ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี - ตอนที่215 รวมตัว
ตอนที่215 รวมตัว
จ้าวเฉียนยิ้มตอบไปว่า
“คุณหยาง เพิ่งจะมาพูดเวลานี้มันไม่สายเกินไปหน่อยเหรอ? ทุบรถของลูกค้าตั้งเยอะแยะ ยังมีหน้ามาพูดอะไรอีกเหรอครับ?”
หยางจานคุนรีบเอ่ยตอบทันทีว่า
“คุณจ้าวไม่อยากซื้อทีมผมไปแล้วเหรอ? ผมตกลงขายครับ พร้อมกับลูกมือมากประสบการณ์พวกนี้เลย ผมจะตั้งใจสร้างผลงานไม่ให้คุณจ้าวต้องผิดหวังแน่นอน!”
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะทันที ชี้ไปที่เศษกระจกที่แตกกระจายทั่วพื้นและกล่าวว่า
“คุณจ่ายค่าชดเชยพวกนี้ให้หมดก่อน แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที ผมจะให้เวลาคุณสามวัน ถ้าไม่สามารถจ่ายได้หมด ก็อย่าหวังจะมาคุยเรื่องอื่น แล้วบอกไว้ก่อนนะครับ ระหว่างนี้อย่าคิดหนีไปไหน เพราะนั้นจะยิ่งพาคุณซวยเข้าไปใหญ่”
หลังจากพูดจบจ้าวเฉียนก็เดินเข้าไปในอู่ ทิ้งให้งานด้านนอกให้หยางหู่จัดการต่อ
หยางหู่ตรงเข้าไปหาหยางจานคุนและกล่าวตามตรงขึ้นว่า
“ผมแนะนำให้ทำตามที่คุณจ้าวพูดไปดีกว่านะครับ ถ้าภายในสามวันคุณหาเงินมาจ่ายไม่ครบ ผมจะพาพวกเข้าไปถล่มทีมคุณ”
“ผม…ผมเข้าใจแล้วครับ…ผมจะหาเงินมาชดใช้แน่นอนครับ แต่…แต่ผมของเวลาหน่อยได้ไหมครับ? รถพวกนี้ราคาแพงๆ ทั้งนั้นผมไม่มีปัญหาหาเงินหลายสิบล้านได้ภายในสามวันแน่นอน ผมต้องการเวลามากกว่านี้ครับ”
หยางหุ่ส่ายหัวและเอ่ยตอบกลับไปว่า
“คุณจ้าวบอกว่าสามวันต้องสามวัน ไม่มีขอเวลาเพิ่ม รีบไปหาเงินมาจ่ายซะก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ แล้วรีบทำความสะอาดที่นี่ให้เหมือนเดิมซะ”
หยางจานคุนทำได้แค่เดินไปเรียกคนอื่นๆ เพื่อให้มาช่วยกันเก็บกวาดสิ่งที่ทำลงไป
“พี่คุน แล้วจะทำยังไงดี! พวกเราไม่มีปัญญาจ่ายค่าเสียหายหรอกนะ!”
“ถูกต้องแล้วพี่! ผมประมาณคร่าวๆ อย่าน้อยก็สิบสองล้านแล้ว เราจะไปเอาเงินมาจากไหนเล่า?”
“ไม่อย่างนั้น…เราไปขอขมาคุณจ้าวให้เขาซื้อทีมเราไหมพี่? ให้คุณจ้าวช่วยจ่ายไปก่อน แล้วเราทำงานหเขาเป็นการชดเชย?”
“ใช่แล้วพี่ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยกู้สถานการณ์ตอนนี้ได้!”
…..
บรรดาพี่น้องทั้งหลายของหยางจานคุนต่างเห็นตรงกัน สำหรับทางออกเดียวภายใต้สถานการณ์แบบนี้ คือการเจรจาขอให้จ้าวเฉียนเข้าซื้อทีม
ในไม่ช้า หยางจานคุนก็พาพวกพี่น้องของเขาช่วยกันทำความสะอาด และรีบไปหาจ้าวเฉียนต่อ
“คุณจ้าวครับ ผมขอเปิดใจคุยกันตรงๆ ได้ไหมครับ ผมเสียใจครับที่ทำทุกอย่างไปโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีก่อน หวังว่าคุณจ้าวจะให้โอกาสผมพูดอะไรหน่อยนะครับ”
หยางจานคุนเริ่มปริปากกล่าวขึ้นทันที น้ำเสียงของเขาในตอนนี้ช่างสุภาพนอบน้อมยิ่ง
จ้าวเฉียนคาดเดาได้โดยธรรมชาติว่าอีกฝ่ายมาหาเขาด้วยเรื่องอะไร จึงพยักหน้าตอบและพาไปยังมุมหนึ่งที่ไม่มีคน
หยานจานคุนโค้งศีรษะให้จ้าวเฉียนทันทีและกล่าวอ้อนวอนว่า
“คุณจ้าวได้โปรดซื้อทีมผมไปทีครับ ถ้าไม่ซื้อมันตั้งแต่ตอนนี้ หลังจากนี้ผมต้องยุบทีมแน่นอน ผมทราบดีนะครับว่าผมทำเรื่องแย่ๆ กับคุณจ้าวเอาไว้มาก แต่ผมสัญญาเลยครับ หลังจากนี้ผมจะตั้งใจขยันฝึกซ้อมและคว้าแชมป์มาให้คุณจ้าวพอใจเป็นการชดเชย โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะครับ!”
