ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี - ตอนที่133 ใช้โชคช่วย
ตอนที่133 ใช้โชคช่วย
ทุกคนต่างเห็นดีเห็นงามด้วย และเซียนเชียงก็สั่งให้คนไปเตรียมฉลากสำหรับทุกคนมาทันที
จ้าวเฉียนแก้ตัวแสร้งขอเข้าห้องน้ำและเดินไปพบเซียนเชียงที่อยู่ด้านหลังเวที
“คุณชายจ้าว ทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยเงินสิบล้านออกไปง่ายๆหรอกเหรอครับ?”
เซียนเชียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
จ้าวเฉียนยิ้มและส่ายหัว ตอบไปว่า
“ทำไมต้องปล่อยออกไปง่ายๆ? ด้วยวิธีนี้จะช่วยกู้ชื่อเสียงของนายกลับมาได้ แถมฉันยังได้เงินก้อนนี้กลับมาด้วย”
“นี่คุณชายจ้าวหมายความว่ายังไงครับ?”
เซียนเชียงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็ไม่ใช่คนของนายหรอกเหรอที่เป็นคนเขียนฉลาก?”
จ้าวเฉียนยักคิ้วถามสวนกลับไป
เซียนเชียงเข้าใจได้ในบัดดลว่านี่หมายความว่าอย่างไร เขายิ้มตอบทันทีว่า
“ผมเข้าใจแล้วครับว่าต้องทำยังไง ไม่ต้องกังวล เอ่อ…ไม่ทราบว่าวันเกิดของคุณชายจ้าววันที่เท่าไหร่ครับ?”
“5 ตุลาคม”
“โอเคครับ งั้นหมายเลขของคุณชายจ้าวคือ105 รางวัลใหญ่จำนวนเก้าล้าน ส่วนที่เหลืออีกล้านนึงจะแจกจ่ายมอบให้คนอื่นๆนะครับ”
“หัวใสดีมาก ผมพอใจจริงๆที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ วันไหนมีโอกาสกลับไปเยี่ยมพ่อ ฉันจะขอให้เขาเพิ่มเงินลงทุนให้นายนะ หลังจากนี้ก็ตั้งใจทำงานให้หนักอย่างสม่ำเสมอ”
“ฮ่าฮ่า…แน่นอนเลยครับคุณชายจ้าว! น้ำใจของคุณช่างยิ่งใหญ่เกินตอบแทน! ผมจะพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ครับ!”
จ้าวเฉียนเดินมาตบไหล่เซียนเชียงเล็กน้อยพร้อมส่งยิ้มให้
เซียนเชียงยามนี้เต็มไปด้วยความฮึกเหิม ถึงตอนนี้อายุจะห้าสิบแล้ว แต่ปัจจุบันร่างกายของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยพลังราวกับสี่สิบอีกครั้ง
จ้าวเฉียนเดินกลับไปยังตัวงานด้านหน้าเพื่อรอ ขณะเดียวกันหยางเฉิงก็ตรงเข้ามาเย้ยหยั่นอีกคำโต
“ไอ้โง่ บังอาจขโมยเงินของฉันไป จับฉลากคราวนี้แกไม่เหลืออะไรแน่นอน!”
หยางเฉิงกระซิบข้างหูเจือน้ำเสียงเคียดแค้นยิ่ง
“คุณหยางพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะครับ ผมไปขโมยเงินของคุณตอนไหน? อีกอย่างที่ผมเสนอวิธีจับฉลากไปก็เพื่อช่วยคุณแล้วนะ ส่วนจะจับได้เท่าไหร่ อันนี้ต้องใช้โชคช่วยแล้วจริงไหมครับ?”
จ้าวเฉียนกล่าวเยาะพร้อมรอยยิ้ม
หยางเฉิงกรนเสียงเย็นด้วยความหงุดหงิดและหมุนตัวจากออกไป
คล้อยหลังไม่นานนัก หยางหมิงก็เดินเข้ามาหาเป็นคนต่อไป
จ้าวเฉียนเห็นแบบนั้นถึงกับหลุดขำ ถามไปว่า
“คุณพ่อของคุณเพิ่งมาหาผมตะกี้เอง ตอนนี้กลับเป็นคนลูก? มีอะไรหรือเปล่าครับ? จะมาพูดจากระทบจิตใจอะไรกันอีก?”
“นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่มาที่นี่เพราะต้องการขอโทษนายต่างหาก”
หยางหมิงเอ่ยเสียงแผ่วอย่างสุภาพ
จ้าวเฉียนรวนหัวเราะในทันใด แต่แทนที่เขาจะรู้สึกดี นั่นกลับไม่ใช่เลย เขาหัวเราะเยาะในความหัวหมอของหยางหมิง
สองพ่อลูกตระกูลหยางเสียหน้าอย่างแรงต่อหน้าทุกคน ซ้ำร้ายยังเสียไปอีกสิบล้าน ดังนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่อีกฝ่ายจะมาขอโทษจ้าวเฉียนด้วยใจจริง
เหตุผลที่หยางหมิงต้องพูดเช่นนี้มันง่ายมาก เพราะเขาไม่ต้องการให้จ้าวเฉียนเคลื่อนไหวใดๆ เพราะในมือถือของอีกฝ่ายยังมีภาพและคลิปที่สามารถแบล็คเมลได้อยู่ ถ้าถูกปล่อยออกไป มีหวังเฟยอวี่ กรุ๊ปถึงคราวชะตาขาดแน่นอน
จ้าวเฉียนไม่รับประกันใดๆให้อีกฝ่ายสบายใจทั้งสิ้น แค่ตอบไปว่า
“เป็นเรื่องดีที่รู้ตัวว่าคุณผิด หวังว่าหลังจากนี้จะปฏิบัติตนกับผมให้สุภาพมากขึ้นนะครับ? ไม่อย่างนั้นมที่ตามมาอาจเลวร้ายเกินจินตนาการ”
“อืม ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ…”
หยางหมิงพยักหน้าตอบพร้อมโค้งคำนับให้เล็กน้อยราวกับญาติผู้ใหญ่ตัวเอง
“อืม ไปเถอะ ฉันกำลังเตรียมตัวจับฉลาก อย่าเพิ่งมารบกวนตอนนี้”
น้ำเสียงที่จ้าวเฉียนเอ่ยกล่าวคล้ายว่าสั่งการอีกฝ่าย
“เข้าใจแล้ว”
หยางหมิงโค้งให้พร้อมเดินจากออกไป
ทันทีที่หันหลังกลับไป สีหน้าการแสดงออกบนใบหน้าของหยางหมิงก็เปลี่ยนไปทันควัน
“ไอ้เวร เดี๋ยวก่อนเถอะ อย่าทำมาได้ใจให้มันมากนักนะ!”
หยางหมิงสบถกับตัวเองไม่หยุดหย่อน
ในขณะเดียวกัน หวานเจียงก็เดินเข้ามาหาจ้าวเฉียนเช่นกัน เธอเอ่ยถามน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
“พวกนายสองคนคุยอะไรกัน?”
จ้าวเฉียนได้ยินดังนั้นพลันหันมายกนิ้วโป้งให้ เอ่ยชื่นชมขึ้นทันทีว่า
“สมแล้วที่ได้ชื่อว่าราชินีน้ำแข็งแห่งวงการธุรกิจ ไหวพริบดีใช้ได้ คู่ควรกับคุณชายไอคิวสูงอย่างฉันแล้ว”
หวานเจียงถึงกับมองบนใส่ ประเคนกำปั้นหนึ่งหมัดทุบอกจ้าวเฉียนไปที เธอกล่าวว่า
“ทำไมนายถึงหลงตัวเองได้ขนาดนี้กันห่ะ? นายน่ะเหรอไอคิวสูง? สูงขนาดนั้น? แล้วถึงจะสูงแต่ก็ใช่ว่าจะอวดอ้างเชิดชูตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา!”
“เธอก็พูดไม่ถูกต้องนะ ไม่ใช่ว่าฉันต้องการอวดอ้างไปทั่ว แต่เฉพาะกับพวกที่ดูถูกฉันเท่านั้น ล้ำเส้นฉันก่อนย่อมกรรมสนอง บนโลกใบนี้มีเส้นแบ่งระหว่างคนจนและคนรวยอย่างชัดเจน แค่ว่าทุกคนควรใช้ชีวิตในบทบาทที่ตนได้รับให้ดีที่สุดเท่านั้น แต่กลับมีพวกคนรวยบางคนชอบเอาความเหนือกว่านี้ไปรังแกคนจน แล้วฉันจะทนอยู่เฉยได้ยังไง?”
“ที่นายพูดไปก็มีเหตุผลนะ แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ ที่ไปสร้างศัตรูกับคนรวยพวกนั้น แล้วในอนาคตนายจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง?”
