๋หยาน หากแต่เป็นจิ้งจอกฟ้าที่ยืนอยู่เบื้องหน้านาง
ฟุ่บ !
เห็นได้ชัดว่า จิ้งจอกฟ้ารับรู้ได้ถึงวิกฤติที่อยู่เบื้องหลังมัน ทว่าขณะที่มันต้องการหลบเลี่ยงนั้น ลูกธนูก็เจาะเข้าที่หน้าอกของมันโดยไม่รู้ตัว เลือดไหลออกจากหน้าอกนองพื้น
บทที่ 1272 : จิ้งจอกฟ้า (2)
ร่างของจิ้งจอกฟ้าล้มลงบนพื้นต่อหน้าต่อตาไป๋หยาน นัยน์ตาของมันยังคงจับจ้องมองไป๋เสี่ยวเฉิน นัยน์ตากลมโตคู่นั้นว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่ามันยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น …
ด้านหลังไป๋หยานมีสาวสวยยืนถือเกาทัณฑ์ไว้ในมือ นางกล่าวอย่างมีชัยว่า “จิ้งจอกฟ้า…ข้ารอมานานมากแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้ในสิ่งที่ข้าต้องการ สักที ดูสิว่าเจ้าจะหนีจากน้ำมือข้าได้อย่างไรอีก !“
ไป๋หยานมองจิ้งจอกฟ้าที่นอนจมกองเลือด นัยน์ตาของนางพลันเคร่งขรึมขึ้น นางค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าหยิบขวดออกมาเก็บเลือดที่ไหลออกมาจากร่างของจิ้งจอกฟ้าลงในขวด ก่อนจะยื่นส่งให้ไป๋เสี่ยวเฉิน
“เฉินเอ๋อ เจ้าพาน้องชาย และน้องสาวของเจ้าออกไปจากที่นี่ก่อน จากนั้นก็จงหาที่ ๆ ปลอดภัยดื่มเลือดจิ้งจอกฟ้าขวดนี้ซะ”
ไป๋เสี่ยวเฉินมองขวดที่ไป๋หยานยื่นส่งมาให้ จากนั้นก็มองไป๋หยานพลางส่ายศีรษะอย่างเด็ดเดี่ยว
“ไป !” ไป๋หยานขมวดคิ้ว “อย่าลืมนะ เจ้าบอกว่า เจ้าต้องปกป้องน้องสาวของเจ้า แม่จะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ !“
ไป๋เสี่ยวเฉินกัดริมฝีปากแน่น เขามองไป๋หยานทั้งน้ำตา จากนั้นเขาก็กัดฟันเดินไปที่พุ่มไม้ด้านหลังพร้อมกับทารกทั้งสองในอ้อมแขน
“ข้าพบจิ้งจอกฟ้าตัวนี้ก่อน เช่นนั้นมันย่อมต้องเป็นของข้า !” เด็กสาวร่างบอบบางเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิ เอ่ยกล่าวอย่างมีความสุข
ไป๋หยานเม้มริมฝีปาก นางไม่สนใจน้ำเสียงตื่นเต้นยินดีของหญิงสาว นางหยิบขวดยาออกมาจากแขนเสื้อของตนพลางยื่นไปที่ปากของจิ้งจอกฟ้า
“กินมันซะ“
จิ้งจอกฟ้าตกใจ มันมองไป๋หยานด้วยความประหลาดใจ บางทีมันเองก็อาจไม่คาดคิดว่าหญิงมนุษย์ผู้นี้จะช่วยมัน …
“เจ้าทำร้ายข้า ทว่าเจ้าก็ช่วยบุตรชายของข้าด้วย เช่นนั้นเราหายกัน ส่วนยาขวดนี้ถือเป็นรางวัลพิเศษสำหรับเจ้า“
จิ้งจอกฟ้าเงียบไปชั่วขณะ มันก้มศีรษะลง ที่สุดก็กลืนยาเม็ดที่ไป๋หยานมอบให้ มันกลืนลงคอด้วยความฮึดฮัด จากนั้นความเจ็บปวดในร่างกายของมันก็ค่อย ๆ ลดลง
“ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าแตะต้องของของข้า” ใบหน้าของหญิงสาวที่บอบบางเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน นัยน์ตาของนางจับจ้องมองไป๋หยานด้วยไฟโทสะ
ไป๋หยานค่อย ๆ ยืดตัว นางหันหน้าไปมองหญิงสาวที่มีสีหน้าดุดันด้วยแววตาว่างเปล่า
“ผู้ใดว่าจิ้งจอกฟ้านี่เป็นของเจ้า ข้าเป็นผู้ล่อมันมา เจ้าไม่เกี่ยว“