จ้าวเฉียนรวนหัวเราะออกมาทันใดและกล่าวตอบไปว่า
“ถ้าผมซื้อทีมของคุณตอนนี้ก็เท่ากับว่า ผมก็ต้องแบกรับค่าเสียหายที่พวกคุณต้องชดใช้เช่นกัน นี่เห็นผมโง่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
หยางจานคุนรีบกล่าวตอบทันทีว่า
“คุณจ้าว ผมทราบว่านี่เป็นอะไรที่ไม่ยุติธรรมกับคุณมาก ดังนั้นเพื่อเป็นความยุติธรรม ผมไม่ต้องการเงินสักหยวน คุณซื้อทีมผมทั้งทีมไปได้เลยแบบฟรีๆ โอเคไหมครับ?”
อันที่จริงแล้วการจะซื้อทีมของหยางจานคุนได้ต้องใช้เงินอย่างน้อยสิบล้าน
แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาต้องหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดโดยเร็วที่สุด
จ้าวเฉียนยิ้ม เอ่ยถามกลับไปว่า
“ถ้าแบบนั้นผมไม่ดูเป็นคนเลวในสายตาคนอื่นเลยงั้นเหรอครับ? คนอื่นคงคิดว่าผมชุบมือเปิป?”
หยานจานคุนรีบส่ายหัวตอบทันที
“ไม่..ไม่…ไม่เลยครับคุณจ้าว นี่ถือว่าพึ่งพาซึ่งกันและกันมากกว่า ใช่ชุบมือเปิปที่ไหนกันครับ?”
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะ พลางโอบไหล่หยานจานคุนและกล่าวขึ้นว่า
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะช่วยคุณเอง ตกลงไหม?”
หยางจานคุนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ในที่สุดภูเขาก้อนยักษ์ที่กดทับกลางอกก็สลายหายไปในพริบตา เขารีบกล่าวขึ้นว่า
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเซ็นสัญญากันเลยไหมครับ?”
“ทำไมถึงรีบร้อนนักล่ะ?”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
หยางจานคุนเอ่ยตอบกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ว่า
“ผมต้องการเงินมาชดใช้ภายในสามวันหนิครับ ไม่อย่างนั้นพี่หู่ไม่ปล่อยผมไปแน่ แต่จะว่าไป…ผมขอถามอะไรคุณจ้าวสักข้อได้ไหมครับ?”
จ้าวเฉียนพยักหน้า
“ได้สิ มีอะไรก็ถามมาได้เลย”
หยางจานคุนพยายามรวบรวมความกล้า กัดฟันเอ่ยถามเสียงแผ่วว่า
“คุณจ้าวกับพี่หู่เป็นอะไรกันเหรอครับ? ทำไมเขาถึงยอมช่วยคุณจ้าวขนาดนี้? ในความเห็นของผม เขาดูกลัวคุณจ้าวมากเลย นี่ต้องมีเหตุผลจริงไหมครับ?”