หวานเจียงกล่าวน้ำเสียงอ่อนปลอบประโลมอีกฝ่าย
จ้าวเฉียนไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ สำหรับคนอื่นอาจเข้าใจ แต่สำหรับจ้าวเฉียน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เขาต้องกลัวบนโลกใบนี้ อย่างน้อยๆก็พวกระดับผู้นำประเทศต่างๆ
แต่จะอย่างไรนี่คือสิ่งที่หวานเจียงปรารถนาให้เขาเป็น เธอถึงได้พยายามเล้าโลมถึงขนาดนี้ จ้าวเฉียนอดใจอ่อนไม่ได้
“เอาล่ะ เอาล่ะ เข้าใจแล้วคนสวย ฉันจะยอมฟังเธอสักครั้ง”
หวานเจียงกลอกตาใส่จ้าวเฉียนอีกระลอก มองตาขวางราวกับโกรธกัน แต่อย่างไร รอยยิ้มสีจางบนใบหน้าสวยของเธอกลับไม่สามารถปกปิดความสุขเอาไว้ได้เลย
ณ เวลานี้เอง เจ้าหน้าที่ได้นำกล่องจับฉลากขนาดใหญ่ออกมา พวกเขาขอให้ทุกคนสุ่มเขียตัวเลขที่ชอบมาสามหลักพร้อมลงชื่อทิ้งไว้ จากนั้นก็นำมาใส่ในกล่อง วิธีการเล่นก็ง่ายมาก แค่สุ่มหยิบหมายเลขออกมาจากกล่อง หมายเลขจะถูกกำหนดไว้หมดแล้วในแต่ละรางวัล
ทุกคนรีบรับแผ่นกระดาษและเขียนหมายเลขที่ชอบลงไป จากนั้นก็ขยำเป็นลูกบอลและนำใส่ในกล่อง
การจับฉลากกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสองพ่อลูกตระกูลหยาง จ้าวเฉียนตะโกนขึ้นลั่นว่า
“นายน้อยหยาง ประธานหยางครับ จะถอนทุนกลับมาเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับโชคพวกคุณเองแล้ว ถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งในงานนี้ได้ไป หวังว่าจะไม่โกรธเคืองกันนะครับ!”
หยางเฉิงตวาดสวนกลับไปทันทีว่า
“ฉันหยางเฉิงไม่เคยกลัว! กับแค่เศษเงินสิบล้าน ฉันเต็มใจแจกให้ทุกคนอยู่แล้ว! คนไหนได้ไปไม่เพียงจะไม่เสียใจ แต่ฉันจะปรบมือแสดงความยินดีกับเขาด้วย!”
หยางหมิงกล่าวเสริมตามมาติดๆ
“ใครได้ไปถือว่าดวงสมพงกับมันแล้ว! ฉันเองก็ไม่ถือสา!”
“ฮ่าฮ่า…ใครที่ได้ไปคงต้องมีโชคลาภน่าดู ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ถ้าผมชนะขึ้นมา พวกคุณทั้งคู่อย่าลืมปรบมือแสดงความยินเดีให้นะครับ มีผู้คนมากมายเป็นพยานให้แบบนี้ ถ้ากลับคำกันขึ้นมา…หมานะครับ”
จ้าวเฉียนจงใจยั่วยุทั้งคู่
จำนวนผู้คนเริ่มกลับมาชุกชุมอีกครั้งภายในงานเลี้ยง ทุกสายตาต่างเฝ้าจับตามองอยู่ หยางเฉิงอับอายเกินกว่าจะกลืนน้ำลายลงคอในตอนนี้ จึงกลั้นใจตอบไปว่า
“ไม่ต้องกังวล! ฉันหยางเฉิงพูดคำไหนคำนั้น! ใครได้รางวัลใหญ่ไปฉันย่อมแสดงความยินดีอยู่แล้ว แต่อย่างนายคงโชคไม่ดีขนาดนั้น รอดูกันดีกว่าว่าใครกันจะเป็นผู้โชคดี”
หยางเฉิงกล่าวขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ
บรรดาคนแก่รอบข้างหยางเฉิงกลับปิดปากเงียบเป็นจั้กจั่นยามฤดูหนาว พวกเขากลัวว่า ถ้าพูดมั่วโมโหอะไรไปจนจ้าวเฉียนโกรธเคืองขึ้นมา เขาอาจนำรูปภาพและคลิปแบล็คเมลออกมาเปิดโปงก็เป็นได้
“ทุกคนโปรดอยู่ในความสงบนะครับ ผมจะเป็นคนจับฉลากด้วยตัวเอง และผมไม่มีส่วนร่วมใดๆกับการจับฉลากครั้งนี้ทั้งสิ้นเพื่อความยุติธรรม รางวัลในส่วนแรกมูลค่ารางวัลละ10,000หยวน ผู้ที่ได้ไปคือ…”
เซียนเชียงเอื้อมมือล่วงเข้าไปในกล่องทันทีหลังพูดจบและหยิบลูกบอลกระดาษออกมาลูกหนึ่ง เขาคลี่ออกมาโชว์ต่อหน้าทุกคนพร้อมประกาศว่า
“หมายเลข303เจิ้งหรง ได้รับรางวัลจำนวน10,000หยวน!”