หญิงสาวหน้าตาถมึงทึงเม้มริมฝีปาก เอ่ยกล่าวอย่างแดกดัน “ข้าชื่อเสิ่นเทียนหยู คุณหนูใหญ่ของตระกูลเสิ่น ตระกูลของเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระราชวังสวรรค์ ไม่เป็นการดีเลย หากเจ้าจะทำให้ข้าขุ่นเคือง อีกทั้งจิ้งจอกฟ้าตัวนี้ก็เป็นของข้า คนแรกที่เห็นมันก็คือข้า ! คนที่ฉกฉวยของไปจากข้าจะไม่มีวันพบจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน !“
ไป๋หยานกุมดาบล่าเทวดาที่อยู่ในมือแน่น นัยน์ตาของนางเย็นชาไม่ต่างจากดาบ “ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเอาตัวมันไป !”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจ !” นัยน์ตาของเสิ่นเทียนหยูเป็นประกายเย็นเยือก นางกัดฟันกล่าว “พวกเจ้าสังหารหญิงผู้นี้ซะ แล้วส่งจิ้งจอกฟ้ามาให้ข้า !“
“ขอรับคุณหนู !”
ทันทีที่ทุกคนได้ยินคำสั่ง พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ต่างก็ตรงเข้าโอบล้อมไป๋หยานไว้ตรงกลาง
ไป๋หยานกวาดตามองคนกลุ่มนั้นที่อยู่รายรอบด้วยสีหน้าเฉยเมย
เพียงไม่ช้านางก็รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของทุกคน
ในบรรดาคนเหล่านี้ ระดับต่ำสุดคือเทพขั้นต่ำ โดยมีเทพขั้นกลางระดับสูงแปดคน, เทพขั้นกลางระดับกลางสิบคน และเทพกลางระดับล่างอีกนับไม่ถ้วน
การที่คนเหล่านี้เข้าสู่ขั้นเทพได้ ย่อมหมายความว่าพวกเขาย่อมทรงพลังจนน่าตกใจ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าสถานะของเผ่าเทพในอาณาจักรสวรรค์มิอาจดูแคลนได้ !
บทที่ 1273 : จิ้งจอกฟ้า (3)
ณ ขณะนี้…
คนกลุ่มนั้นก็เริ่มลงมือ พวกเขาพุ่งเข้าหาไป๋หยานรวดเร็วราวสายฟ้า เพียงพริบตาพวกเขาก็มาถึงด้านหน้าของไป๋หยาน
ไป๋หยานเห็นเทพขั้นกลางระดับกลางวิ่งเข้ามาตรงหน้า นางชักดาบล่าเทวดาออกมาทันที เพื่อป้องกันการโจมตีของชายผู้นั้น หากแต่ชายผู้นั้นก็ใช้กำปั้นโจมตีดาบล่าเทวดาอย่างดุเดือด แม้ว่าดาบล่าเทวดาจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทว่าไป๋หยานก็ถูกบังคับให้ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว
เลือดออกเต็มปากของนาง กระทั่งแทบจะทะลักออกมา …
“หวู ๆ”
จิ้งจอกฟ้าพยายามที่จะลุกขึ้น หากแต่ร่างของมันกลับไร้เรี่ยวแรง หลังจากคลานได้สองสามก้าวมันก็ล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันนั้นเสิ่นเทียนหยูก็ยกเกาทัณฑ์ขึ้นอีกครั้ง นางหยิบลูกศรสีม่วงดั่งสายฟ้าออกมาจากกระบอกใส่ลูกศรที่พาดอยู่ด้านหลังของนาง จากนั้นก็เล็งไปที่หัวของจิ้งจอกฟ้า …
นัยน์ตาของไป๋หยานเปล่งประกายวาบ นางโบกดาบล่าเทวดาในมือ พลันคลื่นพลังก็พุ่งเข้าหาเสิ่นเทียนหยูทำให้เกิดสายลมรุนแรงกวาดน้ำแข็ง และเกล็ดหิมะบริเวณใต้เท้าของเสิ่นเทียนหยูขึ้นมาฟาดใส่หน้านาง
หากมิใช่เพราะหนึ่งในเทพขั้นกลางที่ดึงเสิ่นเทียนหยูหลบได้อย่างทันท่วงที เกรงว่าตอนนี้พลังของดาบคงฟาดใส่ร่างของนางเต็ม ๆ …
ใบหน้าของเสิ่นเทียนหยูเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม สายตาที่โกรธเคืองของนางจับจ้องมองไป๋หยาน พลางกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “อย่าสังหารหญิงผู้นี้ จับเป็นนางมาให้ข้า ข้าจะทุบตีนางให้สะใจ ให้สาสมกับที่นางกล้าทำเช่นนั้นกับข้า !”