พอได้ยินแบบนั้นจ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น ตอบกลับไปว่า
“ถ้านายอัดฉีดเงินสักหลายสิบล้านให้เขาทุกเดือนเป็นประจำ เขาเองก็จะสุภาพกับนายเช่นกันนั่นแหละ”
หยางจานคุนพยักหน้าตอบทันควันด้วยความยำเกรง
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง… งั้นเราไปเซ็นสัญญากันเลยไหมครับ?”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและพาหยางจานคุนเข้าไปในสำนักงานของอู่เลอ
จ้าวเฉียนร่างเพียงสัญญาข้อตกลงที่สำคัญไม่กี่ข้อ และส่งให้หยางจานคุนอ่านโดยละเอียด พอทุกอย่างเรียบร้อยดี ก็พิมพ์แบบออกมาและเซ็นสัญญาลงนามทันที ถือได้ว่ามีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างเป็นทางการแล้ว
หลังได้รับสัญญาข้อตกลง หยางจานคุนก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ในเวลานี้เอง เจ้าของรถหรูหลายคันที่กลับมารับรถก็ถึงกับเดือดจัด ที่เห็นรถตัวเองกลายเป็นเศษเหล็กไปแล้ว พวกเขาเหล่านั้นแหกปากตะโกนลั่นทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
คนอื่นๆ ในร้านไม่สามารถจัดการกับปัญหาใหญ่แบบนี้ได้แน่นอน ดังนั้นจึงรีบไปเรียกจ้าวเฉียนออกมาจัดการกับปัญหาด้วยตนเอง
ซึ่งวิธีจัดการของจ้าวเฉียนก็ง่ายมาก เขากล่าวขอโทษไปตามตรงว่า
“ทางผมต้องขอประทานโทษจริงๆ นะครับ คนในอู่ไม่มีใครอยากเห็นเกิดอุบัติเหตุแบบนี้เช่นกันและพวกเขาเองก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง คุณสามารถแจ้งความตามกฎหมายได้เลย แล้วเรียกเก็บค่าเสียหายทั้งหมดมาที่ผม และผมจะชดเชยให้เต็มจำนวนเองครับ”
พอพวกเขาเหล่านั้นได้ยินว่าจ้าวเฉียนจะชดเชยให้เต็มจำนวน พวกเขาก็ดูมีความสุขอย่างมาก อารมรณ์ของแต่ละคนดูเย็นลงทันใด
“ในเมื่อคุณพูดถึงขนาดนั้น พวกเราเองก็ไม่มีอะไรจะเรียกร้องแล้วครับ”
“อืม หวังว่าคุณจะทำตามที่พูดได้จริงๆ”
“ผมจะกลับไปรวบรวมเอกสารเข้าแจ้งความ และเอาเอกสารชดใช้ค่าเสียหายส่งไปให้คุณอีกทีก็แล้วกัน”
บรรดาคนขับทั้งหลายพยักหน้าเห็นดีเห็นงาม และวิ่งออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อรวบรวมข้อมูลเข้าแจ้งความ
ไม่นานนัก เจ้าของรถคนอื่นๆ เองก็กลับมาเอารถเช่นกัน ราวกับภาพฉากฉายซ้ำสอง พอเห็นว่ารถตัวเองกลายมาเป็นเศษเหล็กก็โวยวายทันที
อย่างไรก็ตาม จ้าวเฉียนก็สามารถใช้เงินปิดปากพวกเขาได้อย่างทันท่วงที
ตามที่ทุกคนคาดคิดไว้ไม่มีผิด ปัญหาที่ยากเกินกว่าที่ทุกคนจะสามารถแก้ไขได้ กลับถูกคลี่คลายได้ในพริบตาด้วยฝีมือของบอสจ้าว
“มีเงินซะอย่างยังต้องกลัวใคร สุดยอดจริงๆ บอสของเรา”
“ทำไม นายมีปัญหารึไง?”
“เปล่า ฉันรู้อยู่แล้วว่ายอสจ้าวรวย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะรวยขนาดนี้น่ะ…ฉันประเมินบอสต่ำเกินไปมากแหะ”
….
จ้าวเฉียนพลันเข้ามาได้ยินบทสนทนาเหล่านั้นของลูกมือในอู่ของอู่เลอเข้า จึงตรงเข้ามากล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า
“อย่าอิจฉาเลยน่าพวกนาย ฉันมากกว่าที่ต้องอิจฉาพวกนาย”
“บอสพูดถ่อมตัวเกินไปแล้วนะครับ”
“ใช่แล้ว บอสรวยขนาดนี้ ส่วนพวกเราต้องหาเช้ากินค่ำ เอาอะไรมาอิจฉาพวกผมครับเนี่ย?”
…..
จ้าวเฉียนหัวเราะตอบกลับไปว่า
“พวกนายเห็นฉันแค่เบื้องหน้าว่ามีเงิน แล้วใครเคยรู้ที่มาของเงินพวกนี้บ้าง? ฉันมีธุรกิจต้องกู้เงินจากธนาคาร มีดอกเบี้ยจำนวนมหาศาลต้องจ่ายทุกเดือน ถ้าเกิดเดินสะดุดทีหนึ่งอาจทำให้ทุกอย่างที่ทำมาพังพินาศได้เลย ชีวิตผมมีแต่ความเครียด คิดหาวิธีทำกำไรเพื่อเอาเงินไปจ่ายหนี้ธนาคาร บ้านก็ต้องเอาไปจำนอง ทีนี่ยังใครอิจฉาฉันอีกไหม?”
จ้าวเฉียนกล่าวออกไปแบบนั้น พวกเขาทุกคนพลันเงียบลงทันที
“เข้าใจแล้วครับ พวกผมจะตั้งใจทำงาน ไม่ทำให้บอสผิดหวังแน่นอน!”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและโบกมือลาทุกคนออกไป พวกเขาทั้งหมดรวมถึงพวกหยางจานคุนเองก็รีบออกมาโค้งศีรษะลาจ้าวเฉียนด้วยความเคารพ
ทีนี้การจัดหารทีมมาเพิ่มก็สำเร็จไปได้ด้วยดี ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสองทีมอย่างคุนต้าและสตีมเมอร์คัลเลอร์รวมเป็นหนึ่ง