โดยปกติทั่วไปแล้ว คนที่ได้รับรางวัลมักจะมีความสุขกับสิ่งที่ได้ไป แต่เจิ้งหรงคนนี้กลับดูเสียใจอย่างน่าประหลาด เพราะทุกคนมีโอกาสถูกรางวัลได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งเขาถูกรางวัลมูลค่า10,000หยวนไปแล้ว นั้นหมายความว่าเขาหมดโอกาสที่จะได้รางวัลใหญ่จำนวนเก้าล้านหยวนไปครอง
“ผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัลมูลค่า10,000หยวนคนต่อไปได้แก่….”
เซียนเชียงยังคงล้วนมือจับต่อทันที
ลูกบอลกระดาษอีกลูกหนึ่งถูกหยิบขึ้นมา เขาเปิดโชว์ต่อหน้าทุกคนอีกครั้งเพื่อแสดงความโปร่งใส พร้อมป่าวประกาศว่า
“หมายเลข456 หวันจิ้ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้กำกับหวันจิ้งด้วยนะครับ ได้รับรางวัลมูลค่า10,000หยวน!”
ปฏิกิริยาของหวันจิ้งเหมือนกับเจิ้งหรงก่อนหน้าไม่มีผิดเพี้ยน เขาชวดรางวัลใหญ่จำนวนเก้าล้านแล้ว
…….
“ยังเหลือลูกบอลกระดาษอีกสามลูกและเหลือเพียงสามรางวัลเท่านั้น ท่านผู้มีเกียรติคนใดยังไม่ได้รางวัลโปรดยกมือขึ้น”
เซียนเชียงป่าวประกาศด้วยความตื่นเต้น
ในขณะนั้นเอง หยางเฉิง, หยางหมิงและจ้าวเฉียนก็ยกมือขึ้นโดยพร้อมเพรียง
“โอ้? ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าประธานหยางกับนายน้อยหยางจะสามารถมาไกลได้ถึงขนาดนี้ มีหนึ่งในสามในหมู่พวกเราที่จะได้ชิงรางวัลใหญ่ไป ผมขอดูหน่อยว่าใครจะได้มันไป?”
“ว้าว! มันต้องเป็นนายแน่ๆ! จงใช้โชคทั้งชีวิตที่มีเพื่อคว้า50,000หยวนไปเถอะ!”
หยางหมิงตอบสวนกลับไปด้วยท่าทีสุดหยามเหยียด
หยางเฉิงไม่ได้ปริปากตอบใดๆ เขารู้สึกประหม่าอย่างยิ่งในเวลานี้ จะถอนทุนหรือเข้าเนื้อก็ขึ้นอยู่กับลูกบอลกระดาษลูกต่อไปแล้ว ตราบใดที่จ้าวเฉียนได้รางวัล50,000หยวน นั้นก็เท่ากับว่าสองรางวัลสุดท้ายเป็นของสองพ่อลูก และถอนทุนกลับมาคืนได้เก้าล้านสองแสน
เซียนเชียงป่าวประกาศเสียงดังฟังชัด
“โปรดอยู่ในความสงบ ผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัลมูลค่า50,000หยวน ไม่อาจทราบได้เลยว่าจะเป็นของประธานหยางหรือลูกชาย หรืออาจจะเป็นพ่อหนุ่มสุดหล่อของเรา!”
ทันทีที่พูดจบเซียนเชียงก็ล้วงหยิบลูกบอลกระดาษจากนั้นก็คลี่เปิดออกมาโชว์โดยตรง
ทุกคนต่างกลั้นหายใจแทบจะในเวลาเดียวกัน รางวัลนี้เป็นตัวกำหนดแล้วว่า ระหว่างสองพ่อลูกตระกูลหยางหรือจ้าวเฉียน ใครกันที่จะเป็นผู้ชนะไป?