เพื่อที่จะจับจิ้งจอกฟ้าให้ได้แล้ว นางจงใจขอเกาทัณฑ์สายฟ้ามาจากบิดาของนาง และความสามารถของเกาทัณฑ์สายฟ้าก็คือการควบคุมสัตว์อสูรที่รวดเร็วและว่องไวมาก ๆ
เพราะนอกจากจิ้งจอกฟ้าจะรวดเร็วว่องไว และมีกรงเล็บที่แหลมคมแล้ว มันก็ไม่มีความสามารถพิเศษอื่นใดอีก การใช้เกาทัณฑ์สายฟ้านี้จึงเหมาะกับมันมาก !
หากแต่เสิ่นเทียนหยูไม่คาดคิดว่าไป๋หยานจะขวางทางนาง เมื่อครู่นี้เห็นได้ชัดเจนว่าจิ้งจอกฟ้าได้รับบาดเจ็บ ทว่าไป๋หยานกลับออกหน้าปกป้องมัน !
…
ไป๋หยานขมวดคิ้วมุ่น ความแข็งแกร่งทางกายภาพของนางสูญเสียไปอย่างรวดเร็วภายใต้การโจมตีของผู้คนเหล่านี้ ใบหน้าของนางซีดเผือด เหงื่อบนหน้าผากของนางไหลริน กระทั่งทำให้เสื้อผ้าของนางเปียกโชก
แม้แต่ยาเม็ดก็ไม่อาจชดเชยความแข็งแกร่งของนางได้
ชั่วขณะนั้นเอง ก็มีฝ่ามือหนึ่งฟาดเข้าที่บริเวณแผ่นหลัง ส่งผลให้ร่างของนางลอยลิ่วไปข้างหน้าห่างออกไปสองสามจ้าง ก่อนจะกระแทกเข้ากับต้นไม้แก่ ๆ อย่างหมดท่า
หิมะร่วงลงมาจากต้นไม้ กระทั่งเกือบจะปกคลุมร่างกายของนางมิด
นางพยายามที่จะหยัดกายลุกขึ้นยืนจากพื้น เลือดเปื้อนบริเวณมุมปาก ขณะจ้องมองยอดฝีมือที่อยู่เบื้องหน้านางอย่างสงบ
“ไม่รู้ว่านางโง่หรือบ้า ? ยอมเอาชีวิตเข้าแลก เพียงเพื่อช่วยจิ้งจอกฟ้า จิ้งจอกฟ้าตัวนี้ข้าต้องการใช้ขนของมันเพื่อทำเสื้อคลุมก็เท่านั้น ไม่ได้มีประโยชน์อื่นใดอีก คุ้มแล้วหรือที่จะเป็นศัตรูกับข้า ?”
เสิ่นเทียนหยูหัวเราะเยาะ พลางเอ่ยถามอย่างดูถูก
นางจ้องมองจิ้งจอกฟ้าเป็นเวลานาน เพียงเพราะขนที่งดงาม ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับขนงาม ๆ นี้ นางจึงไม่ลังเลที่จะปีนขึ้นมาจากตีนเขาเทียนซาน ทว่าหญิงผู้นี้ไม่รู้ว่ามาที่นี่ด้วยวัตถุประสงค์ใด ?
ไป๋หยานเช็ดเลือดที่มุมปากของตน “ข้าบอกแล้วไงว่า ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเอามันไป !”
ข้าบอกว่าข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเอามันไป …
จิ้งจอกฟ้าเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ นัยน์ตาสีฟ้าของมันจ้องมองไป๋หยานไม่กระพริบ น้ำตาแห่งความรู้คุณไหลรินออกมาจากสองดวงตา มันส่งเสียงครวญครางขึ้นด้วยความเศร้าใจ
หวู่ ๆ !
ที่สุด บรรดาเทพทั้งหลายที่ไม่เคลื่อนไหวก็ลงมือ ชั่วขณะนั้นกลิ่นอายของดาบอันแหลมคมก็หลุดออกจากคลื่นพลังที่โหมกระหน่ำพุ่งเข้าหาไป๋หยาน
ร่างของไป๋หยานเซเล็กน้อย อาภรณ์สีแดงของนางโชลมไปด้วยเลือด นั่นทำให้นางยิ่งดูงามมากขึ้น ทว่ายามนี้เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีของพลังดาบอย่างกะทันหัน ความแข็งแกร่งของนางพลันสูญเสีย ขาของนางก็ไม่อาจหยัดยืนตรงได้อีกแล้ว
บทที่ 1274 : จิ้งจอกฟ้า (4)
หากแต่…
จู่ ๆ ก็มีแสงสีขาวสว่างวาบจากด้านหน้า แสงนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า พุ่งตรงเข้าหาไป๋หยานทันที
ด้วยพลังของดาบร่างสีขาวราวหิมะโดนกระแทกตกลงไปบนหินด้านหลังอย่างแรงเลือดไหลออกมาจากร่างเล็ก ๆ ของมันราวกับเศษผ้าที่ขาดวิ่น มันร่วงลงสู่พื้นอย่างเงียบ ๆ
ไป๋หยานหันหน้าไปมองอย่างแข็งกร้าว นางเห็นจิ้งจอกฟ้าที่เข้ามารับการโจมตีแทนนาง ยามนี้หัวใจของนางกระตุกอย่างไม่อาจอธิบาย
แท้จริงแล้ว นางไม่ได้คิดที่จะปกป้องจิ้งจอกฟ้า หากแต่นางไม่รู้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินจะต้องการเลือดของจิ้งจอกฟ้าอีกกี่ครั้ง เช่นนั้นเพื่อประโยชน์ของไป๋เสี่ยวเฉินแล้ว นางจึงต้องช่วยจิ้งจอกฟ้าตัวนี้ เพื่อรอให้เฉินเอ๋อฟื้นฟู !
ทว่า…
สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือ จิ้งจอกฟ้าเต็มใจที่จะรับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้เพื่อปกป้องนาง
ร่างบอบบางของมันจะทนทานได้อย่างไร ?
ไป๋หยานเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาจิ้งจอกฟ้า นางยื่นมือที่สั่นสะท้านทั้งสองออกไปประคองจิ้งจอกฟ้า ที่ยามนี้ลำตัวอ่อนปวกเปียก พลางกัดริมฝีปากแน่น หยาดน้ำตาไหลหยดรดแก้มรินลงสู่ร่างของจิ้งจอกฟ้า
“ทำไม ?”
เดิมที จิ้งจอกฟ้าโจมตีนาง แม้ว่านางจะไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายสังหารจากจิ้งจอกฟ้า ทว่ามันก็คิดโจมตีนางจริง ๆ …
บัดนี้…นางปกป้องมันแค่เพียงครั้ง เหตุใดมันถึงยอมปกป้องนางด้วยชีวิต ?
ผู้ใดกันที่เป็นสัตว์อสูรโหดเหี้ยม และไร้ความปรานี !
สัตว์อสูรเหล่านี้น่ารักกว่ามนุษย์มาก !
จิ้งจอกฟ้าลืมตาขึ้นอย่างลำบาก พลางใช้ลิ้นที่อ่อนนุ่มของมันเลียหลังมือของไป๋หยาน นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ มันมองไป๋หยานอย่างน่าเวทนา
ไป๋หยานรีบหยิบขวดยาออกจากแขนเสื้อ เทยาลงบนฝ่ามือของนาง และยื่นไปตรงหน้าจิ้งจอกฟ้า
จิ้งจอกฟ้าก้มหน้ากินยาทั้งหมดในฝ่ามือของไป๋หยาน มันยังคงกระดิกหางให้ไม่ต่างกับลูกสุนัขตัวน้อย
…
การโจมตีนับไม่ถ้วนพุ่งมาจากด้านหลังอีกครั้ง ไป๋หยานรีบปกป้อง จิ้งจอกฟ้าไว้ในอ้อมแขน พร้อมกันนั้นนางก็หันหน้ากลับไปเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงนั้น
ปัง !
พลังมากมายมหาศาล ไม่ต่างจากภูเขา และทะเลถาโถมเข้าใส่หน้าอกของไป๋หยาน ร่างของนางลอยละลิ่วอีกครั้ง เลือดไหลออกมาจากปากของนาง นัยน์ตาของนางพร่าพราว ขณะตกกระแทกพื้น
“หม่ามี้ !”
ในขณะที่ร่างของนางร่วงตกลงมา เสียงร้องเรียกเบา ๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง ซึ่งนั่นทำให้นางตัวแข็งรีบหยัดกายลุกขึ้นจากพื้น นางหันไปมองไป๋เสี่ยวเฉินที่กำลังวิ่งหน้าตั้งมาจากทางด้านหลัง
“เฉินเอ๋อ แม่บอกให้เจ้าพาน้องชาย และน้องสาวของเจ้าไปไม่ใช่หรือ ?” ใบหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน นางรีบร้องตะโกน
ไป๋เสี่ยวเฉินเดินไปยืนข้างกายไป๋หยาน ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาฉายแววแน่วแน่
“หม่ามี้…ไม่ต้องกังวล ข้าจัดการซ่อนน้อง ๆ เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ “
“เจ้า … ” ไป๋หยานตกใจใบหน้าซีดเซียว “นี่…เจ้าไม่ได้กินเลือดของจิ้งจอกฟ้าหรือ ? เลือดของจิ้งจอกฟ้าต้องสดถึงจะเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ หากนานไปมันจะเสื่อมประสิทธิภาพ”
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่ตอบคำไป๋หยาน เขาหันใบหน้าเล็ก ๆ มาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสไร้เดียงสา
“หม่ามี้ หากวันหนึ่งเฉินเอ๋อไม่สามารถอยู่กับหม่ามี้ได้อีก หม่ามี้จะ … จะคิดถึงเฉินเอ๋อตลอดไปหรือไม่ ?”
หัวใจของไป๋หยานสั่นสะท้าน นางรั้งไป๋เสี่ยวเฉินเข้ามาสู่อ้อมแขน พลางกอดเขาแน่น นางไม่สนใจชายผู้แข็งแกร่งที่วิ่งกรูกันเข้ามา นัยน์ตาของนางแน่วแน่ขณะกล่าวว่า “เฉินเอ๋อ อย่าได้พูดจาไร้สาระ ! เจ้าจะไม่มีวันทิ้งแม่ของเจ้า !”
บทที่ 1275 : ตี้คังมาแล้ว (1)
ช่วงเวลานี้เอง ยอดฝีมือเหล่านั้นก็พุ่งเข้าหาไป๋หยาน
ไป๋หยานวางจิ้งจอกฟ้าลง นางปกป้องเด็กชายตัวน้อยผิวสีชมพูน่ารักที่อยู่ในอ้อมแขนของนางอย่างแน่นหนา นางเงยหน้าขึ้นมอง นัยน์ตาดำขลับของนางฉายแสงแห่งความมุ่งมั่น
“เฉินเอ๋อ เจ้ารอแม่อยู่ที่นี่นะ”
นางปล่อยตัวไป๋เสี่ยวเฉิน พลางมองไปที่กลุ่มคนด้วยสายตาที่ไม่แสดงออกใด ๆ สองมือเกาะกุมดาบล่าเทวดาแน่น
ดาบล่าเทวดาถูกกระตุ้นนขึ้นในมือของนาง เกิดพลังอันปั่นป่วนครั้งใหญ่ราวกับคลื่นพลังที่ถาโถมรุนแรงกวาดเข้าหาผู้คนที่วิ่งมาด้านหน้า …
ทันทีที่คนในกลุ่มด้านหน้าสัมผัสกับแรงผลักดันจากคลื่นนี้ พวกเขาก็ลอยละลิ่วถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ไป๋หยานหยิบยาอายุวัฒนะออกมาจากถุงเก็บของอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะนางกินยามากเกินไปจึงส่งผลให้นางฟื้นตัวได้อย่างช้ามาก แม้ว่าจะเพิ่งกินยาเข้าไป ทั้งร่างก็ยังคงอ่อนเพลีย หากแต่ฝ่ามือของนางยังเกาะกุมดาบล่าเทวดาแน่น
ด้วยความช่วยเหลือของดาบล่าเทวดานี้ นางสามารถหยัดกายขึ้นยืนได้อย่างมั่นคงไม่ล้มลงกับพื้น
“พวกเจ้าหลีกทางไป !”
ท้ายที่สุด ผู้อาวุโสซึ่งอยู่ระดับเทพขั้นสูงที่สุดในกลุ่มก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป ภายใต้เสียงตวาดที่รุนแรงของเขา คนอื่น ๆ ต่างก็ก้าวออกด้านข้างเปิดทางให้อาวุโสผู้นั้นเดินมาจากด้านหลังพวกเขาไปกระทั่งถึงด้านหน้าสุด
“แม่นาง ข้าต้องขอชื่นชมในความเพียรพยายามของเจ้า ทว่าน่าเสียดาย … ” ผู้เฒ่าคนนั้นยิ้มเยาะ “เจ้าก็เป็นเพียงไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ ขณะที่คุญหนูของเราคือดวงจันทร์ เมื่อเจ้าต้องการแข่งแสงกับนาง ชีวิตของเจ้าก็ถูกลิขิตให้จบลงอย่างน่าอนาถ !”
ปัง !
ชั่วขณะนั้น กระแสลมพลันพัดรุนแรงขึ้น กระทั่งแขนเสื้อของชายชราสะบัดไปตามแรงลม สีหน้าของเขาเฉยเมย แววตาของเขาเย่อหยิ่ง ร่างของเขาพุ่งตรงดิ่งเข้าหาไป๋หยาน …
พลังจากฝ่ามือของเขาพุ่งเข้าหานางอย่างดุดัน อากาศดูเหมือนจะฉีกขาดออกจากกัน กระทั่งทำให้ลมหายใจของไป๋หยานแผ่วเบา แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความเย็นยะเยียบ
ก่อนหน้านี้ ชายชราผู้นี้ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของตน ทว่าบัดนี้เขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลาให้กับไป๋หยานอีกต่อไป เขาจึงระดมพลังทั้งหมดของตนไปที่ฝ่ามือ เขาตั้งใจที่จะปลิดชีพนางด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว !
ทว่า…
ภายใต้การโจมตีครั้งนี้ ในขณะที่ไป๋หยานกำลังหายใจอย่างยากลำบากนั้น ไม่รู้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินปรากฏตัวต่อหน้าไป๋หยานตั้งแต่เมื่อใด ?
ดูเหมือนร่างของไป๋เสี่ยวเฉินจะถูกห่อหุ้มด้วยชั้นของแสงสีแดง พร้อมด้วยกลิ่นอายที่มืดมนและน่ากลัว ราวกับเดินออกมาจากขุมนรก ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความอยุติธรรมทุกสิ่งบนโลก …
ชั่วขณะนั้นร่างของไป๋หยานพลันแข็งค้าง นางจ้องมองร่างเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า หัวใจของนางดูเหมือนจะขาดออกจากกัน ใบหน้าของนางซีดด้วยความเจ็บปวด
หม่ามี้ หากวันหนึ่งเฉินเอ๋อไม่สามารถอยู่กับหม่ามี้ได้อีก หม่ามี้จะ .. จะคิดถึงเฉินเอ๋อตลอดไปหรือไม่ ?
น้ำเสียงที่อ่อนเยาว์ของไป๋เสี่ยวเฉินดังกลับเข้ามาในห้วงคิดของไป๋หยานอีกครั้ง ทำให้หัวใจของนางเต้นระรัวด้วยความวิตกกังวล ไม่สบายใจ นางรีบวิ่งเข้าไปหาไป๋เสี่ยวเฉิน แต่ครั้นวิ่งออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว นางก็หยุด …
เพราะไป๋เสี่ยวเฉินที่อยู่เบื้องหน้านางหันกลับมามองนาง ภาพลักษณ์ยามนี้ของเขาไม่มีความไร้เดียงสา และความน่ารักเฉกเช่นในอดีตอีกต่อไป แต่กลับเป็นภาพลักษณ์อันเฉยเมยไม่แยแสโลก
นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินเป็นสีแดงเลือด แลดูเฉยเมยเย็นชาไร้สิ้นซึ่งความเป็นมนุษย์ ไป๋หยานไม่เคยเห็นไป๋เสี่ยวเฉินในลักษณะเช่นนี้มาก่อนเลย …
ไป๋หยานรีบยกมือขึ้นปิดปากของตน นางจ้องมองใบหน้าที่ยังอ่อนเยาว์นั้นพร้อมหยาดน้ำตาคลอเบ้า
ใบหน้าของเขายังคงแลดูคุ้นเคยเฉกเช่นเดิม ทว่าแววตาของเขากลับแปลกมาก แปลกกระทั่งนางใจสั่น …